มวยไทย

มีฮาคิ! ปตท.อภิชาติฟาร์ม สงสัยตัวเองมีพลัง

ในวงการมวยไทยและกีฬาการต่อสู้ที่กำลังร้อนแรง มีฮาคิ! ปตท.อภิชาติฟาร์ม สงสัยตัวเองมีพลังเหมือน มังงะดัง โดนต่อยแต่มือคู่ชกหัก กลายเป็นประเด็นที่แฟนๆ พูดถึงกันอย่างกว้างขวาง การชกครั้งนี้ไม่เพียงแต่แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของนักมวยไทย แต่ยังเพิ่มสีสันด้วยการเปรียบเทียบกับพลังฮาคิจากมังงะชื่อดังอย่างวันพีซ ทำให้ไฟต์นี้กลายเป็นตำนานในใจแฟนกีฬา

มีฮาคิ! ปตท.อภิชาติฟาร์ม สงสัยตัวเองมีพลังเหมือน มังงะดัง โดนต่อยแต่มือคู่ชกหัก

ศึก ONE ลุมพินี 126 เมื่อวันศุกร์ที่ 26 กันยายน ที่ผ่านมา ที่เวทีลุมพินี รามอินทรา เป็นเวทีที่ปตท. อภิชาติฟาร์ม ได้โชว์ฟอร์มสุดยอด โดยเอาชนะคู่ปรับเก่าจากอิตาลีอย่าง อาเลสสิโอ มาลาเทสตา ในการชกภาค 2 นี้ การต่อสู้ที่ดุเดือดทำให้อาเลสสิโอต้องยอมรับหลังชกว่า ‘เขแข็งจริง ผมต่อยเขาจนมือหัก แต่เขายังไม่ร่วงเลย’ คำพูดนี้กลายเป็นจุดไฮไลต์ที่ทำให้แฟนๆ ตื่นเต้น และปตท. เองก็โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวเพื่อขอบคุณทุกคนที่สนับสนุน

ปตท. อภิชาติฟาร์ม ซึ่งเป็นนักมวยไทยรุ่นเยาว์แต่พรสวรรค์ล้นเหลือ ได้รับการยกย่องจากความทนทานที่เหนือชั้นในไฟต์นี้ เขาเปรียบเทียบตัวเองกับพลังฮาคิจากมังงะวันพีซ โดยกล่าวว่า ‘หรือนี่จะเป็นจุดขายของผม หน้าที่เคลือบฮาคิมาอย่างแข็งแกร่ง คนโดนไม่ท้อคนต่อยเลยท้อเอง’ ทำให้แฟนๆ หัวเราะและชื่นชมในความสนุกสนานของเขา พลังฮาคิในวันพีซคือความสามารถพิเศษที่ทำให้ร่างกายแข็งแกร่ง มองเห็นอนาคตสั้นๆ และปล่อยจิตคุกคาม ซึ่งเหมาะสมกับสไตล์การชกของปตท. ที่เน้นการรับและโต้กลับอย่างหนักแน่น

ชัยชนะที่มอบให้แฟนๆ และทีมงาน

หลังชก ปตท. โพสต์ข้อความขอบคุณที่เต็มไปด้วยความซาบซึ้ง ‘ชัยชนะแรกของผม ขอมอบให้ทุกคนครับ ขอบคุณทุกคนที่เป็นกำลังใจแรงเชียร์ที่มีให้ผม ขอบคุณทุกคนที่อยู่เคียงข้างผมในวันที่ผมแพ้ และอยู่ในวันที่ผมชนะ ถึงแม้จะไม่ใช่ชัยชนะที่สวยหรูสมบูรณ์แบบแต่ผมก็ดีใจที่ทำมันสำเร็จ เพราะผมตั้งใจมาก’ เขายังขอบคุณทีมงานอย่าง ลุงเอิญ เมดี้ พี่เบียร์ พี่ปืน พี่เฟริก และคนในค่ายที่ช่วยฝึกซ้อมมาตลอด นอกจากนี้ยังขอบคุณครอบครัว พ่อแม่ พี่น้อง แฟน และนาบิล ยูนิส สินสมุทร ที่คอยให้กำลังใจในวันที่ท้อแท้

  • ทีมงานหลัก: ลุงเอิญ, เมดี้, พี่เบียร์
  • เพื่อนฝูง: พี่ปืน, พี่เฟริก, นาบิล ยูนิส
  • ครอบครัว: พ่อแม่, พี่น้อง, แฟน

การขอบคุณนี้แสดงให้เห็นถึงความถ่อมตัวและทีมเวิร์คที่สำคัญในวงการมวย ปตท. ยังสัญญาว่าจะพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้นในไฟต์หน้า เพื่อให้ชัยชนะสมบูรณ์แบบยิ่งกว่าเดิม

นอกจากนี้ มีฮาคิ! ปตท.อภิชาติฟาร์ม สงสัยตัวเองมีพลังเหมือน มังงะดัง โดนต่อยแต่มือคู่ชกหัก ยังเป็นตัวอย่างของนักกีฬาที่ผสมผสานความสนุกเข้ากับความจริงจัง ทำให้แฟนๆ ติดตามได้มากขึ้น ในอนาคต เราอาจเห็นปตท. พัฒนาสไตล์การชกให้เหมือนฮาคิมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการป้องกันที่แข็งแกร่งหรือการโจมตีที่คาดเดาไม่ได้ การชกครั้งนี้ไม่ใช่แค่ชัยชนะ แต่เป็นจุดเริ่มต้นของนักมวยดาวรุ่งคนนี้

สำหรับแฟนมวยไทยที่ชื่นชอบ ONE Championship การต่อสู้แบบนี้คือสิ่งที่ทำให้กีฬาน่าตื่นเต้นยิ่งขึ้น ปตท. อภิชาติฟาร์ม ได้พิสูจน์แล้วว่าเขามีศักยภาพที่จะก้าวไกล หากคุณเป็นแฟนวันพีซด้วย การเปรียบเทียบนี้ยิ่งทำให้รู้สึกสนุก การชกในศึก ONE ลุมพินียังคงเป็นเวทีสำคัญที่รวบรวมนักสู้จากทั่วโลก มาดูกันว่าปตท. จะมีเซอร์ไพรส์อะไรอีกในไฟต์ต่อไป

สุดท้ายนี้ ชัยชนะของปตท. แสดงให้เห็นว่าความมุ่งมั่นและการสนับสนุนจากคนรอบข้างคือกุญแจสู่ความสำเร็จ แฟนๆ ควรติดตามนักมวยไทยเหล่านี้ให้มากขึ้น เพราะพวกเขากำลังสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ให้กับกีฬาของเรา

หากคุณชื่นชอบเรื่องราวแบบนี้ ลองแชร์และคอมเมนต์ด้านล่างว่าคุณคิดว่าปตท. มีฮาคิจริงหรือไม่ และติดตามข่าวสารกีฬามวยเพิ่มเติมจากบล็อกของเราเพื่อไม่พลาดอัปเดต!

ที่มา – มีฮาคิ! ปตท.อภิชาติฟาร์ม สงสัยตัวเองมีพลังเหมือน มังงะดัง โดนต่อยแต่มือคู่ชกหัก

ขุนศึกเล็ก – ขุนศึกน้อย บูมเด็กเซียน คว้าชัยคู่ ศึก RWS เสาร์ 27 ก.ย.

ในศึก RWS วันเสาร์ที่ 27 กันยายน ที่ผ่านมา แฟนมวยไทยได้ตื่นเต้นไปกับฟอร์มการชกที่ร้อนแรงของสองนักมวยรุ่นเยาว์ฝาแฝด “แฝดกระนวน” จากค่ายบูมเด็กเซียน นั่นคือ ขุนศึกเล็ก และ ขุนศึกน้อย ที่สามารถคว้าชัยชนะคู่กันได้อย่างน่าประทับใจ โดยทั้งคู่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่โดดเด่น สร้างความฮือฮาให้กับผู้ชมในสนามและผู้ติดตามข่าวมวยทั่วประเทศ

ขุนศึกเล็ก – ขุนศึกน้อย บูมเด็กเซียน คว้าชัยคู่ ศึก RWS เสาร์ 27 ก.ย.

