เอเชียน ยูธ เกมส์

กฤตภาส คว้า 1 เงิน 1 ทองแดง ปิดฉากเอเชียน ยูธ เกมส์

สองล้อ ปิดฉากคว้า 1 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง โดยได้จาก “กฤตภาส หอมขจร” ทั้ง 2 เหรียญ ในศึกเอเชี่ยน ยูธ เกมส์ ครั้งที่ 3 ที่ประเทศบาห์เรน “เสธ.หมึก” ปลื้มนักปั่นสายเลือดใหม่ทำผลงานทะลุเป้า

“เสธ.หมึก” พลเอกเดชา เหมกระศรี รองประธานสมาพันธ์จักรยานแห่งเอเชีย (ACC), ประธานสหพันธ์จักรยานแห่งอาเซียน (ACF) และนายกสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เปิดเผยว่า จากการที่ตนได้เดินทางมาให้กำลังใจนักปั่นเยาวชนทีมชาติไทยที่ลงชิงชัยในการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยน ยูธ เกมส์ ครั้งที่ 3 ที่ประเทศบาห์เรน ล่าสุด เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม ทัพนักปั่นไทยลงแข่งขันรายการสุดท้ายในประเภทโรดเรซบุคคลชาย เส้นทางเป็นแบบเซอร์กิต รอบละ 16.6 กิโลเมตร ปั่น 6 รอบ รวมระยะทาง 99.6 กิโลเมตร ท่ามกลางสภาพอากาศที่ร้อนและกระแสลมแรง

พลเอกเดชา กล่าวว่าสำหรับการแข่งขันรายการนี้มีนักปั่นลงแข่งขันถึง 71 คน จาก 22 ประเทศ ส่วนนักปั่นไทยที่ลงแข่งมี 4 คน ประกอบด้วย นายกฤตภาส หอมขจร, ด.ช.อธิคุณ แสนตา, นายวัชรพงษ์ สังฆะสอน, ด.ช.ฟาริก หนูทอง โดยเกมการแข่งขัน 3 รอบแรก กฤตภาสและเพื่อนร่วมทีมยังปั่นเกาะกลุ่มใหญ่ แต่เข้ารอบที่ 4 กฤตภาสทุ่มเทกำลังกระชากหนีกลุ่มใหญ่มาพร้อมกับ ลี วัน ชุน นักปั่นทีมชาติฮ่องกง จนกระทั่งถึงช่วง 300 เมตรสุดท้ายทั้ง 2 คนเร่งเครื่องสปรินท์แย่งชิงกันเข้าเส้นชัย ปรากฏว่า ลี วัน ชุน เฉือนชนะไปอย่างฉิวเฉียด คว้าเหรียญทองไปครอง ส่วนกฤตภาสได้เหรียญเงิน ด้วยเวลา 2.23.54 ชั่วโมงเท่ากัน ส่วนเหรียญทองแดง เป็นของ ทาฮา อัลคาลิฟาห์ จากซาอุดีอาระเบีย เวลา 2.24.04 ชั่วโมง

พลเอกเดชา กล่าวว่า จากผลงานอันยอดเยี่ยมของกฤตภาสที่คว้ามาอีก 1 เหรียญเงิน นับเป็นเหรียญที่ 2 ของกฤตภาส โดยก่อนหน้านี้ กฤตภาสได้มา 1 เหรียญทองแดงจากรายการไทม์ไทรอัลบุคคลชาย นับว่าเป็นการปิดฉากกีฬาจักรยานเอเชี่ยน ยูธ เกมส์ ได้อย่างสวยงาม และเกินเป้าหมายที่สมาคมกีฬาจักรยานฯ หวังเอาไว้ คือเหรียญใดเหรียญหนึ่ง แต่ทัพนักปั่นสายเลือดใหม่ของไทยทำให้ 1 เหรียญเงิน 1 เหรียญทองแดง ก็ต้องขอชื่นชมกฤตภาสและนักปั่นคนอื่น ๆ ที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจสู้กันอย่างสุดความสามารถ และต้องขอขอบคุณพี่น้องชาวไทยที่ช่วยส่งกำลังใจมาให้เด็กไทยในการแข่งขันครั้งนี้ด้วย สมาคมกีฬาจักรยานฯ ทำงานกันอย่างหนัก พวกเราทุ่มเทกันอย่างเต็มที่เพื่อสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทยอย่างไม่หยุดยั้ง

ทั้งนี้ คณะนักกีฬาจักรยานทีมชาติไทยมีกำหนดเดินทางกลับประเทศไทยในวันที่ 31 ตุลาคมนี้ ด้วยสายการบินกาตาร์ แอร์เวย์ส เที่ยวบิน QR836 ถึงสนามบินนานาชาติสุวรรณถูมิ เวลา 13.05 น.

