แคนาดา

UK, แคนาดา นำ G7 รับรองรัฐปาเลสไตน์

สหราชอาณาจักร (UK) และแคนาดาได้ประกาศอย่างเป็นทางการในการรับรองรัฐปาเลสไตน์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ถือเป็นสองชาติแรกจากกลุ่ม G7 ที่ตัดสินใจดำเนินการดังกล่าว โดยมีเป้าหมายหลักเพื่อเพิ่มแรงกดดันต่ออิสราเอลที่กำลังเพิ่มระดับการโจมตีในกาซาซิตี

หลังจากนั้นไม่นาน ออสเตรเลียและโปรตุเกสก็ได้ประกาศรับรองรัฐปาเลสไตน์ตามมาติด ๆ และคาดการณ์ว่าฝรั่งเศส ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสมาชิกของ G7 จะดำเนินตามในอนาคตอันใกล้นี้ ท่ามกลางสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมที่เลวร้ายลงอย่างต่อเนื่อง รวมถึงจำนวนผู้เสียชีวิตที่เป็นพลเรือนในฉนวนกาซาที่เพิ่มสูงขึ้น สถานการณ์ความขัดแย้งนี้ได้ดำเนินมาเกือบสองปีแล้วนับตั้งแต่ที่อิสราเอลเปิดฉากโจมตีกลุ่มฮามาส แต่ก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะมีการหยุดยิงในเร็ววัน

นายกรัฐมนตรีเคียร์ สตาร์เมอร์ ของสหราชอาณาจักร ได้โพสต์วิดีโอผ่านแพลตฟอร์มเอ็กซ์ (X) โดยกล่าวว่า “ความหวังในเรื่องทางออกสองรัฐกำลังริบหรี่ แต่เราจะไม่ยอมให้แสงสว่างนี้ดับลงอย่างแน่นอน”

อย่างไรก็ตาม สหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นพันธมิตรที่สำคัญของอิสราเอล ยังคงสงวนท่าทีต่อเรื่องนี้

ในวันนี้ (22 ก.ย.) สหประชาชาติ (UN) จะจัดการประชุมนานาชาติ ณ สำนักงานใหญ่ในนครนิวยอร์ก เพื่อหารือเกี่ยวกับแนวทางการคลี่คลายความขัดแย้งด้วยแนวทางสองรัฐ

ทางด้านกระทรวงการต่างประเทศของอิสราเอลได้ออกมาประณามท่าทีของชาติตะวันตก โดยระบุว่าการรับรองรัฐปาเลสไตน์เป็นการ “ตบรางวัล” ให้กับกลุ่มฮามาส

ในทางตรงกันข้าม ประธานาธิบดีมาห์มูด อับบาส ของปาเลสไตน์ ได้แสดงความยินดีต่อการตัดสินใจดังกล่าว โดยกล่าวว่าการรับรองนี้จะเปิดทางให้ “รัฐปาเลสไตน์สามารถอยู่เคียงข้างกับรัฐอิสราเอลได้อย่างสันติ ปลอดภัย และเป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกัน”

สำหรับญี่ปุ่น ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสมาชิกของ G7 แม้ว่าจะยังคงยืนยันในจุดยืนที่สนับสนุนแนวทางสองรัฐมาโดยตลอด แต่ทาเคชิ อิวายะ รัฐมนตรีต่างประเทศ ได้ยืนยันเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (19 ก.ย.) ว่าญี่ปุ่นยังไม่มีแผนที่จะรับรองรัฐปาเลสไตน์ในขณะนี้

ปัจจุบัน มีประเทศทั่วโลกที่ให้การรับรองรัฐปาเลสไตน์แล้วประมาณ 150 ประเทศ

สหราชอาณาจักร-แคนาดา นำทัพ G7 รับรองรัฐปาเลสไตน์

การตัดสินใจของสหราชอาณาจักรและแคนาดาในการรับรองรัฐปาเลสไตน์ถือเป็นก้าวสำคัญในการผลักดันให้เกิดสันติภาพในตะวันออกกลาง การรับรองนี้ไม่เพียงแต่เป็นการแสดงออกถึงการสนับสนุนสิทธิของชาวปาเลสไตน์ในการมีรัฐของตนเองเท่านั้น แต่ยังเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนไปยังอิสราเอลว่าประชาคมโลกกำลังเรียกร้องให้มีการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งอย่างยั่งยืน

ทำไมการรับรองรัฐปาเลสไตน์จึงมีความสำคัญ?

