ผู้เขียน: maxindy1688

วิธีทำน้ำยาป่า เคล็ดลับน้ำยาป่า ขนมจีนรสเด็ด ทำเองได้

น้ำยาป่า (ขนมเส้นน้ำยาป่า) เป็นแกงน้ำยาพื้นบ้านที่นิยมกินกับขนมจีน โดยใช้น้ำปลาร้าและเครื่องสมุนไพรเข้มข้น ไม่ใส่กะทิแบบน้ำยาใต้ วิธีทำโดยสรุปมีดังนี้ครับ:


ส่วนผสม

  • ปลา (เช่น ปลาช่อน ปลานิล หรือปลาทูสด) ประมาณ 500 กรัม
  • น้ำปลาร้า 1 ถ้วย (กรองเอาแต่น้ำ)
  • น้ำปลา 2–3 ช้อนโต๊ะ
  • พริกแห้ง 15–20 เม็ด (ตามความเผ็ดที่ชอบ)
  • หอมแดง 10 หัว
  • กระเทียม 10 กลีบ
  • ข่า 3–4 แว่น
  • ตะไคร้ซอย 2 ต้น
  • ขมิ้นสด 1 แง่งเล็ก (หรือผงขมิ้นเล็กน้อย)
  • กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ
  • ใบมะกรูด 5–6 ใบ
  • น้ำซุปหรือน้ำเปล่า 5–6 ถ้วย

วิธีทำ

  1. เตรียมปลา
    • ล้างปลาให้สะอาด ต้มในน้ำเดือดจนสุก ตักออกมาแกะเอาแต่เนื้อ พักไว้
    • กรองน้ำต้มปลาเก็บไว้ใช้เป็นน้ำซุป
  2. ทำพริกแกง
    • โขลกพริกแห้ง (แช่น้ำให้นิ่มก่อน) กับหอมแดง กระเทียม ข่า ตะไคร้ ขมิ้น และกะปิ ให้ละเอียด
  3. ทำน้ำยา
    • ตั้งหม้อ ใส่น้ำซุปที่ได้จากการต้มปลา พอเดือดแล้วใส่เครื่องแกงที่โขลกไว้ คนให้ละลาย
    • เติมน้ำปลาร้า เคี่ยวให้หอม
    • ใส่เนื้อปลาที่โขลกหรือสับละเอียดลงไป เคี่ยวจนเข้ากัน
    • ปรุงรสด้วยน้ำปลา ชิมรสให้เค็มหอมกลมกล่อม
    • ใส่ใบมะกรูดฉีกก่อนยกลง
  4. จัดเสิร์ฟ
    • ตักราดขนมจีน เสิร์ฟคู่กับผักสด เช่น ถั่วฝักยาวซอย กะหล่ำปลีลวก ยอดกระถิน มะเขือเปราะ หรือผักตามชอบ

วิธีทำน้ำยากระทิ สูตรขนมจีนทำง่าย อร่อยเข้มข้น

วิธีทำน้ำยากระทิ หรือที่บางคนเรียกว่า “ขนมจีนน้ำยากะทิ” เป็นแกงน้ำยาที่มีรสเข้มข้น หอมมันจากกะทิ นิยมทำจากปลาช่อนหรือปลานิล ลักษณะคล้ายแกงเผ็ดแต่เนื้อเนียนละเอียด ราดกินกับขนมจีนแล้วเข้ากันมาก ๆ


ส่วนผสม

  • ปลา (ปลาช่อน/ปลานิล/ปลาทูสด) ประมาณ 500 กรัม
  • หัวกะทิ 2 ถ้วย
  • หางกะทิ 4 ถ้วย (หรือใช้น้ำเปล่าแทนได้)
  • พริกแกงน้ำยา 5–6 ช้อนโต๊ะ
    (โขลกจากพริกแห้ง 15 เม็ด, หอมแดง 8 หัว, กระเทียม 6 กลีบ, ข่า 3 แว่น, ตะไคร้ซอย 2 ต้น, ขมิ้นเล็กน้อย, กะปิ 1 ช้อนโต๊ะ)
  • น้ำปลา 2–3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ (ใส่เล็กน้อยตัดรส)
  • ใบมะกรูดฉีก 4–5 ใบ

