มาแล้ว! ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ออกมาฟันธงทีมที่จะคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ อาร์เซนอลยังคงเป็นเต็งหนึ่ง แม้ว่าการแข่งขันจะเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ

การแข่งขันฟุตบอล พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ กำลังดำเนินไปอย่างดุเดือด แต่ละทีมต่างก็โชว์ฟอร์มสุดยอดเพื่อเป้าหมายในการคว้าแชมป์ และแน่นอนว่าการคาดการณ์ว่าทีมใดจะเป็นแชมป์ก็เป็นที่สนใจของแฟนบอลทั่วโลก

ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ฟันธง! ทีมใดคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้

ล่าสุด ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ จาก Opta เว็บไซต์สถิติฟุตบอลชื่อดัง ได้ทำการคำนวณโอกาสในการคว้าแชมป์ของแต่ละทีมใน พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ ผลลัพธ์ที่ออกมาน่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง

นอกจากนี้ เชลซี และ คริสตัล พาเลซ ถูกยกให้เป็นเต็งสี่และเต็งห้า ด้วยโอกาส 2.47% และ 1.03% ตามลำดับ ส่วนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มีโอกาสคว้าแชมป์เพียง 0.36% เท่านั้น

• อาร์เซนอล: 71.00%
• แมนเชสเตอร์ ซิตี้: 12.6%
• ลิเวอร์พูล: 10.29%
• เชลซี: 2.47%
• คริสตัล พาเลซ: 1.03%
• แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด: 0.36%

การคำนวณของ ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ เป็นเพียงการคาดการณ์ตามสถิติเท่านั้น ผลลัพธ์ที่แท้จริงจะขึ้นอยู่กับฟอร์มการเล่นของแต่ละทีม, การบาดเจ็บของผู้เล่น, และปัจจัยอื่นๆ อีกมากมาย แฟนบอลคงต้องติดตามชมกันต่อไปว่าทีมใดจะเป็นผู้คว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ ไปครอง

ไม่ว่าผลของการทำนายจะเป็นอย่างไร สิ่งที่แน่นอนคือ พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ จะเต็มไปด้วยความสนุก ตื่นเต้น เร้าใจ และพลิกผันได้ตลอดเวลา แฟนบอลอย่างเราๆ ก็เตรียมตัวเชียร์ทีมรักกันให้สุดใจไปเลย!

ที่มา – ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ มาแล้วฟันธงล่าสุดทีมใดคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เก็บ 3 คะแนนได้ตามเป้า หลังเปิดบ้านไล่อัด บอร์นมัธ ในการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ คู่ดึกของคืนวันที่ 2 พ.ย. ชัยชนะครั้งนี้ทำให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดรังเชือด บอร์นมัธ – ขยับรั้งรองจ่าฝูง

เกมนี้เปิดฉากมาครึ่งแรก แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เริ่มต้นได้อย่างสวยงาม และได้ประตูนำ 1-0 จากจังหวะสวนกลับเร็ว เรยาน เชร์กี โหม่งส่งทะลุช่องให้ ฮาลันด์ กระชากจากครึ่งสนามเข้าเขตโทษ ก่อนยิงเข้าไป ในนาที 17

แต่หลังจากนั้น ทีมเยือนมาได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากจังหวะเตะมุม ดอนนารุมมา ชกบอลไม่ดี ไปเข้าทางไทเลอร์ อดัมส์ ยิงเข้าไป ในนาที 25

อย่างไรก็ตามหลังจากนั้น เออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์ มายิงลูกที่สองของตัวเอง ในนาที 32 ทำให้ทีมเรือใบสีฟ้า กลับมานำ 2-1 ก่อนจะจบครึ่งแรกด้วยสกอร์ดังกล่าว

ครึ่งหลังทีมเจ้าถิ่นมาได้ประตูนำห่าง 3-1 จาก นิโก โอเรลลี ในนาที 60

ช่วงที่เหลือไม่มีทีมไหนยิงเพิ่มได้ จบเกม แมนฯ ซิตี้ เอาชนะไป 3-1 เก็บเพิ่มเป็น 19 แต้ม จาก 10 นัด ขยับขึ้นมารั้งรองจ่าฝูง โดยตามหลัง อาร์เซนอล ทีมจ่าฝูงอยู่ 6 แต้ม ส่วน บอร์นมัธ หล่นไปอยู่อันดับ 4 มี 18 คะแนน จาก 10 นัดเท่ากัน

ฟอร์มการเล่นของเออร์ลิง เบราต์ ฮาลันด์ ยังคงร้อนแรงต่อเนื่อง เป็นกำลังสำคัญที่ช่วยให้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดรังเชือด บอร์นมัธ – ขยับรั้งรองจ่าฝูง ในฤดูกาลนี้ การจบสกอร์ที่เฉียบคมและความเร็วของเขาเป็นสิ่งที่แนวรับคู่ต่อสู้ต้องรับมืออย่างหนัก

นอกจากฮาลันด์แล้ว ผู้เล่นคนอื่นๆ ในทีมก็ทำผลงานได้ดีเช่นกัน การประสานงานในแดนกลางและการเล่นเกมรับที่เหนียวแน่น ทำให้ทีมมีความสมดุลและแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น

ชัยชนะในนัดนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เพราะเป็นการรักษาตำแหน่งรองจ่าฝูงและไล่จี้อาร์เซนอลต่อไป การแข่งขันในพรีเมียร์ ลีกฤดูกาลนี้ยังคงเข้มข้นและน่าติดตาม แฟนบอลเรือใบสีฟ้าต่างหวังว่าทีมจะรักษาฟอร์มการเล่นที่ดีต่อไปและคว้าแชมป์มาครองให้ได้

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดรังเชือด บอร์นมัธ – ขยับรั้งรองจ่าฝูง

การที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดรังเชือด บอร์นมัธ – ขยับรั้งรองจ่าฝูง แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความสามารถของทีมในการแข่งขันพรีเมียร์ ลีก พวกเขาพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับทุกความท้าทายและมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้

แมนฯ ซิตี้ กับเส้นทางลุ้นแชมป์

เส้นทางสู่การลุ้นแชมป์ของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังคงอีกยาวไกล แต่ด้วยฟอร์มการเล่นที่แข็งแกร่งและความมุ่งมั่นของนักเตะทุกคน ทำให้พวกเขามีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จในฤดูกาลนี้ แฟนบอลทั่วโลกต่างรอคอยที่จะได้เห็นพวกเขาชูถ้วยแชมป์ในตอนท้ายของฤดูกาล

โดยรวมแล้ว เกมนี้เป็นเกมที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความแข็งแกร่งของทีม พวกเขาเล่นได้อย่างมีประสิทธิภาพและสามารถเอาชนะบอร์นมัธไปได้อย่างไม่ยากเย็นนัก ชัยชนะครั้งนี้เป็นกำลังใจสำคัญที่จะช่วยให้พวกเขาเดินหน้าต่อไปในการแข่งขันพรีเมียร์ ลีก

การเสริมทัพในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะที่จะถึงนี้ อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้ทีมมีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น การได้นักเตะใหม่ที่มีคุณภาพเข้ามาจะช่วยเพิ่มมิติในการเล่นและทำให้ทีมมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น