การรับรองรัฐปาเลสไตน์มีความสำคัญอย่างยิ่งในหลายมิติ:

  • การสนับสนุนสิทธิของชาวปาเลสไตน์: เป็นการยืนยันว่าชาวปาเลสไตน์มีสิทธิที่จะมีรัฐของตนเองเช่นเดียวกับชาติอื่นๆ ทั่วโลก
  • แรงกดดันต่ออิสราเอล: การรับรองจากประเทศที่มีอิทธิพลอย่างสหราชอาณาจักรและแคนาดาสร้างแรงกดดันต่ออิสราเอลให้หันมาเจรจาอย่างจริงจังเพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง
  • การส่งเสริมสันติภาพ: การมีรัฐปาเลสไตน์ที่เป็นอิสระและมีอำนาจอธิปไตยจะช่วยสร้างเสถียรภาพและความสงบสุขในภูมิภาค

สถานการณ์ในตะวันออกกลางยังคงมีความผันผวนและซับซ้อน การรับรองรัฐปาเลสไตน์เป็นเพียงก้าวหนึ่งในการแก้ไขปัญหา แต่เป็นก้าวที่สำคัญและมีความหมาย การสนับสนุนจากนานาชาติและการเจรจาอย่างสันติเท่านั้นที่จะนำไปสู่สันติภาพที่ยั่งยืนได้

ที่มา – สหราชอาณาจักร-แคนาดา นำทัพ G7 รับรองรัฐปาเลสไตน์ ชาติพันธมิตรขานรับ

แคนาดาหนุนทหารยูเครน! ความช่วยเหลือล่าสุด

แคนาดาประกาศให้การสนับสนุนทางทหารแก่ยูเครนครั้งใหม่!

สำนักนายกรัฐมนตรีแคนาดาเปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรีมาร์ค คาร์นีย์ ประกาศมอบความช่วยเหลือทางทหารครั้งใหม่แก่ยูเครน ระหว่างการเยือนกรุงเคียฟ หลังจากที่ก่อนหน้านี้ได้ให้ความช่วยเหลือด้านต่างๆ มาอย่างต่อเนื่อง การตัดสินใจของแคนาดาในการแคนาดาประกาศให้การสนับสนุนทางทหารแก่ยูเครนครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการช่วยเหลือยูเครนในการปกป้องอธิปไตยของตนเอง

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่แคนาดาได้ให้คำมั่นที่จะจัดหาเงินทุนสนับสนุนวงเงิน 2 พันล้านดอลลาร์แคนาดา (1.45 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในการประชุมสุดยอด G7 ซึ่งแคนาดาเป็นเจ้าภาพจัดขึ้นเมื่อเดือนมิ.ย. ที่เมืองคานานาสกิส การสนับสนุนทางการเงินครั้งใหญ่นี้เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามระดับโลกในการช่วยเหลือยูเครนในการเผชิญหน้ากับความท้าทายที่ยิ่งใหญ่

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า เงินจำนวน 835 ล้านดอลลาร์แคนาดา (630 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) จากยอดรวมข้างต้นจะถูกใช้สำหรับจัดซื้ออุปกรณ์สำคัญยิ่งแก่ยูเครน อาทิ รถหุ้มเกราะ อุปกรณ์ทางการแพทย์ ชิ้นส่วนอะไหล่ อาวุธขนาดเล็ก เครื่องกระสุนและระเบิด ตลอดจนการเพิ่มขีดความสามารถด้านโดรน รวมทั้งอุปกรณ์และสิ่งของจำเป็นเร่งด่วนต่าง ๆ อุปกรณ์เหล่านี้จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับกองทัพยูเครนในการป้องกันตนเอง

ขณะที่จำนวน 680 ล้านดอลลาร์แคนาดา (491 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) จากทั้งหมดจะถูกใช้เพื่อซื้อยุทโธปกรณ์ทางทหารจากสหรัฐฯ เพื่อส่งเสริมศักยภาพด้านการป้องกันการโจมตีทางอากาศของยูเครน และจัดหาความช่วยเหลือด้านการทหารที่จำเป็นเร่งด่วนอื่น ๆ การเสริมสร้างระบบป้องกันทางอากาศถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการปกป้องพลเรือนและโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของยูเครน

