Rws

ขุนศึกเล็ก – ขุนศึกน้อย บูมเด็กเซียน คว้าชัยคู่ ศึก RWS เสาร์ 27 ก.ย.

ในศึก RWS วันเสาร์ที่ 27 กันยายน ที่ผ่านมา แฟนมวยไทยได้ตื่นเต้นไปกับฟอร์มการชกที่ร้อนแรงของสองนักมวยรุ่นเยาว์ฝาแฝด “แฝดกระนวน” จากค่ายบูมเด็กเซียน นั่นคือ ขุนศึกเล็ก และ ขุนศึกน้อย ที่สามารถคว้าชัยชนะคู่กันได้อย่างน่าประทับใจ โดยทั้งคู่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพที่โดดเด่น สร้างความฮือฮาให้กับผู้ชมในสนามและผู้ติดตามข่าวมวยทั่วประเทศ

ขุนศึกเล็ก – ขุนศึกน้อย บูมเด็กเซียน คว้าชัยคู่ ศึก RWS เสาร์ 27 ก.ย.

ศึก RWS ครั้งนี้ถือเป็นเวทีที่สำคัญสำหรับนักมวยรุ่นใหม่ โดยเฉพาะคู่นี้ที่ถูกจับตามองอย่างใกล้ชิด ขุนศึกเล็ก – ขุนศึกน้อย บูมเด็กเซียน คว้าชัยคู่ ศึก RWS เสาร์ 27 ก.ย. ทำให้ชื่อของทั้งสองดังกระฉ่อนในวงการมวยไทยอีกครั้ง ด้วยการเอาชนะคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งในสไตล์ที่แตกต่างกัน แต่ทั้งคู่ต่างก็โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม

ขุนศึกน้อย: ชัยชนะน็อกเอาต์สุดมันส์

เริ่มจาก ขุนศึกน้อย ที่ขึ้นเวทีพบกับ ดีเซลเล็ก จากเพชรยินดีอะคาเดมี่ นักชกจอมเก๋าที่มีประสบการณ์ล้นเหลือ การชกในยกแรกทั้งสองฝ่ายยังคงทดสอบกันอย่างระมัดระวัง แต่หลังจากนั้น ขุนศึกน้อยก็เริ่มแสดงจุดเด่นของตัวเองออกมา ในยกที่สอง เขาใช้การยั่วให้คู่ต่อสู้เปิดช่อง แล้วตามด้วยอาวุธศอกที่หนักหน่วง ก่อนจะปิดเกมด้วยลูกเตะก้านคอที่เป็นเอกลักษณ์ ถือเป็นการน็อกเอาต์ที่สะอาดและน่าตื่นเต้น

หลังการชก ขุนศึกน้อยให้สัมภาษณ์ด้วยรอยยิ้มว่า “หลังจากหมดยกแรก ผมมั่นใจแล้วว่ามีช่องว่างให้โจมตี รู้สึกโล่งใจมากที่เอาชนะรุ่นพี่ได้สำเร็จ” ชัยชนะนี้ไม่เพียงแต่เพิ่มความมั่นใจให้เขา แต่ยังเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงการฝึกซ้อมที่เข้มข้นจากค่ายบูมเด็กเซียน ซึ่งเน้นไปที่การพัฒนาอาวุธหมัด ศอก และเตะที่หลากหลาย

ขุนศึกเล็ก: การชกที่ต้องใช้ความอดทนสูง

ส่วน ขุนศึกเล็ก ต้องเผชิญหน้ากับ ซีอุย สิงห์มาวิน คู่ต่อสู้ที่ขึ้นชื่อเรื่องความแข็งแกร่งและการป้องกันที่แน่นหนา การชกของเขาต้องออกแรงหนักตั้งแต่เริ่มต้น โดยในยกแรก ขุนศึกเล็กเดินเกมรุกอย่างต่อเนื่อง แม้จะรู้สึกงงเล็กน้อยกับสไตล์ของคู่ต่อสู้ออกมา แต่หลังจากยกสอง เขาก็ปรับตัวได้ดีและเริ่มครองเกมได้

ในยกที่สาม อาวุธของซีอุยเริ่มอ่อนแรงลง ขุนศึกเล็กใช้โอกาสนี้เร่งเครื่องด้วยการต่อยและเตะที่แม่นยำ สุดท้ายกรรมการตัดสินให้ชัยชนะด้วยคะแนนเอกฉันท์ ขุนศึกเล็กกล่าวหลังชกว่า “ไฟต์นี้ผมเตรียมตัวพิเศษมาก เดินรุกตั้งแต่ต้น และมั่นใจว่าจะชนะตั้งแต่ยกสอง” ชัยชนะนี้แสดงให้เห็นถึงวินัยและความอดทนของเขา ที่ไม่ยอมแพ้แม้สถานการณ์จะยากลำบาก

ทั้งสองคนนี้เป็นฝาแฝดที่เติบโตมาด้วยกันในวงการมวย ตั้งแต่เด็กก็ฝึกชกมวยไทยที่ค่ายบูมเด็กเซียน ซึ่งเป็นค่ายที่มีชื่อเสียงในการปั้นนักมวยรุ่นเยาว์ให้กลายเป็นเซียน การชกคู่กันในศึก RWS ครั้งนี้ จึงไม่ใช่แค่การแข่งขัน แต่ยังเป็นการแสดงพลังของค่ายและวัฒนธรรมมวยไทยที่สืบทอดกันมา