สุดท้ายนี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังคงต้องทำงานอย่างหนักต่อไปเพื่อรักษาฟอร์มการเล่นที่ดีและคว้าชัยชนะในทุกๆ นัด การแข่งขันในพรีเมียร์ ลีกนั้นยากลำบาก แต่ด้วยความมุ่งมั่นและความสามารถของนักเตะทุกคน พวกเขามีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน

ที่มา – แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดรังเชือด บอร์นมัธ – ขยับรั้งรองจ่าฝูง

อาร์เซนอลเฉือนชัยพาเลซ ยึดจ่าฝูง พรีเมียร์ลีก แบบแต้มทิ้งห่างยิ่งกว่าเดิม

ศึกดาร์บี้ลอนดอนสุดมันส์! อาร์เซนอลเฉือนชนะคริสตัล พาเลซ หวุดหวิด 1-0 จากประตูชัยสุดสวยของเอเบเรชี เอเซ ที่ยิงใส่ทีมเก่า ส่งผลให้ “ปืนใหญ่” ยังคงครองบัลลังก์จ่าฝูงพรีเมียร์ลีกต่อไปอย่างเหนียวแน่น แถมยังทำแต้มทิ้งห่างคู่แข่งไปอีกขั้น แฟนบอลอาร์เซนอลได้เฮกันลั่นสนามเอมิเรตส์ สเตเดียมเลยทีเดียว

เกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดล่าสุดเมื่อวันที่ 26 ตุลาคมที่ผ่านมา เป็นการปะทะกันระหว่างสองทีมดังแห่งกรุงลอนดอน “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ “ปราสาทเรือนแก้ว” คริสตัล พาเลซ ท่ามกลางบรรยากาศที่คึกคักและเสียงเชียร์กระหึ่ม

ในครึ่งแรก นาทีที่ 39 อาร์เซนอลได้ลูกฟรีคิกระยะค่อนข้างไกล เดแคลน ไรซ์ เปิดบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ กาเบรียล มากัลเญส ขึ้นโหม่งแย่งกับกองหลังพาเลซ บอลเลยมาเข้าทาง เอเบเรชี เอเซ ที่กระโดดวอลเลย์เต็มข้อ บอลพุ่งเสียบตาข่ายอย่างสวยงาม ทำให้อาร์เซนอลขึ้นนำไปก่อน 1-0 และเป็นการทำประตูใส่ทีมเก่าของเอเซอีกด้วย

เริ่มครึ่งหลังมาในนาทีที่ 50 เดแคลน ไรซ์ เปิดบอลจากทางฝั่งซ้ายของกรอบเขตโทษไปที่เสาสอง กาเบรียล มากัลเญส ขึ้นโหม่งบอลชนคานอย่างจัง บอลกระเด้งออกมาเข้าทางไรซ์ที่ตามมาเก็บบอลก่อนจะยิงซ้ำ แต่ดีน เฮนเดอร์สัน นายทวารพาเลซ ป้องกันไว้ได้อย่างหวุดหวิด อาร์เซนอลพลาดโอกาสทองในการทำประตูเพิ่มไปอย่างน่าเสียดาย

หลังจากนั้น รูปเกมค่อนข้างที่จะจืดชืดลงไป ทั้งสองทีมแทบจะไม่มีโอกาสลุ้นทำประตูที่หวาดเสียวกันเลย จนกระทั่งจบเกม อาร์เซนอลเฉือนชนะไปอย่างหวุดหวิดด้วยสกอร์ 1-0

จากผลการแข่งขันนี้ ทำให้อาร์เซนอลลงแข่งไปแล้ว 9 นัด เก็บเพิ่มเป็น 22 คะแนน นำเป็นจ่าฝูงต่อไปอย่างสวยงาม ทิ้งห่างบอร์นมัธ ทีมอันดับสองไปถึง 4 คะแนน ส่วนคริสตัล พาเลซ มี 13 คะแนน รั้งอันดับ 10 ของตาราง

(REUTERS/Hannah Mckay)

ทางด้าน “สิงห์ผงาด” แอสตัน วิลลา เปิดบ้านเฉือนชนะ “เรือใบสีฟ้า” แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปด้วยสกอร์ 1-0 โดยได้ประตูชัยจาก แมตตี แคช ในนาทีที่ 19

หลังผ่านไป 9 นัด แอสตัน วิลลา เก็บเพิ่มเป็น 15 คะแนน ขึ้นไปอยู่อันดับ 7 ส่วนแมนฯ ซิตี้ มี 16 คะแนน หล่นลงมาอยู่อันดับ 4

ส่วนผลการแข่งขันคู่อื่นๆ บอร์นมัธ ชนะ น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ 2-0 และวูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส แพ้ เบิร์นลีย์ 2-3

สรุปผลงาน อาร์เซนอลเฉือนชัยพาเลซ

ชัยชนะเหนือคริสตัล พาเลซ ทำให้ อาร์เซนอลเฉือนชัยพาเลซ และรักษาตำแหน่งจ่าฝูงได้อย่างแข็งแกร่ง แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและพัฒนาการของทีมภายใต้การคุมทีมของ มิเกล อาร์เตต้า อย่างไรก็ตาม อาร์เซนอลเฉือนชัยพาเลซ ได้อย่างหวุดหวิด และยังคงต้องปรับปรุงในเรื่องของความเฉียบคมในการจบสกอร์เพื่อรักษาความได้เปรียบในการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกต่อไป

โดยรวมแล้ว อาร์เซนอลเฉือนชัยพาเลซ ได้สำเร็จ ถือเป็นเกมที่แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของเกมรับ และความสามารถในการคว้าชัยชนะแม้ในวันที่ฟอร์มไม่ดีเท่าที่ควร แฟนบอล “เดอะ กันเนอร์ส” คงต้องตามเชียร์กันต่อไปว่าทีมรักของพวกเขาจะสามารถรักษาฟอร์มเก่งและคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมาครองได้หรือไม่

ที่มา – อาร์เซนอลเฉือนชัยพาเลซ ยึดจ่าฝูง พรีเมียร์ลีก แบบแต้มทิ้งห่างยิ่งกว่าเดิม

มิเกล อาร์เตตา กุนซือ อาร์เซนอล ชู วิกตอร์ เยอเคเรส ช่วย อาร์เซนอล แกร่งขึ้น หลังทำ 2 ประตูในเกมถล่ม แอตเลติโก มาดริด 4-0 ศึกยูซีแอล

โดย เยอเคเรส เหมคนเดียว 2 ประตูในเกมที่ อาร์เซนอล เปิดสนาม เอมิเรสต์ สเตเดียม เอาชนะ แอตเลติโก มาดริด 4-0 ในเกมยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบลีกเฟส เมื่อวันที่ 21 ต.ค.

