อัฟกานิสถาน

ทรัมป์ขู่! อัฟกาฯ ไม่คืน “ฐานทัพบากราม” เจอแน่

โดนัลด์ ทรัมป์ ขู่! อัฟกานิสถานอาจเจอเรื่องร้าย หากไม่ยอมคืน “ฐานทัพบากราม” ให้สหรัฐฯ แถมยังไม่ปิดโอกาสส่งทหารเข้าไปยึดคืนอีกด้วย งานนี้ทำเอาหลายฝ่ายกังวลว่าสถานการณ์จะบานปลาย

หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไม “ฐานทัพบากราม” ถึงสำคัญนัก? ที่นี่เคยเป็นฐานที่มั่นหลักของกองทัพสหรัฐฯ ในอัฟกานิสถาน หลังเหตุการณ์ 9/11 แต่พอสหรัฐฯ ถอนทหารออกไปในปี 2564 กลุ่มตาลีบันก็เข้ายึดครองและโค่นล้มรัฐบาลที่สหรัฐฯ หนุนหลังไปอย่างรวดเร็ว

เมื่อช่วงกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา ทรัมป์ออกมาประกาศชัดเจนว่า “เราต้องการ ฐานทัพบากราม คืน!” โดยให้เหตุผลว่าเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่อยู่ใกล้จีน

ทางด้าน ซากีร์ จาลาล เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศอัฟกานิสถาน ก็ออกมาตอบโต้ผ่าน X ว่า อัฟกานิสถานและสหรัฐฯ ควรคุยกันดีๆ โดยไม่จำเป็นต้องให้สหรัฐฯ กลับมาตั้งฐานทัพในประเทศอีก

ล่าสุด ทรัมป์ก็ยังคงยืนกรานในเรื่องนี้ โดยโพสต์ผ่าน Truth Social ว่า “ถ้าอัฟกานิสถานไม่คืน ฐานทัพอากาศบากราม ให้กับผู้สร้างอย่างสหรัฐอเมริกา จะเกิดเรื่องร้ายแน่นอน”

เมื่อนักข่าวถามว่ามีความเป็นไปได้ไหมที่จะส่งทหารเข้าไปยึดฐานทัพคืน ทรัมป์ก็เลี่ยงที่จะตอบตรงๆ แต่พูดว่า “เราจะไม่พูดถึงเรื่องนี้”

“ตอนนี้เรากำลังเจรจากับอัฟกานิสถาน เราต้องการฐานทัพกลับคืนมา และเราต้องการโดยเร็วที่สุด แต่ถ้าพวกเขาไม่ยอม เดี๋ยวพวกคุณก็จะรู้เองว่าผมจะทำอะไร” ทรัมป์กล่าว

ทรัมป์ต้องการ “ฐานทัพบากราม” คืน

ถึงแม้ทรัมป์จะแสดงท่าทีแข็งกร้าว แต่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ทั้งในอดีตและปัจจุบันต่างก็เตือนว่า การเข้ายึด ฐานทัพบากราม อาจจะกลายเป็นการรุกรานอัฟกานิสถานอีกครั้ง และอาจจะต้องใช้กำลังพลมากกว่า 10,000 นาย รวมถึงต้องติดตั้งระบบป้องกันภัยทางอากาศที่ใช้งบประมาณมหาศาล

สถานการณ์นี้ยังคงต้องจับตาดูกันต่อไปว่า ท้ายที่สุดแล้วสหรัฐฯ จะทำอย่างไรต่อไป และอัฟกานิสถานจะยอมคืนฐานทัพหรือไม่ เพราะการตัดสินใจครั้งนี้อาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศและสถานการณ์ในภูมิภาคอย่างมาก

การที่ทรัมป์ออกมาเรียกร้อง “ฐานทัพบากราม” คืน แสดงให้เห็นถึงความสำคัญทางยุทธศาสตร์ของพื้นที่ดังกล่าว แต่การดำเนินการใดๆ ก็ตามจะต้องพิจารณาถึงผลกระทบที่จะตามมาอย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้สถานการณ์บานปลายกลายเป็นความขัดแย้งที่รุนแรงกว่าเดิม

อนาคตของ “ฐานทัพบากราม” จะเป็นอย่างไร?