วิธีทำ

  1. เตรียมปลา
    • ต้มปลากับน้ำให้สุก แกะเอาแต่เนื้อ โขลกหรือบดให้ละเอียด
    • กรองน้ำต้มปลาเก็บไว้ใช้เป็นน้ำซุป
  2. ทำน้ำแกง
    • ตั้งหม้อใส่หางกะทิ พอเดือดใส่พริกแกงน้ำยาที่โขลกไว้ เคี่ยวให้หอมและแตกมันเล็กน้อย
    • เติมเนื้อปลาที่โขลก คนให้เข้ากัน
  3. ปรุงรส
    • ใส่หัวกะทิ เติมน้ำซุปปลาที่กรองไว้ เคี่ยวต่อให้ข้นหอม
    • ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาลปี๊บ ชิมให้ออกรสเค็มนำ หวานเล็กน้อย
    • ใส่ใบมะกรูดฉีกลงไป เคี่ยวไฟอ่อน ๆ ให้กะทิแตกมัน
  4. จัดเสิร์ฟ
    • ราดบนเส้นขนมจีน เสิร์ฟพร้อมผักแนม เช่น ถั่วฝักยาวซอย กะหล่ำปลีลวก ถั่วงอก มะระลวก หรือไข่ต้ม

เคล็ดลับ

  • ถ้าอยากให้น้ำยาหอมมันพิเศษ ใช้วิธี “เคี่ยวหัวกะทิให้แตกมัน” ก่อนใส่พริกแกง
  • ใส่ขมิ้นเล็กน้อยช่วยดับกลิ่นคาวปลาและทำให้น้ำยามีสีสวย

วิธีทำน้ำจิ้มแจ่ว สูตรอร่อย ทำง่าย รสชาติจัดจ้านแบบต้นตำรับ

มาดูวิธีทำน้ำจิ้มแจ่วแซ่บ ๆ เอาไว้กินคู่กับคอหมูย่างหรือเนื้อย่างกัน


วิธีทำน้ำจิ้มแจ่ว

ส่วนผสม

  • น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนชา (หรือน้ำตาลทรายเล็กน้อย)
  • พริกป่น 1 ช้อนชา (เพิ่ม–ลดตามชอบ)
  • ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
  • หอมแดงซอย 1–2 หัว
  • ต้นหอม ผักชีฝรั่งซอยเล็กน้อย

วิธีทำ

  1. เตรียมชามผสม ใส่น้ำปลา น้ำมะนาว และน้ำตาลปี๊บ คนให้น้ำตาลละลาย
  2. เติมพริกป่น ข้าวคั่ว หอมแดงซอย คลุกให้เข้ากัน
  3. โรยต้นหอมกับผักชีฝรั่งซอย ปรับรสตามชอบ (เผ็ด เปรี้ยว เค็ม หอมข้าวคั่ว)
  4. เสิร์ฟพร้อมคอหมูย่าง เนื้อย่าง หรืออาหารอีสานอื่น ๆ ได้เลย 🔥

🌶️ เคล็ดลับ:

  • ถ้าอยากได้รสเข้มขึ้น อาจใส่น้ำปลาร้าต้มสุก 1–2 ช้อนชา
  • ใช้ข้าวคั่วใหม่ ๆ จะหอมมาก
  • ปรับรสเผ็ดและเปรี้ยวให้เหมาะกับอาหารที่กินคู่กัน

วิธีทำคอหมูย่าง สูตรหมักหอม นุ่มชุ่มฉ่ำ อร่อยเหมือนร้านดัง

วิธีทำคอหมูย่าง

ส่วนผสม

  • คอหมู 500 กรัม (เลือกส่วนที่มีมันแทรกเล็กน้อย จะนุ่มอร่อย)
  • ซีอิ๊วขาว 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 1 ช้อนโต๊ะ
  • ซอสหอยนางรม 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาลปี๊บ 1 ช้อนโต๊ะ
  • กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
  • รากผักชีโขลก 2 ราก
  • พริกไทยขาว 1 ช้อนชา
  • น้ำมันพืชเล็กน้อย