ศึก RWS ครั้งนี้ถือเป็นเวทีที่สำคัญสำหรับนักมวยรุ่นใหม่ โดยเฉพาะคู่นี้ที่ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด ขุนศึกเล็ก – ขุนศึกน้อย บูมเด็กเซียน คว้าชัยคู่ ศึก RWS เสาร์ 27 ก.ย. ทำให้ชื่อของทั้งสองดังกระฉ่อนในวงการมวยไทยอีกครั้ง ด้วยการเอาชนะคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งในสไตล์ที่แตกต่างกัน แต่ทั้งคู่ต่างก็โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม

ขุนศึกน้อย: ชัยชนะน็อกเอาต์สุดมันส์

เริ่มจาก ขุนศึกน้อย ที่ขึ้นเวทีพบกับ ดีเซลเล็ก จากเพชรยินดีอะคาเดมี่ นักชกจอมเก๋าที่มีประสบการณ์ล้นเหลือ การชกในยกแรกทั้งสองฝ่ายยังคงทดสอบกันอย่างระมัดระวัง แต่หลังจากนั้น ขุนศึกน้อยก็เริ่มแสดงจุดเด่นของตัวเองออกมา ในยกที่สอง เขาใช้การยั่วให้คู่ต่อสู้เปิดช่อง แล้วตามด้วยอาวุธศอกที่หนักหน่วง ก่อนจะปิดเกมด้วยลูกเตะก้านคอที่เป็นเอกลักษณ์ ถือเป็นการน็อกเอาต์ที่สะอาดและน่าตื่นเต้น

หลังการชก ขุนศึกน้อยให้สัมภาษณ์ด้วยรอยยิ้มว่า “หลังจากหมดยกแรก ผมมั่นใจแล้วว่ามีช่องว่างให้โจมตี รู้สึกโล่งใจมากที่เอาชนะรุ่นพี่ได้สำเร็จ” ชัยชนะนี้ไม่เพียงแต่เพิ่มความมั่นใจให้เขา แต่ยังเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงการฝึกซ้อมที่เข้มข้นจากค่ายบูมเด็กเซียน ซึ่งเน้นไปที่การพัฒนาอาวุธหมัด ศอก และเตะที่หลากหลาย

ขุนศึกเล็ก: การชกที่ต้องใช้ความอดทนสูง

ส่วน ขุนศึกเล็ก ต้องเผชิญหน้ากับ ซีอุย สิงห์มาวิน คู่ต่อสู้ที่ขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแกร่งและการป้องกันที่แน่นหนา การชกของเขาต้องออกแรงหนักตั้งแต่เริ่มต้น โดยในยกแรก ขุนศึกเล็กเดินเกมรุกอย่างต่อเนื่อง แม้จะรู้สึกงงเล็กน้อยกับสไตล์ของคู่ต่อสู้ออกมา แต่หลังจากยกสอง เขาก็ปรับตัวได้ดีและเริ่มครองเกมได้

ในยกที่สาม อาวุธของซีอุยเริ่มอ่อนแรงลง ขุนศึกเล็กใช้โอกาสนี้เร่งเครื่องด้วยการต่อยและเตะที่แม่นยำ สุดท้ายกรรมการตัดสินให้ชัยชนะด้วยคะแนนเอกฉันท์ ขุนศึกเล็กกล่าวหลังชกว่า “ไฟต์นี้ผมเตรียมตัวพิเศษมาก เดินรุกตั้งแต่ต้น และมั่นใจว่าจะชนะตั้งแต่ยกสอง” ชัยชนะนี้แสดงให้เห็นถึงวินัยและความอดทนของเขา ที่ไม่ยอมแพ้แม้สถานการณ์จะยากลำบาก

ทั้งสองคนนี้เป็นฝาแฝดที่เติบโตมาด้วยกันในวงการมวย ตั้งแต่เด็กก็ฝึกชกมวยไทยที่ค่ายบูมเด็กเซียน ซึ่งเป็นค่ายที่มีชื่อเสียงในการปั้นนักมวยรุ่นเยาว์ให้กลายเป็นเซียน การชกคู่กันในศึก RWS ครั้งนี้ จึงไม่ใช่แค่การแข่งขัน แต่ยังเป็นการแสดงพลังของค่ายและวัฒนธรรมมวยไทยที่สืบทอดกันมา

นอกจากผลงานในวันนั้นแล้ว ขุนศึกเล็กยังประกาศเป้าหมายต่อไป โดยตั้งใจท้าชิง เพชรศิลา ว.อุรชา แชมป์ซูเปอร์แบนตัมเวตของราชดำเนิน เขากล่าวว่า “แม้เราจะเป็นเพื่อนกันนอกเวที แต่บนสังเวียนต้องสู้เต็มที่ หลังชกก็ยังเป็นพี่น้องเหมือนเดิม” คำประกาศนี้สร้างกระแสในหมู่แฟนมวยที่รอคอยการปะทะครั้งใหญ่

จากมุมมองของผู้เชี่ยวชาญ การคว้าชัยของขุนศึกเล็ก – ขุนศึกน้อย บูมเด็กเซียน คว้าชัยคู่ ศึก RWS เสาร์ 27 ก.ย. ถือเป็นสัญญาณดีสำหรับอนาคตของมวยไทยรุ่นใหม่ พวกเขามีเทคนิคที่หลากหลายและจิตใจที่เข้มแข็ง ซึ่งจะช่วยยกระดับกีฬานี้ให้เป็นที่นิยมมากขึ้น หากคุณเป็นแฟนมวย ไม่ควรพลาดการติดตามเส้นทางของสองพี่น้องคู่นี้

  • จุดเด่นของขุนศึกน้อย: อาวุธศอกและเตะก้านคอที่เฉียบคม
  • จุดเด่นของขุนศึกเล็ก: การปรับตัวและเกมรุกที่ต่อเนื่อง
  • อนาคต: ท้าชิงแชมป์ราชดำเนิน

ในฐานะแฟนมวยตัวยง ผมเชื่อว่าความสำเร็จครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของตำนานใหม่ในวงการ ลองติดตามข่าวสารมวยไทยเพิ่มเติมจากเว็บไซต์ของเรา เพื่อไม่พลาดทุกการอัปเดต

ที่มา – ขุนศึกเล็ก – ขุนศึกน้อย บูมเด็กเซียน คว้าชัยคู่ ศึก RWS เสาร์ 27 ก.ย.

นาบิล มั่นใจครบ 3 ยก ชนะคิกบ็อกซิ่งแน่

นาบิล มั่นใจถ้าครบ 3 ยก ชนะแน่ ติดใจคิกบ็อกซิ่ง แอบเสียดายยังไม่มีสิทธิ์ชิงแชมป์

ในศึก ONE ลุมพินี 126 ที่เพิ่งจบลงไปเมื่อเร็วๆ นี้ คู่เอกที่น่าจับตามองคือการปะทะกันระหว่างนักสู้รุ่นแบนตัมเวตในกติกาคิกบ็อกซิ่ง ระหว่าง อิเลียส เอ็นนาฮาชิ อดีตแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่งรุ่นฟลายเวต สัญชาติเนเธอร์แลนด์-โมร็อกโก กับ นาบิล อานาน แชมป์โลก ONE มวยไทยรุ่นแบนตัมเวต ตัวแทนไทย-แอลจีเรีย ที่ลงสนามคิกบ็อกซิ่งครั้งแรกของตัวเอง

นาบิล อานาน ในศึก ONE ลุมพินี

นาบิล มั่นใจถ้าครบ 3 ยก ชนะแน่

ไฟต์นี้จบลงแบบไม่มีผลการตัดสิน เนื่องจากในยกที่ 3 นาบิล อานาน เตะเข้าที่กระจับของเอ็นนาฮาชิโดยไม่ได้ตั้งใจ ส่งผลให้คู่ต่อสู้ลุกขึ้นมาชกต่อไม่ได้ กรรมการจึงสั่งยุติการแข่งขัน อย่างไรก็ตาม ตลอด 2 ยกแรก นาบิล แสดงฟอร์มได้เหนือกว่าอย่างชัดเจน โดยเฉพาะการน็อกดาวน์เอ็นนาฮาชิได้ตั้งแต่ยกแรก ทำให้แฟนๆ ต่างเห็นพ้องว่าถ้าครบ 3 ยก นาบิล น่าจะเป็นฝ่ายชนะ

หลังจบไฟต์ นาบิล อานาน ได้ออกมาแสดงความมั่นใจในตัวเอง โดยกล่าวว่า “นาบิล มั่นใจถ้าครบ 3 ยก ชนะแน่” เขายอมรับว่าตัวเองรู้สึกเสียดายที่ไฟต์นี้ไม่มีผลแพ้ชนะ เพราะอยากพิสูจน์ตัวเองในกติกาคิกบ็อกซิ่ง ซึ่งเป็นครั้งแรกของเขา นอกจากนี้ เขายังติดใจเสน่ห์ของคิกบ็อกซิ่งที่รวดเร็วและท้าทายมากกว่ามวยไทยในบางมุม

ศึก ONE ลุมพินี 126

นาบิล ติดใจคิกบ็อกซิ่ง หลังไฟต์แรกสุดมันส์

นาบิล เปิดใจหลังไฟต์ว่า เขาไม่ได้ตั้งใจเตะโดนจุดอ่อนของคู่ต่อสู้ แต่เป็นจังหวะที่พลาดจริงๆ “ผมขอโทษทุกคน รวมถึงเอ็นนาฮาชิ ที่ไฟต์นี้ไม่ครบ 3 ยก ถ้าอีก 2 นาที ผมมั่นใจว่าจะชนะแน่นอน” เขากล่าว โดยชี้ว่าการชก 2 ยกแรก แฟนมวยทุกคนน่าจะเห็นว่าเขาครองเกมได้ดีกว่า โดยเฉพาะการเซนด์คู่ต่อสู้ลงพื้นนับ 8 ในยกแรก

