One

ศอกผีดิบเข้าไม่ถึง! เมืองไทย เสียเปรียบ คาเซม น็อก ONE ลุมพินี 126

ศอกผีดิบเข้าไม่ถึง! เมืองไทย เสียเปรียบช่วงชกโดน คาเซม น็อกศึกONEลุมพินี126

ในศึก ONE ลุมพินี 126 ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2568 ณ เวทีมวยลุมพินี บรรยากาศคึกคักไปด้วยแฟนมวยไทยและนักสู้จากทั่วโลก โดยเฉพาะคู่มวยที่น่าจับตามองอย่างการปะทะกันระหว่างนักชกไทยชื่อดัง “ขุนศอกผีดิบ” เมืองไทย พีเค.แสนชัย กับ แอนตาร์ คาเซม จอมบู๊จากฝรั่งเศส-เบลารุส ในกติกามวยไทยรุ่นไลต์เวต 140 ปอนด์ คู่นี้กลายเป็นไฮไลต์ที่ทำให้แฟนๆ ตื่นเต้น แต่สุดท้าย ศอกผีดิบเข้าไม่ถึง! เมืองไทย เสียเปรียบช่วงชกโดน คาเซม น็อกศึกONEลุมพินี126 อย่างน่าเสียดาย

ศอกผีดิบเข้าไม่ถึง! เมืองไทย เสียเปรียบ คาเซม น็อก ONE ลุมพินี 126

เมืองไทย วัย 31 ปี จากบุรีรัมย์ เป็นนักสู้ที่ขึ้นชื่อเรื่องพลังศอกอันดุดันและความอึดที่หาตัวจับยาก เขาเคยสร้างชื่อเสียงในเวทีมวยไทยมาอย่างยาวนาน แต่ในไฟต์นี้ คาเซม วัย 26 ปี ที่มีรูปร่างสูงใหญ่และช่วงชกยาวกว่า กลับกลายเป็นฝ่ายครองเกมตั้งแต่เริ่มต้น แม้เมืองไทยจะพยายามใช้จุดแข็งของตัวเองในการเข้าใกล้เพื่อปล่อยศอก แต่ก็ดูเหมือนว่าศอกผีดิบจะเข้าไม่ถึงเป้าหมายหลัก เนื่องจากคาเซมใช้การยืนห่างและสวนหมัดหนักๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การชกเริ่มต้นในยกแรกด้วยการประเมินกัน ทั้งสองฝ่ายจ้องหน้ากันอย่างระมัดระวัง เมืองไทยเปิดฉากด้วยการปล่อยหมัดชุดเข้าหน้า คาเซม ทำให้คู่ต่อสู้สั่นคลอนเล็กน้อย แต่คาเซมไม่ยอมเสียเปรียบ อาศัยความสูงยาวโต้กลับด้วยหมัดตรงที่หนักแน่น ช่วงนี้แฟนๆ ในเวทีส่งเสียงเชียร์ดังกระหึ่ม โดยเฉพาะกองเชียร์ไทยที่หวังให้เมืองไทยพลิกเกมได้

การแลกหมัดดุเดือดในยกสองและความผิดพลาดในยกสาม

เข้าสู่ยกสอง การชกเริ่มดุเดือดมากขึ้น เมืองไทยปรับกลยุทธ์โดยพยายามประชิดตัวคาเซมเพื่อใช้ศอกและเข่า ซึ่งเป็นอาวุธเด็ดของมวยไทย เขาเข้าใกล้ได้สำเร็จและปล่อยศอกซ้ายเข้าเป้า ทำให้คาเซมโซเซไปชั่วขณะ แต่คาเซมฟื้นตัวเร็วและโต้กลับด้วยการเตะต่ำที่ทำให้ขาเมืองไทยอ่อนแรงลง ศอกผีดิบเข้าไม่ถึง! เมืองไทย เสียเปรียบช่วงชกโดน คาเซม น็อกศึกONEลุมพินี126 ในช่วงนี้เริ่มชัดเจน เพราะคาเซมใช้การเคลื่อนไหวที่คล่องแคล่วหลบหลีกการเข้าใกล้ของคู่ต่อสู้

ยกสามเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ เมืองไทยเดินหน้าบุกเพื่อเอาคืน แต่พลาดโดนลูกสวนหมัดหนักของคาเซม จนกรรมการนับ 8 เมืองไทยลุกขึ้นสู้ต่อด้วยใจสู้ แต่การป้องกันเริ่มหลวม โดนอาวุธหนักของคาเซมซ้ำๆ จนโดนนับอีกสองครั้ง สุดท้ายกรรมการยุติการชก คาเซม ชนะน็อกในยกที่สาม ศึกนี้แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างของสไตล์การชก โดยคาเซมที่คุ้นเคยกับกติกาคิกบ็อกซิ่งผสมผสานกับมวยไทยได้ดีกว่า

นอกจากคู่นี้ ศึก ONE ลุมพินี 126 ยังมีคู่เอกที่น่าติดตามคือ อิเลียส เอ็นนาฮาชิ อดีตแชมป์ ONE คิกบ็อกซิ่ง รุ่นฟลายเวต จากเนเธอร์แลนด์-โมร็อกโก พบกับ “นาบิล อานาน” แชมป์โลก ONE มวยไทย รุ่นแบนตัมเวต ตัวแทนไทย-แอลจีเรีย ที่ข้ามมาชกคิกบ็อกซิ่งครั้งแรก ส่วนคู่รอง ชาโด้ สิงห์มาวิน จากตาก ดวลกับ หลิว เมิงหยาง จากจีน ในกติกาคิกบ็อกซิ่งรุ่นเฟเธอร์เวต การแข่งขันทั้งหมดนี้เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและแสดงถึงระดับมาตรฐานสูงของ ONE Championship

จากมุมมองของนักวิเคราะห์ การแพ้ของเมืองไทยในครั้งนี้มาจากการปรับตัวกับช่วงชกที่ยาวของคาเซมไม่ทัน หากเมืองไทยสามารถตัดการ์ดหรือใช้การป้องกันที่แน่นกว่านี้ ผลอาจพลิกผันได้ การชกนี้เป็นบทเรียนสำคัญสำหรับนักมวยไทยในการเผชิญหน้ากับนักสู้ต่างชาติที่มีฟิสิกส์เหนือกว่า

  • จุดเด่นของเมืองไทย: พลังศอกและความอึด
  • จุดแข็งของคาเซม: ช่วงชกยาวและการสวนหมัด
  • บทเรียน: ต้องปรับกลยุทธ์ให้เข้ากับคู่ต่อสู้

ศึก ONE ลุมพินี ยังคงเป็นเวทีที่ยิ่งใหญ่สำหรับมวยไทยไทย หากคุณเป็นแฟนมวย อย่าพลาดติดตามการแข่งขันครั้งต่อไป เพราะแต่ละไฟต์เต็มไปด้วยดราม่าและความมันส์แบบไม่หยุด!

ในความเห็นของผม การชกนี้แสดงให้เห็นถึงวิวัฒนาการของมวยไทยในระดับโลก เมืองไทยอาจแพ้ครั้งนี้ แต่ชื่อเสียงของเขายังคงอยู่ หากกลับมาด้วยฟอร์มที่ดีกว่า ศอกผีดิบจะกลับมาสร้างเซอร์ไพรส์ได้แน่นอน

ที่มา – ศอกผีดิบเข้าไม่ถึง! เมืองไทย เสียเปรียบช่วงชกโดน คาเซม น็อกศึกONEลุมพินี126

เสือแบล็ก อย่างพลิ้วก่อนชนะแต้ม เสกสรร ศึกONE ลุมพินี 126

เสือแบล็ก อย่างพลิ้วก่อนชนะแต้ม เสกสรร ศึกONE ลุมพินี 126

ในศึกมวยไทยสุดมันส์ ONE ลุมพินี 126 ที่สนามมวยเวทีลุมพินี รามอินทรา เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2568 เสือแบล็ก ท.พราน 49 ได้แสดงให้เห็นถึงความเหนือชั้นในการต่อสู้กับนักมวยรุ่นเก๋าอย่างเสกสรร อ.ขวัญเมือง การแข่งขันในรุ่น 140 ปอนด์นี้จบลงด้วยชัยชนะของเสือแบล็กด้วยคะแนนเสียงข้างมาก หลังจากที่เขาใช้ความคล่องแคล่วว่องไวในการดักชกคู่ต่อสู้ได้อย่างยอดเยี่ยมตลอดทั้ง 3 รอบ