วิธีทำ

  1. หมักคอหมู
    • ผสมเครื่องปรุงทั้งหมดเข้าด้วยกัน
    • นำคอหมูลงไปคลุกเคล้าให้ทั่ว
    • หมักทิ้งไว้ในตู้เย็นอย่างน้อย 2 ชั่วโมง (ถ้าหมักค้างคืน รสชาติจะเข้มข้นและเนื้อนุ่มขึ้น)
  2. ย่างคอหมู
    • ใช้เตาถ่าน เตาอบลมร้อน หรือหม้อทอดไร้น้ำมันก็ได้
    • ย่างด้วยไฟกลางจนสุกเหลือง หอม และมีรอยเกรียมเล็กน้อย (เพิ่มความหอมแบบควันไฟ)
    • ระหว่างย่างสามารถทาน้ำมันพืชหรือซอสหมักเล็กน้อยเพื่อให้เนื้อนุ่มชุ่มฉ่ำ
  3. เสิร์ฟ
    • พักเนื้อสัก 5 นาทีแล้วหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ
    • เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มแจ่ว ข้าวเหนียว หรือข้าวสวยร้อน ๆ

น้ำจิ้มแจ่ว (สูตรง่าย)

  • น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
  • พริกป่น 1 ช้อนชา (หรือมากกว่าตามชอบ)
  • ข้าวคั่ว 1 ช้อนโต๊ะ
  • หอมแดงซอยเล็กน้อย
  • ต้นหอม ผักชีฝรั่งซอย

คลุกทุกอย่างเข้าด้วยกัน ก็จะได้น้ำจิ้มแจ่วแซ่บ ๆ กินคู่กับคอหมูย่างสุดฟิน 🔥

วิธีหุงข้าว ให้นุ่มอร่อย | เคล็ดลับหุงข้าวด้วยหม้อหุงข้าวไฟฟ้า

🥢 วิธีหุงข้าวด้วยหม้อหุงข้าวไฟฟ้า

  1. ตวงข้าว
    เลือกข้าวในปริมาณที่ต้องการ เช่น 1 ถ้วยตวง
  2. ล้างข้าว
    ล้างด้วยน้ำสะอาด 2–3 ครั้ง เพื่อลดสิ่งสกปรกและความขุ่น
  3. เติมน้ำ
    ปรับระดับน้ำตามชนิดของข้าว
    • ข้าวหอมมะลิ: น้ำ 1.2–1.3 เท่าของปริมาณข้าว
    • ข้าวเหนียว: แช่น้ำไว้ 3–4 ชั่วโมงก่อน แล้วใช้น้ำพอท่วมเล็กน้อย
    • ข้าวกล้อง: ใส่น้ำ 1.5–2 เท่าของข้าว
  4. กดปุ่มหุง
    เมื่อข้าวสุก เครื่องจะดีดขึ้นเป็นโหมดอุ่น
  5. พักข้าว
    ทิ้งไว้ 10–15 นาที เพื่อให้ข้าวระอุและนุ่มขึ้นก่อนตักเสิร์ฟ

🍲 วิธีหุงข้าวด้วยหม้อธรรมดา

  1. ตวงและล้างข้าว เช่นเดียวกับการใช้หม้อหุงข้าวไฟฟ้า
  2. เติมน้ำ ในสัดส่วนที่เหมาะสม (ส่วนมากใช้ 1:1.5 ข้าวต่อน้ำ)
  3. ตั้งไฟกลางจนเดือด แล้วลดเป็นไฟอ่อน
  4. ปิดฝาให้สนิท เคี่ยวจนข้าวสุกและน้ำแห้ง
  5. ยกออกจากเตา พักไว้ 10 นาที ก่อนตักรับประทาน

🌾 เคล็ดลับ

  • หากอยากให้ข้าวนุ่มมากขึ้น สามารถเติมน้ำมันพืชเล็กน้อย (ประมาณ ½ ช้อนชา) หรือน้ำส้มสายชูเล็กน้อย
  • ถ้าใช้หม้อหุงข้าวไฟฟ้า ให้คนข้าวเบา ๆ หลังสุก จะทำให้ข้าวไม่จับตัวเป็นก้อน
  • ควรเลือกชนิดข้าวที่เหมาะกับเมนู เช่น ข้าวหอมมะลิสำหรับอาหารไทยทั่วไป ข้าวเหนียวสำหรับอาหารอีสาน/เหนือ

วิธีต้มไข่ยางมะตูม ให้อร่อย | จับเวลาง่าย ๆ ได้ไข่แดงเยิ้มกำลังดี

🥚 วิธีต้มไข่ยางมะตูม (ใช้หม้อธรรมดา)