จากการทำประตูดังกล่าวทำให้ดาวเตะวัย 27 ปีหยุดสถิติย่ำแย่หลังไม่ยิงมาแล้ว 7 นัดติดต่อกันทุกรายการก่อนหน้านี้ส่งผลให้เจ้าตัวทำ 5 ประตูจาก 12 นัดให้กับ “ปืนใหญ่” ปัจจุบัน

Soccer Football – UEFA Champions League – Arsenal v Atletico Madrid – Emirates Stadium, London, Britain – October 21, 2025 Arsenal’s Viktor Gyokeres celebrates scoring their third goal Action Images via Reuters/Andrew Couldridge

หลังเกมดังกล่าว อาร์เตตา กล่าวถึงผลงานของ เยอเคเรส ว่า “เขาสมควรได้รับมัน เพราะทุกอย่างที่เราเห็นในแง่ของสิ่งที่เขานำมาสู่ทีม และการช่วยเหลือทีมในหลายๆ ด้าน นอกเหนือจากการทำประตูในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ไม่มีอะไรจะโต้แย้งเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้เลย”

“มันเป็นเรื่องของการรักษาความเชื่อมั่นในตัวเอง สภาวะอารมณ์ที่เขาสามารถเพลิดเพลิน และเล่นได้อย่างอิสระ ดูเพื่อนร่วมทีมของเขาสิ ทั้งในรูปภาพ และในวิดีโอ พวกเขาทุกคนต่างก็ดีใจกับเขา เพราะเขาสมควรได้รับมันอย่างเต็มที่”

“พวกเราทุกคน (ชื่นชม เยอเคเรส) เพราะเขาทำให้เราเป็นทีมที่ดีขึ้นมาก ผมคิดว่าเรากลายเป็นทีมที่คาดเดาได้ยากขึ้นมาก เขาแข็งแกร่งมาก เปิดพื้นที่ให้ทุกคน วิธีที่เขาเพรสบอล ครองบอล มันสุดยอดมากจริงๆ และที่สำคัญที่สุดคือเรื่องสำคัญที่สุดที่เราจะถกเถียงกันเกี่ยวกับเขาก็คือเรื่องประตู”

อาร์เตตา ชู เยอเคเรส ช่วย อาร์เซนอล แกร่งขึ้น

จากคำสัมภาษณ์ของ มิเกล อาร์เตตา แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในตัว วิกตอร์ เยอเคเรส อย่างมาก การที่ อาร์เตตา ชู เยอเคเรส ช่วย อาร์เซนอล แกร่งขึ้น นั้นไม่ใช่แค่เรื่องของผลงานในสนามเท่านั้น แต่ยังรวมถึงเรื่องของทัศนคติและความมุ่งมั่นที่เขานำมาสู่ทีมด้วย

เยอเคเรส ทำให้แนวรุกอาร์เซนอลหลากหลายขึ้น

การมีผู้เล่นอย่าง เยอเคเรส ทำให้ อาร์เซนอล มีตัวเลือกในแนวรุกมากขึ้น เขาไม่ได้เป็นเพียงแค่กองหน้าตัวเป้าที่รอทำประตูเท่านั้น แต่ยังสามารถสร้างโอกาสให้เพื่อนร่วมทีมได้ด้วย การเคลื่อนที่ของเขาช่วยเปิดพื้นที่ให้ผู้เล่นคนอื่น ๆ ทำให้เกมรุกของอาร์เซนอลมีความหลากหลายและคาดเดาได้ยากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด นี่คือเหตุผลสำคัญที่ อาร์เตตา ชู เยอเคเรส ช่วย อาร์เซนอล แกร่งขึ้น

นอกจากนี้ ความสามารถในการครองบอลและเพรสซิ่งของ เยอเคเรส ยังช่วยให้เกมรับของอาร์เซนอลดีขึ้นด้วย การที่เขาสามารถแย่งบอลกลับมาได้ในแดนหน้า ทำให้ทีมไม่ต้องเสียเวลาในการตั้งรับมากนัก และสามารถเปลี่ยนจากรับเป็นรุกได้อย่างรวดเร็ว

ฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมของ เยอเคเรส ในเกมล่าสุดที่ถล่ม แอตเลติโก มาดริด แสดงให้เห็นว่าเขาคือผู้เล่นคนสำคัญของ อาร์เซนอล ในฤดูกาลนี้อย่างแท้จริง การที่เขาทำคนเดียวสองประตูไม่เพียงแต่ช่วยให้ทีมชนะเท่านั้น แต่ยังเป็นการเรียกความมั่นใจกลับมาหลังจากที่ไม่สามารถทำประตูได้ในหลายเกมก่อนหน้านี้

แน่นอนว่าการที่ อาร์เตตา ชู เยอเคเรส ช่วย อาร์เซนอล แกร่งขึ้น นั้นไม่ใช่แค่คำพูดที่เกินจริง แต่เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นจริงในสนาม และแฟนบอลอาร์เซนอลก็หวังว่าเขาจะสามารถรักษาฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมนี้ต่อไปได้ตลอดฤดูกาล

ในระยะยาว การมีผู้เล่นที่มีคุณภาพอย่าง เยอเคเรส จะช่วยให้ อาร์เซนอล สามารถแข่งขันกับทีมชั้นนำอื่น ๆ ในยุโรปได้อย่างสูสีมากขึ้น และมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จในรายการใหญ่ ๆ ได้มากขึ้นด้วย

ดังนั้น การที่ มิเกล อาร์เตตา ออกมาชื่นชม เยอเคเรส อย่างเปิดเผย จึงเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่าเขาเชื่อมั่นในศักยภาพของผู้เล่นรายนี้ และพร้อมที่จะให้โอกาสเขาได้แสดงฝีเท้าอย่างเต็มที่ต่อไป

การที่ อาร์เตตา ชู เยอเคเรส ช่วย อาร์เซนอล แกร่งขึ้น ถือเป็นเรื่องที่น่าสนใจและน่าติดตามอย่างยิ่งสำหรับแฟนบอล “ปืนใหญ่” ทั่วโลก

ที่มา – อาร์เตตา ชู เยอเคเรส ช่วย อาร์เซนอล แกร่งขึ้นหลังซัดเบิ้ลเกมถล่ม แอตฯ มาดริด

อาร์เซนอลเปิดรังถล่มแอตฯ มาดริด – เปแอสเชยังชนะรวดยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก

การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก 2025-26 รอบลีก เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม “ปืนใหญ่”อาร์เซนอล จากอังกฤษ เปิดสนามเอมิเรตส์ สเตเดียม รับการมาเยือนของ “ตราหมี”แอตเลติโก มาดริด จากสเปน ผลปรากฏว่า อาร์เซนอลเปิดรังถล่มแอตฯ มาดริด ไปอย่างขาดลอย

เริ่มเกมมาได้ 5 นาที อาร์เซนอลเกือบขึ้นนำ วิกตอร์ เยอเคเรส ไหลบอลให้ เอเบเรชี เอเซ เลี้ยงหาช่องแล้วยิงจากบริเวณหน้าเขตโทษ บอลแฉลบขาผู้เล่นแอตฯ มาดริดแล้วลอยข้ามหัวนายทวารไปชนคาน

นาที 36 บูคาโย ซากา สบโอกาสบุกเข้าทางด้านขวาของเขตโทษ จากนั้นโยกหาช่องแล้วเปิดบอลยัดไปเสาสองให้ กาเบรียล มาร์ติเนลลี เข้าฮอร์สไม่มีเหลือ แต่มาร์ติเนลลีล้ำหน้าเสียก่อน อาร์เซนอลจึงยังไม่ได้ประตู จบครึ่งแรกเสมอกัน 0-0