นอกจากผลงานในวันนั้นแล้ว ขุนศึกเล็กยังประกาศเป้าหมายต่อไป โดยตั้งใจท้าชิง เพชรศิลา ว.อุรชา แชมป์ซูเปอร์แบนตัมเวตของราชดำเนิน เขากล่าวว่า “แม้เราจะเป็นเพื่อนกันนอกเวที แต่บนสังเวียนต้องสู้เต็มที่ หลังชกก็ยังเป็นพี่น้องเหมือนเดิม” คำประกาศนี้สร้างกระแสในหมู่แฟนมวยที่รอคอยการปะทะครั้งใหญ่

จากมุมมองของผู้เชี่ยวชาญ การคว้าชัยของขุนศึกเล็ก – ขุนศึกน้อย บูมเด็กเซียน คว้าชัยคู่ ศึก RWS เสาร์ 27 ก.ย. ถือเป็นสัญญาณดีสำหรับอนาคตของมวยไทยรุ่นใหม่ พวกเขามีเทคนิคที่หลากหลายและจิตใจที่เข้มแข็ง ซึ่งจะช่วยยกระดับกีฬานี้ให้เป็นที่นิยมมากขึ้น หากคุณเป็นแฟนมวย ไม่ควรพลาดการติดตามเส้นทางของสองพี่น้องคู่นี้

  • จุดเด่นของขุนศึกน้อย: อาวุธศอกและเตะก้านคอที่เฉียบคม
  • จุดเด่นของขุนศึกเล็ก: การปรับตัวและเกมรุกที่ต่อเนื่อง
  • อนาคต: ท้าชิงแชมป์ราชดำเนิน

ในฐานะแฟนมวยตัวยง ผมเชื่อว่าความสำเร็จครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของตำนานใหม่ในวงการ ลองติดตามข่าวสารมวยไทยเพิ่มเติมจากเว็บไซต์ของเรา เพื่อไม่พลาดทุกการอัปเดต

ที่มา – ขุนศึกเล็ก – ขุนศึกน้อย บูมเด็กเซียน คว้าชัยคู่ ศึก RWS เสาร์ 27 ก.ย.

เจริญสุข เผยวิธีลดน้ำหนักแบบใหม่ ชิงแชมป์ราชดำเนิน

“แซมซั่นล้านนา” เจริญสุข บุญลานนามวยไทย เผยวิธีลดน้ำหนักแบบใหม่ที่คิดว่าเหมาะกับตัวเองที่สุด เพื่อใช้เตรียมตัวชกชิงแชมป์ว่างรุ่นแบนตัมเวตราชดำเนิน กับ ฉลามดำ นายกเอท่าศาลา ในศึก RWS คืนนี้

เจริญสุข เผยวิธีลดน้ำหนักแบบใหม่ สำหรับไฟต์ชิงแชมป์ราชดำเนินโดยเฉพาะ

เจริญสุขเผยว่า ตอนนี้ใช้วิธีลดน้ำหนักแบบนักเพาะกาย ไม่ต้องวิ่งรีดเหงื่อแบบใส่เสื้อลดน้ำหนัก แต่ใช้วิธีกินโปรตีนให้ถึง และลดข้าวลงมา เพราว่าการวิ่งลดน้ำหนักใส่เสื้อรีดเหงื่อยิ่งจะทำให้กล้ามเนื้อหาย แต่วิธีนี้จะต้องกินน้ำเยอะๆ วันละประมาณ 7-8 ลิตร กินเยอะ มันก็ยิ่งออกเยอะ ส่วนโปรตีนก็ต้องกินพวกไก่ ปลา กุ้ง ต้องกินวันละประมาณ 1 กิโลกรัม

ทำไมเจริญสุขถึงเลือกวิธีลดน้ำหนักแบบใหม่?

ก่อนหน้านี้ เจริญสุขเคยใช้วิธีการลดน้ำหนักแบบเดิมๆ คือการวิ่งรีดเหงื่อ ซึ่งเขารู้สึกว่ามันทำให้ร่างกายอ่อนเพลียและสูญเสียกล้ามเนื้อ ทำให้ประสิทธิภาพในการชกลดลง ดังนั้นเขาจึงมองหาวิธีการลดน้ำหนักแบบใหม่ที่สามารถรักษากล้ามเนื้อและให้พลังงานที่เพียงพอสำหรับการฝึกซ้อมและการแข่งขัน

วิธีการลดน้ำหนักแบบนักเพาะกายที่เจริญสุขเลือกใช้ เน้นการควบคุมอาหาร โดยเพิ่มปริมาณโปรตีนและลดปริมาณคาร์โบไฮเดรต โปรตีนเป็นสารอาหารที่สำคัญสำหรับการสร้างและซ่อมแซมกล้ามเนื้อ ในขณะที่คาร์โบไฮเดรตเป็นแหล่งพลังงานหลักของร่างกาย การลดปริมาณคาร์โบไฮเดรตจะช่วยให้ร่างกายดึงไขมันมาใช้เป็นพลังงานมากขึ้น ทำให้ลดน้ำหนักได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การดื่มน้ำในปริมาณมากยังช่วยให้ระบบเผาผลาญทำงานได้ดีขึ้นและขับของเสียออกจากร่างกาย