  1. เตรียมไข่
    เลือกไข่สดใหม่ ขนาดใกล้เคียงกัน (เพื่อให้สุกพร้อมกัน)
    เคล็ดลับ: ให้นำไข่ออกจากตู้เย็นมาวางไว้ที่อุณหภูมิห้องสัก 5–10 นาที จะช่วยลดการแตกตอนต้ม
  2. ต้มน้ำ
    ใส่น้ำในหม้อให้ท่วมไข่ประมาณ 1 นิ้ว ตั้งไฟจนเดือด
  3. ใส่ไข่ลงไป
    ค่อย ๆ ใช้ทัพพีตักไข่ใส่ในน้ำเดือด ระวังไม่ให้เปลือกแตก
  4. จับเวลา
    • ไข่ยางมะตูม (ไข่แดงเยิ้ม ๆ ข้น ๆ): 6–7 นาที
    • ไข่กึ่งสุกกึ่งดิบ (แดงยังเหลว): 5 นาที
    • ไข่สุกเต็มที่: 9–10 นาที
  5. แช่น้ำเย็น
    ตักไข่ขึ้นมาทันทีแช่ในชามน้ำเย็นจัดหรือใส่น้ำแข็ง 3–5 นาที เพื่อหยุดความร้อน จะทำให้ปอกง่ายและไข่แดงไม่สุกต่อ

🍳 เคล็ดลับเพิ่มความเป๊ะ

  • ถ้าอยากได้ระดับยางมะตูมพอดีทุกครั้ง แนะนำให้ตั้ง เวลาเป๊ะ ๆ ตั้งแต่วางไข่ลงในน้ำเดือด
  • ใช้ไข่ที่อุณหภูมิห้องจะคุมเวลาง่ายกว่าไข่แช่เย็น
  • ถ้าต้มไข่หลายฟอง ควรเลือกไข่ขนาดใกล้กัน และใช้หม้อที่น้ำท่วมไข่ได้จริง ๆ

วิธีทำไข่พะโล้ สูตรโบราณ หอมหวานกลมกล่อม หมูสามชั้น หอมเครื่องเทศ

วิธีทำไข่พะโล้ แบบเข้าใจง่าย พร้อมเคล็ดลับให้อร่อยเข้มข้น


🥚 วิธีทำไข่พะโล้ ส่วนผสม

  • ไข่ไก่ 6–8 ฟอง (ต้มสุก ปอกเปลือก)
  • หมูสามชั้น หรือซี่โครงหมู 500 กรัม
  • กระเทียม 1 หัว
  • พริกไทยเม็ด 1 ช้อนชา
  • รากผักชี 2–3 ราก
  • น้ำตาลปี๊บ 3–4 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วขาว 3 ช้อนโต๊ะ
  • ซีอิ๊วดำ 1 ช้อนโต๊ะ (เพิ่มสีสวย)
  • น้ำปลา 2–3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำเปล่า 4–5 ถ้วย
  • อบเชย 1–2 แท่ง
  • โป๊ยกั๊ก 2–3 ดอก

🍲 วิธีทำไข่พะโล้

1. ต้มไข่และทอดไข่

  • ต้มไข่ให้สุก ปอกเปลือก
  • ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันเล็กน้อย ทอดไข่จนผิวเหลืองกรอบนิด ๆ จะช่วยให้น้ำพะโล้ซึมเข้าไข่ได้ดี

2. ทำเครื่องพะโล้

  • โขลกรากผักชี กระเทียม และพริกไทยเม็ดเข้าด้วยกัน
  • เจียวในน้ำมันให้หอม จากนั้นใส่หมูลงผัดพอสุก

3. เคี่ยวน้ำพะโล้

  • ใส่น้ำตาลปี๊บลงไปผัดให้ละลายและออกสีน้ำตาล (จะช่วยให้น้ำพะโล้หอมคาราเมล)
  • เติมน้ำเปล่า ซีอิ๊วขาว ซีอิ๊วดำ น้ำปลา
  • ใส่อบเชย โป๊ยกั๊ก แล้วเคี่ยวประมาณ 20 นาที

4. ใส่ไข่และตุ๋น

  • นำไข่ต้มที่ทอดไว้ใส่ลงไป
  • เคี่ยวด้วยไฟอ่อน ๆ ประมาณ 45–60 นาที จนหมูนุ่ม ไข่ซึมรสพะโล้
  • ชิมรส ปรุงเพิ่มตามชอบ (หวาน–เค็มกลมกล่อม)

