กันจอมพลัง

กัน จอมพลัง ร่ำไห้ ขอพัก! แจงรถหรู

กัน จอมพลัง ร่ำไห้ ประกาศขอพัก ใช้เวลาอยู่กับลูก แจงแล้วปมรถหรู เฟอร์รารี่แดง พร้อมยื่นให้มหาดไทยตรวจสอบมูลนิธิกัน จอมพลังช่วยสู้

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 24 ต.ค.68 ที่กระทรวงมหาดไทย นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง ร่ำไห้ เดินทางมายื่นหนังสือร้องให้ตรวจสอบมูลนิธิ กัน จอมพลัง ช่วยสู้

กัน จอมพลัง ร่ำไห้ กล่าวว่า หลังจากแถลงข่าวเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ก็รู้สึกโล่งใจ และสบายใจขึ้น เพราะแฟนคลับเข้าใจ เนื่องจากทุกประเด็นสามารถชี้แจงด้วยเอกสารได้ ไม่ใช่เพียงแค่การพูดจากปากเท่านั้น ขณะนี้การแสดงเอกสารเป็นที่เรียบร้อย เพื่อความชัดเจน และความโปร่งใส เพื่อแสดงความถูกต้องและความชัดเจน

วันนี้จึงเดินทางมายื่นหนังสือคำร้องตรวจสอบมูลนิธิกัน จอมพลังช่วยสู้ ที่ตัวเองเป็นคนก่อตั้ง เพื่อเป็นบรรทัดฐานให้กับมูลนิธิอื่น โดยตนเชื่อว่าขั้นตอนการตรวจสอบของกระทรวงมหาดไทยจะมีระบบ มีกลไกรูปแบบการตรวจสอบที่เป็นของกระทรวงฯอยู่แล้ว ซึ่งเรายินดีให้ความร่วมมือทุกอย่าง ซึ่งกระทรวงมหาดไทยสามารถชี้อยู่ ชี้ไปให้กับมูลนิธิได้เลย

นอกจากกระทรวงมหาดไทยแล้ว หากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ป.ป.ง. หรือหน่วยงานอื่นๆ ต้องการข้อมูลอะไรหรืออยากจะตรวจสอบตนเองก็ยินดี และพร้อมให้ตรวจสอบ

กัน จอมพลัง ระบุว่า “ถ้าเราไม่บริสุทธิ์ใจเราไม่มาตรงนี้” นอกจาก กัน จอมพลัง ระบุว่า ทุกคนที่โอนเงินมูลนิธิมีตัวตนหมด และถ้าหากเป็นการฟอกเงินหรือมูลนิธิม้า จะมายืนตรงนี้ให้ตรวจสอบทำไม

เมื่อถามว่ารู้สึกว่าตัวเองถูกลอยแพหรือไม่ ที่เมื่อเช้า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รองนายกฯ บอกไม่รู้เรื่อง และระบุว่า “กัน จอมพลัง เหมือนมือใหม่หัดขับ” กัน จอมพลัง ยอมรับว่า ร.อ.ธรรมนัส ก็พูดถูก เพราะเราทุกคนใหม่หมด เรามาด้วยความที่อยากให้ทุกอย่างรวดเร็ว ยอมรับทุกอย่างเป็นเรื่องจริง ไม่โทษใคร เรื่องนี้ทำให้ส่งผลกระทบกับหลายคน ทั้งร.อ.ธรรมนัสที่เอาชื่อมา ในฐานะลูกผู้ชายตนเองขอยอมรับและขอโทษ ซึ่งการจัดตั้งมูลนิธิขึ้นมา ยืนยันว่าตัวเองไม่ได้ปรึกษากับ ร.อ.ธรรมนัส แต่ปรึกษากับเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิธรรมนัส พรหมเผ่า ซึ่งต้องแยกว่าตัวมูลนิธิกับ ร.อ.ธรรมนัสไม่ใช่คนเดียวกัน พร้อมกล่าวย้ำว่า ต้องขอโทษด้วยครับ

เมื่อถามว่าสนิทกับ ร.อ.ธรรมนัสทำไม ถึงไม่พูดคุยกับร.อ.ธรรมนัส เรื่องนี้ กัน จอมพลัง ร่ำไห้ ระบุว่า เพราะตนอยากได้ความรวดเร็ว ส่วนที่ร.อ.ธรรมนัส ตำหนิกัน จอมพลังว่าทำอะไรไม่ค่อยคิด ก็ยอมรับว่าบางครั้งก็ไม่ได้คิดเยอะ ก็เป็นคนๆ นึงที่มีความผิดพลาดได้