นอกจากนี้ นาบิล ยังเผยว่าเริ่มติดใจคิกบ็อกซิ่งเพราะความเร็วและการต่อสู้ที่เข้มข้น “ไฟต์นี้ไม่เหนื่อยเลย เพราะคู่ต่อสู้ออกมาทุกอย่าง แต่ผมรับมือได้หมด มันสนุกดี รวดเร็ว ติดใจเลย” แม้จะเสียดายที่ยังไม่มีสิทธิ์ชิงแชมป์เพราะไม่มีผลการตัดสิน แต่เขามองว่านี่เป็นจุดเริ่มต้นที่ดี และพร้อมแก้มือกับเอ็นนาฮาชิในอนาคต หากอีกฝ่ายยังคาใจ

นาบิล อานาน หลังชก

การชกครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของนาบิล ในกติกาใหม่ เขาที่เป็นแชมป์มวยไทยอยู่แล้ว สามารถปรับตัวได้ดีในคิกบ็อกซิ่ง ซึ่งเน้นการใช้กำปั้นและเตะเป็นหลัก โดยไม่มีศอกและเข่าแบบมวยไทย แฟนๆ หลายคนคาดหวังว่า นาบิล จะมีโอกาสก้าวสู่การชิงแชมป์คิกบ็อกซิ่งในอนาคต หากเขาเก็บชัยชนะได้ต่อเนื่อง

  • จุดเด่นของนาบิล: ความเร็วในการออกอาวุธและการป้องกันที่แน่นหนา
  • ความท้าทายในคิกบ็อกซิ่ง: ต้องระวังจุดอ่อนเพื่อหลีกเลี่ยงการหยุดชกก่อนเวลา
  • อนาคต: พร้อมแก้มือและลุ้นอันดับในรุ่น

โดยรวมแล้ว ไฟต์นี้นับเป็นการเปิดตัวที่น่าประทับใจของนาบิล ในวงการคิกบ็อกซิ่ง แม้จะจบแบบค้างคา แต่ก็พิสูจน์แล้วว่าเขามีของดีพอจะสู้กับยอดนักชกอย่างเอ็นนาฮาชิ ซึ่งไม่เคยแพ้ใครมาก่อน

สำหรับแฟนมวยไทยและคิกบ็อกซิ่ง ไม่ควรพลาดการติดตามเส้นทางของนาบิล อานาน ในรายการ ONE Championship ครั้งต่อไป เพราะเขาอาจจะกลายเป็นดาวรุ่งในกติกานี้ได้ ลองมาพูดคุยกันในคอมเมนต์ว่าคุณคิดอย่างไรกับไฟต์นี้

ที่มา – นาบิล มั่นใจถ้าครบ 3 ยก ชนะแน่ ติดใจคิกบ็อกซิ่ง แอบเสียดายยังไม่มีสิทธิ์ชิงแชมป์

โดนเต็มกล่องดวงใจ! นาบิล เตะเข้ากระจับ เอ็นนาฮาชิ

โดนเต็มกล่องดวงใจ! นาบิล เตะเข้ากระจับ เอ็นนาฮาชิ ชกต่อไม่ไหว ยุติชกไร้ผล

ศึก ONE ลุมพินี ครั้งที่ 126 เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2568 ที่เวทีมวยลุมพินี สมุทรปราการ ถือเป็นค่ำคืนที่แฟนมวยไทยและคิกบ็อกซิ่งต้องตื่นเต้นไม่น้อย โดยเฉพาะคู่เอกของรายการที่กลายเป็นจุดพูดถึงมากที่สุด นั่นคือการปะทะกันระหว่าง อิเลียส เอ็นนาฮาชิ อดีตแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นฟลายเวต (125-135 ป.) สัญชาติเนเธอร์แลนด์-โมร็อกโก กับ นาบิล อานาน แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต (135-145 ป.) ตัวแทนไทย-แอลจีเรีย ที่ข้ามสายมาลองชกคิกบ็อกซิ่งครั้งแรกในรุ่นแบนตัมเวต

โดนเต็มกล่องดวงใจ! นาบิล เตะเข้ากระจับ เอ็นนาฮาชิ ชกต่อไม่ไหว ยุติชกไร้ผล

เกมการชกเริ่มต้นอย่างดุเดือดตั้งแต่ยกแรก นาบิล อานาน แสดงให้เห็นถึงความเหนือชั้นด้วยการส่งหมัดขวาเข้าเต็มใบหน้าของเอ็นนาฮาชิ จนอดีตแชมป์ต้องลงไปนับหนึ่งทันที จากนั้น นาบิล ยังอาศัยชั้นเชิงที่ยอดเยี่ยม ช่วงแขนที่ยาว และความสูงที่เหนือกว่า ดักเตะและดักเข่าใส่คู่ชกที่ไม่สามารถเข้าใกล้ตัวได้ง่ายๆ ทำให้เอ็นนาฮาชิต้องเล่นแบบระวังตัวตลอดทั้งยก

เข้าสู่ยกสอง เอ็นนาฮาชิ พยายามปรับเกมเพื่อหาช่องทางเข้าประชิดตัว แต่ก็ยังเข้าไม่ถึงนาบิล ที่คอยปล่อยหมัดตรงและเตะดักได้อย่างแม่นยำ อย่างไรก็ตาม จุดเปลี่ยนของแมตช์นี้เกิดขึ้นในยกสาม เมื่อเกิดจังหวะชุลมุน นาบิล ไปเตะโดนกระจับของเอ็นนาฮาชิเต็มๆ ทำให้เกมต้องหยุดชะงักทันที เอ็นนาฮาชิ ชกต่อไม่ไหว สุดท้ายกรรมการจึงยุติการชกแบบไร้ผล นับเป็นโมเมนต์ที่แฟนๆ ต้องจำไปอีกนาน โดนเต็มกล่องดวงใจ! นาบิล เตะเข้ากระจับ เอ็นนาฮาชิ ในแบบที่ไม่คาดคิด

เหตุการณ์เตะโดนกระจับ: บทเรียนจากคืนชก

เหตุการณ์นี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดอุบัติเหตุบนเวทีมวย แต่ก็เป็นเครื่องเตือนใจให้ทั้งนักสู้และกรรมการต้องระมัดระวังมากขึ้น โดยเฉพาะในกติกาคิกบ็อกซิ่งที่อาวุธเตะมีบทบาทสำคัญ นาบิล อานาน แม้จะไม่ได้ชัยชนะ แต่ก็แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการข้ามสายชกได้อย่างน่าประทับใจ ส่วนเอ็นนาฮาชิ คงต้องฟื้นฟูร่างกายก่อนกลับมาลุยต่อ

นอกจากคู่เอกแล้ว คู่รองของรายการก็ไม่แพ้กันเดือด ชาโด้ สิงห์มาวิน เจ้าของอันดับ 3 บนแรงกิ้ง ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต (145-155 ป.) จากจังหวัดตาก สลับมาดวลคิกบ็อกซิ่งกับหลิว เมิงหยาง นักสู้จอมแสบจากจีน ในรุ่นเฟเธอร์เวต ยกแรกหลิวเปิดเกมลุยแหลก พยายามเดินหน้าออกอาวุธหนักๆ แต่ชาโด้ก็สวนคืนได้อย่างดุเดือด แลกหมัดกันสนั่นเวที

ยกสองทั้งคู่ยังคงแลกกันไม่หยุด ชาโด้พลาดโดนหมัดซ้ายจนร่วงลงไปนับหนึ่ง ทำให้ยกสามชาโด้ต้องเร่งเครื่องเต็มสูบ ออกอาวุธทุกรูปแบบ ทั้งหมัดตรง เข่า และเตะก้านคอ เพื่อพยายามพลิกเกม แม้ผลการชกจะเป็นการตัดสินด้วยคะแนน แต่ชาโด้แสดงให้เห็นถึงหัวใจนักสู้ที่แท้จริง

คู่มวยไทยสุดเดือด: เมืองไทย พีเค.แสนชัย vs แอนตาร์ คาเซม

อีกหนึ่งคู่ที่น่าจับตา คือการปะทะในกติกามวยไทย รุ่น 140 ป. ระหว่าง ขุนศอกผีดิบ เมืองไทย พีเค.แสนชัย กำปั้นพลังอึดวัย 31 ปี จากบุรีรัมย์ กับ แอนตาร์ คาเซม จอมบู๊ร่างสูงใหญ่ วัย 26 ปี สัญชาติฝรั่งเศส-เบลารุส ยกแรกทั้งคู่ยังจดจ้องกันอย่างระมัดระวัง เมืองไทยปล่อยหมัดชุดแรกเข้าใบหน้าของคาเซมได้ ขณะที่คาเซมอาศัยช่วงชกที่ยาวกว่าโต้กลับด้วยหมัดตรง

ยกสองเกมเริ่มดุเดือดขึ้น เมืองไทยพยายามแก้เกมด้วยการเข้าใกล้ตัวคาเซม และทำได้สำเร็จด้วยการปล่อยศอกซ้ายที่ส่งคาเซมโซเซไป แต่คาเซมยังไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ยกสามเมืองไทยเดินเข้าใส่ แต่พลาดโดนสวนจนนับหนึ่ง จากนั้นต้องเร่งรุกเพื่อเอาคืน แต่กลับป้องกันหลวมโดนอาวุธหนักของคาเซม จนโดนนับอีกสองรอบ สุดท้ายกรรมการสั่งหยุดการชก แอนตาร์ คาเซม เอาชนะน็อกในยกที่สาม