ด้านการซ้อม ช่วงบ่ายสามก็ซ้อมตามปกติ จนถึงประมาณหกโมงก็ไปที่ยิมเพื่อเล่นเวท ตอนนี้รู้สึกมีกล้ามเนื้อเพิ่มมากขึ้น ไม่แห้งเหมือนไฟต์ที่แล้ว รู้สึกว่าการลดน้ำหนักแบบนี้ไม่ทำให้ตนโหยหรือเพลียเหมือนแต่ก่อน แต่กลับรู้สึกสดชื่น ตอนนี้รู้สึกถึงความเปลี่ยนแปลงว่ารูปร่าง กล้ามเนื้อ ความสมบูรณ์ อยู่ในช่วงที่ดีที่สุด ใช้วิธีนี้มาได้ประมาณหนึ่งเดือนแล้ว ไฟต์นี้เป็นไฟต์ชิงแชมป์ พร้อมและมั่นใจว่าจะเป็นแชมป์ราชดำเนินให้ได้

เจริญสุขยังกล่าวอีกว่า เขาพอใจกับผลลัพธ์ที่ได้จากการใช้วิธีลดน้ำหนักแบบใหม่นี้ เขารู้สึกว่าร่างกายแข็งแรงขึ้น มีพลังงานมากขึ้น และสามารถฝึกซ้อมได้อย่างเต็มที่ เขามั่นใจว่าวิธีนี้จะช่วยให้เขาคว้าแชมป์ราชดำเนินมาครองได้สำเร็จ

หากไฟต์นี้ เจริญสุขสมารถคว้าแชมป์ได้แบบเดินลุยไม่มีหมด วิธีลดน้ำหนักของเจริญสุข ก็อาจทำให้วงการมวยตื่นตัว และมีวิธีการยกระดับการทำน้ำหนักไปอีกขั้นก็ได้ นอกจากนี้ เจริญสุข เผยวิธีลดน้ำหนักแบบใหม่ ยังเป็นแรงบันดาลใจให้นักมวยคนอื่นๆ หันมาใส่ใจเรื่องโภชนาการและการดูแลรักษาร่างกายมากยิ่งขึ้น

เจริญสุข เผยวิธีลดน้ำหนักแบบใหม่ นี้แสดงให้เห็นว่าการลดน้ำหนักที่ถูกต้อง ไม่จำเป็นต้องทรมานร่างกายด้วยการอดอาหารหรือออกกำลังกายอย่างหนัก แต่ควรเน้นการควบคุมอาหารและออกกำลังกายอย่างเหมาะสม เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงและมีพลังงานที่เพียงพอสำหรับการฝึกซ้อมและการแข่งขัน

เจริญสุข เผยวิธีลดน้ำหนักแบบใหม่ ที่เน้นการกินโปรตีนสูงและเล่นเวทเทรนนิ่ง อาจเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับนักมวยที่ต้องการลดน้ำหนักและเพิ่มกล้ามเนื้อ หากคุณเป็นนักมวยที่กำลังมองหาวิธีลดน้ำหนักแบบใหม่ ลองศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการของเจริญสุขและปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการและการออกกำลังกาย เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

ที่มา – เจริญสุข เผยวิธีลดน้ำหนักแบบใหม่ สำหรับไฟต์ชิงแชมป์ราชดำเนินโดยเฉพาะ

ด่วน99 เผยมั่นใจว่าจะชนะตั้งแต่ยก2 เร่งน็อกรับ3.5แสน

ด่วน99 เผยมั่นใจว่าจะชนะตั้งแต่ยก2 เลยเร่งน็อกยก3 รับโบนัส 3.5 แสนบาท

สมฉายา “คนโตตัวเล็ก” สำหรับ ด่วน99 อ.เพชรขุนศึก ที่ควงกำปั้นไล่ ถล่ม แหลมโพธิ์ ศิษย์คุณวสันต์ ลงไปกองกับเวทีพ่ายน็อกไปในยก 3 ในการชกเป็นคู่เอกศึก RWS คืนวันเสาร์ที่ 23 ส.ค. นอกจากด่วน99 จะแก้มือถอนแค้นได้ ยังสามารถคว้าแชมป์ไลต์ฟลายเวตราชดำเนินมาครองได้ และเป็นแชมป์รุ่นที่ 2 ของเวทีราชดำเนินอีกด้วย

หลังการชก ด่วน99 เปิดเผยว่ายังตื่นเต้นไม่หาย ยอมรับแหลมโพธิ์ยังมีความเร็วและความแข็งแกร่งเหมือนเดิม ในยกแรกรู้สึกอึดอัดเหมือนกัน เพราะยังจับทางไม่ได้ แต่พอยก 2 เห็นเขาโดนหมัดแล้วมีอาการสะดุ้ง ก็เลยเดินกดดันอย่างต่อเนื่อง ยก 2 หากมีเวลาอีกสัก 10 วินาที ก็มั่นใจว่าจะปิดเกมได้ แต่พอมายก 3 เห็นอาการแหลมโพธิ์ที่ยืนไม่นิ่ง ก็เลยไล่ถล่มจนสามารถเอาชนะน็อกได้

การชกในพิกัด 108 ปอนด์ ทำให้รู้สึกว่ามีความแข็งแรง มีอาวุธที่หนักขึ้น อนาคตก็คงขอชกในรุ่นนี้ไปก่อนหากจะทำขึ้นหรือลดลง ก็คงขอแค่ประมาณหนึ่งปอนด์เท่านั้น ตอนนี้ในรุ่น 108 ปอนด์ หากใครอยากได้เข็มขัดก็เชิญได้เลย ตนพร้อมที่จะชกกับทุกคน หรือหากแหลมโพธิ์ต้องการจะขอแก้มือ ก็ยินดีเสมอ