ครึ่งหลังนาที 49 ดาวิด ฮานส์โก เติมเกมขึ้นมารับบอลจากเพื่อนแล้วจ่ายต่อให้ ฮูเลียน อัลวาเรซ พลิกตัวยิงจากบริเวณหน้าเขตโทษ บอลไปขนคานเต็มๆ แอตฯ มาดริดจึงพลาดโอกาสออกนำ

นาที 57 อาร์เซนอลได้ฟรีคิกระยะไกลทางด้านซ้าย เดแคลน ไรซ์ เปิดโค้งไปหน้าประตูให้ กาเบรียล มากัลเญส โฉบมาโขกระยะเผาขนเข้าประตูไป เจ้าบ้านออกนำ 1-0

นาที 64 ไมล์ส ลูอิส-สเคลลี ได้บอลบริเวณกลางสนามแล้วพาลุยขึ้นมาอย่างดุดัน ก่อนไหลไปทางด้านซ้ายของเขตโทษให้ กาเบรียล มาร์ติเนลลี แปเสียบเสาสองอย่างเฉียบคม อาร์เซนอลทิ้งห่าง 2-0

นาที 67 กาเบรียล มาร์ติเนลลี เปิดบอลเข้ากลางให้ เอเบเรชี เอเซ กระโดดวอลเลย์ติดบล็อกกองหลัง ลูกเด้งมาเข้าเท้า วิกตอร์ เยอเคเรส ยิงอีกทีบอลแฉลบขากองหลังแล้วไหลเข้าประตูไป อาร์เซนอลทิ้งห่าง 3-0

นาที 70 อาร์เซนอลได้ลูกเตะมุมฝั่งซ้าย เดแคลน ไรซ์ เปิดไปเสาสองให้ กาเบรียล มากัลเญส โขกชงมาบริเวณหน้าประตู วิกตอร์ เยอเคเรส จึงปราดเข้าใช้ต้นขากระแทกบอลเข้าประตูไป จบเกม “ปืนใหญ่” ชนะขาดลอย 4-0 พร้อมรักษาสถิติชนะรวด 3 นัด

(REUTERS/Thilo Schmuelgen)

ทางด้าน “ห้างขายยา”ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน จากเยอรมนี แพ้คาบ้านต่อแชมป์เก่าปารีส แซงต์ แชร์กแมง จากฝรั่งเศส 2-7 ทำให้เปแอสเชเป็นอีกทีมที่ชนะรวด 3 นัด

เจ้าบ้านได้ประตูจาก อเล็กซ์ การ์เซีย นาที 38 (จุดโทษ) และ 54 ส่วนทีมเยือนได้จาก วิลเลียม ปาโช นาท 7, เดซิเร ดูเอ นาที 41 และ 45+3, ควิชา ควารัตสเคเลีย นาที 44, นูโน เมนเดส นาที 50, อุสมาน เดมเบเล นาที 66, วิตินญา นาที 90

แมตช์นี้ทั้งคู่ต่างเหลือผู้เล่น 10 คน โรเบิร์ต อันดริช ของเลเวอร์คูเซน โดนใบแดงนาที 31 ขณะที่ อิลิยา ซาบาร์นี ของเปแอสเช โดนใบแดงนาที 37 นอกจากนี้ เจ้าบ้านพลาดโอกาสจากจุดโทษ อเล็กซ์ กริมาลโด ยิงไม่เข้านาที 25

ผลคู่อื่น บาร์เซโลนา (สเปน) ชนะ โอลิมเปียกอส (กรีซ) 6-1, ไครัต อัลมาตี (คาซัคสถาน) เสมอ ปาฟอส (ไซปรัส) 0-0, เอฟซี โคเปนเฮเกน (เดนมาร์ก) แพ้ โบรุสเซีย ดอร์ตมุนด์ (เยอรมนี) 2-4

นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด (อังกฤษ) ชนะ เบนฟิกา (โปรตุเกส) 3-0, พีเอสวี (เนเธอร์แลนด์) ชนะ นาโปลี (อิตาลี) 6-2, อูนิยง แซงต์. ชิลลัวส์ (เบลเยียม) แพ้ อินเตอร์ มิลาน (อิตาลี) 0-4, บียาร์เรอัล (สเปน) แพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (อังกฤษ) 0-2

บทสรุป: อาร์เซนอลเปิดรังถล่มแอตฯ มาดริด

จากผลการแข่งขันที่ อาร์เซนอลเปิดรังถล่มแอตฯ มาดริด ไปอย่างท่วมท้น แสดงให้เห็นถึงศักยภาพและความแข็งแกร่งของทีมปืนใหญ่ในฤดูกาลนี้ แฟนบอลทั่วโลกต่างจับตามองว่าพวกเขาจะสามารถรักษาฟอร์มอันร้อนแรงนี้ไปได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่

ที่มา – อาร์เซนอลเปิดรังถล่มแอตฯ มาดริด – เปแอสเชยังชนะรวดยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก

อาร์เซนอลบุกเชือดฟูแลมหืดจับ ยึดตำแหน่งจ่าฝูง พรีเมียร์ลีก กลับมาได้อีกครั้ง

ศึกฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันที่ 18 ตุลาคมที่ผ่านมา “ปืนใหญ่” อาร์เซนอล บุกไปเฉือนชนะ “เจ้าสัวน้อย” ฟูแลม ถึงสนามคราเวน ค็อตเทจ เก็บสามแต้มสำคัญ พร้อมกับยึดตำแหน่งจ่าฝูงของตารางคะแนนกลับคืนมาได้สำเร็จ หลังถูกแมนเชสเตอร์ ซิตี้ แซงขึ้นไปก่อนหน้านี้

เกมนี้ถือเป็นศึกลอนดอนดาร์บีแมตช์ที่เต็มไปด้วยความเข้มข้น อาร์เซนอลต้องการชัยชนะเพื่อทวงบัลลังก์จ่าฝูง ขณะที่ฟูแลมก็หวังที่จะเก็บแต้มในบ้านต่อหน้าแฟนบอลของตัวเอง

ในช่วงครึ่งแรก อาร์เซนอลพยายามเปิดเกมรุกเข้าใส่ แต่ก็ยังไม่สามารถเจาะแนวรับของฟูแลมได้ นาทีที่ 16 มีจังหวะที่ จูร์เรียน ทิมเบอร์ วางบอลยาวให้ เลอันโดร ทรอสซาร์ด หลุดเข้าไปในเขตโทษ ก่อนจะตบเข้ากลางให้ ริกการ์โด กาลาฟิโอรี ยิงเข้าไป แต่ VAR จับได้ว่ากาลาฟิโอรีอยู่ในตำแหน่งล้ำหน้า อาร์เซนอลจึงพลาดโอกาสขึ้นนำไปอย่างน่าเสียดาย

ครึ่งหลัง อาร์เซนอลยังคงเดินหน้าบุกอย่างต่อเนื่อง และมาประสบความสำเร็จในนาทีที่ 58 จากลูกเตะมุม บูคาโย ซากา เปิดบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ กาเบรียล มากัลเญส โขกเช็ดบางๆ บอลเลยไปถึงเสาสอง เลอันโดร ทรอสซาร์ด ได้โอกาสยิงจ่อๆ ไม่พลาด ส่งให้อาร์เซนอลขึ้นนำ 1-0