ศึก ONE ลุมพินี ครั้งนี้เต็มไปด้วยดราม่าและการต่อสู้ที่เข้มข้น ไม่ว่าจะเป็นอุบัติเหตุในคู่เอกที่กลายเป็น โดนเต็มกล่องดวงใจ! นาบิล เตะเข้ากระจับ เอ็นนาฮาชิ ชกต่อไม่ไหว ยุติชกไร้ผล หรือการน็อกเอาต์ในคู่อื่นๆ ล้วนแสดงให้เห็นถึงความตื่นเต้นของกีฬาต่อสู้ในเอเชีย หากคุณเป็นแฟนมวยไทย อย่าพลาดติดตามรายการถัดไป เพราะ ONE Championship มักมีเซอร์ไพรส์เสมอ

  • ไฮไลต์: การเตะดักที่แม่นยำของนาบิล
  • บทเรียน: ความสำคัญของการป้องกันกระจับ
  • นักสู้ที่น่าจับตา: ชาโด้ สิงห์มาวิน ในอนาคต

ในมุมมองของผม การชกครั้งนี้ชี้ให้เห็นว่านักสู้ทุกคนต้องพร้อมรับมือกับทุกสถานการณ์ โดยเฉพาะการปรับตัวข้ามสายกติกา หากคุณชื่นชอบมวยไทย ลองแชร์ความคิดเห็นในคอมเมนต์ด้านล่างว่าคุณคิดอย่างไรกับเหตุการณ์นี้ และอย่าลืมติดตามอัปเดตข่าวสารกีฬาต่อสู้จากเรา!

ที่มา – โดนเต็มกล่องดวงใจ! นาบิล เตะเข้ากระจับ เอ็นนาฮาชิ ชกต่อไม่ไหว ยุติชกไร้ผล

โปรตุเกสแห่เรียนมวยไทย 600 ชีวิต! มากสุดในยุโรป

โปรตุเกสสร้างปรากฏการณ์! ผู้คนแห่กันมาเรียนมวยไทยล้นหลามถึง 600 คน มากที่สุดในทวีปยุโรป เอกอัครราชทูต ณ กรุงลิสบอนพร้อมสนับสนุนเต็มที่ ผนวกมวยไทยเข้ากับการท่องเที่ยว จัดกิจกรรมส่งเสริมความเป็นไทยในโปรตุเกส การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ขานรับ เตรียมส่งครูมวยไทยแท้ๆ ร่วมกิจกรรมในอนาคต “แสนชัย” สุดเซอร์ไพรส์ แฟนคลับจำได้ทั่วเมือง เชื่อมวยไทยฮิตไม่แพ้ฟุตบอลในโปรตุเกส!

สำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) จัดโครงการ “มวยไทย มาสเตอร์ คลาส 2025” ที่กรุงลิสบอน ประเทศโปรตุเกส ระหว่างวันที่ 19-20 กันยายน 2568 ซึ่งเป็นประเทศที่ 9 ใน 10 ประเทศที่เข้าร่วมโครงการส่งเสริมกีฬามวยไทย

เมื่อวันที่ 20 กันยายน มีพิธีเปิดโครงการ “มวยไทย มาสเตอร์ คลาส 2025” ที่ Clube Desportivo Marista de Carcavelos โดยมีนางกนกวรรณ เพ่งสุวรรณ เอกอัครราชทูต ณ กรุงลิสบอน เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยนายปรีชา ลาลุน รองผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา, นูโน่ ฟิลิเป้ เฟอร์เรร่า อัลเวส นายกเทศมนตรีคาร์คาเวรอส และคาร์รอส รามจานาลี ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาธุรกิจและความสัมพันธ์ภายนอก ผู้อำนวยการภาคพื้นทวีปยุโรปสหพันธ์คิกบ็อกซิ่งโลก (WAKO)

กิจกรรม “มวยไทย มาสเตอร์ คลาส 2025” ในโปรตุเกส เริ่มต้นด้วยการไหว้ครูมวยไทย นำโดย 3 ยอดนักชกแชมเปี้ยนชาวไทย: แสนชัย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม, เพชรพนมรุ้ง เกียรติหมู่ 9 และนำศักดิ์น้อย ยุทธการกำธร ตามด้วยการแสดงศิลปะวัฒนธรรม “มวยไทยโบราณ”

นอกจากนี้ มีการมอบป้าย Standard Muaythai Gym (SMG) รับรองมาตรฐานจากสำนักงานคณะกรรมการกีฬามวย กกท. ให้กับ 10 ค่ายมวยในโปรตุเกส ได้แก่ Fight Club Estoril, Fightness Studio, Prime Studio, Norte Forte, MG Team, Sporting Club Braga, Boavista Futebol Clube, Team Bad to the Bone, Gogs Academy และ Dynamite

จากนั้นเปิดคลาสสอนมวยไทยให้ผู้สนใจเข้าร่วมกว่า 600 คน โดยมี แสนชัย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม, เพชรพนมรุ้ง เกียรติหมู่ 9 และนำศักดิ์น้อย ยุทธการกำธร ร่วมถ่ายทอดเทคนิคพิเศษและข้อมูลเชิงลึก เปิดสังเวียนให้ผู้เข้าร่วมประลองมวยไทยตัวต่อตัวกับแสนชัย พร้อมกิจกรรมมินิเกม ลุ้นรับของที่ระลึกพร้อมลายเซ็นจากนักชกไทยทั้ง 3

นางกนกวรรณ เพ่งสุวรรณ กล่าวว่า ยินดีที่กิจกรรมมวยไทยมาสเตอร์คลาสจัดที่โปรตุเกส สถานทูตมีกิจกรรมแสดงความเป็นไทยทั้งอาหาร ผ้าไทย และมวยไทย หากมีกิจกรรมอีกครั้ง ขอความอนุเคราะห์รัฐบาลส่งครูมวยไทยแท้ๆ ร่วมกิจกรรม

นางกนกวรรณ กล่าวเสริมว่า โปรตุเกสเป็นประเทศในยุโรปที่ค่าครองชีพไม่สูง นักท่องเที่ยวจากยุโรปนิยมมาพักผ่อนที่ลิสบอนที่มีบรรยากาศอบอุ่นและมีมหาสมุทรแอตแลนติก ในอนาคตจะนำมวยไทยเป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงกีฬา โปรตุเกสยินดีประชาสัมพันธ์มวยไทยให้แพร่หลายในยุโรป

นายปรีชา ลาลุน กล่าวว่า ดีใจที่คนโปรตุเกสสนใจมวยไทย ตั้งเป้าไว้ 300 คน แต่มีผู้เข้าร่วมถึง 600 คน ถือว่ามีคนมาเรียนมวยไทยมากที่สุดในโซนยุโรป กกท. ได้พูดคุยกับท่านทูตแล้วว่ากิจกรรมต่างๆ ของสถานทูตที่มีมวยไทย กกท. พร้อมช่วยเหลือเพื่อให้คนโปรตุเกสได้เรียนมวยไทยมากขึ้น และเกิดความอยากรู้แล้วเดินทางมาต่อยอดที่ประเทศไทย

แสนชัย พี.เค.แสนชัยมวยไทยยิม กล่าวว่า คนยุโรปสนใจมวยไทยมากขึ้น โปรตุเกสถือว่าเยอะมาก ดีใจที่มีแฟนคลับในโปรตุเกสจำได้ มวยไทยฟีเวอร์มาก โปรตุเกสขึ้นชื่อเรื่องฟุตบอล แต่มวยไทยก็ได้รับความนิยมไม่แพ้กัน เป็นเรื่องน่าประทับใจที่ได้มาสอนมวยไทยที่โปรตุเกส

โครงการมวยไทย มาสเตอร์ คลาส 2025 เดินทางไปเผยแพร่ศิลปะแม่ไม้มวยไทยทั้งหมด 10 ประเทศ โดยก่อนหน้านี้ได้เดินทางไปที่ฮ่องกง, บราซิล, อังกฤษ, สกอตแลนด์, สหรัฐอเมริกา, เยอรมนี, ฝรั่งเศส, สเปน และโปรตุเกส ซึ่งนับเป็นประเทศที่ 9 จากนั้นจะเดินทางไปปิดท้ายโครงการที่ประเทศออสเตรเลีย

โปรตุเกสทะลักเรียน มวยไทย 600 ชีวิตมากที่สุดในยุโรป

ทำไมคนโปรตุเกสถึงนิยมเรียนมวยไทย?