สำหรับโบนัส 350,000 บาท ก็รู้สึกดีใจมากที่ได้มา เพราะไม่คิดว่าจะชนะน็อกได้ ต้องขอบคุณทีมงาน RWS ที่มอบโบนัสให้ รับรองว่าในไฟต์ต่อๆไป จะต่อยให้ประทับใจแฟนมวยทุกครั้ง

ด่วน99 มั่นใจตั้งแต่ยกสอง

จากบทสัมภาษณ์หลังเกม เราได้เห็นถึงความมั่นใจของด่วน99 ที่มีต่อไฟต์นี้อย่างมาก โดยเจ้าตัวเผยว่าเริ่มจับทางคู่ต่อสู้ได้ตั้งแต่ยกที่สอง และมองเห็นโอกาสที่จะปิดเกมได้ตั้งแต่ตอนนั้น การเร่งเครื่องในยกที่สามจึงเป็นการตัดสินใจที่เด็ดขาด และนำมาซึ่งชัยชนะที่สวยงาม พร้อมโบนัสก้อนโตที่ทำให้เจ้าตัวดีใจเป็นอย่างมาก

ไฟต์นี้ถือเป็นการพิสูจน์ตัวเองของ ด่วน99 อย่างแท้จริง หลังจากที่เคยพลาดท่าให้กับแหลมโพธิ์มาแล้ว การกลับมาแก้มือได้อย่างสวยงาม พร้อมคว้าแชมป์มาครองได้สำเร็จ ยิ่งทำให้เส้นทางมวยของเจ้าตัวน่าติดตามมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ ด่วน99 ยังได้แสดงสปิริตนักกีฬาด้วยการเปิดโอกาสให้แหลมโพธิ์สามารถขอแก้มือได้เสมอ แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจในฝีมือของตนเอง และพร้อมที่จะเผชิญหน้ากับความท้าทายใหม่ๆ อยู่เสมอ

ชัยชนะครั้งนี้ของ ด่วน99 ไม่ได้เป็นเพียงแค่ชัยชนะบนสังเวียนผ้าใบเท่านั้น แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักมวยรุ่นหลัง และเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าด้วยความมุ่งมั่น ตั้งใจ และความเชื่อมั่นในตนเอง จะนำพาไปสู่ความสำเร็จได้อย่างแน่นอน

สำหรับแฟนมวยที่ติดตามผลงานของ ด่วน99 เผยมั่นใจว่าจะชนะตั้งแต่ยก2 เลยเร่งน็อกยก3 รับโบนัส 3.5 แสนบาท ก็คงต้องบอกว่าอย่าพลาดติดตามไฟต์ต่อๆ ไปของเจ้าตัว เพราะรับรองว่าเต็มไปด้วยความสนุก ตื่นเต้น และเร้าใจอย่างแน่นอน และเชื่อว่าด่วน99 จะยังคงสร้างผลงานที่ยอดเยี่ยมต่อไปในอนาคต

การที่ ด่วน99 เผยมั่นใจว่าจะชนะตั้งแต่ยก2 เลยเร่งน็อกยก3 รับโบนัส 3.5 แสนบาท แสดงให้เห็นถึงการอ่านเกมที่เฉียบขาดและความกล้าตัดสินใจบนเวที ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่สำคัญของนักมวยอาชีพ

ด่วน99 ยังกล่าวถึงความสำคัญของการได้รับการสนับสนุนจากทีมงาน RWS และความรู้สึกขอบคุณต่อโบนัสที่ได้รับ ซึ่งเป็นกำลังใจสำคัญในการพัฒนาฝีมือและสร้างสรรค์ผลงานที่ดียิ่งขึ้นไปอีก

โดยรวมแล้ว ไฟต์นี้เป็นอีกหนึ่งไฟต์ที่น่าจดจำในอาชีพการชกมวยของด่วน99 และเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าเจ้าตัวยังคงมีอนาคตที่สดใสรออยู่ข้างหน้าบนเส้นทางนักมวยอาชีพ

ที่มา – ด่วน99 เผยมั่นใจว่าจะชนะตั้งแต่ยก2 เลยเร่งน็อกยก3 รับโบนัส 3.5 แสนบาท

บูมเด็กเซียน ถ่อม ขุนศึกเล็ก ต้องแกร่งอีกแม้ชนะ

บูมเด็กเซียน ถ่อมตัว ขุนศึกเล็ก ต้องแกร่งอีกแม้ประเดิมคว้าชัยพิกัดใหม่

ศึก RWS เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา เป็นไฟต์แรกของ ขุนศึกเล็ก บูมเด็กเซียน ที่ขึ้นมาชกในพิกัดใหม่ 122 ปอนด์ แต่ก็ยังโชว์ฟอร์มสวย เอาชนะคะแนน หยกมรกต ว.สัข์ประไพ ได้อย่างสวยงาม ถือเป็นการขยับรุ่นครั้งแรกที่สร้างความประทับใจแก่แฟนมวยและวงการอย่างมาก อย่างไรก็ตาม บูมเด็กเซียน มองว่า ขุนศึกเล็ก ต้องแกร่งอีกแม้ประเดิมคว้าชัยพิกัดใหม่

บูม เด็กเซียน หัวหน้าค่ายของ ขุนศึกเล็ก เปิดเผยว่า แม้ลูกทีมจะโชว์ฟอร์มได้น่าพอใจ แต่ยังไม่ถึงเวลาที่เหมาะสมในการท้าชิงแชมป์กับ เพชรสมาน ส.สมานการ์เม้นท์ นักชกแถวหน้าของพิกัดนี้ โดยชี้ว่า ขุนศึกเล็ก ต้องแกร่งอีกแม้ประเดิมคว้าชัยพิกัดใหม่ ยังต้องเสริมความแข็งแกร่งของร่างกายและเก็บเกี่ยวประสบการณ์เพิ่ม เพื่อรับมือกับแรงปะทะอันหนักหน่วงของรุ่นใหม่ที่เพิ่งก้าวขึ้นมา