หลังจากได้ประตูขึ้นนำ อาร์เซนอลยังคงครองเกมไว้ได้ แต่ฟูแลมก็พยายามที่จะตอบโต้เพื่อหวังตีเสมอ นาทีที่ 65 มีจังหวะปัญหาเกิดขึ้น เมื่อ เควิน เข้าสกัดใส่ บูคาโย ซากา ล้มลงในเขตโทษ ผู้ตัดสินชี้ให้เป็นจุดโทษ แต่หลังจากเช็ก VAR ผู้ตัดสินกลับคำตัดสิน โดยมองว่าเควินสกัดโดนบอลก่อน

ช่วงเวลาที่เหลือ ทั้งสองทีมผลัดกันรุกและรับ แต่ไม่มีประตูเพิ่มเติม จบเกม อาร์เซนอลบุกมาเอาชนะ ฟูแลม ไปได้ด้วยสกอร์ 1-0 เก็บสามแต้มสำคัญพร้อมกับยึดตำแหน่งจ่าฝูง พรีเมียร์ลีก กลับคืนมา

จากชัยชนะนัดนี้ ทำให้อาร์เซนอลมี 19 คะแนน จากการลงเล่น 8 นัด กลับขึ้นไปยึดจ่าฝูงพรีเมียร์ลีกได้อีกครั้ง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ แซงขึ้นไปนำ ส่วนฟูแลมมี 8 คะแนน รั้งอันดับ 14 ของตาราง

สรุปผลการแข่งขันพรีเมียร์ลีกคู่อื่นๆ ที่น่าสนใจ

• น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ แพ้ เชลซี 0-3
• ไบรตัน ชนะ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 2-1
• เบิร์นลีย์ ชนะ ลีดส์ ยูไนเต็ด 2-0
• คริสตัล พาเลซ เสมอ บอร์นมัธ 3-3
• แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-0
• ซันเดอร์แลนด์ ชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 2-0

ชัยชนะของอาร์เซนอลในเกมนี้ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความแข็งแกร่งของทีม ที่พร้อมจะต่อสู้เพื่อแย่งชิงแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้ การยึดตำแหน่งจ่าฝูงพรีเมียร์ลีก กลับมาได้อีกครั้ง ถือเป็นกำลังใจสำคัญที่จะทำให้อาร์เซนอลเดินหน้าต่อไปได้อย่างมั่นใจ

อย่างไรก็ตาม อาร์เซนอลยังคงต้องรักษาฟอร์มการเล่นที่สม่ำเสมอ และทำงานหนักต่อไป เพื่อที่จะรักษาตำแหน่งจ่าฝูงไว้ให้ได้ตลอดรอดฝั่ง

ที่มา – อาร์เซนอลบุกเชือดฟูแลมหืดจับ ยึดตำแหน่งจ่าฝูง พรีเมียร์ลีก กลับมาได้อีกครั้ง

สื่อรายงาน มาร์ติน โอเดการ์ด กองกลางกัปตันทีม อาร์เซนอล มีอาการเจ็บเข่า และจะต้องพักยาวถึงช่วงหลังเบรกทีมชาติเดือน พ.ย. โดยจะชวดลงสนามช่วยทีมอย่างน้อย 7 เกม

ข่าวร้ายสำหรับแฟนบอลอาร์เซนอล! เมื่อมีรายงานว่า มาร์ติน โอเดการ์ด ได้รับบาดเจ็บที่เข่าและต้องพักยาว เรื่องนี้สร้างความกังวลใจให้กับแฟนบอลเป็นอย่างมาก เพราะโอเดการ์ดถือเป็นผู้เล่นคนสำคัญของทีม

โดย โอเดการ์ด ได้รับบาดเจ็บเอ็นเข่าในเกมที่ อาร์เซนอล เอาชนะ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด 2-0 เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม และต้องถูกเปลี่ยนตัวออกในช่วงครึ่งแรก

ก่อนหน้านี้ “ปืนใหญ่” ออกแถลงการณ์ว่า ดาวเตะวัย 26 ปีรายนี้จะไม่ได้ไปช่วยทีมชาตินอร์เวย์ในช่วงเบรกทีมชาติรอบนี้ ทว่าไม่มีกำหนดระยะเวลาการฟื้นตัว

Soccer Football – Premier League – Arsenal v West Ham United – Emirates Stadium, London, Britain – October 4, 2025 Arsenal’s Martin Odegaard receives medical attention after sustaining an injury Action Images via Reuters/Peter Cziborra EDITORIAL USE ONLY. 

ล่าสุด “บีบีซี” เผยว่า โอเดการ์ด จะไม่สามารถลงเล่นได้จนกว่าจะถึงโปรแกรมทีมชาติครั้งต่อไปในช่วงกลางเดือน พ.ย. นั่นหมายความว่า เขาจะชวดลงช่วยทีมในเกมพรีเมียร์ลีกกับ ฟูแลม, คริสตัล พาเลซ, เบิร์นลีย์ และซันเดอร์แลนด์, เกมคาราบาว คัพ รอบสี่ กับ ไบรตัน และเกมยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก กับ แอตเลติโก มาดริด และสลาเวีย ปราก

การขาดหายไปของโอเดการ์ด ถือเป็นความเสียหายอย่างมากสำหรับอาร์เซนอล เพราะเขาเป็นหัวใจสำคัญในแดนกลางของทีม การสร้างสรรค์เกมและขับเคลื่อนเกมรุกของทีม จะต้องมีการปรับเปลี่ยนอย่างแน่นอน

ทั้งนี้ อาร์เซนอล จ่าฝูงพรีเมียร์ลีกหวังว่า จอมทัพทีมชาตินอร์เวย์จะฟิตกลับมาทันช่วยทีมในเกมนอร์ท ลอนดอน ดาร์บีพบกับ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ วันที่ 23 พ.ย.

อาร์เซนอล งานเข้า โอเดการ์ด เจ็บเข่าต้องพักยาว

สถานการณ์ของอาร์เซนอลตอนนี้ ถือว่าไม่สู้ดีนัก เมื่อต้องเสียผู้เล่นคนสำคัญอย่าง มาร์ติน โอเดการ์ด ไปด้วยอาการบาดเจ็บ อาร์เซนอล งานเข้า โอเดการ์ด เจ็บเข่าต้องพักยาว ทำให้ทีมต้องหาทางแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า เพื่อรักษาฟอร์มการเล่นและตำแหน่งจ่าฝูงของพรีเมียร์ลีกต่อไป

โอเดการ์ด เจ็บเข่า กระทบอาร์เซนอลแค่ไหน?