ปรากฏการณ์ความนิยมในมวยไทยที่โปรตุเกสนี้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของศิลปะการต่อสู้ของไทยในการดึงดูดผู้คนจากทั่วโลก ไม่เพียงแต่เป็นการออกกำลังกาย แต่ยังเป็นการเรียนรู้วัฒนธรรมและประเพณีอันงดงามของไทยอีกด้วย

โครงการ “มวยไทย มาสเตอร์ คลาส” เป็นก้าวสำคัญในการผลักดันให้มวยไทยเป็นที่รู้จักและยอมรับในระดับสากลมากขึ้น หวังว่าโครงการนี้จะเป็นแรงบันดาลใจให้เยาวชนไทยหันมาสนใจและสืบสานศิลปะมวยไทยให้คงอยู่สืบไป

ที่มา – โปรตุเกสทะลักเรียน มวยไทย 600 ชีวิตมากที่สุดในยุโรป – ‘มาสเตอร์ คลาส’ ลุยต่อที่ออสเตรเลีย

ใครจะเป็นเสือตัวที่ 24! อนันตชัย vs ยอดเหล็กแหลม



ศึกมวยรอบปูนเสือ มวยไทยพันธุ์แท้ ครั้งที่ 24 เดินทางมาถึงรอบชิงชนะเลิศแล้ว! การแข่งขันรอบรองชนะเลิศเมื่อวันที่ 14 กันยายน 2568 ที่เวทีมวยช่อง 7HD สร้างความตื่นเต้นเร้าใจให้กับแฟนมวยเป็นอย่างมาก โดยมีนายณรงค์เดช ช่วยภักดี สจ.เขต1 คลองท่อม กระบี่ และนายณรงค์ศักดิ์ เอียดเกลี้ยง รองประธานสภา องค์การบริหารส่วนจังหวัดกระบี่ ให้เกียรติขึ้นคล้องพวงมาลัยเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับนักมวยทั้งสองคู่

คู่แรกเป็นการพบกันระหว่าง อนันตชัย ลานนาวอเตอร์ไซค์ (แดง) พบกับ ก้องสนั่น ส.เทียนโพธิ์ (น้ำเงิน) พิกัด 112 ปอนด์ และคู่ที่สอง พลายพยัคฆ์ ทต.พลับพลานารายณ์ (แดง) พบกับ ยอดเหล็กแหลม พ.พิมพ์อร (น้ำเงิน) พิกัด 112 ปอนด์ ผลการแข่งขันในรอบรองชนะเลิศเป็นอย่างไร ไปติดตามกัน!

ใครจะเป็นเสือตัวที่ 24! อนันตชัย ปะทะ ยอดเหล็กแหลม รอบชิงชนะเลิศ มวยรอบปูนเสือ

ผลการแข่งขันมวยรอบปูนเสือ (รอบรองชนะเลิศ)

คู่ที่ 1: อนันตชัย ลานนาวอเตอร์ไซด์ (แดง) พบกับ ก้องสนั่น ส.เทียนโพธิ์ (น้ำเงิน) รูปเกมเป็นไปอย่างดุเดือด อนันตชัย มวยขวาสูงยาวเข่าในเหนียวแน่น เดินเข้าหาเตะขวาลำตัวหนักๆ เล่นเอาก้องสนั่นถึงกับสะดุ้ง แม้ก้องสนั่นจะพยายามเตะซ้ายและใช้ศอก แต่ความชัดเจนเป็นของอนันตชัยที่จับคอตีเข่าเน้นๆ ครบยก อนันตชัยเป็นฝ่ายชนะคะแนน ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศ ส่วนก้องสนั่นชิงที่ 3

คู่ที่ 2: พลายพยัคฆ์ ทต.พลับพลานารายณ์ (แดง) พบกับ ยอดเหล็กแหลม พ.พิมพ์อร (น้ำเงิน) พลายพยัคฆ์มวยขวาเตี้ยสั้นหมัดหนัก พยายามเตะขวาต่อยหมัด แต่ไม่รุนแรงเท่า ยอดเหล็กแหลม มวยซ้ายสูงยาวเข่าแหลม ที่เดินปล้ำในจับคอตีเข่าเป็นชุดๆ จนพลายพยัคฆ์ออกอาการ และในยก 3 ยอดเหล็กแหลมได้จังหวะจับคอตีเข่าเน้นๆ จนพลายพยัคฆ์ทิ้งตัวลงไปนอน กรรมการนับ 10 ยอดเหล็กแหลมจึงชนะน็อก ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศ ส่วนพลายพยัคฆ์ชิงที่ 3

เตรียมพบกับรอบชิงชนะเลิศ: ใครจะเป็นเสือตัวที่ 24?

ศึกมวยรอบปูนเสือ มวยไทยพันธุ์แท้ ครั้งที่ 24 (รอบชิงชนะเลิศ) จะเปิดศึกดวลอาวุธกันในวันอาทิตย์ที่ 19 ตุลาคม 2568 ที่สนามมวยลุมพินี คู่ชิงชนะเลิศเป็นการพบกันระหว่าง อนันตชัย ลานนาวอเตอร์ไซด์ ดวลกับ ยอดเหล็กแหลม พ.พิมพ์อร ทั้งคู่เดินทางมาถึงโค้งสุดท้ายแล้ว! แฟนมวยทั่วประเทศต่างจับจ้องว่า ใครจะเป็นเสือตัวที่ 24! อนันตชัย ปะทะ ยอดเหล็กแหลม รอบชิงชนะเลิศ มวยรอบปูนเสือ

นอกจากคู่ชิงชนะเลิศแล้ว ยังมีการชิงอันดับ 3 ระหว่าง ก้องสนั่น ส.เทียนโพธิ์ ดวลกับ พลายพยัคฆ์ ทต.พลับพลานารายณ์ นักชกทั้งสองคู่พร้อมเสิร์ฟความมันส์แบบเต็มพิกัดให้แฟนมวยรอบปูนเสืออย่างแน่นอน เตรียมส่งแรงใจเชียร์นักชกที่คุณชื่นชอบกันได้เลย ห้ามพลาดเด็ดขาด!

แฟนมวยไทยตัวจริง อย่าพลาดชม ศึกมวยรอบปูนเสือ มวยไทยพันธุ์แท้ ครั้งที่ 24 (รอบชิงชนะเลิศ) มาเชียร์กันให้สนั่นบนสังเวียนผืนผ้าใบได้ที่สนามมวยลุมพินี ในวันอาทิตย์ที่ 19 ตุลาคม 2568 ถ่ายทอดสดทางช่อง 7HD ตั้งแต่เวลา 14.30 น. เป็นต้นไป

สรุปแล้ว ใครจะเป็นเสือตัวที่ 24! อนันตชัย ปะทะ ยอดเหล็กแหลม รอบชิงชนะเลิศ มวยรอบปูนเสือ ครั้งนี้! ต้องติดตามชมกันให้ได้ รับรองว่าสนุก ตื่นเต้น เร้าใจ อย่างแน่นอน!

ที่มา – ใครจะเป็นเสือตัวที่24! อนันตชัย ปะทะ ยอดเหล็กแหลม รอบชิงชนะเลิศ มวยรอบปูนเสือ


ไม่มีคำว่าพี่น้อง! เพชรศิลา VS ขุนศึกเล็ก?

เพชรศิลา ว.อุรชา หักปากกาเซียน ด้วยการเอาชนะน็อก เพชรสมาน ส.สมานการ์เม้นต์ ไปได้อย่างเด็ดขาดในยก 2 คว้าแชมป์ซูเปอร์แบนตัมเวต ราชดำเนิน มาครองได้สมใจ ล้างตาได้สำเร็จหลังจากเคยแพ้เพชรสมานในการชิงแชมป์เส้นนี้เมื่อตอนต้นปี แถมยังรับโบนัสในฐานะผู้ชนะน็อกอีก 350,000 บาท

เพชรศิลา เผยว่าการชกในยกแรก ยอมรับว่า เพชรสมาน เก่งและเร็วมาก แต่ตนก็ยังไม่ท้อ หมดยกแรก เสี่ยโบ๊ทบอกว่าต้องใช้หมัดเยอะๆ ก็เลยเดินติด เริ่มจากหมัดตัดลำตัว ก็เห็นเพชรสมานแผ่วลงอย่างเห็นได้ชัด อาวุธก็เริ่มเบาลง เลยตัดสินใจเดินลุยใช้หมัด ก็เลยได้ผล หมัดที่น็อกก็มั่นใจว่าเพชรสมานลุกไม่ไหวแน่ ชัยชนะในครั้งนี้ เกิดจากการฟิตซ้อมอย่างหนัก ต้องขอขอบคุณเสี่ยฟิวส์ เสี่ยโบ๊ท ทีมงานเทรนเนอร์ทุกคน ที่คอยดูแลเอาใจใส่และให้โอกาสเสมอ

สำหรับการชกครั้งต่อไปแล้วแต่ทีมงานว่าจะจัดให้ป้องกันแชมป์กับใคร แต่หากต้องต่อยกับ ขุนศึกเล็ก  ซึ่งเป็นเพื่อนที่สนิทคุ้นเคยกันก็พร้อมเสมอ ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุด อยู่บนเวทีต้องเอาคำว่าพี่น้องไว้ข้างนอก และถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะต่อยกับขุนศึกเล็กในรูปแบบซูเปอร์ไฟต์ที่มีโบนัสหลักล้านเป็นเดิมพัน

ไม่มีคำว่าพี่น้อง! เพชรศิลา กำลังห้าว ขอซูเปอร์ไฟต์กับ ขุนศึกเล็ก

หลังจากชัยชนะอันสวยงามของเพชรศิลา ทำให้แฟนมวยหลายคนต่างจับจ้องไปที่ไฟต์ต่อไปของเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเป็นไปได้ในการเผชิญหน้ากับขุนศึกเล็ก เพื่อนซี้ที่พร้อมจะกลายเป็นคู่ต่อสู้บนสังเวียนเดือด

ทำไมไฟต์ เพชรศิลา VS ขุนศึกเล็ก ถึงน่าสนใจ?