“ตอนนี้ขุนศึกเล็กยังเป็นเพียงไม้ประดับในรุ่น ต้องค่อย ๆ สร้างสมดีกรีให้แน่นขึ้น อีกทั้งยังมีนักชกฝีมือจัดจ้านอย่าง ดอกไม้ป่า รออยู่ จึงไม่ควรรีบร้อนชิงแชมป์หากยังไม่พร้อมเต็มร้อย”

บูม เด็กเซียน กล่าวทิ้งท้าย พร้อมย้ำว่าเส้นทางของขุนศึกเล็กยังอีกยาวไกล แต่หากพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง วันหนึ่งย่อมก้าวขึ้นสู่แถวหน้าของรุ่นได้แน่นอน

อนาคตของขุนศึกเล็ก บูมเด็กเซียน ในพิกัดใหม่

การประเดิมชัยชนะในพิกัด 122 ปอนด์ของขุนศึกเล็ก ถือเป็นสัญญาณที่ดี แต่ บูมเด็กเซียน เน้นย้ำว่ายังต้องพัฒนาอีกมาก โดยเฉพาะเรื่องของความแข็งแกร่งและประสบการณ์ เพราะการขยับรุ่นขึ้นมานั้นต้องเจอกับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งขึ้น มีพละกำลังมากขึ้น และมีลูกหนักที่แตกต่างจากพิกัดเดิม

การที่ขุนศึกเล็กจะก้าวขึ้นไปเป็นเบอร์ต้น ๆ ของรุ่น 122 ปอนด์ได้นั้น จำเป็นต้องมีการวางแผนการชกที่ดี การฝึกซ้อมที่เข้มข้น และการเก็บเกี่ยวประสบการณ์จากไฟต์ต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ การรีบร้อนท้าชิงแชมป์โดยที่ยังไม่พร้อม อาจส่งผลเสียต่อการพัฒนาในระยะยาวได้

สิ่งที่น่าสนใจคือ บูมเด็กเซียน มองเห็นศักยภาพของขุนศึกเล็ก และพร้อมที่จะค่อยๆ ปั้นให้เป็นนักชกที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริง การไม่เร่งรีบและให้ความสำคัญกับการพัฒนาในระยะยาว แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ของผู้จัดการทีมที่ไม่ต้องการให้ลูกทีมต้องเผชิญกับความล้มเหลวเร็วเกินไป

นอกจากเรื่องของความแข็งแกร่งและประสบการณ์แล้ว การปรับตัวให้เข้ากับสไตล์การชกของนักมวยในพิกัดใหม่ก็เป็นสิ่งสำคัญ ขุนศึกเล็กจะต้องเรียนรู้ที่จะใช้ความได้เปรียบของตัวเองให้เป็นประโยชน์ และปรับกลยุทธ์การชกให้เหมาะสมกับคู่ต่อสู้แต่ละราย

บูมเด็กเซียน ถ่อมตัว ขุนศึกเล็ก ต้องแกร่งอีกแม้ประเดิมคว้าชัยพิกัดใหม่ เป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาขุนศึกเล็กให้ก้าวไปสู่จุดสูงสุดในอาชีพนักมวย การมีผู้จัดการทีมที่มองเห็นศักยภาพและพร้อมที่จะสนับสนุนอย่างเต็มที่ จะเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ช่วยให้ขุนศึกเล็กประสบความสำเร็จได้ในอนาคต

การเอาชนะ หยกมรกต ว.สัข์ประไพ ได้นั้น เป็นเพียงก้าวแรกเท่านั้น เส้นทางข้างหน้ายังอีกยาวไกล และเต็มไปด้วยความท้าทาย แต่ด้วยความมุ่งมั่น ความตั้งใจ และการสนับสนุนที่ดี ขุนศึกเล็ก บูมเด็กเซียน มีโอกาสที่จะก้าวขึ้นไปเป็นนักชกแถวหน้าของวงการมวยไทยได้แน่นอน

สิ่งที่แฟนมวยต้องติดตามต่อไปคือ การพัฒนาของขุนศึกเล็กในไฟต์ต่อๆ ไป ว่าจะสามารถปรับตัวและพัฒนาตัวเองได้อย่างไรบ้าง และเมื่อไหร่ที่เขาจะพร้อมสำหรับการท้าชิงแชมป์ในพิกัด 122 ปอนด์

ที่มา – บูมเด็กเซียน ถ่อมตัว ขุนศึกเล็ก ต้องแกร่งอีกแม้ประเดิมคว้าชัยพิกัดใหม่

ซ้อเอ๋ปลื้ม! หนึ่งล้านเล็ก สู้สุดใจแม้พ่าย

ซ้อเอ๋ จิตรเมืองนนท์ ปลื้มสปิริต “หนึ่งล้านเล็ก จิตรเมืองนนท์” สู้ถวายชีวิตแม้สุดท้ายจะพ่าย ตะเภาแก้ว ยืนยันยังไม่ถึงเวลาวางนวม รวมโบนัส 2 ไฟต์ รับไป 850,000 บาท