แน่นอนว่าการที่ อาร์เซนอล งานเข้า โอเดการ์ด เจ็บเข่าต้องพักยาว ส่งผลกระทบต่อทีมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โอเดการ์ดเป็นผู้เล่นที่มีความสามารถในการสร้างสรรค์เกมสูง จ่ายบอลแม่นยำ และมีวิสัยทัศน์ในการเล่นที่ยอดเยี่ยม การขาดเขาไป ทำให้ทีมต้องปรับเปลี่ยนแผนการเล่น และหาผู้เล่นคนอื่นมาทดแทนในตำแหน่งนี้

อย่างไรก็ตาม อาร์เซนอลยังมีผู้เล่นคนอื่นๆ ที่สามารถก้าวขึ้นมาทดแทนโอเดการ์ดได้ เช่น เอมิล สมิธ โรว์, ฟาบิโอ วิเอร่า หรือแม้แต่ กาเบรียล มาร์ติเนลลี ที่สามารถขยับมายืนในตำแหน่งกองกลางตัวรุกได้เช่นกัน

ถึงแม้ว่าการขาดหายไปของโอเดการ์ดจะเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย แต่ก็เป็นโอกาสให้ผู้เล่นคนอื่นๆ ได้แสดงศักยภาพของตัวเองออกมา และพิสูจน์ให้เห็นว่าพวกเขาสามารถช่วยทีมได้

แฟนบอลอาร์เซนอลคงต้องให้กำลังใจทีมต่อไป และหวังว่าโอเดการ์ดจะหายเจ็บกลับมาช่วยทีมได้ในเร็ววัน

อย่างไรก็ตาม อาร์เซนอลต้องเตรียมพร้อมรับมือกับการขาดหายไปของโอเดการ์ด และหาทางแก้ไขปัญหาให้ได้ เพื่อรักษาเป้าหมายในการลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกต่อไป

อาร์เซนอล งานเข้า โอเดการ์ด เจ็บเข่าต้องพักยาว แต่ทีมก็ยังมีศักยภาพและความสามารถที่จะเอาชนะอุปสรรคนี้ไปได้ แฟนบอลต้องเชื่อมั่นในทีม และให้กำลังใจกันต่อไป

ที่มา – อาร์เซนอล งานเข้า โอเดการ์ด เจ็บเข่าต้องพักยาว – เผยจำนวนเกมที่ชวดลงสนาม

เปแอสเชบุกอัดบาร์เซโลนา – อาร์เซนอลชนะ 2 นัดรวดรอบลีกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก

สวัสดีเพื่อนๆ แฟนบอลทุกคน! วันนี้เรามาพูดถึงแมตช์เด็ดในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบลีกฤดูกาล 2025-26 กันนะครับ ผลการแข่งขันที่น่าตื่นเต้นมาก โดยเฉพาะคู่ใหญ่ เปแอสเชบุกอัดบาร์เซโลนา ได้อย่างสวยงาม ขณะที่อาร์เซนอลก็ฟอร์มแจ่ม เก็บชัยชนะ 2 นัดรวดไปเรียบร้อย มาดูรายละเอียดกันเลยดีกว่า

เริ่มจากแมตช์บิ๊กแมตช์ บาร์เซโลนา เปิดบ้านเอสตาดี โอลิมปิก ยุยส์ กอมปานีส รับการมาเยือนของปารีส แซงต์ แชร์กแมง แชมป์เก่าจากลีกเอิง ฝรั่งเศส เกมนี้บาร์ซ่าจัดทัพเด็ดด้วย เฟร์ราน ตอร์เรส, ดานี โอลโม และมาร์คัส แรชฟอร์ด นำทีม ขณะที่เปแอสเชมี เซนนี มายูลู, บราดเลย์ บาร์กโกลา และอิบราฮิม เอ็มบายี เป็นตัวหลัก

ครึ่งแรก บาร์เซโลนาได้ประตูนำก่อนนาที 19 จากจังหวะที่เปดรีไหลบอลให้แรชฟอร์ด แล้วตอร์เรสสไลด์ยิงเข้าไป สกอร์ 1-0 เจ้าบ้านนำ แต่เปแอสเชไม่ยอมง่ายๆ นาที 30 ได้ฟรีคิก อัชราฟ ฮาคิมี ลองยิงแต่เชสนีปัดทิ้งได้ นาที 38 นูโน เมนเดสจ่ายให้มายูลู หลุดสกัดพลาดแล้วซัดตีเสมอ 1-1 จบครึ่งแรกแบบสูสี

ครึ่งหลังพลิกเกม เปแอสเชบุกอัดบาร์เซโลนา ชัยชนะสำคัญ

เข้าครึ่งหลัง นาที 53 บาร์กโกลาลุยเดี่ยวแต่เชสนีเซฟได้อีก เกมเปิดแลกกันสนุกมาก นาที 83 อี คัง-อินเกือบให้ทีมนำแต่ยิงชนเสา ก่อนนาที 90 จังหวะสวนกลับสุดมันส์ ฮาคิมีปาดให้กอนซาโล รามอสยิงเข้าไป 2-1! เปแอสเชบุกอัดบาร์เซโลนา สำเร็จ เก็บ 3 แต้มสำคัญ กลายเป็นชัยชนะนัดที่ 2 ติดต่อกันในรอบลีกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก นี่แหละที่ทำให้แฟนๆ ตื่นเต้นสุดๆ

ส่วนอาร์เซนอลของเรานะครับ ฟอร์มร้อนแรงมาก เปิดเอมิเรตส์ สเตเดียม ทุบโอลิมเปียกอส 2-0 ประตูจากกาเบรียล มาร์ติเนลลี นาที 12 และบูคาโย ซากา นาที 90+2 เรียกว่าเก็บชัย 2 นัดรวดแบบสบายๆ อาร์เซนอลนี่แหละที่กำลังมาแรงในฤดูกาลนี้ ภายใต้การนำของกุนซือที่ชาญฉลาด

(Action Images via Reuters/Andrew Boyers)

นอกจากนี้ ยังมีผลคู่อื่นที่น่าสนใจในรอบลีกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ด้วยนะครับ มาดูกันแบบสรุปๆ ในรายการ

• การาบัก (อาเซอร์ไบจาน) ชนะ เอฟซี โคเปนเฮเกน (เดนมาร์ก) 2-0
• อูนิยง แซงต์-ชิลลัวส์ (เบลเยียม) แพ้ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด (อังกฤษ) 0-4
• โมนาโก (ฝรั่งเศส) เสมอ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (อังกฤษ) 2-2
• บียาร์เรอัล (สเปน) เสมอ ยูเวนตุส (อิตาลี) 2-2
• นาโปลี (อิตาลี) ชนะ สปอร์ติง ลิสบอน (โปรตุเกส) 2-1
• โบรุสเซีย ดอร์ตมุนด์ (เยอรมนี) ชนะ แอธเลติก บิลเบา (สเปน) 4-1
• ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน (เยอรมนี) เสมอ พีเอสวี (เนเธอร์แลนด์) 1-1

ผลเหล่านี้แสดงให้เห็นว่ารอบลีกฤดูกาลนี้เข้มข้นมาก ทีมใหญ่ๆ ต้องลุ้นกันจนนาทีสุดท้าย เปแอสเชบุกอัดบาร์เซโลนา แบบนี้ทำให้ทีมแชมป์เก่ากลับมาฟอร์มดี ส่วนอาร์เซนอลที่ชนะ 2 นัดรวด ก็มีลุ้นเข้ารอบน็อคเอาท์แน่นอน

ในมุมมองของผม การแข่งขันยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก รอบนี้เปลี่ยนรูปแบบใหม่ ทำให้ทุกนัดสำคัญสุดๆ ผู้เล่นอย่างรามอสและซากาก็โชว์ฟอร์มเด็ดมาก ถ้าคุณเป็นแฟนบอลตัวยง ลองติดตามผลต่อไปนะครับ มันสนุกแน่นอน! คุณคิดว่าใครจะเป็นแชมป์ฤดูกาลนี้? มาคุยกันในคอมเมนต์ด้านล่างเลย