เสือแบล็ก อย่างพลิ้วก่อนชนะแต้ม เสกสรร ศึกONE ลุมพินี 126

เสือแบล็ก ท.พราน 49 วัย 24 ปี มาจากค่ายมวยชื่อดัง ท.พราน 49 ซึ่งมีชื่อเสียงในการปั้นนักมวยรุ่นเยาว์ให้กลายเป็นดาวรุ่งในวงการมวยไทย เขาเป็นนักมวยที่ขึ้นชื่อเรื่องความเร็วและการเคลื่อนไหวที่พลิ้วไหวเหมือนเสือดาว ในแมตช์นี้ เสือแบล็กเผชิญหน้ากับเสกสรร อ.ขวัญเมือง ซึ่งเป็นนักมวยอาชีพที่มีประสบการณ์มากกว่า ด้วยอายุ 30 ปีและสถิติการชกที่ยาวนาน เสกสรรมีชื่อเสียงจากลวดลายการชกที่หนักแน่นและการป้องกันที่แน่นหนา แต่ในวันนี้ ความว่องไวของเสือแบล็กได้กลายเป็นอาวุธลับที่ทำให้คู่ต่อสู้ต้องเหนื่อยหอบ

การวิเคราะห์การชกในแต่ละรอบ

รอบแรก เสือแบล็กเริ่มต้นด้วยการทดสอบระยะห่าง เขาใช้การยิงศอกและเข่าแบบไทยแท้เพื่อกดดันเสกสรรทันที เสกสรรพยายามตอบโต้ด้วยหมัดหนัก แต่เสือแบล็กหลบหลีกได้อย่างคล่องแคล่ว ทำให้เขาได้เปรียบในรอบนี้ด้วยคะแนน

เข้าสู่รอบที่สอง ความดุเดือดเพิ่มขึ้น เสกสรรพยายามใช้การคลinchเพื่อบดบังคู่ต่อสู้ แต่เสือแบล็กใช้เทคนิคการถอยหลังและดักด้วยการเตะตัดขา ทำให้เสกสรรเสียจังหวะบ่อยครั้ง ผู้ชมในเวทีลุมพินีต่างส่งเสียงเชียร์ดังกระหึ่ม เมื่อเสือแบล็กปล่อยหมัดตรงเข้าที่ใบหน้าของเสกสรรได้สำเร็จ

รอบสุดท้าย เสกสรรทุ่มสุดตัวเพื่อพลิกเกม แต่เสือแบล็กยังคงรักษาความสงบและใช้การเคลื่อนไหวที่พลิ้วไหวหลีกเลี่ยงการโจมตี เขายิงคอมโบของเข่าและศอกเข้าใส่เสกสรรอย่างต่อเนื่อง จนกรรมการสามารถประกาศชัยชนะด้วยคะแนนให้กับเสือแบล็กในที่สุด

จุดเด่นของเสือแบล็กในการชกครั้งนี้

  • ความคล่องแคล่ว: การเคลื่อนไหวที่รวดเร็วช่วยให้เขาดักชกได้ก่อนเสมอ
  • เทคนิคมวยไทยแท้: การใช้ศอก เข่า และเตะตัดขาที่แม่นยำ
  • สภาพจิตใจที่มั่นคง: ไม่ตื่นเต้นแม้เจอนักมวยรุ่นพี่

ชัยชนะครั้งนี้ของเสือแบล็กไม่เพียงแต่ยืนยันถึงศักยภาพของเขาในฐานะนักมวยรุ่นใหม่ แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักมวยเยาวชนคนอื่นๆ ที่ติดตามศึก ONE ลุมพินี การแข่งขันครั้งนี้แสดงให้เห็นว่ามวยไทยยังคงเป็นกีฬาที่ผสมผสานระหว่างพละกำลังและศิลปะได้อย่างลงตัว

นอกจากนี้ เสือแบล็กยังได้พูดหลังชกว่า “ผมฝึกซ้อมหนักเพื่อวันนี้ และดีใจที่ได้ชนะนักมวยที่ผมชื่นชอบอย่างเสกสรร” คำพูดนี้สะท้อนถึงความเคารพต่อคู่ต่อสู้และความมุ่งมั่นในการพัฒนาตัวเอง

สำหรับแฟนมวยไทยที่พลาดการถ่ายทอดสด สามารถติดตามไฮไลท์ได้ทางช่องทางของ ONE Championship ซึ่งมีคลิปการชกที่ตื่นเต้นนี้ให้รับชม ชัยชนะของเสือแบล็กอาจนำไปสู่โอกาสใหม่ๆ ในรายการใหญ่ต่อไป