สุนทรี โลหะพืช หรือ “ซ้อเอ๋” หัวหน้าค่ายมวยจิตรเมืองนนท์ ชื่นชมหัวใจนักสู้ของ “หนึ่งล้านเล็ก จิตรเมืองนนท์” ที่ทุ่มเทเต็มที่ในไฟต์ล่าสุด แม้จะแพ้คะแนนตะเภาแก้ว สิงห์มาวิน ซึ่งมีความสดและความแข็งแกร่งเหนือกว่า ในการชกเป็นคู่เอกศึก RWS นัด “ซูเปอร์ไฟต์” เมื่อ 9 สค. ที่ผ่านมา โดยในยกสอง หนึ่งล้านเล็ก จิตรเมืองนนท์ พยายามเร่งเกมหวังปิดบัญชี แต่พลาดฟันศอกไปโดนศีรษะตะเภาแก้วจนบวม ส่งผลให้แขนล้าและเสียเปรียบในเกมวงใน อย่างไรก็ตาม หนึ่งล้านเล็ก จิตรเมืองนนท์ ก็ยังคงสวมหัวใจสิงห์สู้ต่ออย่างไม่ย่อท้อจนครบ 5 ยก

ซ้อเอ๋เผยว่า วันนี้ยอมรับว่าตะเภาแก้วแกร่งจริงๆ ส่วนหนึ่งล้านเล็ก จิตรเมืองนนท์ ยังมองว่ามีศักยภาพที่จะสานต่อเส้นทางบนสังเวียน และจะให้ชกต่อไปจนกว่าเจ้าตัวจะบอกพอและตัดสินใจเลิกด้วยตัวเอง พร้อมย้ำว่าร่างกายในไฟต์นี้อยู่ที่ราว 90% แต่ก็ไม่อยากถอนอีกเพื่อไม่ให้กระทบต่อรายการ

สำหรับโบนัส 500,000 บาทจาก RWS ต้องขอบคุณทางทีมงานที่มอบให้ ถือเป็นรางวัลแห่งความพยายามและหัวใจนักสู้ โดยหนึ่งล้านเล็ก จิตรเมืองนนท์ ตั้งใจนำไปเป็นทุนการศึกษาให้บุตรสาว ทั้งนี้ คงจะให้หนึ่งล้านเล็ก จิตรเมืองนนท์ พักฟื้นสักระยะก่อนจะพูดคุยกันต่อไปในเรื่องของอนาคต

ก่อนหน้านี้ หนึ่งล้านเล็ก จิตรเมืองนนท์ เคยได้โบนัสจากไฟต์ชิงแชมป์เฉพาะกาลรุ่นเวลเตอร์เวต จากการชนะน็อก ชูเจริญ ดาบรันสารคาม ยก 1 เมื่อ 8 กพ.ที่ผ่านมา โดยในวันนั้นรับโบนัสไป 350,000 บาท หากรวมกับโบนัสก้อนล่าสุดที่ได้รับอีก 500,000 บาท เท่ากับว่าเฉพาะโบนัสที่ได้ไปจาก RWS ยังไม่รวมค่าตัว เขารับไปถึง 850,000 บาทแล้ว

ซ้อเอ๋ จิตรเมืองนนท์ ชื่นชมสปิริต หนึ่งล้านเล็ก จิตรเมืองนนท์

ซ้อเอ๋ จิตรเมืองนนท์ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์หลังจบการแข่งขัน RWS Superfight โดยแสดงความชื่นชมในสปิริตนักสู้ของ หนึ่งล้านเล็ก จิตรเมืองนนท์ ที่ถึงแม้จะพ่ายแพ้ให้กับตะเภาแก้ว สิงห์มาวิน แต่ก็สู้ได้อย่างเต็มที่และไม่ยอมแพ้จนถึงวินาทีสุดท้าย ซ้อเอ๋ยังกล่าวถึงแผนการในอนาคตของหนึ่งล้านเล็ก จิตรเมืองนนท์ ว่าจะให้พักฟื้นร่างกายก่อนที่จะมีการพูดคุยถึงเส้นทางอาชีพต่อไป

ชัยชนะและความพ่ายแพ้เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้เสมอในวงการกีฬา แต่สิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าคือสปิริตนักสู้และความมุ่งมั่นที่ไม่ยอมแพ้ หนึ่งล้านเล็ก จิตรเมืองนนท์ ได้แสดงให้เห็นถึงคุณสมบัติเหล่านั้นอย่างชัดเจนในไฟต์ล่าสุด และถึงแม้ผลการแข่งขันจะไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง แต่เขาก็ยังคงเป็นนักกีฬาที่ได้รับความรักและกำลังใจจากแฟนมวยอย่างมากมาย

ซ้อเอ๋ จิตรเมืองนนท์ ในฐานะหัวหน้าค่ายมวย ได้ให้การสนับสนุนและดูแลหนึ่งล้านเล็ก จิตรเมืองนนท์ มาโดยตลอด และพร้อมที่จะให้โอกาสและความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ เพื่อให้เขาได้พัฒนาฝีมือและประสบความสำเร็จในเส้นทางอาชีพต่อไป แฟนมวยสามารถติดตามข่าวสารและความเคลื่อนไหวของหนึ่งล้านเล็ก จิตรเมืองนนท์ และนักมวยในค่ายจิตรเมืองนนท์ได้ทางช่องทางต่างๆ ของค่าย

ที่มา – ซ้อเอ๋ จิตรเมืองนนท์ ปลื้มสปิริต หนึ่งล้านเล็ก สู้ถวายชีวิตแม้พ่ายตะเภาแก้ว

RWS ดับเบิลโบนัสแตกครั้งแรก! ตะเภาแก้วฟัน 1 ล้าน

ศึก RWS เมื่อวันเสาร์ที่ 9 ส.ค.2568 ที่ผ่านมา กลายเป็นที่จดจำ เมื่อ ตะเภาแก้ว สิงห์มาวิน โชว์ฟอร์มสุดยอด เอาชนะ หนึ่งล้านเล็ก จิตรเมืองนนท์ ไปแบบเอกฉันท์ ป้องกันแชมป์ราชดำเนิน รุ่นเวลเตอร์เวท ได้สำเร็จ แต่สิ่งที่ทำให้ไฟต์นี้พิเศษยิ่งกว่าคือ การที่ RWS ดับเบิลโบนัสแตกครั้งแรก!