🌟 เคล็ดลับให้อร่อย วิธีทำไข่พะโล้

  • การเคี่ยวนาน ๆ จะทำให้น้ำซึมเข้าไข่และหมู รสชาติเข้มข้นขึ้น
  • ถ้าชอบเข้มสี ให้ใส่ซีอิ๊วดำเพิ่มเล็กน้อย
  • ตุ๋นทิ้งไว้ข้ามคืน แล้วอุ่นกินอีกวัน จะอร่อยยิ่งขึ้น (เรียกกันว่า “พะโล้ข้ามคืน”)

วิธีทำหมูกรอบ สูตรเด็ด กรอบนาน กินกับอะไรก็อร่อย กรอบ ทำง่ายที่บ้าน

วิธีทำหมูกรอบ มีหลายสูตร แต่หลัก ๆ จะใช้วิธี ต้ม – ทาเกลือ/น้ำส้มสายชู – ตาก/อบแห้ง – ทอด
ผมสรุปวิธีทำแบบพื้นฐานให้ครับ:


ส่วนผสม วิธีทำหมูกรอบ

  • หมูสามชั้น 1 กิโลกรัม
  • เกลือ 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำส้มสายชู 2–3 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำเปล่า สำหรับต้ม

ขั้นตอนการทำ วิธีทำหมูกรอบ

1. ต้มหมู

  1. ล้างหมูสามชั้นให้สะอาด ขูดเอาขนออก
  2. นำหมูใส่หม้อ เติมน้ำให้ท่วม
  3. ต้มประมาณ 30–40 นาที จนหมูสุก
  4. ตักขึ้นมาพักให้สะเด็ดน้ำ

2. เตรียมหนังหมู

  1. ใช้ส้อมจิ้มหนังหมูให้ทั่ว (เพื่อให้น้ำมันซึมและหนังพอง)
  2. ทาเกลือบาง ๆ ทั่วชิ้นหมู
  3. ทาน้ำส้มสายชูบาง ๆ เฉพาะด้านหนังหมู (ช่วยให้หนังกรอบ)

3. ทำให้แห้ง

  • วิธีดั้งเดิม: ผึ่งลมให้แห้ง 3–4 ชั่วโมง
  • วิธีเร่งด่วน: นำไปอบไฟอ่อน (100–120°C) ประมาณ 30–40 นาที

4. ทอด

  1. ตั้งกระทะ ใส่น้ำมันเยอะพอท่วมหมู
  2. ใช้ไฟกลาง ทอดหมูทั้งชิ้นจนหนังฟูพอง
  3. พักสะเด็ดน้ำมัน แล้วหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ

วิธีทำหมูกรอบ เคล็ดลับให้กรอบนาน

  • ต้องทำให้หนังหมูแห้งสนิทก่อนทอด
  • ตอนทอดไม่ควรใช้ไฟแรงเกินไป ให้เริ่มกลาง ๆ แล้วเร่งไฟช่วงท้าย
  • หากอยากเก็บไว้หลายวัน สามารถทอดครั้งแรกพอเหลือง แล้วแช่ช่องฟรีซ พอจะกินก็นำมาทอดซ้ำอีกครั้ง จะยิ่งกรอบนาน

วิธีทําไข่ตุ๋น ให้นุ่มละมุน สูตรไทยใส่หมูสับ ทำง่าย ได้รสกลมกล่อม

วิธีทําไข่ตุ๋น การทำ ไข่ตุ๋น เป็นเมนูง่ายๆ นุ่มละมุน กินได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ค่ะ 🍳✨


🥚 วัตถุดิบ

  • ไข่ไก่ 2–3 ฟอง
  • น้ำเปล่า หรือน้ำซุป (ประมาณ 1.5 เท่าของปริมาณไข่)
  • ซีอิ๊วขาว หรือเกลือเล็กน้อย
  • น้ำมันงา (ใส่หรือไม่ใส่ก็ได้)
  • ต้นหอมซอย / แครอทหั่นเล็ก / หมูสับ (ตามชอบ)

🔪 วิธีทำ

1. เตรียมส่วนผสม

  1. ตอกไข่ลงชาม ตีเบาๆ ให้เข้ากัน (ไม่ต้องตีแรงมาก จะได้เนื้อไข่เนียน)
  2. เติมน้ำซุปหรือน้ำเปล่า (อัตราส่วน 1 ฟอง : น้ำ 1.5 ส่วน)
  3. ปรุงรสด้วยซีอิ๊วขาวเล็กน้อย หรือเกลือ + น้ำมันงา หยดหนึ่ง

