สื่อตปท. คาดนายกฯหญิงญี่ปุ่นชะลอขึ้นดอกเบี้ย
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ซานาเอะ ทาเคอิจิ กำลังจะเป็นนายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่น พร้อมขับเคลื่อนนโยบายเศรษฐกิจแบบขยายตัว ดังนั้นโอกาสที่ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) จะหลีกเลี่ยงการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนตุลาคมนั้น มีโอกาสเพิ่มสูงขึ้น แม้ว่าการหยุดพักขึ้นอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวอาจจะไม่กินเวลานานหากส่งผลกระทบต่อค่าเงินเยน
การที่สื่อตปท.คาดว่าที่นายกฯหญิงญี่ปุ่นอาจทำให้แบงก์ชาติญี่ปุ่นชะลอการขึ้นดอกเบี้ยนั้น เกิดจากนโยบายของนางทาเคอิจิที่เน้นการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศเป็นหลัก
ทาเคอิจิ ซึ่งจะขึ้นเป็นผู้นำหญิงคนแรกของญี่ปุ่นในสัปดาห์หน้า หลังจากชนะการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคแอลดีพีเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เธอมีความโดดเด่นในการแข่งขันในฐานะผู้สนับสนุนคนเดียวที่เสนอนโยบายการใช้จ่ายขนาดใหญ่และนโยบายการเงินแบบผ่อนคลาย
รัฐสภาญี่ปุ่นคาดว่าจะลงคะแนนเสียงเลือกหัวหน้าพรรคแอลดีพีคนใหม่ที่มีจุดยืนชาตินิยมอนุรักษ์นิยมเป็นนายกรัฐมนตรีในวันที่ 15 ตุลาคม เนื่องจากพรรคแอลดีพีของเธอเป็นพรรคที่ใหญ่ที่สุดในรัฐสภา แม้ว่าจะยังไม่แน่นอน เพราะพันธมิตรของพรรคแอลดีพีสูญเสียเสียงข้างมากในสภาทั้งสองสภาภายใต้การนำของชิเงรุ อิชิบะ ผู
หลังจากชนะการเลือกตั้ง ทาเคอิจิได้แสดงความชัดเจนว่ารัฐบาลจะเป็นผู้นำในการกำหนดนโยบายการคลังและการเงิน และลำดับความสำคัญของเธอคือการกระตุ้นอุปสงค์และเศรษฐกิจโดยรวม
ทาเคอิจิอธิบายว่าการขึ้นราคาในช่วงที่ผ่านมาเกิดจากต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้น และเตือนว่ายังเร็วเกินไปที่จะพูดถึงชัยชนะเหนือภาวะเงินฝืด เนื่องจากบริษัทต่างๆ เริ่มรู้สึกถึงผลกระทบจากนโยบายภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ
นโยบายของทาเคอิจิส่งผลให้สื่อตปท.คาดว่าที่นายกฯหญิงญี่ปุ่นอาจทำให้แบงก์ชาติญี่ปุ่นชะลอการขึ้นดอกเบี้ย เนื่องจากเธอให้ความสำคัญกับการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศมากกว่าการควบคุมเงินเฟ้อในระยะสั้น
สื่อตปท.คาดว่าที่นายกฯหญิงญี่ปุ่นอาจทำให้แบงก์ชาติญี่ปุ่นชะลอการขึ้นดอกเบี้ย
การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งนี้อาจส่งผลกระทบต่อตลาดการเงินโลก และนักลงทุนทั่วโลกกำลังจับตาดูความเคลื่อนไหวของญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิด
ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากนโยบายของนายกฯหญิงต่อการเงินญี่ปุ่น
หากสื่อตปท.คาดว่าที่นายกฯหญิงญี่ปุ่นอาจทำให้แบงก์ชาติญี่ปุ่นชะลอการขึ้นดอกเบี้ย เป็นจริง จะส่งผลให้ค่าเงินเยนอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ ซึ่งอาจส่งผลดีต่อภาคการส่งออกของญี่ปุ่น แต่ในขณะเดียวกันก็อาจทำให้ราคาสินค้านำเข้าสูงขึ้น
นอกจากนี้ นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายอาจกระตุ้นให้เกิดเงินเฟ้อในระยะยาว ซึ่งอาจเป็นความท้าทายสำหรับรัฐบาลญี่ปุ่นในการควบคุมเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ
โดยรวมแล้ว การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในญี่ปุ่นอาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อเศรษฐกิจญี่ปุ่นและตลาดการเงินโลก นักลงทุนและผู้สังเกตการณ์ควรติดตามความเคลื่อนไหวของญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิดเพื่อประเมินผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น
ดังนั้น การขึ้นเป็นนายกฯ หญิงของญี่ปุ่นและการดำเนินนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอาจเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ธนาคารกลางญี่ปุ่นตัดสินใจชะลอการขึ้นดอกเบี้ยในอนาคตอันใกล้นี้
ที่มา – สื่อตปท.คาดว่าที่นายกฯหญิงญี่ปุ่นอาจทำให้แบงก์ชาติญี่ปุ่นชะลอการขึ้นดอกเบี้ย