ไฟต์ระหว่าง เพชรศิลา กับ ขุนศึกเล็ก ไม่ใช่แค่การพบกันของนักมวยสองคน แต่เป็นการปะทะกันของเพื่อนรักที่ต้องมาห้ำหั่นกันเพื่อศักดิ์ศรีและชัยชนะ สิ่งที่น่าสนใจคือทั้งคู่รู้จักสไตล์การชกของกันและกันเป็นอย่างดี ทำให้การวางแผนและแก้ไขสถานการณ์บนเวทีเป็นไปอย่างเข้มข้น นอกจากนี้ การที่ทั้งคู่ต่างก็อยู่ในช่วงฟอร์มที่ดี ยิ่งทำให้ไฟต์นี้มีความสูสีและคาดเดายาก

แฟนมวยจะได้เห็นการชิงไหวชิงพริบ การใช้กลยุทธ์ที่เหนือชั้น และความมุ่งมั่นที่จะคว้าชัยชนะเหนือเพื่อนรัก แม้จะต้องแลกมาด้วยความเจ็บปวดก็ตาม

ปัจจัยที่ทำให้ เพชรศิลา ดูจะได้เปรียบเล็กน้อย

ถึงแม้ว่าขุนศึกเล็กจะเป็นนักมวยที่แข็งแกร่ง แต่จากการวิเคราะห์ล่าสุด เพชรศิลาดูเหมือนจะได้เปรียบเล็กน้อยในเรื่องของสภาพร่างกายและความสดที่มากกว่า หลังจากการคว้าแชมป์มาครองได้อย่างสวยงาม เพชรศิลามีความมั่นใจเต็มเปี่ยมและพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับทุกความท้าทาย ในขณะที่ขุนศึกเล็กอาจจะต้องเตรียมตัวให้พร้อมมากกว่าเดิมหากหวังที่จะโค่นแชมป์คนใหม่ลงได้

อย่างไรก็ตาม มวยไทยเป็นกีฬาที่ไม่แน่นอน ทุกอย่างสามารถเกิดขึ้นได้บนเวที การเตรียมตัวที่ดีและหัวใจที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะนำพาไปสู่ชัยชนะ

เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการต่อสู้ที่ดุเดือดและเต็มไปด้วยความตื่นเต้นเร้าใจระหว่าง เพชรศิลา และ ขุนศึกเล็ก มิตรภาพจะถูกพักไว้ชั่วคราวบนสังเวียน เมื่อเสียงระฆังดังขึ้น มีเพียงเป้าหมายเดียวคือชัยชนะเท่านั้น!

การเจอกันของ เพชรศิลา และ ขุนศึกเล็ก ถือเป็นความท้าทายครั้งใหญ่ของทั้งคู่ แฟนมวยจะได้เห็นศักยภาพที่แท้จริงของพวกเขา ว่าใครจะสามารถก้าวข้ามขีดจำกัดและคว้าชัยชนะไปได้

คุณพร้อมที่จะเชียร์ใคร? ร่วมแสดงความคิดเห็นและติดตามข่าวสารล่าสุดเกี่ยวกับไฟต์หยุดโลกนี้ได้เลย!

ที่มา – ไม่มีคำว่าพี่น้อง! เพชรศิลา กำลังห้าว ขอซูเปอร์ไฟต์กับ ขุนศึกเล็ก

ONE 173 สุดอลังการ! ชิงแชมป์โลก 6 เส้นที่ญี่ปุ่น

ONE 173 สุดอลังการ ประกบ 14 คู่ชก ชิงเข็มขัดแชมป์โลก 6 เส้น ที่ญี่ปุ่น

ศึก ONE 173 เตรียมเปิดฉากสุดยิ่งใหญ่ ให้ผู้ชมใน 195 ประเทศ ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ อาริอาเกะ อารีนา กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ในวันอาทิตย์ที่ 16 พฤศจิกายน 2568 นี้!

ONE 173 สุดอลังการ

เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2568 ที่ผ่านมา ONE Championship ได้จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวศึก ONE 173 อย่างเป็นทางการ ณ ชินางาวะ เดอะ แกรนด์ ฮอลล์ ในกรุงโตเกียว โดยมีเหล่านักกีฬาชื่อดังและคู่ชกที่น่าสนใจมากมาย มาร่วมอัปเดตความพร้อมล่าสุดให้สื่อมวลชนได้รับทราบ

ศึก ONE 173 สุดอลังการ ครั้งนี้ จะประกอบไปด้วยคู่ชกถึง 14 คู่ โดยมีเข็มขัดแชมป์โลก ONE เป็นเดิมพันสูงถึง 6 เส้น! อีกทั้งยังมีนักกีฬาไทยเข้าร่วมการแข่งขันมากถึง 7 คน แฟนกีฬาศิลปะการต่อสู้ชาวไทยห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง!

“บิ๊กบอส” ชาตรี ศิษย์ยอดธง ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ ONE ได้กล่าวเปิดงานและเผยถึงความยิ่งใหญ่ของศึก ONE 173 ที่จะมอบความสนุกสุดเหวี่ยงให้ผู้ชมทั่วโลกต้องจดจำไปอีกนานแสนนาน

บิ๊กบอส ชาตรี

“เหล่านักกีฬาญี่ปุ่นที่นี่ ล้วนเป็นซูเปอร์สตาร์ เป็นสุดยอดแชมป์โลกระดับแนวหน้า ที่พร้อมออกมาปกป้องเกียรติยศและศักดิ์ศรีของชาติ เพื่อฟื้นคืนความงดงามของความหลงใหลในศิลปะการต่อสู้ให้ยิ่งใหญ่กว่ายุคทองของ Pride และ K-1เมื่อ 30 ปีก่อน นี่คือความปรารถนาของนักกีฬาชาวญี่ปุ่นทุกคนใน วัน แชมเปียนชิพ และเป็นความสำคัญของศึกนี้”

“ในขณะเดียวกัน เราก็ได้นำนักกีฬาระดับที่สุดของที่สุดของโลกจากทุกแขนงศิลปะการต่อสู้มารวมตัวกัน ไม่ว่าจะเป็นการปล้ำจับล็อก คิกบ็อกซิ่ง มวยไทย หรือ MMA แฟนชาวญี่ปุ่นเตรียมรับชมความยิ่งใหญ่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประวัติศาสตร์ได้เลย”

คู่ที่น่าสนใจเป็นพิเศษ คือการพบกันระหว่าง “ยูกิ โยซะ” ซูเปอร์สตาร์คิกบ็อกซิ่งเจ้าถิ่น ที่จะมาท้าชนกับ “ซุปเปอร์เล็ก ซุปเปอร์เล็กมวยไทย” เจ้าของแชมป์โลก ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นฟลายเวต และผู้ท้าชิงอันดับ 5 ของแรงกิง ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นแบนตัมเวต ในกติกาคิกบ็อกซิ่ง รุ่นแบนตัมเวต

โดย “ยูกิ” กล่าวว่า “มี ซุปเปอร์เล็ก คนเดียวเท่านั้นที่ผมอยากจะสู้ด้วย และผมก็หวังว่าชนะไฟต์นี้แล้วจะได้ชิงแชมป์ แต่ถ้าไม่ ก็ช่วยหาคู่ชกคนไหนก็ได้มาให้ผม ผมพร้อมจะสู้กับทุกคนจนกว่าจะได้สิทธิ์ชิงแชมป์”

ซุปเปอร์เล็ก ปะทะ ยูกิ

ด้าน “ซุปเปอร์เล็ก” มองว่า “การชกกับ ยูกิ จะเป็นการต่อสู้ที่น่าตื่นเต้นมาก เขาเป็นนักมวยที่เก่ง เตะได้ดี ซึ่งผมก็เตะได้ดีเหมือนกัน ในวันนั้น ผมจะเตะให้เก่งกว่าเขา ผมมีความสุขทุกครั้งที่ได้กลับมาชกที่ญี่ปุ่น นัดประวัติศาสตร์ครั้งนี้ มีแต่คู่มวยดี ๆ เป็นซูเปอร์ไฟต์ หนึ่งในนั้นคือการเจอกันของผมกับยูกิ ผมเชื่อว่าทุกคนอยากดูการแลกแข้งของเราสองคนครับ”

ขณะที่ “แสตมป์ แฟร์เท็กซ์” อดีตแชมป์โลก ONE รุ่นอะตอมเวต 3 กติกา หายเจ็บฟิตคืนสังเวียนในรอบกว่า 2 ปี พร้อมลุยดวลสาวแกร่งเจ้าบ้าน “คานะ โมริโมโตะ” ในกติกาคิกบ็อกซิ่ง รุ่นอะตอมเวต