แม้ หนึ่งล้านเล็ก จะโดนเข่าของ ตะเภาแก้ว เล่นงานตลอด 5 ยก แต่เจ้าตัวก็ไม่ยอมจำนน เดินหน้าแลกหมัดแบบไม่ยั้ง เป็นผลให้ RWS มอบโบนัสพิเศษ ชกได้ดุเดือดให้ทั้งคู่คนละ 250,000 บาท

ตะเภาแก้ว vs หนึ่งล้านเล็ก RWS

แต่ความพิเศษยังไม่หมดแค่นั้น! ด้วยความดุเดือดเลือดพล่านของไฟต์นี้ “คุณแบงค์” เธียรชัย พิสิฐวุฒินันท์ บิ๊กบอสแห่ง RWS ตัดสินใจประกาศ RWS ดับเบิลโบนัสแตกครั้งแรก! ทุ่มโบนัสให้ทั้งคู่แบบคูณสอง!

ส่งผลให้ หนึ่งล้านเล็ก รับทรัพย์จากไฟต์นี้ไปถึง 500,000 บาท (ยังไม่รวมค่าตัว) จากความใจสู้ที่ไม่ยอมถอย

ส่วน ตะเภาแก้ว แชมป์ผู้ป้องกันตำแหน่ง ก็ยิ้มแก้มปริ เพราะนอกจากโบนัสจากการชนะ 500,000 บาทแล้ว ยังได้รับรางวัลชกดุเดือดอีก 500,000 บาท รวมเป็นเงิน 1,000,000 บาทเต็มๆ ในไฟต์เดียว (ไม่รวมค่าตัวเช่นกัน)

RWS ดับเบิลโบนัสแตกครั้งแรก!

นี่คือประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของ RWS อย่างแท้จริง เพราะถือเป็นครั้งแรกที่มีการมอบ “ดับเบิล โบนัส” หรือโบนัสคูณสอง ให้กับนักมวย

อะไรคือเบื้องหลัง RWS ดับเบิลโบนัสแตกครั้งแรก?

ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นจากหัวใจนักสู้ที่ยิ่งใหญ่ของทั้ง ตะเภาแก้ว และ หนึ่งล้านเล็ก ที่ต่างฝ่ายต่างไม่ยอมกัน ทำให้ไฟต์นี้ออกมาสนุก เร้าใจ ดุเดือด และสะกดทุกสายตา จนคนดูนั่งไม่ติดเก้าอี้ตลอด 5 ยก

การตัดสินใจมอบดับเบิลโบนัสในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความใจถึงของผู้บริหาร RWS ที่พร้อมจะตอบแทนนักกีฬาที่ทุ่มเทอย่างเต็มที่ และสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมอย่างแท้จริง

แน่นอนว่าไฟต์นี้จะเป็นที่จดจำไปอีกนาน และเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักมวยรุ่นหลัง ให้มุ่งมั่นฝึกซ้อม และโชว์ศักยภาพอย่างเต็มที่บนสังเวียน RWS

และสำหรับแฟนมวยที่พลาดชมไฟต์นี้ไป สามารถติดตามชมย้อนหลังได้ทางช่องทางต่างๆ ของ RWS รับรองว่าคุณจะไม่ผิดหวังกับความมันส์ระดับ 5 ดาวอย่างแน่นอน

การที่ RWS กล้าที่จะให้โบนัสมากมายขนาดนี้ แสดงให้เห็นว่า มวยไทยยังคงเป็นที่นิยม และสามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจได้อีกมาก การสนับสนุนจากทุกภาคส่วนจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้วงการมวยไทยก้าวหน้าต่อไปอย่างยั่งยืน

ที่มา – RWS ดับเบิลโบนัสแตกครั้งแรก! ตะเภาแก้ว รับ 1 ล้าน หนึ่งล้านเล็ก ฟาด 5 แสน

ตะเภาแก้ว ถอนแค้น หนึ่งล้านเล็ก ป้องแชมป์ราชดำเนิน

“ขุนเข่าวัวชน” ตะเภาแก้ว สิงห์มาวิน แชมป์ตัวจริง แลกอาวุธ หมัด ศอก กับ หนึ่งล้านเล็ก จิตรเมืองนนท์ แชมป์เฉพาะกาล อย่างดุเดือดตลอด 5 ยกก่อน ป้องกันแชมป์ราชดำเนิน รุ่นเวลเตอร์เวต เอาไว้ได้ ในการชกศึก RWS ศึกซูเปอร์ไฟต์ค้นหาแชมป์หนึ่งเดียวของพิกัด 147 ปอนด์ ที่เวทีราชดำเนิน เมื่อเสาร์ที่ 9 ส.ค.

