ทรัมป์ดีล 5 ชาติเอเชียกลาง เสริมแกร่งแร่
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ จัดการประชุมที่ทำเนียบขาวเมื่อวานนี้ (6 พ.ย.) ร่วมกับผู้นำ 5 ชาติเอเชียกลาง ได้แก่ คาซัคสถาน คีร์กีซสถาน ทาจิกิสถาน เติร์กเมนิสถาน และอุซเบกิสถาน โดยยกประเด็นแร่ธาตุสำคัญ (critical minerals) เป็นหัวข้อหลักของการหารือ เพื่อเสริมความมั่นคงทางเศรษฐกิจและห่วงโซ่อุปทานของสหรัฐฯ
ทรัมป์กล่าวว่า รัฐบาลของเขาได้เดินหน้าทำข้อตกลงกับประเทศพันธมิตรหลายแห่งทั่วโลก เพื่อขยายแหล่งจัดหาวัตถุดิบสำคัญ เช่น ยูเรเนียม ทองแดง ทองคำ และแร่หายาก ซึ่งเป็นทรัพยากรที่พบมากในภูมิภาคเอเชียกลาง โดยมีเป้าหมายเพื่อลดการพึ่งพารัสเซียและจีนที่ครอบงำห่วงโซ่อุปทานแร่เหล่านี้มานาน การผลักดันทรัมป์ดีล 5 ชาติเอเชียกลางครั้งนี้ จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง
การประชุมครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้กรอบ “C5+1” ที่ก่อตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2558 เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ พลังงาน และความมั่นคงระหว่างสหรัฐฯ กับประเทศในเอเชียกลางทั้ง 5 ชาติ โดยคาดว่าจะมีการลงนามบันทึกความร่วมมือด้านแร่ธาตุสำคัญ รวมถึงข้อตกลงทางธุรกิจหลายรายการ เช่น โบอิ้งจะขายเครื่องบินให้สายการบินในคาซัคสถาน ทาจิกิสถาน และอุซเบกิสถาน ขณะที่บริษัทโคฟ แคปิทัล (Cove Capital) ของสหรัฐฯ จะเข้าลงทุนทำเหมืองทังสเตนในคาซัคสถาน
นักวิเคราะห์จากศูนย์ยุทธศาสตร์และการศึกษานานาชาติ (CSIS) ให้ความเห็นว่า สหรัฐฯ กำลังใช้ทั้งกลไกรัฐบาลต่อรัฐบาลและข้อตกลงทางพาณิชย์ เพื่อเข้าถึงทรัพยากรแร่สำคัญในภูมิภาคนี้ ท่ามกลางการแข่งขันกับรัสเซียและจีนที่เร่งขยายอิทธิพลในภาคเหมืองแร่และโครงสร้างพื้นฐานของเอเชียกลาง
ทรัมป์ดีล 5 ชาติเอเชียกลาง เสริมอุปทานแร่สำคัญ ลดพึ่งพาจีน-รัสเซีย
การเปลี่ยนแปลงขั้วอำนาจทางเศรษฐกิจโลกกำลังเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว การที่สหรัฐฯ พยายามเข้าถึงแหล่งแร่ธาตุในเอเชียกลาง สะท้อนให้เห็นถึงความต้องการที่จะลดการพึ่งพาจีนและรัสเซียในห่วงโซ่อุปทานที่สำคัญต่ออุตสาหกรรมเทคโนโลยีและพลังงานสมัยใหม่
ความสำคัญของแร่ธาตุในเอเชียกลาง
ภูมิภาคเอเชียกลางอุดมไปด้วยแร่ธาตุสำคัญหลายชนิด ซึ่งมีความจำเป็นต่อการผลิตสินค้าเทคโนโลยีขั้นสูง เช่น แบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า แผงโซลาร์เซลล์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ การที่สหรัฐฯ สามารถsecure แหล่งทรัพยากรเหล่านี้ได้ จะช่วยให้มีความได้เปรียบในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ และลดความเสี่ยงจากปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบ
- ยูเรเนียม: ใช้ในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์
- ทองแดง: ใช้ในสายไฟฟ้าและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
- ทองคำ: ใช้ในอุตสาหกรรมเครื่องประดับและอิเล็กทรอนิกส์
- แร่หายาก: ใช้ในแม่เหล็ก อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และเทคโนโลยีขั้นสูงอื่นๆ
ทรัมป์ดีล 5 ชาติเอเชียกลางนี้ ไม่ได้เป็นเพียงแค่เรื่องของการทำธุรกิจ แต่เป็นเรื่องของความมั่นคงทางเศรษฐกิจและการเมืองในระยะยาว
ผลกระทบต่อภูมิภาค
การเข้ามาของสหรัฐฯ อาจนำมาซึ่งการลงทุนและเทคโนโลยีใหม่ๆ ในภาคเหมืองแร่และโครงสร้างพื้นฐานของเอเชียกลาง ซึ่งจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและสร้างงาน อย่างไรก็ตาม ก็มีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมที่อาจเกิดขึ้นจากการทำเหมือง
นอกจากนี้ การแข่งขันระหว่างสหรัฐฯ รัสเซีย และจีน ในภูมิภาคนี้ อาจนำไปสู่ความตึงเครียดทางการเมืองและความขัดแย้งทางผลประโยชน์ได้ ประเทศในเอเชียกลางจะต้องพยายามรักษาสมดุลระหว่างความสัมพันธ์กับมหาอำนาจเหล่านี้ เพื่อให้ได้รับประโยชน์สูงสุดจากการพัฒนาทรัพยากรของตน
โดยสรุปแล้ว ทรัมป์ดีล 5 ชาติเอเชียกลางเป็นก้าวสำคัญในการเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ทางเศรษฐกิจและการเมืองของโลก การที่สหรัฐฯ ให้ความสำคัญกับภูมิภาคนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความตระหนักถึงความสำคัญของทรัพยากรแร่ธาตุในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสมัยใหม่ และความมุ่งมั่นที่จะลดการพึ่งพาคู่แข่งทางเศรษฐกิจ
การที่ไทยเราจับตาดูสถานการณ์นี้อย่างใกล้ชิด จะช่วยให้เราเข้าใจถึงทิศทางของโลกและเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้
ที่มา – ทรัมป์ดีล 5 ชาติเอเชียกลาง เสริมอุปทานแร่สำคัญ ลดพึ่งพาจีน-รัสเซีย