ส่วนที่มีคนกล่าวหาว่ามูลนิธิกันจอมพลัง ช่วยสู้เป็นมูลนิธิม้านั้น กัน จอมพลัง กล่าวว่า ทุกคนที่โอนเงินบริจาคเข้ามา มีเจตนาให้มูลนิธินำเงินไปใช้เพื่อโครงการต่างๆ ซึ่งมูลนิธิก็ทำตามวัตถุประสงค์ทุกคน จะเห็นได้จากการที่ตัวเองลงพื้นที่ช่วยเหลือสังคมมาโดยตลอด รวมถึงเรื่องสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยืนยันไม่ได้เอาเงินมาใช้ส่วนตัว ไม่ได้เป็นนอมินีใคร ถ้าหากใครที่เคยลงหน้างานกับตน จะทราบดีว่าว่าตัวเองทำงานจริงจังทุ่มเทขนาดไหน เสี่ยงขนาดไหนก็ไป

ส่วนเรื่องรถหรูที่มีคนตั้งข้อสังเกตนั้น กัน จอมพลัง ชี้แจงว่า วันนี้ตัวเองทำอะไรก็ถูกจับจ้อง เรื่องรถก็ไม่มีอะไร ตนซื้อมา แล้วรถไม่สามารถโอนได้จึงคืนเขาไป ซึ่งตนไม่ได้ใช้รถคันนั้นมาเป็นปีๆแล้ว พร้อมบอกว่ารถคันหรูขับมาตั้งแต่ขายบะหมี่แล้ว วันนี้จะกลับไปประชุมต่อที่โกดังของมูลนิธิ

“ส่วนที่มีคนกล่าวหาว่ามูลนิธิมีการถอนเงินสดออกมาจากธนาคาร ก็อยากให้มาแสดงหลักฐาน เพราะจากการตรวจสอบสเตทเม้นท์ ไม่พบการกดเงินสดออกมา” กัน จอมพลัง กล่าว

“ส่วนบทบาทการลงพื้นที่ หลังจากนี้จากการพูดคุย ผมจะขอใช้เวลาอยู่กับลูก แต่หากวันใดสังคมเรียกร้องก็จะกลับมา ส่วนจะหายไปนานหรือไม่ ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน เพราะสิ่งที่ขาดมาโดยตลอด ผมช่วยเหลือสังคมจนไม่มีเวลาอยู่กับครอบครัว และลูกสาว ถ้าทุกคนเห็นจะรู้ว่าน้องหมี่เกี๊ยว ลูกสาวหน้าตาเหมือนตัวเองมาก แต่ลูกกลับบอกว่าตัวเองหน้าตาเหมือนแม่ เพราะไม่ค่อยได้เจอผม เนื่องจากต้องไปช่วยเหลือสังคม แต่มูลนิธิก็จะขับเคลื่อนต่อไป”

กัน จอมพลัง พร้อมยืนยันว่า ไม่เคยรู้สึกเสียดายที่เคยช่วยเหลือสังคมมาโดยตลอด แต่ในวันนี้จะต้องยุติบทบาท เพราะตนได้ช่วยชีวิตคนหลายคนไปแล้ว ตรงนั้นถือว่าประสบความสำเร็จไปแล้ว ตนภูมิใจและยินดีมากๆ ที่ได้ลงมือทำ

“ผมไม่ทำให้ทุกคนผิดหวังแน่นอน ผมรู้ดีว่าทำอะไรอยู่ และทำอะไรลงไป แค่ทุกคนเห็นเอกสารเมื่อเช้าที่เปิดให้ดูก็คือเรื่องจริง ถ้าเราไม่ชัวร์เราต้องเละ แต่หากชัวร์ผมจะผ่านมันไปได้อย่างสง่างาม“ กันจอมพลังกล่าว

ขณะที่กัน จอมพลัง ให้สัมภาษณ์เสร็จ มีสีหน้าเศร้าน้ำตาคลอ เนื่องจากมีการกล่าวถึงลูกสาว ก่อนจะร้องไห้ออกมา เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่ามีอะไรอยากจะฝากถึงลูกสาวหรือไม่ กัน จอมพลัง ระบุว่า “ผมสละเวลากับลูกมามาก เวลาที่ผมอยู่กับลูกแทบไม่มี วันนี้ถามว่าจะมีสักกี่คนที่ทำแบบผม เชื่อว่าคงมี แต่ผมเป็นคนหนึ่งที่เอาเวลาครอบครัวมาเสียสละให้กับสังคม”