กฤตภาส คว้า 1 เงิน 1 ทองแดง ปิดฉากเอเชียน ยูธ เกมส์

การแข่งขันจักรยานในเอเชียน ยูธ เกมส์ ครั้งที่ 3 ที่บาห์เรน จบลงด้วยความสำเร็จของนักกีฬาไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กฤตภาส หอมขจร ที่สามารถกฤตภาส คว้า 1 เงิน 1 ทองแดง ปิดฉากเอเชียน ยูธ เกมส์ได้อย่างสวยงาม สร้างความภาคภูมิใจให้กับประเทศไทยเป็นอย่างยิ่ง

สรุปผลงาน กฤตภาส คว้า 1 เงิน 1 ทองแดง ปิดฉากเอเชียน ยูธ เกมส์

ผลงานของกฤตภาสในครั้งนี้ ถือเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่สำหรับวงการกีฬาจักรยานของไทย แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของนักกีฬารุ่นใหม่ และความมุ่งมั่นตั้งใจในการฝึกซ้อมอย่างหนัก

  • เหรียญเงิน: ประเภทโรดเรซบุคคลชาย
  • เหรียญทองแดง: ประเภทไทม์ไทรอัลบุคคลชาย

พลเอกเดชา เหมกระศรี ได้กล่าวชื่นชมกฤตภาสและนักปั่นทุกคนที่ทุ่มเทอย่างเต็มที่ และขอบคุณชาวไทยที่ส่งกำลังใจให้ทัพนักกีฬาจักรยาน

สำหรับกฤตภาส คว้า 1 เงิน 1 ทองแดง ปิดฉากเอเชียน ยูธ เกมส์ครั้งนี้ ถือเป็นประสบการณ์ที่ล้ำค่าสำหรับนักกีฬาทุกคน และจะเป็นแรงผลักดันให้พัฒนาฝีมือยิ่งขึ้นไปอีกในอนาคต

สมาคมกีฬาจักรยานฯ ยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนานักกีฬาจักรยานของไทยอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติต่อไป

การที่กฤตภาส คว้า 1 เงิน 1 ทองแดง ปิดฉากเอเชียน ยูธ เกมส์ ทำให้เห็นว่าประเทศไทยมีนักกีฬาที่มีศักยภาพพร้อมที่จะก้าวไปสู่ระดับนานาชาติ ขอเป็นกำลังใจให้นักกีฬาจักรยานไทยทุกคน ประสบความสำเร็จยิ่งๆ ขึ้นไป

ที่มา – กฤตภาส คว้า 1 เงิน 1 ทองแดง ให้ทัพจักรยาน ปิดฉากเอเชียน ยูธ เกมส์

กกท. ส่งเยาวชนสู้ศึกเอเชียนยูธ ตั้งเป้า 22 ทอง

กกท. พร้อมส่งทัพนักกีฬาเยาวชนทีมชาติไทย 330 คน เข้าร่วมมหกรรมกีฬาเอเชียน ยูธ เกมส์ ครั้งที่ 3 วันที่ 22-31 ตุลาคม 2568 ที่ประเทศบาห์เรน วางเป้าหมายร่วมกับสมาคมกีฬา คว้า 22 เหรียญทอง พร้อมต่อยอดเดินหน้าเสนอตัวเป็นเจ้าภาพยูธโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 5 ปี 2030

ความเคลื่อนไหวของนักกีฬาเยาวชนทีมชาติไทย ชุดเข้าร่วมมหกรรมกีฬาเอเชียน ยูธ เกมส์ ครั้งที่ 3 ซึ่งประเทศบาห์เรนเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 22-31 ตุลาคม 2568 โดยมีนักกีฬากว่า 4,300 คน จาก 45 ประเทศในเอเชีย เข้าร่วมการชิงชัยทั้งหมด 26 ชนิดกีฬา 247 เหรียญทอง

ล่าสุด ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยว่า กกท. ได้ร่วมกับสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทย ดำเนินการเตรียมนักกีฬาอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันเอเชียน ยูธ เกมส์ ครั้งนี้ ซึ่งรายการนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของการเตรียมความพร้อมของประเทศไทย ที่จะยื่นเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดมหกรรมกีฬายูธโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 5 ในปี 2030 ต่อไป

“เราสนับสนุนทุกอย่างที่เป็นการแข่งขันระดับนานาชาติของเยาวชนในทุกมหกรรมกีฬา เช่นเดียวกับการเสนอตัวจัดมหกรรมกีฬายูธโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 5 ในปี 2030 เราก็ยังเดินหน้าเพื่อคว้าสิทธิในการเป็นเจ้าภาพให้ได้” ดร.ก้องศักด กล่าว