งานนี้ “แสตมป์” ยืนยันฟิตหายห่วงพร้อมลุยเต็มที่แน่นอน “ไฟต์นี้ไม่มีความกังวลใจ แค่อยากรู้ว่าร่างกายเป็นอย่างไรบ้างในครั้งนี้ หนูหวังว่าจะชนะในวันที่ 16 พ.ย.นี้ จะได้เป็นของขวัญวันเกิดด้วย เพราะชกตรงกับวันเกิดพอดี หนูจะพัฒนาตัวเอง และทำทุกอย่างที่ทำได้เพราะ คานะ เก่งมาก หนูต้องเก่งกว่าเขา”

ส่วน “คานะ” เผยว่า “ฉันได้ยินมาว่า แสตมป์ จะกลับมาหลังจากบาดเจ็บ และฉันรู้ว่าต้องเจอกับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่ง แต่ฉันก็มีพลังน็อกเอาต์เป็นจุดเด่น คิดว่าเราน่าจะสู้กันได้อย่างสนุก เดือน พ.ย.นี้ เรามาสู้กันให้เต็มที่ ฉันตั้งตารอให้ถึงวันนั้นค่ะ”

อีกหนึ่งคู่ที่ห้ามพลาดคือศึกชิงเข็มขัดแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นอะตอมเวต เส้นแรกในประวัติศาสตร์ ระหว่าง “นาดากะ” จอมบู๊เลือดซามูไรที่ไม่แพ้ใครติดต่อกันถึง 39 ไฟต์ ปะทะ “หนุ่มสุรินทร์ ช.เกตุวีณา” กำปั้นจากศรีสะเกษ ที่เพิ่งคว้าสัญญา ONE ฉบับที่ 32 มาครอง

โดย “นาดากะ” เผยว่า “ผมมีโอกาสที่จะได้เป็นแชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นอะตอมเวต คนแรก และดีใจมากที่จะได้ชกกับ หนุ่มสุรินทร์ ถ้าผมสามารถคว้าแชมป์ครั้งนี้ได้ ถือว่าผมได้สร้างประวัติศาสตร์ และทุกคนที่รักศิลปะการต่อสู้จะต้องพูดถึงเรื่องนี้ไปตลอดเส้นทางอาชีพของผมครับ”

โอกาสนี้ “หนุ่มสุรินทร์” ที่เป็นม้ามืดคว้าตั๋วมาบู๊ศึกใหญ่เปิดใจว่า “ผมดีใจมากที่ได้มาชกที่ญี่ปุ่นในครั้งนี้ ตั้งเป้าเอาไว้ว่าจะเอาแชมป์กลับประเทศไทยให้ได้ เพราะเป็นครั้งแรกของรุ่นนี้ที่มีการชิงเข็มขัดกันด้วยครับ”

นอกจากนี้ ยังมีการดวลกันระหว่างนักชกซูเปอร์สตาร์ “ทาเครุ เซกาวา” เจ้าของตำแหน่งผู้ท้าชิงอันดับ 3 ของแรงกิง ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นฟลายเวต ชิงแต้มกู้ศรัทธากับ “เดนิส พูริช” จอมบู๊เก๋าเกม ตัวแทนจากบอสเนีย-แคนาดา ในกติกาคิกบ็อกซิ่ง รุ่นฟลายเวต

ครั้งนี้ “ทาเครุ” แสดงความมุ่งมั่นว่า “ผมเคยเจอ เดนิส ประมาณ 2-3 ครั้งตามรายการต่าง ๆ ผมเคยดูไฟต์ที่เขาเจอกับ รถถัง สไตล์ของเขาถอดแบบมาจากผมเลยครับ”

ส่วน “เดนิส” กล่าวว่า “ผมรู้ว่าการชกที่ญี่ปุ่นเป็นเรื่องสำคัญสำหรับ ทาเครุ และแฟนๆ ชาวญี่ปุ่นก็พร้อมที่จะหนุนหลังเขาอย่างเต็มที่ แต่ยิ่งแฟนๆ เชียร์เขามากเท่าไหร่ ก็ยิ่งทำให้ผมตั้งใจมากขึ้นเท่านั้น ผมจะเอาชนะเขาให้ได้ และผมจะน็อกเขาด้วยครับ”

นอกจากนี้ ยังมีนักสู้ชื่อดังร่วมแถลงข่าว อาทิ “ยูยะ วากามัตสึ” แชมป์โลก ONE MMA รุ่นฟลายเวต ที่จะป้องกันเข็มขัดครั้งแรกจาก “โจชัว พาซิโอ” แชมป์โลก ONE MMA รุ่นสตรอว์เวต จากฟิลิปปินส์ ที่หวังเป็นแชมป์โลก 2 รุ่น และ “มารัต กริกอเรียน” นักชกคิกบ็อกซิ่งระดับตำนานจากอาร์เมเนีย ปะทะ “รูคิยะ อันโปะ” กำปั้นหน้าใหม่เจ้าถิ่นเจ้าของอดีตแชมป์ K-1 ที่จะมาโชว์ฝีมือครั้งแรก โดยทั้งหมดพร้อมสู้กันสุดฝีมือเพื่อให้สมศักดิ์ศรีอีเวนต์ใหญ่ระดับโลก

ทำไมคุณถึงไม่ควรพลาด ONE 173

ศึก ONE 173 สุดอลังการ ไม่ได้เป็นเพียงแค่รายการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ แต่เป็นมหกรรมที่รวมเอายอดฝีมือจากทั่วทุกมุมโลกมาไว้ในที่เดียว การชิงแชมป์โลกถึง 6 เส้น และการมีนักกีฬาไทยถึง 7 คนเข้าร่วม ทำให้ศึกนี้เป็นสิ่งที่แฟนกีฬาชาวไทยไม่ควรพลาดชมอย่างยิ่ง! เตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการระเบิดความมันส์ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 16 พฤศจิกายน 2568 นี้

แฟนกีฬาสามารถซื้อบัตรเข้าชมศึก ONE 173 ในสนามได้แล้ววันนี้ผ่านทาง ONEFC.com/one173/ และติดตามข่าวสารอัปเดตของศึกนี้ได้ที่เว็บไซต์ ONEFC.com รวมถึงโซเชียลมีเดียของ ONE ประเทศไทย ได้แก่ Facebook ONE Championship Thailand Instagram ONEChampTh และ TikTok ONEChampTH

ที่มา – ONE 173 สุดอลังการ ประกบ 14 คู่ชก ชิงเข็มขัดแชมป์โลก 6 เส้น ที่ญี่ปุ่น

ผมอยากให้แม่สบาย! ชาโด้ คว้าชัย เปิดใจสุดซึ้ง

ผมอยากให้แม่สบาย! ชาโด้ เปิดใจหลังน็อก คูยาเต้ ยก 2 คว้าโบนัส 1.7 ล้าน

“ชาโด้ สิงห์มาวิน” น็อก บัมปารา คูยาเต ในยกที่ 2 ว้าโบนัส 1.7 ล้าน ก่อนออกมาเปิดใจซึ้งถึงแม่ หลังต้องผ่านความยากลำบากมาด้วยกัน “ผมไม่ได้เป็นคนที่แข็งแกร่ง แต่ผมถูกคนที่แข็งแกร่งเลี้ยงมาครับ”

ศึก ONE Fight Night 35 ถ่ายทอดสดจากสนามมวยเวทีลุมพินี (รามอินทรา) เวลา 08.00 น. วันเสาร์ที่ 6 ก.ย.นี้

คู่ที่น่าสนใจ เป็นการชกภายใต้กติกามวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต ในฐานะคู่รอง “ชาโด้ สิงห์มาวิน” มือวางอันดับ 3 ขึ้นสังเวียนปะทะ “บัมปารา คูยาเต” ผู้ท้าชิงอันดับ 2 ONE มวยไทย รุ่นเฟเธอร์เวต เพื่อพิสูจน์ตัวเองว่าคู่ควรเป็นผู้ท้าชิงคนต่อไปของ “ตะวันฉาย พีเค.แสนชัย” เจ้าของเข็มขัดแชมป์โลก

ผลการชกปรากฎว่า ชาโด้ สิงห์มาวิน ออกมาเดินเครื่องดักต่อย เวลา 1.20 นาที ปิดเกม บัมปารา คูยาเต้ ยกที่ 2 คว้าโบนัสก้อนโตมูลค่า 50,000 USD (ราว 1.7 ล้านบาท)

หลังการชก ชาโด้ สิงห์มาวิน เปิดใจว่า “ผมไม่ได้เป็นคนที่แข็งแกร่ง แต่ผมถูกคนที่แข็งแกร่งเลี้ยงมาครับ ผมอยากให้แม่ของผมสบาย ผมกับแม่ไปทำงานขุดมันได้วันละ 250 บาท วันที่ผมเป็นไข้ผมยังหยุดได้ แต่แม่หยุดไม่ได้ เพราะถ้าแม่หยุด จะไม่มีเงินกินข้าว” เรื่องราวของชาโด้เป็นแรงบันดาลใจให้ใครหลายคน