“ยอมรับว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ทำผิดพลาดกับครอบครัว ที่ไม่เคยมีเวลาให้ แต่พวกเขาก็ไม่เคยห้ามในการช่วยสังคม ผมจึงจะนำเวลาที่พักตรงนี้ไปให้ครอบครัว หมี่เกี๊ยวลูก วันนี้ปะป๊าไม่รู้ว่าหนูจะรู้ ในสิ่งที่ปะป๊าทำไหม แต่สักวันที่หนูโตขึ้นหนูจะภูมิใจในตัวปะป๊าและสิ่งที่ปะป๊าทำ การทำความดีมันยาก และในระหว่างทางอาจจะมีอุปสรรค แต่หนูจะรู้ว่ามีคนได้ประโยชน์จากสิ่งที่เราทำ ถ้าหนูจะเดินทางเดียวกับปะป๊าหนูจะต้องแข็งแกร่งมากกว่าปะป๊า”

กัน จอมพลัง ร่ำไห้ ประกาศขอพัก ใช้เวลาอยู่กับลูก แจงแล้วปมรถหรู

ทำไมกัน จอมพลัง ร่ำไห้ ถึงตัดสินใจพักงาน?

การตัดสินใจพักงานของ กัน จอมพลัง ร่ำไห้ ในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความสำคัญของการบาลานซ์ชีวิตส่วนตัวและชีวิตการทำงาน การอุทิศตนเพื่อสังคมเป็นสิ่งที่ดี แต่การดูแลครอบครัวก็เป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน การพักผ่อนและใช้เวลากับคนที่เรารัก จะช่วยให้เรามีพลังใจในการกลับมาทำสิ่งดีๆ เพื่อสังคมได้อีกครั้ง

ที่มา – กัน จอมพลัง ร่ำไห้ ประกาศขอพัก ใช้เวลาอยู่กับลูก แจงแล้วปมรถหรู เฟอร์รารี่แดง

กันจอมพลัง สำรวจหลักหมุดเขตแดนที่ 46

กันจอมพลัง พาสำรวจ หลักหมุดเขตแดนที่ 46 ชี้เขมรรุกล้ำเข้าเขตไทย ไม่เข้าใจจะเถียงทำไม ในเมื่อจะเส้นเขตไหนก็ล้ำเข้ามาในแผ่นดินไทย

วันที่ 28 ส.ค. 2568 นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กัน จอมพลัง พร้อมตำรวจตระเวนชายแดน และตัวแทนผู้สื่อข่าว เดินทางเข้าสำรวจหลักหมุดเขตแดนที่ 46 ที่เป็นหลักหมุดโบราณที่ตั้งอยู่กว่า 100 ปี โดยขณะที่เดินทางเข้าไปเจ้าหน้าที่ได้ขอความร่วมมือตั้งแถวตอนเรียงหนึ่ง เพื่อเดินตามเจ้าหน้าที่เข้าไปบริเวณด้านใน

ซึ่งระหว่างเข้าไปนั้น ทีมข่าวสังเกตุเห็นเจ้าหน้าที่ทหารที่ใช้เครื่องตรวจจับโลหะสแกนหาสิ่งแปลกปลอมและกับระเบิด พร้อมวางกำลังโดยรอบพื้นที่ เพื่อความปลอดภัยของคณะ โดยในจุดแรกเดินเข้าไปเกือบ 1 กิโลเมตร เป็นหลักเขตแดนที่ฝั่งของกัมพูชาที่คาดการไว้ว่าเป็นผืนแผ่นดินของฝั่งกัมพูชา หรือหากดูตามแผนที่ของทหารจะเป็นหลักเขตแดนเส้นสีแดง

ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้พาคณะเดินไปต่อโดยได้มีการสั่งห้ามให้ออกนอกเส้นทางเด็ดขาดและให้เดินตามแนวเส้นสีแดงเนื่องจากบริเวณโดยรอบนั้นยังมีการตรวจหาวัตถุระเบิด อีกทั้งในจุดดังกล่าวเป็นจุดอันตราย เจ้าหน้าที่ได้แจ้งว่าหากเกิดเหตุใดให้วิ่งย้อนกลับทางเดิมเพื่อความปลอดภัยของคณะ