ในความเห็นของผม ชัยชนะนี้พิสูจน์แล้วว่าความว่องไวและเทคนิคที่ดีสามารถเอาชนะประสบการณ์ได้ หากคุณเป็นแฟนมวยไทย ลองติดตามเสือแบล็กในแมตช์ต่อไป เพราะเขาอาจกลายเป็นแชมป์คนใหม่ได้ไม่ยาก

ที่มา – เสือแบล็ก อย่างพลิ้วก่อนชนะแต้ม เสกสรร ศึกONE ลุมพินี 126

ปตท. เปิดหน้าแลกเดือดชนะแต้ม มาราเทสตา ปลดล็อกคว้าชัยศึก ONE

ปตท. เปิดหน้าแลกเดือดชนะแต้ม มาราเทสตา ปลดล็อกคว้าชัยศึก ONE

ในศึก ONE ลุมพินี 126 ที่เวทีลุมพินี รามอินทรา เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2568 การชกมวยไทยในรุ่น 147 ปอนด์ระหว่าง ปตท. อภิชาติฟาร์ม จากบางละมุง ประเทศไทย กับ อเลสสิโอ มาลาเทสตา จากอิตาลี ได้สร้างความตื่นเต้นให้แฟนมวยไม่น้อย ด้วยการเปิดหน้าแลกเดือดที่ทั้งคู่ต่างทุ่มสุดตัว จน ปตท. สามารถเอาชนะคะแนนแบบไม่เอกฉันท์ได้สำเร็จ นี่คือชัยชนะที่ปลดล็อกให้ ปตท. อภิชาติฟาร์ม คว้าชัยไฟต์แรกใน ONE Championship ไปเรียบร้อย

ปตท. เปิดหน้าแลกเดือดชนะแต้ม มาราเทสตา ปลดล็อกคว้าชัยศึก ONE

ปตท. อภิชาติฟาร์ม ซึ่งเป็นทั้งนักชกและนักลงทุนชื่อดังจากบางละมุง ไม่ได้มาเล่นๆ ในไฟต์นี้ เขาเดินหน้าโดนหมัดและศอกจากคู่ต่อสู้อย่างหนักหน่วง แต่ด้วยความอึดและใจสู้ที่เป็นเอกลักษณ์ ปตท. ไม่เคยยอมยุบง่ายๆ ตลอด 3 ยกของการชก เขารับอาวุธหนักจาก มาราเทสตา ซึ่งเลือกเปิดฉากด้วยศอกคมกริบตั้งแต่ยกแรก แต่ปตท. สวนกลับด้วยหมัดและศอกของตัวเองอย่างดุเดือด ทำให้การชกเต็มไปด้วยความเร่าร้อน

ในช่วงต้นยกแรก อเลสสิโอ มาลาเทสตา พยายามใช้ศอกเป็นอาวุธหลักเพื่อทำลายใบหน้าของ ปตท. แต่เจ้าตัวนักชกไทยกลับไม่หวั่นไหว เขาเดินเข้าวงในรับอาวุธเพื่อโต้คืนด้วยการจับคอตีเข่าและสวนหมัดหนักๆ เป็นระยะ สิ่งนี้ทำให้แฟนๆ ได้เห็นความสามารถในการแลกหมัดแบบตัวต่อตัวที่ยอดเยี่ยมของ ปตท. ซึ่งเป็นจุดเด่นที่ทำให้เขาโด่งดังในวงการมวยไทย

การพลิกเกมในยกสองและสาม

เข้าสู่ยกที่สอง ปตท. เริ่มได้เปรียบเมื่อทิ่มเข่าขวาเข้าไปเต็มๆ ทำให้ มาลาเทสตา ต้องก้นเตี้ยให้เห็นภาพชัดเจน นอกจากนี้ ปตท. ยังจับคอตีเข่าได้บ้าง ทำให้คะแนนเริ่มไหลมาสู่ฝั่งไทย ยกที่สามแม้ ปตท. จะเริ่มบอบช้ำจากศอกที่โดนสะสม แต่เขายังคงเดินหน้าแลกเดือดไม่หยุด สุดท้ายกรรมการรวมคะแนนแล้วตัดสินให้ ปตท. ชนะคะแนนแบบไม่เอกฉันท์ นี่คือการย้ำแค้นให้ มาลาเทสตา หลังจากที่เคยเอาชนะเขาในศึกไทยไฟต์เมื่อ 2 ปีก่อน