ขณะเดียวกัน เงินทุนราว 220 ล้านดอลลาร์แคนาดา (159 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) จะถูกใช้เพื่อซื้อโดรน โดรนสกัดกั้น และปรับปรุงความสามารถในการทำสงครามอิเล็กทรอนิกส์ รวมถึงการร่วมลงทุนระหว่างอุตสาหกรรมของยูเครนและแคนาดา การลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ ๆ เหล่านี้จะช่วยให้ยูเครนสามารถรับมือกับภัยคุกคามที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ

แคนาดาประกาศให้การสนับสนุนทางทหารแก่ยูเครน: ความหมายและผลกระทบ

การแคนาดาประกาศให้การสนับสนุนทางทหารแก่ยูเครนครั้งนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่การให้ความช่วยเหลือด้านวัตถุเท่านั้น แต่ยังเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนถึงความมุ่งมั่นของแคนาดาในการยืนหยัดเคียงข้างยูเครนในช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ การสนับสนุนนี้จะช่วยเสริมสร้างขวัญและกำลังใจให้กับชาวยูเครนและกองทัพยูเครนในการต่อสู้เพื่อปกป้องประเทศของตนเอง

การสนับสนุนทางทหารของแคนาดาต่อยูเครนมีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากช่วยให้ยูเครนสามารถเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับกองทัพและป้องกันตนเองจากการรุกราน นอกจากนี้ การสนับสนุนยังช่วยให้ยูเครนสามารถรักษาอธิปไตยและความมั่นคงของประเทศได้

ผลกระทบของการแคนาดาประกาศให้การสนับสนุนทางทหารแก่ยูเครนครั้งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ในยูเครน การสนับสนุนนี้จะช่วยให้ยูเครนมีทรัพยากรมากขึ้นในการต่อสู้เพื่อปกป้องประเทศของตนเอง และจะช่วยส่งเสริมความมั่นคงในภูมิภาค

  • การสนับสนุนด้านอาวุธและยุทโธปกรณ์
  • การฝึกอบรมทางทหาร
  • ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม

การสนับสนุนจากนานาชาติมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อยูเครนในการเผชิญหน้ากับความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ การสนับสนุนของแคนาดาเป็นตัวอย่างที่สำคัญของความร่วมมือระหว่างประเทศในการช่วยเหลือยูเครน

โดยรวมแล้ว การตัดสินใจของแคนาดาในการให้การสนับสนุนทางทหารเพิ่มเติมแก่ยูเครนถือเป็นก้าวสำคัญในการช่วยเหลือยูเครนในการปกป้องตนเองและรักษาอธิปไตยของตนเอง การสนับสนุนนี้จะช่วยให้ยูเครนสามารถเผชิญหน้ากับความท้าทายที่ยิ่งใหญ่และสร้างอนาคตที่มั่นคงและสงบสุข

ที่มา – แคนาดาประกาศให้การสนับสนุนทางทหารแก่ยูเครน

แคนาดายกเลิกภาษีตอบโต้สินค้าสหรัฐฯ หวังฟื้นสัมพันธ์

แคนาดาประกาศยกเลิกการเก็บภาษีตอบโต้สินค้าจากสหรัฐอเมริกาหลายรายการเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นสัญญาณบวกของการปรับปรุงความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้ดียิ่งขึ้น การตัดสินใจครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมความร่วมมือทวิภาคีและลดความตึงเครียดทางการค้า

การยกเลิกภาษีจะมีผลตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน โดยนายกรัฐมนตรีแคนาดา มาร์ก คาร์นีย์ กล่าวว่า ในขณะที่ยังคงทำงานร่วมกับสหรัฐฯ อย่างใกล้ชิด แคนาดาจะให้ความสำคัญกับภาคส่วนยุทธศาสตร์เป็นหลัก เพื่อให้มั่นใจถึงผลประโยชน์ร่วมกันและกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ

ก่อนหน้านี้ แคนาดาได้เริ่มเก็บภาษีตอบโต้ในอัตรา 25% สำหรับสินค้าหลายรายการที่นำเข้าจากสหรัฐฯ ในเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นการตอบโต้มาตรการที่สหรัฐฯ ประกาศเรียกเก็บภาษี 25% กับเหล็กและอลูมิเนียมที่นำเข้าจากแคนาดาภายใต้ข้อตกลงการค้าในทวีปอเมริกาเหนือ (NAFTA) ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับแคนาดาเป็นอย่างมาก

ถึงแม้จะมีการยกเลิกภาษีตอบโต้ในบางส่วน แต่คาร์นีย์ยืนยันว่า ภาษี 25% ที่เรียกเก็บจากรถยนต์ เหล็ก และอลูมิเนียมที่นำเข้าจากสหรัฐฯ จะยังคงมีผลบังคับใช้ต่อไปในขณะนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าแคนาดายังคงระมัดระวังและต้องการรักษาสมดุลทางการค้า

โฆษกทำเนียบขาวแสดงความคิดเห็นว่า การยกเลิกภาษีตอบโต้ของแคนาดาเกิดขึ้นช้ากว่าที่ควรจะเป็น และเสริมว่าสหรัฐฯ หวังที่จะหารือกับแคนาดาต่อไปในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการค้าและความมั่นคงของชาติ รวมถึงการแก้ไขข้อพิพาททางการค้าที่ยังคงค้างคา

แคนาดายกเลิกภาษีตอบโต้สินค้าสหรัฐฯ หลายรายการ หวังฟื้นสัมพันธ์ทวิภาคี

การเคลื่อนไหวครั้งนี้ของแคนาดาแสดงให้เห็นถึงความพยายามที่จะปรับปรุงความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ ซึ่งเป็นคู่ค้าที่สำคัญที่สุด การยกเลิกภาษีตอบโต้สินค้าสหรัฐฯ หลายรายการเป็นสัญญาณของการประนีประนอมและมุ่งเน้นไปที่การสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจในระยะยาว

ผลกระทบต่อเศรษฐกิจ

การยกเลิกภาษีตอบโต้คาดว่าจะส่งผลดีต่อทั้งสองประเทศ โดยจะช่วยลดต้นทุนสำหรับธุรกิจ ลดอุปสรรคทางการค้า และส่งเสริมการลงทุนและความร่วมมือระหว่างภาคเอกชน นอกจากนี้ ยังเป็นการส่งสัญญาณบวกไปยังตลาดโลกเกี่ยวกับความมุ่งมั่นของทั้งสองประเทศในการรักษาระบบการค้าที่เป็นธรรมและเปิดกว้าง

  • ลดต้นทุนนำเข้าสำหรับธุรกิจแคนาดา
  • เพิ่มความสามารถในการแข่งขันของสินค้าอเมริกันในตลาดแคนาดา
  • ส่งเสริมการลงทุนและความร่วมมือทวิภาคี

อย่างไรก็ตาม ยังมีความท้าทายรออยู่ข้างหน้า เนื่องจากประเด็นทางการค้าอื่นๆ ยังคงต้องได้รับการแก้ไข และทั้งสองประเทศจำเป็นต้องทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและแก้ไขข้อพิพาทที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

แคนาดายกเลิกภาษีตอบโต้สินค้าสหรัฐฯ เป็นการตัดสินใจที่สะท้อนถึงความสำคัญของความสัมพันธ์ทวิภาคีที่แข็งแกร่งและยั่งยืน ความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่ใกล้ชิดจะช่วยสร้างโอกาสใหม่ๆ สำหรับทั้งสองประเทศและเสริมสร้างความมั่นคงในภูมิภาค

ในขณะที่โลกกำลังเผชิญกับความท้าทายทางเศรษฐกิจและการเมืองที่ซับซ้อน การที่แคนาดาและสหรัฐฯ สามารถทำงานร่วมกันเพื่อแก้ไขข้อพิพาทและส่งเสริมความร่วมมือจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับอนาคตของทั้งสองประเทศ

โดยรวมแล้ว การยกเลิกภาษีตอบโต้สินค้าสหรัฐฯ หลายรายการของแคนาดาเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการฟื้นฟูความสัมพันธ์ทวิภาคี หวังว่าการตัดสินใจครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นของความร่วมมือที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นในอนาคต