ที่มา – เปแอสเชบุกอัดบาร์เซโลนา – อาร์เซนอลชนะ 2 นัดรวดรอบลีกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก

แม้ขอโทษแล้ว โวลเทอมาเดอ รับไม่พอใจ กาเบรียล ศอกใส่หน้า เป็นประเด็นร้อนในวงการฟุตบอลพรีเมียร์ลีกที่กำลังถูกพูดถึงอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะหลังจากเกมการแข่งขันระหว่างนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด และอาร์เซนอล ที่จบลงด้วยความพ่ายแพ้ของสาลิกาดงคาบ้าน 1-2 ในฤดูกาล 2025-26 เมื่อวันที่ 28 กันยายน

ในแมตช์นี้ นิวคาสเซิล ออกนำไปก่อนจากประตูของนิก โวลเทอมาเดอ ในนาทีที่ 34 แต่สุดท้ายอาร์เซนอลก็พลิกเกมกลับมาชนะได้จากลูกยิงของมิเกล เมริโน ในนาที 84 และกาเบรียล มากัลเญส ในนาที 90+6 จังหวะที่กลายเป็นจุดสนใจคือการปะทะระหว่างกาเบรียล กองหลังปืนใหญ่ กับโวลเทอมาเดอ กองหน้านิวคาสเซิล ซึ่งดูเหมือนว่ากาเบรียลจะใช้ศอกกระแทกเข้าที่ใบหน้าของโวลเทอมาเดอ แต่ผู้ตัดสินไม่ได้เป่าฟาวล์ ก่อนที่กาเบรียลจะเข้าไปขอโทษหลังจากนั้น

แม้ขอโทษแล้ว โวลเทอมาเดอ รับไม่พอใจ กาเบรียล ศอกใส่หน้า

หลังจบเกม นิก โวลเทอมาเดอ ได้ให้สัมภาษณ์เปิดใจถึงเหตุการณ์ดังกล่าว โดยยอมรับว่าแม้กาเบรียลจะขอโทษแล้ว แต่เขายังคงรู้สึกไม่พอใจกับพฤติกรรมนั้น “หลังจากที่ผมทำประตูได้ ผมรู้สึกว่าศอกของเขากระแทกเข้าที่ข้างแก้มของผม ผมไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่ผมแค่บอกผู้ตัดสินว่าผมรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่ใบหน้า” โวลเทอมาเดอ กล่าว

เขายังเสริมอีกว่า “ผมคิดว่ามันไม่ถูกต้องที่จะรู้สึกถึงอะไรบางอย่างที่ใบหน้าแบบนั้น แต่ผมไม่ใช่นักเตะประเภทที่จะล้มลงเพราะเรื่องนี้ มันยากเพราะบางครั้งคุณอาจต้องทำแบบนี้ แต่สำหรับผม นี่ไม่ใช่ฟุตบอลที่ผมอยากเล่น เขาขอโทษผมหลังจากนั้น แต่ผมไม่ชอบแบบนี้ ถ้าคุณทำอะไรในเกม แล้วไม่กี่วินาทีต่อมาก็ขอโทษ นั่นไม่ใช่ส่วนหนึ่งของเกม ผมชอบการต่อสู้ที่สูสี แต่ศอกของเขาไม่ควรถูกลงที่หน้าผม”

ผลกระทบต่อเกมและนักเตะ

เหตุการณ์แม้ขอโทษแล้ว โวลเทอมาเดอ รับไม่พอใจ กาเบรียล ศอกใส่หน้า นี้ สะท้อนให้เห็นถึงความเข้มข้นของการแข่งขันในพรีเมียร์ลีก ที่นักเตะต้องเผชิญกับจังหวะดุเดือดบ่อยครั้ง การที่ผู้ตัดสินมองข้ามจังหวะนี้ ทำให้เกิดคำถามถึงระบบ VAR (Video Assistant Referee) ว่าทำไมไม่เข้าแทรกแซงเพื่อตรวจสอบ ซึ่งอาจส่งผลต่อความยุติธรรมในเกม

สำหรับโวลเทอมาเดอ นักเตะดาวรุ่งของนิวคาสเซิล จังหวะนี้ไม่เพียงทำให้เขาเจ็บปวดทางกาย แต่ยังกระทบจิตใจด้วย เขาเป็นกองหน้าที่มีสไตล์การเล่นดุดันแต่ซื่อสัตย์ และการถูกศอกใส่แบบนี้ยิ่งทำให้เขารู้สึกว่าฟุตบอลสมัยนี้มีด้านมืดที่ไม่น่าพึงใจ

• จังหวะปะทะเกิดขึ้นหลังโวลเทอมาเดอทำประตู ทำให้ทีมนำ 1-0
• กาเบรียล มากัลเญส เป็นกองหลังตัวหลักของอาร์เซนอลที่รู้จักกันในเรื่องความแข็งแกร่ง
• แม้จะขอโทษ แต่โวลเทอมาเดอยังยืนยันว่าพฤติกรรมแบบนี้ไม่ควรเกิด
• เกมนี้เป็นส่วนหนึ่งของฤดูกาล 2025-26 ที่ทั้งสองทีมกำลังลุ้นอันดับต้นๆ

จากมุมมองของแฟนบอล การปะทะแบบนี้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ในฟุตบอล แต่การขอโทษทันทีอาจดูเหมือนเป็นการหลีกเลี่ยงโทษจากสหพันธ์ฟุตบอล ซึ่งอาจนำไปสู่การสอบสวนเพิ่มเติม โวลเทอมาเดอ หวังว่าจังหวะนี้จะเป็นบทเรียนให้ทุกคนเล่นอย่างแฟร์เพลย์มากขึ้น

นอกจากนี้ เหตุการณ์นี้ยังจุดประกายการถกเถียงในโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับจริยธรรมในกีฬา แฟนนิวคาสเซิลบางส่วนเรียกร้องให้มีบทลงโทษย้อนหลังสำหรับกาเบรียล ขณะที่แฟนอาร์เซนอลมองว่าเป็นจังหวะปกติของเกมฟุตบอลที่ดุเดือด

ภาพรวมของแมตช์ นิวคาสเซิล แสดงฟอร์มได้ดีในครึ่งแรก แต่ครึ่งหลังอาร์เซนอลปรับตัวได้ดีกว่า โดยเมริโนและกาเบรียลเป็นฮีโร่ที่ช่วยทีมพลิกสถานการณ์ โวลเทอมาเดอ ทำประตูเดียวแต่ถูกจำกัดพื้นที่จากแนวรับปืนใหญ่ ซึ่งรวมถึงจังหวะปะทะที่กล่าวถึง

ในฤดูกาลนี้ นิวคาสเซิล กำลังสร้างทีมที่แข็งแกร่งขึ้นด้วยการเสริมทัพนักเตะคุณภาพอย่างโวลเทอมาเดอ ในขณะที่อาร์เซนอลยังคงเป็นทีมลุ้นแชมป์ตัวเต็ง การชนะครั้งนี้ช่วยให้ปืนใหญ่ขยับอันดับขึ้น ในขณะที่สาลิกาดงต้องกลับไปปรับปรุง

สุดท้ายแล้ว แม้ขอโทษแล้ว โวลเทอมาเดอ รับไม่พอใจ กาเบรียล ศอกใส่หน้า ชี้ให้เห็นว่าฟุตบอลไม่ใช่แค่ชัยชนะ แต่ยังรวมถึงการเคารพซึ่งกันและกันด้วย นักเตะอย่างโวลเทอมาเดอที่ยืนหยัดในหลักการของตัวเอง จะเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเยาวชนที่ชื่นชอบกีฬานี้

คุณคิดอย่างไรกับจังหวะนี้? ควรมีบทลงโทษเพิ่มเติมหรือไม่? แสดงความเห็นในคอมเมนต์ด้านล่าง และอย่าลืมติดตามข่าวฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอัปเดตทุกวันเพื่อไม่พลาดเหตุการณ์สำคัญ!