ชัยชนะในไฟต์นี้ไม่เพียงแต่ปลดล็อกให้ ปตท. อภิชาติฟาร์ม ได้ชัยชนะแรกใน ONE Championship เท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นถึงพัฒนาการของนักชกไทยในเวทีระดับโลก การชกมวยไทยภายใต้กติกา ONE ที่เข้มข้นและเน้นความปลอดภัย ทำให้ไฟต์นี้เต็มไปด้วยเทคนิคขั้นสูง ทั้งการใช้ศอก เข่า และการป้องกันที่แน่นหนา แฟนมวยที่ชื่นชอบการต่อสู้แบบดุเดือดจะต้องประทับใจกับสไตล์ของ ปตท. ที่กล้าแลกและไม่ยอมแพ้

  • จุดเด่นของ ปตท. ในไฟต์นี้: ความอึดและการสวนโต้ที่รวดเร็ว
  • อาวุธหลักของ มาลาเทสตา: ศอกและหมัดหนักในช่วงต้น
  • ผลกระทบต่ออนาคต: ชัยชนะนี้เปิดทางให้ ปตท. ลุยต่อใน ONE

นอกจากนี้ การชกยังสะท้อนถึงความนิยมของมวยไทยในระดับสากล โดยเฉพาะใน ONE Championship ที่ดึงดูดนักชกจากทั่วโลกมาร่วมแจม ปตท. อภิชาติฟาร์ม ไม่ใช่แค่นักชก แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่ที่อยากผสมผสานชีวิตนักกีฬากับธุรกิจ หากคุณเป็นแฟนมวยไทย ลองติดตามเส้นทางของเขาต่อไป เพราะนี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของตำนานนักชกไทยในเวทีโลก

ในมุมมองของผม ชัยชนะนี้พิสูจน์ว่าใจสู้และเทคนิคที่เหนือกว่าสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้จากต่างชาติได้ ลองคิดดูสิ ถ้า ปตท. ยังพัฒนาต่อไป เขาอาจกลายเป็นแชมป์ ONE ในอนาคตได้เลย คุณคิดยังไง ลองคอมเมนต์ด้านล่างและแชร์ประสบการณ์การดูมวยของคุณนะ

ที่มา – ปตท. เปิดหน้าแลกเดือดชนะแต้ม มาราเทสตา ปลดล็อกคว้าชัยศึก ONE

นาดากะ ไล่ทุบน็อก อัซมานี คว้าชัย ONE ลุมพินี

นาดากะ ไล่ทุบน็อก อัซมานี นักมวยไทยชาวญี่ปุ่น โชว์ฟอร์มสุดโหด ไล่ทุบน็อก ฮามาดา อัซมานี จากโมร็อกโก แบบไม่ยากเย็น คว้าชัยไฟต์ที่ 3 ติดต่อกัน ในกติกามวยไทย รุ่นอะตอมเวต ศึก ONE Lumpinee 122 ที่เวทีมวยลุมพินี เมื่อวันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา

การแข่งขันครั้งนี้ นาดากะ ไล่ทุบน็อก อัซมานี แสดงให้เห็นถึงความเหนือชั้นอย่างชัดเจน ด้วยความเร็วและแม่นยำในการออกอาวุธ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหมัดซ้ายที่ส่ง อัซมานี ลงไปให้กรรมการนับในยกที่ 2 จากนั้นก็เป็นนาดากะที่เดินหน้าไล่เตะอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งในยกที่ 3 อัซมานี ถอยจนขาพลิก ทำให้กรรมการตัดสินใจยุติการชก

นาดากะ ไล่ทุบน็อก อัซมานี คว้าชัยศึก ONE ลุมพินี

ชัยชนะครั้งนี้ ทำให้ นาดากะ ไล่ทุบน็อก อัซมานี สร้างสถิติชนะรวดใน ONE Championship เป็นไฟต์ที่ 3 ติดต่อกัน และเป็นการชนะไฟต์ที่ 39 ติดต่อกันในเส้นทางอาชีพของเขา

ฟอร์มแรงต่อเนื่อง! นาดากะ ไล่ทุบน็อก อัซมานี

หลังจบการแข่งขัน นาดากะได้ให้สัมภาษณ์ว่า “ผมชนะมา 3 ไฟต์ติดแล้ว ไฟต์ต่อไปพร้อมจะเจอใครก็ได้ เพื่อเข็มขัดแชมป์” แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจและความกระหายในตำแหน่งแชมป์โลก