เมื่อเดินเข้าไปอีกประมาณ 200 เมตร ตามแนวที่ทหารได้จัดเตรียมไว้ให้ก็ไปพบกับหลักหมุดเขตแดนที่ 46 ระหว่างกรุงสยามกับฝรั่งเศส โดยตัวอักษรบนหลักหมุดเขตแดนนั้นหากหันหน้าเข้าฝั่งไทย จะมีภาษาไทยอยู่ด้านบนสุดระบุว่า “กรุงสยาม” และตามด้วยภาษาอังกฤษและภาษากัมพูชา ส่วนอีกฝั่ง จะมีภาษากัมพูชาที่แปลว่ากรุงกัมพูชาอยู่ด้านบนสุดและตามด้วยภาษาอังกฤษและภาษาไทย ซึ่งหากเป็นหลักสูตรโบราณของจริงจะมีเส้นต่อแดนแบ่งกลางระหว่างสองฝั่งประเทศ

กันจอมพลัง พาสำรวจ หลักหมุดเขตแดนที่ 46 ชี้เขมรรุกล้ำเข้าเขตไทย ไม่เข้าใจจะเถียงทำไม

กันจอมพลัง พาสำรวจ หลักหมุดเขตแดนที่ 46 ชี้เขมรรุกล้ำเข้าเขตไทย ไม่เข้าใจจะเถียงทำไม

นายกัณฐัศว์ เปิดเผยว่า หลักหมุดดังกล่าวนั้น เป็นหลักหมุดโบราณเป็นเสาเขตแดนเก่า ซึ่งหลังจากที่ลงพื้นที่มาแล้วได้ดูแผนที่พบว่า จะเป็นหลักเขตแดนตามแนวเส้นสีแดงที่เขากล่าวอ้างหรือหลักเขตโบราณตามเส้นสีเหลืองที่ตั้งอยู่ถัดเข้ามาอีก ก็เห็นว่ารุกล้ำผืนแผ่นดินไทยอยู่ดี จึงตั้งคำถามว่า อีกฝ่ายจะเถียงไปทำไมในเมื่อจะเส้นเขตไหนก็ล้ำเข้ามาในแผ่นดินไทย

นอกจากนี้ทีมข่าวยังได้สอบถามตำรวจตระเวนชายแดนที่ร่วมเดินเข้าไปสำรวจหลักเขตแดนว่าในพื้นที่ดังกล่าวนั้นเคยตรวจสอบพบทุ่นระเบิด PMN-2 หรือไม่ ทางเจ้าหน้าที่เปิดเผยว่าในจุดดังกล่าวยังไม่พบทุนระเบิดชนิดนี้แต่พบทุนระเบิดชนิดโบราณอยู่เต็มพื้นที่แต่ก็ยืนยันไม่ได้ว่าจะไม่มีทุ่นระเบิด PMN-2 อยู่ในพื้นที่ จนกว่าจะมีการตรวจสอบพบ

กันจอมพลัง พาสำรวจ หลักหมุดเขตแดนที่ 46 ชี้เขมรรุกล้ำเข้าเขตไทย ไม่เข้าใจจะเถียงทำไม

จากการลงพื้นที่สำรวจหลักหมุดเขตแดนที่ 46 ในครั้งนี้ ทำให้เห็นถึงปัญหาความซับซ้อนของการปักปันเขตแดน และความจำเป็นในการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง เพื่อรักษาอธิปไตยของชาติ และความปลอดภัยของประชาชน

ความสำคัญของหลักหมุดเขตแดนที่ 46

การสำรวจหลักหมุดเขตแดนที่ 46 ครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำถึงความสำคัญของการรักษาและปกป้องอธิปไตยของชาติ การที่นายกัณฐัศว์ หรือกัน จอมพลัง ลงพื้นที่ด้วยตนเอง แสดงให้เห็นถึงความห่วงใย และความตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน

สถานการณ์บริเวณชายแดนยังคงมีความละเอียดอ่อน การดำเนินการใดๆ ต้องเป็นไปอย่างรอบคอบ รัดกุม และคำนึงถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ การเจรจาและการแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธี เป็นทางออกที่ดีที่สุด เพื่อรักษาความสงบสุข และความมั่นคงในภูมิภาค

เป็นเรื่องที่น่าติดตามว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการอย่างไรต่อไป เพื่อแก้ไขปัญหาการรุกล้ำเขตแดน และสร้างความชัดเจนในเรื่องพรมแดนระหว่างประเทศ

ที่มา – กันจอมพลัง พาสำรวจ หลักหมุดเขตแดนที่ 46 ชี้เขมรรุกล้ำเข้าเขตไทย ไม่เข้าใจจะเถียงทำไม