ที่มา – แคนาดายกเลิกภาษีตอบโต้สินค้าสหรัฐฯ หลายรายการ หวังฟื้นสัมพันธ์ทวิภาคี

แอร์แคนาดาวุ่น! พนักงานยังประท้วงต่อ

เกิดความวุ่นวายขึ้นกับสายการบินแอร์แคนาดาเมื่อพนักงานยังคงประท้วงต่อ! เรื่องราวความขัดแย้งนี้ส่งผลกระทบต่อการให้บริการและผู้โดยสารอย่างไร? มาติดตามรายละเอียดกัน

สายการบินแอร์แคนาดา (Air Canada) ซึ่งเป็นสายการบินที่ใหญ่ที่สุดของแคนาดา กำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ เมื่อพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินยังคงยืนกรานที่จะประท้วง แม้ว่ารัฐบาลจะมีคำสั่งให้กลับเข้าทำงานแล้วก็ตาม เหตุการณ์นี้ส่งผลให้สายการบินต้องระงับแผนการกลับมาให้บริการเที่ยวบินแบบจำกัดจำนวน ซึ่งเดิมทีมีกำหนดในเย็นวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

ทางสายการบินระบุว่า สหภาพพนักงานสาธารณะแห่งแคนาดา (CUPE) ได้ออกคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยสั่งให้สมาชิกซึ่งเป็นพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ไม่ปฏิบัติตามคำสั่งของคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์แห่งแคนาดา (CIRB) ที่ให้กลับไปทำงานตามปกติ อย่างไรก็ตาม แอร์แคนาดาให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าคาดว่าจะสามารถกลับมาให้บริการเที่ยวบินได้อีกครั้งในเย็นวันจันทร์

ผลกระทบที่เกิดขึ้นทันทีคือ เที่ยวบินราว 240 เที่ยวบินที่กำหนดจะเริ่มให้บริการในช่วงบ่ายวันอาทิตย์ถูกยกเลิกไปแล้ว ทำให้ผู้โดยสารจำนวนมากได้รับผลกระทบ โดยปกติแล้ว แอร์แคนาดาและสายการบินลูกอย่างแอร์แคนาดา รูจ (Air Canada Rouge) ให้บริการเที่ยวบินเฉลี่ย 700 เที่ยวบินต่อวัน การหยุดชะงักนี้จึงส่งผลกระทบอย่างมากต่อการเดินทางทางอากาศในแคนาดา

แอร์แคนาดาวุ่น พนักงานยังประท้วงต่อ

รัฐบาลแคนาดาเองก็เข้ามามีบทบาทในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยแพตตี ฮัจดู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการจ้างงานและครอบครัว ได้ออกแถลงการณ์เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาว่า เธอได้ใช้อำนาจตามประมวลกฎหมายแรงงานแคนาดา เพื่อสั่งให้คณะกรรมการ CIRB เข้ามาทำหน้าที่เป็นอนุญาโตตุลาการในข้อพิพาทระหว่างแอร์แคนาดากับสหภาพ CUPE

ความขัดแย้งระหว่างแอร์แคนาดากับสหภาพ CUPE นั้นมีมานานกว่า 8 เดือน โดยมีประเด็นสำคัญหลายอย่างที่เป็นข้อพิพาท เช่น การขึ้นค่าตอบแทน ค่าเบี้ยเลี้ยงภาคพื้นดิน การปรับปรุงเงินบำนาญและสวัสดิการ รวมถึงการเพิ่มเวลาพักให้กับลูกเรือ ถึงแม้จะมีการเจรจากันมาอย่างต่อเนื่อง แต่ทั้งสองฝ่ายก็ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเบื้องต้นได้

ประเด็นสำคัญเบื้องหลังการประท้วงของพนักงานแอร์แคนาดา

ประเด็นหนึ่งที่สำคัญคือ ปัจจุบันพนักงานต้อนรับได้รับค่าจ้างเฉพาะในช่วงที่เครื่องบินเคลื่อนที่เท่านั้น ในขณะที่ทางสหภาพเรียกร้องให้มีการจ่ายค่าตอบแทนสำหรับเวลาที่ทำงานบนพื้นดินระหว่างเที่ยวบิน รวมถึงการช่วยผู้โดยสารขึ้นเครื่อง ซึ่งเป็นประเด็นที่พนักงานมองว่าไม่เป็นธรรมและต้องการให้ได้รับการแก้ไข