ชัยชนะของนาดากะในครั้งนี้ สร้างความประทับใจให้กับแฟนมวยเป็นอย่างมาก ด้วยสไตล์การชกที่ดุดัน แม่นยำ และความมุ่งมั่นที่จะเป็นแชมป์โลก ทำให้เขาเป็นนักกีฬาที่น่าจับตามองอย่างยิ่งใน ONE Championship

สำหรับใครที่พลาดชมการแข่งขัน สามารถติดตามชมเทปบันทึกภาพการแข่งขันย้อนหลังได้ทางช่องทางต่างๆ ของ ONE Championship

สถานการณ์ในรุ่นอะตอมเวตของ ONE Championship กำลังร้อนระอุ! การปรากฏตัวของนักชกฝีมือดีอย่างนาดากะ ทำให้การแข่งขันมีความเข้มข้นและน่าติดตามมากยิ่งขึ้น แฟนๆ มวยต้องไม่พลาด!

นอกจากนี้ ชัยชนะอันสวยงามของนาดากะ ยังเป็นการตอกย้ำถึงศักยภาพของนักมวยไทยชาวญี่ปุ่นที่สามารถก้าวขึ้นมาประสบความสำเร็จในระดับโลกได้อีกด้วย การฝึกฝนอย่างหนัก ความมีวินัย และความมุ่งมั่น เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้นักกีฬาอย่างนาดากะประสบความสำเร็จ

สิ่งที่น่าสนใจต่อไปคือ นาดากะจะต้องเผชิญหน้ากับใครในการแข่งขันครั้งต่อไป และเขาจะสามารถรักษาฟอร์มอันยอดเยี่ยมนี้ไว้ได้หรือไม่ ต้องติดตามดูกันต่อไป

สำหรับนักมวยรุ่นใหม่ การดูนาดากะเป็นตัวอย่างถือเป็นเรื่องดี เพราะเขาแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น ตั้งใจ และไม่ยอมแพ้ ซึ่งเป็นคุณสมบัติสำคัญของนักกีฬาอาชีพ

โดยสรุปแล้ว การแข่งขัน ONE Lumpinee 122 เป็นอีกหนึ่งรายการที่เต็มไปด้วยความสนุก ตื่นเต้น และความประทับใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งฟอร์มการชกอันยอดเยี่ยมของ นาดากะ ไล่ทุบน็อก อัซมานี ที่สร้างความสุขให้กับแฟนมวยชาวไทยและชาวญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก

ที่มา – นาดากะ ไล่ทุบน็อก อัซมานี ไม่ยากศึก ONE ลุมพินี 122 ทำสถิติไร้พ่าย 39 ไฟต์

สมิงดำ ชนะแต้ม ซ่อนรัก คว้าชัย ONE ลุมพินี

ศึก ONE ลุมพินี 119 ที่เวทีมวยลุมพินี (รามอินทรา) เมื่อวันที่ 8 สิงหาคมที่ผ่านมา เต็มไปด้วยความดุเดือดและเร้าใจ คู่เอกเป็นการพบกันระหว่าง สมิงดำ ชนะแต้ม ซ่อนรัก ซึ่งเป็นที่จับตามองของแฟนมวยทั่วประเทศ สมิงดำ เอ็นเอฟ.ลูกสวน มวยขวาวัย 23 ปี จากจันทบุรี ขึ้นสังเวียนปะทะกับ ซ่อนรัก แฟร์เท็กซ์ นักสู้จากเมียนมา วัย 28 ปี ในกติกามวยไทยพิกัด 140 ปอนด์

ยกแรกเริ่มต้นด้วยความระมัดระวัง ทั้งคู่ต่างดูเชิงและยังไม่ออกอาวุธกันมากนัก มีเพียงการหยั่งเชิงเล็กน้อยพอให้ได้ลุ้น แต่ในยกที่สอง เกมเริ่มเปิดมากขึ้น ทั้ง สมิงดำ ชนะแต้ม ซ่อนรัก ต่างเดินหน้าแลกอาวุธกันอย่างสนุก ซ่อนรัก เน้นการสาดแข้งซ้ายเข้าใส่ ขณะที่ สมิงดำ คอยดักจังหวะออกหมัดขวา แต่ยังไม่สามารถน็อคคู่ต่อสู้ได้