คงต้องติดตามกันอย่างใกล้ชิดว่าท่าทีของทั้งสองฝ่ายจะเป็นอย่างไรต่อไป การเจรจาจะนำไปสู่ทางออกที่เป็นไปได้หรือไม่ หรือสุดท้ายแล้วเรื่องนี้จะจบลงด้วยความขัดแย้งที่รุนแรงกว่าเดิม

  • การเจรจาเป็นทางออกที่ดีที่สุด
  • การใช้กำลังทหารอาจนำไปสู่ผลเสียมากกว่าผลดี
  • ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และอัฟกานิสถานอยู่ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ

ที่มา – ทรัมป์ขู่อัฟกานิสถานเจอแน่ หากไม่ยอมคืน “ฐานทัพบากราม”

ทรัมป์จ้องทวงคืน “ฐานทัพบากราม” ในอัฟฯ

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ประกาศระหว่างการแถลงข่าวร่วมกับนายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ แห่งสหราชอาณาจักร (UK) เมื่อวันพฤหัสบดี (18 ก.ย.) ว่า สหรัฐฯ ต้องการกลับไปควบคุมฐานทัพอากาศบากรามในอัฟกานิสถานอีกครั้ง แต่เจ้าหน้าที่ของอัฟกานิสถานได้ออกมาปฏิเสธทันที โดยยืนยันว่าไม่มีความจำเป็นที่กองทัพสหรัฐฯ จะต้องกลับมาตั้งฐานทัพในประเทศ

ฐานทัพบากรามแห่งนี้สร้างขึ้นในยุคโซเวียต และเคยเป็นฐานที่มั่นหลักของกองทัพสหรัฐฯ ในอัฟกานิสถานมาตั้งแต่หลังเหตุการณ์ 9 กันยายน 2544 จนกระทั่งสหรัฐฯ ถอนทหารออกไปในปี 2564 ซึ่งเป็นการเปิดทางให้กลุ่มตาลีบันกลับเข้ายึดอำนาจได้ในที่สุด

“เรากำลังพยายามเอามันกลับคืน” ทรัมป์กล่าวถึงฐานทัพบากราม “เราต้องการฐานทัพนั้นคืน” โดยให้เหตุผลว่าเป็นจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญเพราะอยู่ใกล้กับจีน

อย่างไรก็ดี รัฐบาลตาลีบันในกรุงคาบูลยืนยันว่าไม่เปิดรับข้อตกลงลักษณะนี้

ซากีร์ จาลาล เจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศอัฟกานิสถาน โพสต์ข้อความผ่านเอ็กซ์ว่า “อัฟกานิสถานและสหรัฐฯ ควรหันมาพูดคุยกันได้ โดยไม่จำเป็นต้องให้สหรัฐฯ กลับมาตั้งฐานทัพในประเทศอีก”

จาลาลยังระบุเสริมอีกว่า ทั้งสองชาติสามารถสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการเมืองได้ หากตั้งอยู่บนพื้นฐานของการเคารพซึ่งกันและกัน และผลประโยชน์ร่วมกัน

ข่าวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา (13 ก.ย.) เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ได้เปิดการเจรจากับทางการอัฟกานิสถาน เพื่อหาทางช่วยเหลือพลเมืองอเมริกันที่ถูกควบคุมตัวในประเทศ โดยมีอดัม โบห์เลอร์ ทูตพิเศษด้านตัวประกันของรัฐบาลทรัมป์ และซัลเมย์ คาลิลซาด อดีตทูตพิเศษสหรัฐฯ ประจำอัฟกานิสถาน เข้าพบกับอะมีร์ ข่าน มุตตากี รัฐมนตรีต่างประเทศของตาลีบัน

ทั้งนี้ สหรัฐฯ ยังไม่ได้รับรองรัฐบาลตาลีบันอย่างเป็นทางการ หลังจากที่กลุ่มตาลีบันกลับเข้ายึดอำนาจในปี 2564 ซึ่งยุติการแทรกแซงทางทหารของสหรัฐฯ ที่ดำเนินมานาน 20 ปี

ประเด็นที่น่าสนใจคือ ทำไมทรัมป์ถึงต้องการ “ฐานทัพบากราม” คืน? การที่อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ออกมาแสดงความต้องการที่จะทวงคืน ฐานทัพบากราม ในอัฟกานิสถานนั้น สร้างความประหลาดใจให้กับหลายฝ่าย เนื่องจากสหรัฐฯ เพิ่งจะถอนทหารออกจากอัฟกานิสถานไปเมื่อไม่นานมานี้ การกลับเข้าไปมีบทบาทอีกครั้งอาจเป็นการเปลี่ยนแปลงนโยบายที่สำคัญ

ทรัมป์ต้องการ “ฐานทัพบากราม” คืนจริงหรือ?