ที่มา – แม้ขอโทษแล้ว โวลเทอมาเดอ รับไม่พอใจ กาเบรียล ศอกใส่หน้า

อาร์เตตา สุดปลื้ม อาร์เซนอล แซงชนะ นิวคาสเซิล นาทีบาป

มิเกล อาร์เตตา กุนซือของอาร์เซนอล แสดงความยินดีสุดๆ หลังจากทีม “ปืนใหญ่” สามารถแซงกลับมาชนะนิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ด้วยสกอร์ 2-1 ในช่วงทดเจ็บของเกมพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2025-26 เมื่อวันที่ 28 กันยายน ที่ผ่านมา การชนะในนาทีบาปนี้ไม่เพียงแต่ทำให้อาร์เซนอลเก็บสามคะแนนสำคัญ แต่ยังแสดงให้เห็นถึงจิตวิญญาณนักสู้ของทีมที่ไม่ยอมแพ้แม้จะตกเป็นฝ่ายตามหลัง

อาร์เตตา สุดปลื้ม อาร์เซนอล แซงชนะ นิวคาสเซิล นาทีบาป – ชี้ควรได้จุดโทษ

เกมการแข่งขันครั้งนี้เต็มไปด้วยความตื่นเต้นตั้งแต่ต้นจนจบ นิวคาสเซิล “สาลิกาดง” เป็นฝ่ายขึ้นนำก่อนในนาทีที่ 34 จากลูกโหม่งของนิกโวลเทอมาเดอ ซึ่งทำให้แฟนบอลเจ้าบ้านโล่งใจ แต่ทีมเยือนอย่างอาร์เซนอลไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ในครึ่งหลัง พวกเขาต่อสู้อย่างดุเดือดและพลิกเกมกลับมาได้สำเร็จ มิเกล เมริโน ทำประตูตีเสมอในนาทีที่ 84 ก่อนที่กาเบรียล มากัลเญส จะโขกประตูชัยในนาทีที่ 90+6 ทำให้สกอร์จบที่ 2-1

ผลการแข่งขันนี้ส่งผลให้อาร์เซนอลมีทั้งหมด 13 คะแนนจาก 6 นัด รั้งอันดับรองจ่าฝูงตามหลังลิเวอร์พูลเพียง 2 คะแนนเท่านั้น ในขณะที่นิวคาสเซิลหยุดอยู่ที่ 6 คะแนนจาก 6 นัด ร่วงลงไปอยู่อันดับ 15 ของตาราง การแซงชนะในครั้งนี้ถือเป็นชัยชนะที่สมบูรณ์แบบสำหรับอาร์เตตาและลูกทีม เพราะมันไม่ใช่แค่สามคะแนน แต่ยังเพิ่มความมั่นใจให้กับทีมในช่วงที่พรีเมียร์ลีกกำลังเข้มข้น

Soccer Football – Premier League – Newcastle United v Arsenal – St James’ Park, Newcastle, Britain – September 28, 2025 Arsenal manager Mikel Arteta reacts Action Images via Reuters/Lee Smith EDITORIAL USE ONLY.

ความเห็นของอาร์เตตาหลังเกม

หลังจบการแข่งขัน อาร์เตตาให้สัมภาษณ์ด้วยความตื่นเต้นว่า “การคว้าชัยชนะในแบบที่เราทำได้นั้น ว้าว ช่างเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมจริงๆ ฟุตบอลเป็นเรื่องของอารมณ์ และการผ่านพ้นสิ่งต่างๆ วันนี้เรามีช่วงเวลาที่สวยงามในช่วงท้ายเกม” คำพูดนี้สะท้อนถึงความสุขของกุนซือวัย 43 ปี ที่เห็นลูกทีมพลิกเกมจากสถานการณ์ที่ยากลำบาก

นอกจากนี้ อาร์เตตายังพูดถึงจังหวะที่ทีมควรได้จุดโทษ โดยเฉพาะเหตุการณ์ที่วิตอร์ เยอเคเรส โดนนิก โป๊ป ผู้รักษาประตูของนิวคาสเซิลขวางในกรอบเขตโทษ แต่ผู้ตัดสินจาร์เร็ด ยิลเล็ตต์ เช็ก VAR แล้วตัดสินว่าไม่ฟาวล์ อาร์เตตากล่าวว่า “กฎนั้นชัดเจนมาก มันเป็นจุดโทษ แต่ขอบคุณพระเจ้าที่เราหาทางอื่นได้ เรายังคงสู้และหาทางเอาชนะเกมนี้ได้” การที่ทีมไม่ยอมแพ้แม้จะพลาดจุดโทษ แสดงให้เห็นถึงความเข้มแข็งทางจิตใจของอาร์เซนอล

การแข่งขันนี้นอกจากจะเป็นชัยชนะที่สำคัญแล้ว ยังช่วยเสริมสร้างทีมเวิร์คของอาร์เซนอลให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ในฤดูกาลนี้ อาร์เซนอลแสดงฟอร์มที่ยอดเยี่ยมตั้งแต่ต้น โดยมีผู้เล่นหลักอย่างเมริโนและมากัลเญสที่ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ การแซงชนะนิวคาสเซิลในนาทีบาปนี้ ทำให้แฟนปืนใหญ่เชื่อมั่นว่าทีมมีสิทธิ์ลุ้นแชมป์พรีเมียร์ลีกได้จริงๆ

• จุดเด่นของเกม: การพลิกสถานการณ์จากตามหลังเป็นนำ
• บทบาทของเมริโน: ประตูตีเสมอที่สำคัญในนาที 84
• ความเห็นอาร์เตตา: ย้ำถึงจิตวิญญาณสู้ไม่ถอย
• ผลกระทบตาราง: อาร์เซนอลขึ้นรองจ่าฝูง

จากมุมมองของผม ชัยชนะครั้งนี้พิสูจน์ว่าอาร์เซนอลภายใต้การนำของอาร์เตตาเติบโตขึ้นมาก พวกเขามีความอดทนและกลยุทธ์ที่ชาญฉลาด หากรักษาฟอร์มนี้ต่อไป โอกาสคว้าแชมป์ไม่ใช่เรื่องไกลตัว ลองติดตามการแข่งขันครั้งต่อไปของอาร์เซนอล เพื่อเห็นการพัฒนาของทีมปืนใหญ่นะครับ

ที่มา – อาร์เตตา สุดปลื้ม อาร์เซนอล แซงชนะ นิวคาสเซิล นาทีบาป – ชี้ควรได้จุดโทษ