ยกที่สาม สถานการณ์ยิ่งทวีความเข้มข้น ทั้งคู่ยังคงแลกอาวุธกันอย่างต่อเนื่อง สมิงดำ สามารถออกแข้งขวาเข้าเป้าได้อย่างแม่นยำ แต่ในช่วงท้ายยก สมิงดำ เริ่มแสดงอาการอ่อนแรงให้เห็น ทำให้ ซ่อนรัก ได้โอกาสโถมเข้าใส่อาวุธอย่างหนัก อย่างไรก็ตาม เมื่อหมดยกที่สาม กรรมการได้ตัดสินให้ สมิงดำ ชนะแต้ม ซ่อนรัก ไปได้อย่างหวุดหวิด สร้างความดีใจให้กับแฟนมวยที่เชียร์เขาอย่างมาก

นอกจากคู่เอกที่ดุเดือดแล้ว คู่เอกภาคอินเตอร์ก็ไม่น้อยหน้า วาลิด ซัคคราจี นักสู้หน้าใหม่จากโมร็อกโก พบกับ ขุนพลน้อย ส.สมหมาย จอมบู๊พลังอึด วัย 32 ปี จากนครศรีธรรมราช ในกติกามวยไทย รุ่นฟลายเวต (125-135 ปอนด์)

การต่อสู้ของทั้งคู่เป็นไปอย่างดุเดือดและสูสี ต่างฝ่ายต่างงัดเอาเทคนิคและพละกำลังออกมาใช้อย่างเต็มที่ แต่สุดท้ายเป็น ขุนพลน้อย ส.สมหมาย ที่สามารถเอาชนะคะแนนไปได้ในที่สุด สร้างความประทับใจให้กับผู้ชมอย่างมาก

สมิงดำ ชนะแต้ม ซ่อนรัก ในศึก ONE ลุมพินี 119

การแข่งขันในศึก ONE ลุมพินี 119 ครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งรายการที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง โดยมีการต่อสู้ที่ดุเดือดและเร้าใจหลายคู่ และที่สำคัญคือการที่ สมิงดำ ชนะแต้ม ซ่อนรัก ซึ่งเป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงความสามารถและความมุ่งมั่นของนักมวยไทย

ไฮไลท์สำคัญ: สมิงดำ ชนะแต้ม ซ่อนรัก อย่างสุดมันส์

ไฮไลท์สำคัญของการแข่งขันในครั้งนี้ คงหนีไม่พ้นการชกของ สมิงดำ และ ซ่อนรัก ที่ทั้งคู่ต่างสู้กันอย่างเต็มที่และไม่มีใครยอมใคร จนกระทั่งกรรมการต้องตัดสินให้คะแนน ซึ่งผลการตัดสินก็ออกมาเป็นที่น่าพอใจสำหรับแฟนมวยของสมิงดำ

  • สมิงดำ เอ็นเอฟ.ลูกสวน ชนะคะแนน ซ่อนรัก แฟร์เท็กซ์
  • ขุนพลน้อย ส.สมหมาย ชนะคะแนน วาลิด ซัคคราจี
  • การแข่งขันเต็มไปด้วยความดุเดือดและเร้าใจ
  • แฟนมวยให้การตอบรับอย่างดี

การแข่งขันมวยไทยในปัจจุบันได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ซึ่งเป็นผลมาจากความพยายามของ ONE Championship ที่ต้องการผลักดันกีฬามวยไทยให้เป็นที่รู้จักและยอมรับในระดับสากล การที่ สมิงดำ ชนะแต้ม ซ่อนรัก ในครั้งนี้ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมกีฬามวยไทยให้เติบโตยิ่งขึ้นไปอีก

ชัยชนะของสมิงดำในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของนักมวยไทยรุ่นใหม่ ที่มีความมุ่งมั่นและตั้งใจที่จะพัฒนาฝีมือของตนเองอยู่เสมอ การสนับสนุนและให้โอกาสนักมวยเหล่านี้ จะเป็นแรงผลักดันสำคัญที่จะช่วยให้กีฬามวยไทยก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง

ที่มา – สมิงดำ ชนะแต้ม ซ่อนรัก – ขุนพลน้อย คว้าชัยสุดเดือด ซัคคราจี ศึก ONE ลุมพินี 119