ฐานทัพบากราม มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์จริงหรือไม่? ทำเลที่ตั้งของฐานทัพแห่งนี้ใกล้กับประเทศจีน ทำให้เป็นจุดที่สามารถเฝ้าระวังและตอบโต้ภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้นได้ นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นฐานในการปฏิบัติการในภูมิภาคเอเชียกลางและเอเชียใต้ได้อีกด้วย

ทำไมจึงต้องเป็น “ฐานทัพบากราม”?

การที่ทรัมป์เน้นย้ำถึงความสำคัญของ ฐานทัพบากราม อาจสะท้อนถึงความกังวลเกี่ยวกับอิทธิพลที่เพิ่มขึ้นของจีนในภูมิภาค การกลับเข้าไปควบคุมฐานทัพแห่งนี้จะช่วยให้สหรัฐฯ สามารถรักษาสมดุลอำนาจและปกป้องผลประโยชน์ของตนเองได้

อย่างไรก็ตาม การที่รัฐบาลตาลีบันปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าว แสดงให้เห็นว่าการเจรจาเพื่อให้ได้ ฐานทัพบากราม คืนมานั้นไม่ใช่เรื่องง่าย สหรัฐฯ อาจต้องใช้กลยุทธ์ที่ซับซ้อนมากขึ้นเพื่อบรรลุเป้าหมายนี้

ผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจะเป็นอย่างไร? หากสหรัฐฯ สามารถทวงคืน ฐานทัพบากราม ได้สำเร็จ จะส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ, อัฟกานิสถาน, และจีน การเปลี่ยนแปลงนี้อาจนำไปสู่ความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาค

การตัดสินใจของทรัมป์ในครั้งนี้อาจมีเป้าหมายเพื่อแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและเด็ดขาดของสหรัฐฯ ในสายตาของนานาชาติ อย่างไรก็ตาม การดำเนินการดังกล่าวอาจก่อให้เกิดผลกระทบที่ไม่คาดฝัน และต้องมีการพิจารณาอย่างรอบคอบถึงผลที่จะตามมา

สถานการณ์นี้ยังคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด และการตัดสินใจของสหรัฐฯ จะมีผลต่ออนาคตของอัฟกานิสถานและภูมิภาคอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ที่มา – ทรัมป์ลั่น สหรัฐฯ จ้องทวงคืน “ฐานทัพบากราม” ในอัฟกานิสถาน ที่เคยทิ้งไว้ตอนถอนทหาร

อังกฤษช่วยปชช.อัฟกานิสถานจากแผ่นดินไหวครั้งรุนแรง

อังกฤษเตรียมมอบความช่วยเหลือแก่ปชช.อัฟกานิสถานจากแผ่นดินไหวครั้งรุนแรง! ท่ามกลางความสูญเสียครั้งใหญ่ รัฐบาลอังกฤษประกาศจัดสรรเงินทุนช่วยเหลือฉุกเฉินมูลค่า 1 ล้านปอนด์ (1.35 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ในอัฟกานิสถาน โดยเน้นย้ำว่าจะส่งมอบความช่วยเหลือโดยตรงถึงมือประชาชนที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างแท้จริง

รัฐบาลอังกฤษให้คำมั่นว่าจะดำเนินการทุกวิถีทางเพื่อให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมนี้ส่งตรงไปยังผู้ที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างแท้จริง โดยหลีกเลี่ยงการส่งผ่านความช่วยเหลือไปยังรัฐบาลตาลีบันในปัจจุบัน ความช่วยเหลือจะถูกส่งมอบผ่านทางพันธมิตรที่เชื่อถือได้ เช่น กองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ (UNFPA) และสหพันธ์สภากาชาดและสภาเสี้ยววงเดือนแดงระหว่างประเทศ (IFRC) ซึ่งมีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการทำงานในพื้นที่

เหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้ ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 31 สิงหาคม ถือเป็นหนึ่งในภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ร้ายแรงที่สุดที่อัฟกานิสถานเคยเผชิญ มีรายงานผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 800 ราย และผู้บาดเจ็บอีกอย่างน้อย 2,800 ราย ขณะที่ทีมกู้ภัยยังคงเร่งค้นหาผู้รอดชีวิตที่อาจติดอยู่ใต้ซากปรักหักพัง

อย่างไรก็ตาม ปฏิบัติการบรรเทาทุกข์ในอัฟกานิสถานกำลังเผชิญกับความท้าทายอย่างมาก เนื่องจากการลดลงของเงินทุนสนับสนุน อันเป็นผลมาจากการตัดความช่วยเหลือจากสหรัฐอเมริกา ทำให้การเข้าถึงผู้ประสบภัยและการส่งมอบความช่วยเหลือเป็นไปได้ยากลำบากยิ่งขึ้น

อังกฤษเตรียมมอบความช่วยเหลือแก่ปชช.อัฟกานิสถานจากแผ่นดินไหวครั้งรุนแรง

เดวิด แลมมี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษ กล่าวว่า “อังกฤษยังคงมุ่งมั่นที่จะยืนหยัดเคียงข้างประชาชนชาวอัฟกานิสถานในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ เงินทุนฉุกเฉินที่เราจัดสรรให้ จะช่วยให้พันธมิตรของเราสามารถจัดส่งบริการทางการแพทย์ที่จำเป็น และสิ่งของบรรเทาทุกข์ฉุกเฉินไปยังผู้ที่ได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากภัยพิบัติในครั้งนี้”

ความช่วยเหลือจากอังกฤษมีความสำคัญอย่างไรต่อปชช.อัฟกานิสถานจากแผ่นดินไหวครั้งรุนแรง?

ความช่วยเหลือจากอังกฤษครั้งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนชาวอัฟกานิสถาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากแผ่นดินไหว เงินทุนที่ได้รับการจัดสรรจะถูกนำไปใช้ในการจัดหา:

  • บริการทางการแพทย์ฉุกเฉิน
  • ที่พักพิงชั่วคราว
  • อาหารและน้ำดื่ม
  • สิ่งของจำเป็นอื่นๆ

นอกจากนี้ การที่อังกฤษให้ความสำคัญกับการส่งมอบความช่วยเหลือผ่านองค์กรพันธมิตรที่เชื่อถือได้ ยังช่วยให้มั่นใจได้ว่าความช่วยเหลือจะเข้าถึงผู้ที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างแท้จริง โดยไม่มีการทุจริตหรือการเบี่ยงเบนความสนใจ

การที่อังกฤษเตรียมมอบความช่วยเหลือแก่ปชช.อัฟกานิสถานจากแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงนี้ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของอังกฤษในการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม และการยืนหยัดเคียงข้างประชาชนที่กำลังเผชิญกับความยากลำบาก ถึงแม้ว่าความช่วยเหลือจากนานาชาติจะลดน้อยลง แต่ความช่วยเหลือจากอังกฤษในครั้งนี้ จะเป็นแสงสว่างและความหวังให้กับชาวอัฟกานิสถาน

ในภาวะวิกฤตเช่นนี้ ความช่วยเหลือจากนานาชาติมีความสำคัญอย่างยิ่งยวด การที่อังกฤษยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ แสดงให้เห็นถึงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของประชาคมโลก และช่วยบรรเทาความทุกข์ยากของประชาชนชาวอัฟกานิสถานได้ในระดับหนึ่ง

ที่มา – อังกฤษเตรียมมอบความช่วยเหลือแก่ปชช.อัฟกานิสถานจากแผ่นดินไหวครั้งรุนแรง

ตาลีบันวอนช่วย! แผ่นดินไหวคร่าชาวอัฟกัน

กลุ่มตาลีบันซึ่งปกครองอัฟกานิสถานได้ออกมาเรียกร้องให้นานาประเทศยื่นมือช่วยเหลือ หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวคร่าชีวิตชาวอัฟกันกว่า 800 ราย บาดเจ็บอีกจำนวนมาก ทีมกู้ภัยกำลังเผชิญอุปสรรคในการเข้าถึงพื้นที่ห่างไกลท่ามกลางภูมิประเทศที่เป็นภูเขาและสภาพอากาศเลวร้าย