ผู้ว่าการ กกท. กล่าวเพิ่มเติมว่า จากการที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ในเดือนธันวาคมนี้ และเราได้เปิดให้เด็ก ๆ เยาวชน นักเรียน ร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในซีเกมส์ด้วย เราจะนำเรื่องนี้ไปเป็นส่วนหนึ่งให้คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) ได้นำไปพิจารณาถึงความพร้อมของประเทศไทย รวมไปถึงการจัดกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ก็จะถูกรวมเข้าไปในแผนการนำเสนอความพร้อมด้วย

สำหรับมหกรรมกีฬาเอเชียน ยูธ เกมส์ ครั้งที่ 3 ระหว่างวันที่ 22-31 ตุลาคม 2568 ที่ประเทศบาห์เรน กกท. ร่วมกับคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทยฯ ส่งนักกีฬาเยาวชนทีมชาติไทยรวม 330 คน เข้าร่วมการแข่งขัน 24 ชนิดกีฬา ได้แก่ ว่ายน้ำ, กรีฑา, แบดมินตัน, แฮนด์บอล, บาสเกตบอล 3×3, อีสปอร์ต, ยูโด, มวยปล้ำ, จักรยาน, กอล์ฟ, วอลเลย์บอล, เทควันโด, เทเบิลเทนนิส, ไตรกีฬา, มวยสากล, ยกน้ำหนัก, กาบัดดี้, เทคบอล, MMA – ศิลปะการต่อสู้แบบผสม, ยูยิตสู, ฟุตซอล, มวยไทย, ปันจักสีลัต และคูราช ยกเว้นขี่ม้าและขี่อูฐ

โดย กกท. ตั้งเป้าหมายร่วมกับสมาคมกีฬาแห่งประเทศไทยไว้ที่ 22 เหรียญทอง จาก ว่ายน้ำ 1 เหรียญทอง, กรีฑา 3 เหรียญทอง, แบดมินตัน 1 เหรียญทอง, อีสปอร์ต 1 เหรียญทอง, ยูยิตสู 2 เหรียญทอง, จักรยาน 1 เหรียญทอง, เทควันโด 2 เหรียญทอง, ไตรกีฬา 1 เหรียญทอง, มวยปล้ำ 1 เหรียญทอง, ยกน้ำหนัก 1 เหรียญทอง, เทคบอล 2 เหรียญทอง, มวยสากล 1 เหรียญทอง และมวยไทย 5 เหรียญทอง

กกท. ส่งเยาวชนสู้ศึกเอเชียนยูธ วางเป้าคว้า 22 ทอง

การที่ กกท. ส่งเยาวชนสู้ศึกเอเชียนยูธ ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนากีฬาของชาติ การสนับสนุนและพัฒนานักกีฬาเยาวชนอย่างต่อเนื่อง จะช่วยสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งให้กับวงการกีฬาไทยในอนาคต การตั้งเป้าหมายคว้า 22 เหรียญทองในการแข่งขันครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความตั้งใจของนักกีฬาและผู้ฝึกสอนทุกคน

ทำไมการส่งเยาวชนสู้ศึกเอเชียนยูธจึงสำคัญ?

  • เป็นการสร้างโอกาสให้นักกีฬาเยาวชนได้พัฒนาฝีมือและประสบการณ์ในระดับนานาชาติ
  • เป็นการเตรียมความพร้อมสำหรับการแข่งขันในระดับที่สูงขึ้น เช่น โอลิมปิกเกมส์
  • เป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนไทยหันมาสนใจและเล่นกีฬามากขึ้น

การที่ประเทศไทยตั้งเป้าหมายที่จะเป็นเจ้าภาพยูธโอลิมปิกเกมส์ ถือเป็นโอกาสที่ดีในการพัฒนากีฬาของชาติในทุกด้าน การเป็นเจ้าภาพจะช่วยกระตุ้นความสนใจในกีฬาของเยาวชน สร้างโครงสร้างพื้นฐานด้านกีฬาที่ทันสมัย และส่งเสริมการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศ

การส่งเยาวชนสู้ศึกเอเชียนยูธในครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการแข่งขันกีฬา แต่ยังเป็นการลงทุนเพื่ออนาคตของวงการกีฬาไทย การสนับสนุนและให้กำลังใจนักกีฬาเยาวชนทุกคน คือสิ่งที่เราสามารถทำได้เพื่อร่วมสร้างความสำเร็จให้กับประเทศไทย

ดังนั้นการ กกท. ส่งเยาวชนสู้ศึกเอเชียนยูธ ครั้งนี้ ควรได้รับความสนใจและสนับสนุนจากทุกภาคส่วน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ และสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศไทย

ที่มา – กกท. ส่งเยาวชนสู้ศึกเอเชียนยูธ วางเป้าคว้า 22 ทอง – ต่อยอดเสนอจัดยูธโอลิมปิก