สถานการณ์ แอร์แคนาดาวุ่น พนักงานยังประท้วงต่อ นี้ยังคงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เนื่องจากมีผลกระทบต่อหลายฝ่าย ทั้งสายการบิน พนักงาน และผู้โดยสาร การแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนจึงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้การบริการกลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว

  • ผลกระทบต่อผู้โดยสาร: การยกเลิกเที่ยวบินทำให้ผู้โดยสารจำนวนมากต้องเผชิญกับความไม่สะดวกในการเดินทาง
  • ผลกระทบต่อสายการบิน: การหยุดชะงักในการให้บริการส่งผลเสียต่อชื่อเสียงและความน่าเชื่อถือของสายการบิน
  • ความสำคัญของการเจรจา: การเจรจาอย่างจริงจังและเปิดใจเป็นสิ่งสำคัญในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง

แอร์แคนาดาวุ่น พนักงานยังประท้วงต่อ เป็นเครื่องเตือนใจว่าการดูแลพนักงานที่เป็นธรรมและให้ความสำคัญกับสวัสดิการเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จขององค์กร การประนีประนอมและการหาทางออกที่ทั้งสองฝ่ายยอมรับได้จึงเป็นหนทางที่ดีที่สุดในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้น

ที่มา – แอร์แคนาดาวุ่น พนักงานยังประท้วงต่อ ไม่กลับไปทำงานตามคำสั่งรัฐบาล

แอร์แคนาดาเริ่มยกเลิกเที่ยวบินวันนี้ รับมือประท้วง

แอร์แคนาดาเริ่มยกเลิกเที่ยวบินวันนี้ เตรียมรับมือพนักงานผละงานประท้วงวันเสาร์นี้! สายการบิน Air Canada ซึ่งเป็นสายการบินที่ใหญ่ที่สุดของแคนาดา ได้ประกาศถึงความจำเป็นที่จะต้องเริ่มทยอยยกเลิกเที่ยวบินตั้งแต่วันนี้ (14 สิงหาคม) เป็นต้นไป เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการรับมือกับการที่พนักงานจะทำการผละงานประท้วงในวันเสาร์ที่ 16 สิงหาคมที่จะถึงนี้

ทางแอร์แคนาดาได้ออกแถลงการณ์อย่างเป็นทางการ โดยระบุว่า ทางสายการบินจะดำเนินการยกเลิกเที่ยวบินในจำนวนที่มากขึ้นในวันศุกร์ที่ 15 สิงหาคม และหลังจากนั้นจะทำการระงับการให้บริการเที่ยวบินทั้งหมด ทั้งของสายการบินแอร์แคนาดา และแอร์แคนาดารูจ (Air Canada Rouge) โดยสมบูรณ์ในวันเสาร์ที่จะถึงนี้ ซึ่งคาดการณ์ว่าจะมีผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ประมาณ 130,000 คนต่อวัน

การตัดสินใจดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่สหภาพพนักงานสาธารณะแห่งแคนาดา (CUPE) ซึ่งเป็นตัวแทนของพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินจำนวนกว่า 10,000 คน ได้แจ้งความประสงค์ที่จะเริ่มต้นการผละงานประท้วงเพื่อเรียกร้องข้อตกลงที่เป็นธรรม ซึ่งทางแอร์แคนาดาได้ตอบสนองต่อสถานการณ์ดังกล่าวด้วยการประกาศว่าจะทำการหยุดให้บริการเป็นเวลา 72 ชั่วโมง เพื่อเป็นการลดผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับผู้โดยสารให้ได้มากที่สุด