โฆษกกระทรวงสาธารณสุขของรัฐบาลตาลีบันวิงวอนประชาคมโลกให้ความช่วยเหลือเพื่อรับมือความเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวคร่าชีวิตชาวอัฟกันครั้งนี้ ซาบีฮุลเลาะห์ มูจาฮิด โฆษกรัฐบาล ระบุว่ามีผู้เสียชีวิต 812 รายในจังหวัดคูนาร์และนันการ์ฮาร์ ทางตะวันออกของประเทศ

สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯ (USGS) รายงานว่า แผ่นดินไหวขนาด 6.0 แมกนิจูด เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23:47 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยมีศูนย์กลางลึกลงไปใต้ดิน 8 กิโลเมตร ห่างจากเมืองจะลาลาบัด เมืองเอกของจังหวัดนันการ์ฮาร์ ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือราว 27 กิโลเมตร

ทีมกู้ภัยกำลังเข้าถึงพื้นที่เทือกเขาตามแนวชายแดนปากีสถาน ซึ่งบ้านเรือนที่สร้างจากอิฐโคลนพังถล่มลงมา พื้นที่ประสบภัยอยู่ห่างไกลและขาดสัญญาณโทรศัพท์

เคท แครีย์ จากสำนักงานเพื่อการประสานงานด้านมนุษยธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNOCHA) เผยว่า พื้นที่ประสบแผ่นดินไหวคร่าชีวิตชาวอัฟกันได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักในช่วง 24-48 ชั่วโมงที่ผ่านมา ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดดินถล่มและหินถล่ม ถนนหลายสายสัญจรไม่ได้

เหตุการณ์ครั้งนี้นับเป็นแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ครั้งที่สามในอัฟกานิสถานนับตั้งแต่ตาลีบันเข้ายึดอำนาจในปี 2564 หลังกองกำลังนานาชาติถอนตัวออกไป อัฟกานิสถานถูกตัดเงินทุนจากต่างชาติ และความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมลดลงอย่างมาก

นักการทูตและเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์กล่าวว่า ความไม่พอใจของผู้บริจาคต่อมาตรการของตาลีบันที่จำกัดสิทธิสตรีและเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์หญิงเป็นปัจจัยที่ทำให้เงินบริจาคเพื่อช่วยเหลืออัฟกานิสถานลดลง

แผ่นดินไหวคร่าชีวิตชาวอัฟกัน: ตาลีบันวอนนานาชาติช่วยเหลือ

สถานการณ์ในอัฟกานิสถานหลังเหตุการณ์แผ่นดินไหวคร่าชีวิตชาวอัฟกันนั้นน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง การขาดแคลนทรัพยากรและความช่วยเหลือจากนานาชาติทำให้การฟื้นฟูเป็นไปอย่างยากลำบาก

ความท้าทายในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว

การเข้าถึงพื้นที่ประสบภัยที่ห่างไกลและทุรกันดารเป็นความท้าทายสำคัญในการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัย นอกจากนี้ สภาพอากาศที่เลวร้ายและข้อจำกัดด้านการสื่อสารยิ่งทำให้สถานการณ์ยากลำบากยิ่งขึ้น

นานาชาติควรให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่อัฟกานิสถานอย่างเร่งด่วน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประสบภัยและสนับสนุนการฟื้นฟูประเทศ การให้ความช่วยเหลือนี้ไม่ควรมีเงื่อนไขทางการเมืองใดๆ และควรคำนึงถึงความต้องการของผู้หญิงและเด็กเป็นสำคัญ

ที่มา – ตาลีบันวอนนานาชาติช่วยเหลือ หลังแผ่นดินไหวคร่าชีวิตชาวอัฟกันกว่า 800 ราย

อัฟกานิสถานแผ่นดินไหว ดับ 250 เจ็บ 500 คาดเพิ่ม

สถานการณ์ล่าสุดจากเหตุการณ์อัฟกานิสถานแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (31 ส.ค.) ในจังหวัดโกนาร์ ทางตะวันออกของประเทศ รายงานจากสำนักข่าวบักห์ตาร์ของทางการอัฟกานิสถานยืนยันว่ายอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 250 ราย และมีผู้บาดเจ็บอีกกว่า 500 รายในหลายพื้นที่

เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงทำงานแข่งกับเวลาเพื่อเข้าถึงพื้นที่ห่างไกล ซึ่งการสื่อสารเป็นไปอย่างยากลำบาก สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บอาจสูงขึ้นอีก เนื่องจากทีมกู้ภัยกำลังประเมินความเสียหายและให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่ สถานการณ์อัฟกานิสถานแผ่นดินไหวครั้งนี้สร้างความเสียหายอย่างมากต่อชีวิตและทรัพย์สิน

ก่อนหน้านี้ มีรายงานผู้เสียชีวิต 9 ราย และบาดเจ็บ 20 รายในจังหวัดนันการ์ฮาร์ที่อยู่ใกล้เคียง ซึ่งเป็นผลกระทบจากแรงสั่นสะเทือนของอัฟกานิสถานแผ่นดินไหวครั้งนี้

อัฟกานิสถานแผ่นดินไหว ดับ 250 เจ็บ 500 คาดเพิ่ม

สำนักงานสำรวจธรณีวิทยาสหรัฐฯ (USGS) รายงานว่า แผ่นดินไหวครั้งนี้มีขนาด 6.0 แมกนิจูด เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23:47 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยมีศูนย์กลางอยู่ที่ความลึก 8 กิโลเมตร ห่างจากเมืองจะลาลาบัด เมืองเอกของจังหวัดนันการ์ฮาร์ ไปทางตะวันออกเฉียงเหนือประมาณ 27 กิโลเมตร แรงสั่นสะเทือนรับรู้ได้ไกลถึงกรุงคาบูล เมืองหลวงของประเทศ ทำให้เกิดปัญหาอินเทอร์เน็ตขัดข้องในบางพื้นที่

ผลกระทบและความช่วยเหลือจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้

ผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้นับว่ารุนแรง สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง และส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนจำนวนมาก หน่วยงานภาครัฐและองค์กรต่างๆ กำลังเร่งให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ผู้ประสบภัย ทั้งในด้านอาหาร น้ำดื่ม ที่พักอาศัย และเวชภัณฑ์

  • การเข้าถึงพื้นที่ประสบภัยยังคงเป็นไปอย่างยากลำบาก
  • ความต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมมีจำนวนมาก
  • การประสานงานระหว่างหน่วยงานต่างๆ เป็นสิ่งสำคัญ

สถานการณ์ อัฟกานิสถานแผ่นดินไหว ครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความเปราะบางของประเทศต่อภัยพิบัติทางธรรมชาติ และความจำเป็นในการเตรียมพร้อมรับมือกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน การสร้างความตระหนักรู้และให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับวิธีการปฏิบัติตนเมื่อเกิดแผ่นดินไหวเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง

นอกจากนี้ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแรงและทนทานต่อแผ่นดินไหว การวางแผนการจัดการภัยพิบัติที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงการสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศเพื่อรับมือกับภัยพิบัติ เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้ประเทศสามารถรับมือกับความท้าทายจากภัยธรรมชาติได้อย่างยั่งยืน

ความสูญเสียจากเหตุการณ์ครั้งนี้เป็นเรื่องน่าเศร้าใจ แต่ความหวังและความมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือผู้ประสบภัยยังคงอยู่ เราหวังว่าสถานการณ์จะดีขึ้นในเร็ววัน และผู้ประสบภัยจะได้รับการเยียวยาและกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข

ที่มา – แผ่นดินไหวอัฟกานิสถาน ดับแล้ว 250 เจ็บ 500 คาดตัวเลขยังเพิ่ม

แผ่นดินไหวอัฟกานิสถาน ขนาด 6.0 ดับ 9 เจ็บ 25

เกิดเหตุแผ่นดินไหวในอัฟกานิสถานขนาด 6.0 แมกนิจูด ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมาก เหตุการณ์นี้สร้างความเสียหายและความสูญเสียให้กับประชาชนในพื้นที่อย่างมาก ศูนย์วิจัยธรณีศาสตร์ของเยอรมนี (GFZ) รายงานว่า แผ่นดินไหวอัฟกานิสถานครั้งนี้เกิดขึ้นใกล้กับชายแดนปากีสถาน ทำให้ทั้งสองประเทศได้รับผลกระทบ