2. กรองไข่

  • กรองด้วยตะแกรง เพื่อให้ได้เนื้อไข่ที่เนียน ไม่เป็นฟอง

3. นำไปนึ่ง

  1. เทไข่ใส่ถ้วยหรือชามที่ทนความร้อน
  2. ปิดด้วยฟอยล์หรือจาน (กันน้ำหยดลงไข่)
  3. ตั้งหม้อนึ่ง น้ำเดือดแล้วใช้ไฟอ่อน
  4. นึ่งประมาณ 12–15 นาที (ขึ้นอยู่กับปริมาณไข่)

4. จัดเสิร์ฟ

  • เมื่อสุกแล้ว โรยต้นหอมซอย
  • จะใส่หมูสับ ผัก หรือซีฟู้ดก็ได้ตามชอบ

🍲 เคล็ดลับให้ไข่ตุ๋นนุ่ม

ปิดฝาชามหรือห่อฟอยล์กันหยดน้ำ ทำให้ผิวหน้าไข่เรียบสวย

ใช้น้ำซุปแทนน้ำเปล่า จะได้รสกลมกล่อม

ไฟต้องอ่อนตลอดการนึ่ง ไข่จะเนียน ไม่เป็นรูพรุน

วิธีทําข้าวมันไก่ สูตรต้นตำรับ หอม นุ่ม น้ำจิ้มรสเด็ด | ทำกินก็ง่าย

วิธีทําข้าวมันไก่ การทำข้าวมันไก่ทำได้ไม่ยาก แต่ต้องมีขั้นตอนหลายส่วน ทั้งการต้มไก่ ทำน้ำซุป ข้าว และน้ำจิ้มค่ะ


🐓 วัตถุดิบ

ส่วนของไก่และน้ำซุป

  • ไก่ทั้งตัว หรือส่วนน่อง/อก ตามชอบ
  • ขิงบุบ
  • กระเทียมบุบ
  • เกลือเล็กน้อย

ส่วนของข้าวมัน

  • ข้าวหอมมะลิ
  • น้ำมันไก่ (หรือน้ำมันพืช)
  • กระเทียมสับ
  • ขิงหั่นแว่น
  • น้ำซุปไก่

ส่วนของน้ำจิ้มเต้าเจี้ยว

  • เต้าเจี้ยว
  • ขิงสับ
  • กระเทียมสับ
  • พริกแดงสับ
  • ซีอิ๊วดำ
  • น้ำตาลทราย
  • น้ำส้มสายชู

🔪 วิธีทำ

1. ต้มไก่

  1. ต้มน้ำในหม้อ ใส่ขิงและกระเทียมบุบเล็กน้อย
  2. ใส่ไก่ลงต้ม เติมเกลือพอประมาณ
  3. ต้มจนไก่สุก (ประมาณ 30–40 นาที ขึ้นอยู่กับขนาดไก่)
  4. ตักไก่ออก แช่น้ำเย็นจัดให้เนื้อแน่น แล้วพักไว้หั่นเป็นชิ้น

2. ทำน้ำซุป

  • น้ำที่ต้มไก่ ใช้เป็นน้ำซุป โดยใส่ฟัก หรือหัวไชเท้าต้มจนเปื่อย ปรุงด้วยเกลือเล็กน้อย

3. หุงข้าวมัน

  1. เจียวกระเทียมกับน้ำมันไก่จนหอม
  2. ใส่ข้าวสารซาวสะอาดลงผัด ใส่ขิงหั่นแว่น
  3. เติมน้ำซุปไก่แทนน้ำปกติ หุงจนข้าวสุก จะได้ข้าวมันหอมๆ

4. ทำน้ำจิ้ม

  • ผสมเต้าเจี้ยว ขิงสับ กระเทียมสับ พริกแดงสับ ซีอิ๊วดำ น้ำตาล และน้ำส้มสายชู คนให้เข้ากัน ชิมรสให้เค็ม หวาน เปรี้ยว เผ็ดพอดี

🍽 การจัดเสิร์ฟ

อาจมีแตงกวาหั่น และผักชีโรยหน้าเพื่อเพิ่มความสด

ตักข้าวมันใส่จาน วางไก่ต้มที่หั่นแล้ว

เสิร์ฟพร้อมน้ำซุป และน้ำจิ้มเต้าเจี้ยว