ในที่สุด ตะเภาแก้ว ก็สามารถถอนแค้นนักชกรุ่นพี่ที่เคยฝากไว้เมื่อ 5 ปีก่อน ในการชกปี 2563 ที่สนามมวยชั่วคราวโรงเรียนมหาวชิราวุธ จังหวัดสงขลา ซึ่งครั้งนั้น หนึ่งล้านเล็กเก๋ากว่าเยอะเอาชนะมวยดาวรุ่งอย่างตะเภาแก้วไปได้ไม่ยาก

หลังการชก หนึ่งล้านเล็ก มวยดังวัยเก๋า ยอมรับทั้งน้ำตาว่า กำลังพิจารณาเรื่องอำลาสังเวียน เนื่องจากสภาพร่างกายในวัย 29 ปีไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว

ตะเภาแก้ว เดินหน้าแลก หนึ่งล้านเล็ก ก่อนถอนแค้น ป้องกันแชมป์ ราชดำเนิน

การแข่งขันมวยไทยที่เวทีราชดำเนินเมื่อวันที่ 9 สิงหาคมที่ผ่านมา กลายเป็นที่กล่าวขานถึงอย่างมาก เมื่อ ตะเภาแก้ว สิงห์มาวิน สามารถเอาชนะ หนึ่งล้านเล็ก จิตรเมืองนนท์ ไปได้อย่างดุเดือด ป้องกันแชมป์รุ่นเวลเตอร์เวตไว้ได้สำเร็จ การชกครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการป้องกันแชมป์เท่านั้น แต่ยังเป็นการล้างแค้นที่รอคอยมานานหลายปีอีกด้วย

เรื่องราวการล้างแค้นของ ตะเภาแก้ว

ย้อนกลับไปเมื่อปี 2563 หนึ่งล้านเล็กเคยเอาชนะตะเภาแก้วไปได้ในการชกที่จังหวัดสงขลา ซึ่งในครั้งนั้น หนึ่งล้านเล็กอาศัยความเก๋าเกมเอาชนะดาวรุ่งอย่างตะเภาแก้วไปได้ แต่ในการชกครั้งล่าสุดนี้ ตะเภาแก้ว ได้แสดงให้เห็นถึงพัฒนาการและความมุ่งมั่นที่ไม่ยอมแพ้ ทำให้เขาสามารถเอาชนะไปได้อย่างสวยงาม

การชกในครั้งนี้เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและเร้าใจ ทั้งคู่แลกอาวุธกันอย่างไม่ยั้งตลอดทั้ง 5 ยก สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ตะเภาแก้วสามารถยืนหยัดและตอบโต้ได้อย่างแข็งแกร่ง จนในที่สุดก็สามารถคว้าชัยชนะมาครองได้สำเร็จ

ชัยชนะในครั้งนี้มีความหมายต่อตะเภาแก้วเป็นอย่างมาก ไม่เพียงแต่เป็นการป้องกันแชมป์เท่านั้น แต่ยังเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่าเขาได้พัฒนาฝีมือขึ้นมาอย่างก้าวกระโดด และสามารถก้าวข้ามอุปสรรคต่างๆ จนประสบความสำเร็จได้ในที่สุด นอกจากนี้ ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักมวยรุ่นใหม่ๆ ที่มีความฝันและต้องการที่จะประสบความสำเร็จบนสังเวียนมวยไทย

สำหรับหนึ่งล้านเล็ก แม้ว่าจะพ่ายแพ้ในการชกครั้งนี้ แต่เขาก็ยังคงเป็นนักมวยที่ได้รับการยกย่องและเคารพจากแฟนมวยทั่วประเทศ ด้วยประสบการณ์และความสามารถที่เขาสั่งสมมาตลอดระยะเวลาการชกมวย

การชกระหว่างตะเภาแก้วและหนึ่งล้านเล็กในครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ของวงการมวยไทย ที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น ความสามารถ และสปิริตของนักกีฬา ที่พร้อมจะต่อสู้เพื่อชัยชนะและศักดิ์ศรีของตนเอง

การที่ตะเภาแก้วสามารถเอาชนะหนึ่งล้านเล็กได้ในครั้งนี้ ไม่ได้หมายความว่าเขาเก่งกว่าเสมอไป แต่เป็นการแสดงให้เห็นว่าการฝึกซ้อมอย่างหนักและความมุ่งมั่นตั้งใจจริง จะนำพาไปสู่ความสำเร็จได้เสมอ และการล้างแค้นได้สำเร็จ ก็ย่อมเป็นความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมอย่างแน่นอน

สิ่งที่เกิดขึ้นในการแข่งขันครั้งนี้ เป็นเครื่องพิสูจน์ว่า กีฬามวยไทยยังคงเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมและสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้ชมเสมอมา ด้วยความเข้มข้นของการแข่งขัน ความสามารถของนักกีฬา และเรื่องราวที่น่าติดตาม

และเหนือสิ่งอื่นใด การแข่งขันมวยไทยยังคงเป็นกีฬาที่สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมและประเพณีอันดีงามของไทย ที่สืบทอดกันมาอย่างยาวนาน

การแข่งขันครั้งนี้สอนให้เรารู้ว่า ไม่ว่าอุปสรรคจะยิ่งใหญ่เพียงใด หากเรามีความมุ่งมั่นและไม่ยอมแพ้ เราก็สามารถที่จะเอาชนะมันได้เสมอ

ที่มา – ตะเภาแก้ว เดินหน้าแลก หนึ่งล้านเล็ก ก่อนถอนแค้น ป้องกันแชมป์ ราชดำเนิน