แผ่นดินไหวอัฟกานิสถาน: รายละเอียดเหตุการณ์

GFZ ระบุว่า แผ่นดินไหวอัฟกานิสถานครั้งนี้เกิดขึ้นในจังหวัดนันกาฮาร์ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศ เมื่อเวลา 02.17 น. ตามเวลาประเทศไทย จุดศูนย์กลางของแผ่นดินไหวอยู่ที่ความลึก 10 กิโลเมตร วัดพิกัดได้ที่ 34.61 ละติจูดองศาเหนือ และ 70.80 ลองจิจูดองศาตะวันออก แรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวอัฟกานิสถานครั้งนี้รับรู้ได้ในหลายพื้นที่ ทำให้ประชาชนแตกตื่นและได้รับความเสียหาย

ผลกระทบจากแผ่นดินไหว

เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิต 9 ราย และบาดเจ็บ 25 ราย จากเหตุแผ่นดินไหวอัฟกานิสถานครั้งนี้ หน่วยงานกู้ภัยกำลังเร่งให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยและประเมินความเสียหายที่เกิดขึ้น อาคารบ้านเรือนหลายหลังได้รับความเสียหาย ถนนหนทางถูกตัดขาด ทำให้การเข้าถึงพื้นที่ประสบภัยเป็นไปด้วยความยากลำบาก

อัฟกานิสถานเป็นพื้นที่เสี่ยงต่อแผ่นดินไหวเนื่องจากตั้งอยู่ใกล้รอยต่อระหว่างแผ่นเปลือกโลกยูเรเชียและแผ่นเปลือกโลกอินเดีย ทำให้เกิดแผ่นดินไหวบ่อยครั้ง ในอดีตเคยเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงหลายครั้งในอัฟกานิสถาน สร้างความสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินอย่างมหาศาล รัฐบาลและองค์กรระหว่างประเทศจึงให้ความสำคัญกับการเตรียมพร้อมรับมือและบรรเทาภัยพิบัติจากแผ่นดินไหวในพื้นที่นี้

เหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งล่าสุดนี้เป็นเครื่องเตือนใจถึงความเสี่ยงจากภัยพิบัติทางธรรมชาติที่อัฟกานิสถานต้องเผชิญ การพัฒนาระบบเตือนภัย การก่อสร้างอาคารที่แข็งแรง และการให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับการรับมือแผ่นดินไหว เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งเพื่อลดผลกระทบจากภัยพิบัติในอนาคต นอกจากนี้ การให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ผู้ประสบภัยก็เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้

เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2566 ได้เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.3 และเกิดอาฟเตอร์ช็อกตามมาอย่างรุนแรง ซึ่งรัฐบาลตาลีบันประเมินว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4,000 ราย ขณะที่องค์การยูนิเซฟ (UNICEF) ระบุว่า 90% ของผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวในครั้งนั้นเป็นเด็กและผู้หญิง นับเป็นภัยพิบัติทางธรรมชาติที่ร้ายแรงที่สุดในอัฟกานิสถาน

นอกจากนี้ ยังเคยเกิดแผ่นดินไหวขนาด 5.9 ในพื้นที่ฝั่งตะวันออกของอัฟกานิสถานเมื่อเดือนมิ.ย. 2565 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 1,000 ราย และมีผู้บาดเจ็บกว่า 1,500 ราย

การรับมือกับภัยพิบัติทางธรรมชาติเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่สำหรับอัฟกานิสถาน ซึ่งเป็นประเทศที่กำลังเผชิญกับปัญหาความขัดแย้งและความยากจน การสนับสนุนจากนานาชาติและการพัฒนาศักยภาพของประเทศจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง

ที่มา – เกิดแผ่นดินไหวขนาด 6.0 ในอัฟกานิสถาน มีผู้เสียชีวิต 9 ราย บาดเจ็บ 25 ราย