“ผมอยากให้แม่สบาย!” ชาโด้ สิงห์มาวิน นักสู้ผู้กตัญญู

ชาโด้ สิงห์มาวิน กลายเป็นที่รู้จักในวงกว้าง ไม่ใช่แค่ฝีมือการต่อสู้ที่ดุดัน แต่เป็นเรื่องราวชีวิตที่แสนลำบากและความกตัญญูที่มีต่อแม่ของเขา คำพูดที่ว่า “ผมอยากให้แม่สบาย” กลายเป็นวลีที่กินใจคนทั้งประเทศ สะท้อนให้เห็นถึงความรักที่ยิ่งใหญ่ของลูกที่มีต่อแม่ ผู้ที่เลี้ยงดูเขามาด้วยความยากลำบาก

ชัยชนะครั้งนี้ ไม่ได้มีความหมายแค่เงินรางวัลและชื่อเสียง แต่เป็นโอกาสที่ชาโด้จะได้ตอบแทนพระคุณแม่ ทำให้แม่มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น หลังจากที่ต้องเผชิญกับความยากลำบากมาด้วยกัน

เรื่องราวของชาโด้เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่า ความกตัญญูและความพยายาม สามารถนำพาเราไปสู่ความสำเร็จได้ แม้ว่าชีวิตจะเริ่มต้นจากจุดที่ยากลำบากเพียงใดก็ตาม

แน่นอนว่าหลังจากนี้ เส้นทางของชาโด้ สิงห์มาวิน จะเต็มไปด้วยความท้าทายที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม แต่ด้วยหัวใจที่แข็งแกร่งและความกตัญญูที่มีต่อแม่ เขาจะสามารถก้าวผ่านอุปสรรคทุกอย่างไปได้อย่างแน่นอน

ความสำเร็จของชาโด้ในครั้งนี้ เป็นเครื่องพิสูจน์ให้เห็นว่า การมีเป้าหมายที่ชัดเจนและความมุ่งมั่นที่จะทำให้คนที่เรารักมีความสุข คือแรงผลักดันที่ยิ่งใหญ่ที่สุด

เตรียมเชียร์และให้กำลังใจชาโด้ สิงห์มาวิน ในการแข่งขันครั้งต่อไป และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนนักกีฬาไทยให้ก้าวไกลสู่ระดับโลก

เรื่องราวของชาโด้ สิงห์มาวิน สอนให้เรารู้ว่า ไม่ว่าชีวิตจะยากลำบากแค่ไหน หากเรามีความกตัญญูและความมุ่งมั่นตั้งใจ เราก็จะสามารถสร้างอนาคตที่ดีได้

ที่มา – ผมอยากให้แม่สบาย! ชาโด้ เปิดใจหลังน็อก คูยาเต้ ยก 2 คว้าโบนัส 1.7 ล้าน

เจริญสุข เผยวิธีลดน้ำหนักแบบใหม่ ชิงแชมป์ราชดำเนิน

“แซมซั่นล้านนา” เจริญสุข บุญลานนามวยไทย เผยวิธีลดน้ำหนักแบบใหม่ที่คิดว่าเหมาะกับตัวเองที่สุด เพื่อใช้เตรียมตัวชกชิงแชมป์ว่างรุ่นแบนตัมเวตราชดำเนิน กับ ฉลามดำ นายกเอท่าศาลา ในศึก RWS คืนนี้

เจริญสุข เผยวิธีลดน้ำหนักแบบใหม่ สำหรับไฟต์ชิงแชมป์ราชดำเนินโดยเฉพาะ

เจริญสุขเผยว่า ตอนนี้ใช้วิธีลดน้ำหนักแบบนักเพาะกาย ไม่ต้องวิ่งรีดเหงื่อแบบใส่เสื้อลดน้ำหนัก แต่ใช้วิธีกินโปรตีนให้ถึง และลดข้าวลงมา เพราว่าการวิ่งลดน้ำหนักใส่เสื้อรีดเหงื่อยิ่งจะทำให้กล้ามเนื้อหาย แต่วิธีนี้จะต้องกินน้ำเยอะๆ วันละประมาณ 7-8 ลิตร กินเยอะ มันก็ยิ่งออกเยอะ ส่วนโปรตีนก็ต้องกินพวกไก่ ปลา กุ้ง ต้องกินวันละประมาณ 1 กิโลกรัม

ทำไมเจริญสุขถึงเลือกวิธีลดน้ำหนักแบบใหม่?

ก่อนหน้านี้ เจริญสุขเคยใช้วิธีการลดน้ำหนักแบบเดิมๆ คือการวิ่งรีดเหงื่อ ซึ่งเขารู้สึกว่ามันทำให้ร่างกายอ่อนเพลียและสูญเสียกล้ามเนื้อ ทำให้ประสิทธิภาพในการชกลดลง ดังนั้นเขาจึงมองหาวิธีการลดน้ำหนักแบบใหม่ที่สามารถรักษากล้ามเนื้อและให้พลังงานที่เพียงพอสำหรับการฝึกซ้อมและการแข่งขัน

วิธีการลดน้ำหนักแบบนักเพาะกายที่เจริญสุขเลือกใช้ เน้นการควบคุมอาหาร โดยเพิ่มปริมาณโปรตีนและลดปริมาณคาร์โบไฮเดรต โปรตีนเป็นสารอาหารที่สำคัญสำหรับการสร้างและซ่อมแซมกล้ามเนื้อ ในขณะที่คาร์โบไฮเดรตเป็นแหล่งพลังงานหลักของร่างกาย การลดปริมาณคาร์โบไฮเดรตจะช่วยให้ร่างกายดึงไขมันมาใช้เป็นพลังงานมากขึ้น ทำให้ลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การดื่มน้ำในปริมาณมากยังช่วยให้ระบบเผาผลาญทำงานได้ดีขึ้นและขับของเสียออกจากร่างกาย

ด้านการซ้อม ช่วงบ่ายสามก็ซ้อมตามปกติ จนถึงประมาณหกโมงก็ไปที่ยิมเพื่อเล่นเวท ตอนนี้รู้สึกมีกล้ามเนื้อเพิ่มมากขึ้น ไม่แห้งเหมือนไฟต์ที่แล้ว รู้สึกว่าการลดน้ำหนักแบบนี้ไม่ทำให้ตนโหยหรือเพลียเหมือนแต่ก่อน แต่กลับรู้สึกสดชื่น ตอนนี้รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงว่ารูปร่าง กล้ามเนื้อ ความสมบูรณ์ อยู่ในช่วงที่ดีที่สุด ใช้วิธีนี้มาได้ประมาณหนึ่งเดือนแล้ว ไฟต์นี้เป็นไฟต์ชิงแชมป์ พร้อมและมั่นใจว่าจะเป็นแชมป์ราชดำเนินให้ได้

เจริญสุขยังกล่าวอีกว่า เขาพอใจกับผลลัพธ์ที่ได้จากการใช้วิธีลดน้ำหนักแบบใหม่นี้ เขารู้สึกว่าร่างกายแข็งแรงขึ้น มีพลังงานมากขึ้น และสามารถฝึกซ้อมได้อย่างเต็มที่ เขามั่นใจว่าวิธีนี้จะช่วยให้เขาคว้าแชมป์ราชดำเนินมาครองได้สำเร็จ

หากไฟต์นี้ เจริญสุขสมารถคว้าแชมป์ได้แบบเดินลุยไม่มีหมด วิธีลดน้ำหนักของเจริญสุข ก็อาจทำให้วงการมวยตื่นตัว และมีวิธีการยกระดับการทำน้ำหนักไปอีกขั้นก็ได้ นอกจากนี้ เจริญสุข เผยวิธีลดน้ำหนักแบบใหม่ ยังเป็นแรงบันดาลใจให้นักมวยคนอื่นๆ หันมาใส่ใจเรื่องโภชนาการและการดูแลรักษาร่างกายมากยิ่งขึ้น

เจริญสุข เผยวิธีลดน้ำหนักแบบใหม่ นี้แสดงให้เห็นว่าการลดน้ำหนักที่ถูกต้อง ไม่จำเป็นต้องทรมานร่างกายด้วยการอดอาหารหรือออกกำลังกายอย่างหนัก แต่ควรเน้นการควบคุมอาหารและออกกำลังกายอย่างเหมาะสม เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงและมีพลังงานที่เพียงพอสำหรับการฝึกซ้อมและการแข่งขัน

เจริญสุข เผยวิธีลดน้ำหนักแบบใหม่ ที่เน้นการกินโปรตีนสูงและเล่นเวทเทรนนิ่ง อาจเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักมวยที่ต้องการลดน้ำหนักและเพิ่มกล้ามเนื้อ หากคุณเป็นนักมวยที่กำลังมองหาวิธีลดน้ำหนักแบบใหม่ ลองศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการของเจริญสุขและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการและการออกกำลังกาย เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

ที่มา – เจริญสุข เผยวิธีลดน้ำหนักแบบใหม่ สำหรับไฟต์ชิงแชมป์ราชดำเนินโดยเฉพาะ