อย่างไรก็ตาม ทางแอร์แคนาดาได้ชี้แจงเพิ่มเติมว่า เที่ยวบินของแอร์แคนาดาเอ็กซ์เพรส (Air Canada Express) ที่ดำเนินการโดยสายการบินแจ๊ส (Jazz) และสายการบินพีเอแอล แอร์ไลน์ส (PAL Airlines) จะยังคงเปิดให้บริการตามปกติ แต่เนื่องจากพันธมิตรระดับภูมิภาคเหล่านี้สามารถรองรับผู้โดยสารได้เพียงประมาณ 20% ของจำนวนลูกค้าต่อวันของแอร์แคนาดาเท่านั้น ดังนั้นจึงยังคงมีผู้โดยสารจำนวนมากที่ได้รับผลกระทบ

ตลอดระยะเวลา 8 เดือนที่ผ่านมา แอร์แคนาดาและสหภาพ CUPE ได้ทำการเจรจากันอย่างต่อเนื่องในประเด็นต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการปรับปรุงสภาพการทำงานของพนักงาน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการปรับขึ้นค่าตอบแทนและค่าจ้างสำหรับงานภาคพื้นดิน การปรับปรุงเงินบำนาญและสวัสดิการ รวมถึงการเพิ่มเวลาพักผ่อนของลูกเรือ แต่จนถึงปัจจุบัน แอร์แคนาดาก็ยังไม่สามารถบรรลุข้อตกลงเบื้องต้นกับสหภาพ CUPE ได้

ทางสหภาพ CUPE ได้เปิดเผยว่า พนักงานที่อยู่ภายใต้การดูแลของสหภาพฯ มากถึง 99.7% ได้ลงคะแนนเสียงสนับสนุนการผละงานประท้วง ขณะที่แอร์แคนาดาได้ระบุในแถลงการณ์ว่า ทางสายการบินได้ยื่นเรื่องขอให้รัฐบาลเข้ามาเป็นคนกลางเพื่อช่วยในการแก้ไขสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้คลี่คลายไปในทิศทางที่ดี

จากรายงานของสำนักข่าวซินหัวระบุว่า แอร์แคนาดาให้บริการเที่ยวบินไปยังจุดหมายปลายทางทั่วโลกประมาณ 65 ประเทศ ใน 6 ทวีป โดยมีเครื่องบินในฝูงบินทั้งหมด 259 ลำ

แอร์แคนาดาเริ่มยกเลิกเที่ยวบินวันนี้

สถานการณ์ที่ แอร์แคนาดาเริ่มยกเลิกเที่ยวบินวันนี้ นั้น ส่งผลกระทบต่อผู้โดยสารจำนวนมาก ใครที่กำลังจะเดินทางกับแอร์แคนาดาในช่วงนี้ อย่าลืมตรวจสอบสถานะเที่ยวบินของท่านอย่างใกล้ชิด เพื่อวางแผนการเดินทางได้ทันท่วงที

ผลกระทบและการเตรียมพร้อมเมื่อแอร์แคนาดาเริ่มยกเลิกเที่ยวบินวันนี้

  • ตรวจสอบสถานะเที่ยวบิน: สิ่งแรกที่ควรทำคือตรวจสอบสถานะเที่ยวบินของท่านผ่านทางเว็บไซต์ของแอร์แคนาดา หรือติดต่อศูนย์บริการลูกค้า
  • เตรียมแผนสำรอง: มองหาเที่ยวบินอื่น หรือวิธีการเดินทางอื่น ๆ ที่เป็นไปได้ ในกรณีที่เที่ยวบินของท่านถูกยกเลิก
  • ติดต่อสายการบิน: หากมีข้อสงสัย หรือต้องการความช่วยเหลือเพิ่มเติม สามารถติดต่อสายการบินได้โดยตรง

การที่ แอร์แคนาดาเริ่มยกเลิกเที่ยวบินวันนี้ เป็นสถานการณ์ที่ท้าทายสำหรับทั้งสายการบินและผู้โดยสาร การเตรียมตัวและติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิดจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ท่านรับมือกับสถานการณ์นี้ได้อย่างราบรื่น

สถานการณ์นี้แสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการเจรจาต่อรองที่เป็นธรรมระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง หวังว่าทุกฝ่ายจะสามารถหาทางออกที่ยุติธรรมและเป็นประโยชน์ร่วมกันได้ในที่สุด

ที่มา – Air Canada เริ่มยกเลิกเที่ยวบินวันนี้ เตรียมรับมือพนักงานผละงานประท้วงวันเสาร์