เยอรมนี

ฝรั่งเศสเจ๊าไอซ์แลนด์, เยอรมนีเฉือน : คัดบอลโลก 2026

ฝรั่งเศส โดน ไอซ์แลนด์ ไล่เจ๊า 2-2 ขณะที่ เยอรมนี บุกเฉือน ไอร์แลนด์เหนือ 1-0 ในศึกคัดบอลโลก 2026 โซนยุโรป นี่คือสรุปผลการแข่งขันที่น่าสนใจ

การแข่งขันฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนยุโรป เมื่อวันที่ 13 ต.ค. คู่ที่น่าสนใจอยู่ที่กลุ่มดี ไอซ์แลนด์ เปิดสนาม ลอการ์ดาลูร์ รับการมาเยือนของ “ตราไก่” ฝรั่งเศส โดยเกมนี้จบลงด้วยผลเสมอสุดมันส์

เกมนี้เจ้าบ้านส่ง อัลเบิร์ต กุดมุนด์สัน, ไซวาร์ อัตลี แม็กนุสสัน, อันดรี กุดยอห์นเซน ลงสนาม ขณะที่ทีมเยือนวางไมเคิล โอลิเซ, คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู และฌอง-ฟิลิปป์ มาเตตา เป็นแกนหลัก

ผลปรากฏว่า ฝรั่งเศส ทำได้แค่เสมอกับ ไอซ์แลนด์ 2-2 โดยเกมนี้ทีมเยือนได้ประตูจาก คริสโตเฟอร์ เอ็นคุนคู นาที 63 และฌอง-ฟิลิปป์ มาเตตา นาที 68 ส่วนเจ้าถิ่นได้ประตูจาก วิกเตอร์ พาลส์สัน นาที 39 และคริสเตียน ฮลินส์สัน นาที 70 ทำให้ ฝรั่งเศสเจ๊าไอซ์แลนด์, เยอรมนีเฉือน : คัดบอลโลก 2026 กลายเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึง

อีกคู่ในกลุ่มเดียวกัน ยูเครน ชนะ อาเซอร์ไบจาน 2-1

อันดับของกลุ่มนี้หลังผ่านไป 4 นัดเท่ากัน 1. ฝรั่งเศส (10 คะแนน), 2. ยูเครน (7 คะแนน), 3. ไอซ์แลนด์ (4 คะแนน), 4. อาเซอร์ไบจาน (1 คะแนน)

ด้านกลุ่มเอ “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี บุกชนะ ไอร์แลนด์เหนือ 1-0 จากประตูชัยของ นิก โวลเทอมาเดอ นาที 31

ผลอีกคู่ในกลุ่มเดียวกัน สโลวะเกีย ชนะ ลักเซมเบิร์ก 2-0

อันดับของกลุ่มนี้หลังผ่านไป 4 นัดเท่ากัน 1. เยอรมนี (9 คะแนน), 2. สโลวะเกีย (9 คะแนน), 3. ไอร์แลนด์เหนือ (6 คะแนน), 4. ลักเซมเบิร์ก (0 คะแนน)

ขณะที่กลุ่มบี สโลวีเนีย เสมอ สวิตเซอร์แลนด์ 0-0 และสวีเดน แพ้ โคโซโว 0-1

อันดับของกลุ่มนี้หลังผ่านไป 4 นัดเท่ากัน 1. สวิตเซอร์แลนด์ (10 คะแนน), 2. โคโซโว (7 คะแนน), 3. สโลวีเนีย (3 คะแนน), 4. สวีเดน (1 คะแนน)

ส่วนกลุ่มเจ เวลส์ แพ้ เบลเยียม 2-4 และนอร์ทมาซิโดเนีย เสมอ คาซัคสถาน 1-1

อันดับของกลุ่มนี้ 1. เบลเยียม (แข่ง 6 นัด, 14 คะแนน), 2. นอร์ทมาซิโดเนีย (แข่ง 7 นัด, 13 คะแนน), 3. เวลส์ (แข่ง 6 นัด, 10 คะแนน), 4. คาซัคสถาน (แข่ง 7 นัด, 7 คะแนน) และลิกเตนสไตน์ (แข่ง 6 นัด, 0 คะแนน)

สรุปผล ฝรั่งเศสเจ๊าไอซ์แลนด์, เยอรมนีเฉือน : คัดบอลโลก 2026

โดยสรุปแล้ว ในศึกฝรั่งเศสเจ๊าไอซ์แลนด์, เยอรมนีเฉือน : คัดบอลโลก 2026 มีผลการแข่งขันที่น่าสนใจดังนี้:

  • ฝรั่งเศส เสมอ ไอซ์แลนด์ 2-2 ทำให้มี 10 คะแนน นำเป็นจ่าฝูงกลุ่มดี
  • เยอรมนี บุกชนะ ไอร์แลนด์เหนือ 1-0 เก็บ 9 คะแนนเต็มจาก 3 นัด รั้งอันดับ 1 กลุ่มเอ
  • กลุ่มอื่นๆ ก็มีการเปลี่ยนแปลงอันดับที่น่าจับตามองเช่นกัน

ทำไมผลเสมอของฝรั่งเศสจึงสำคัญใน คัดบอลโลก 2026

การที่ฝรั่งเศสทำได้แค่เสมอไอซ์แลนด์ส่งผลให้สถานการณ์ในกลุ่มดีมีความเข้มข้นมากขึ้น ยูเครนที่ตามมาติดๆ มีโอกาสที่จะแซงขึ้นเป็นจ่าฝูงได้หากฝรั่งเศสพลาดท่าอีกครั้ง นอกจากนี้ ไอซ์แลนด์เองก็ยังมีโอกาสในการลุ้นเข้ารอบต่อไปเช่นกัน ทำให้ทุกนัดที่เหลือมีความหมายอย่างยิ่งสำหรับทุกทีมในกลุ่ม

สถานการณ์ในกลุ่ม A ก็สูสีไม่แพ้กัน แม้ว่าเยอรมนีจะเก็บชัยชนะได้ แต่สโลวะเกียก็ทำแต้มเท่ากัน ทำให้การแข่งขันเพื่อแย่งชิงตั๋วไปฟุตบอลโลก 2026 ยังคงเปิดกว้างสำหรับทั้งสองทีม

สำหรับกลุ่ม B และ J ก็มีทีมที่ทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่อง และมีโอกาสที่จะผ่านเข้ารอบสุดท้ายได้เช่นกัน แฟนบอลทั่วโลกคงต้องติดตามกันต่อไปว่าทีมใดจะสามารถสร้างเซอร์ไพรส์และคว้าตั๋วไปลุยศึกฟุตบอลโลก 2026 ได้สำเร็จ

ผลการแข่งขันในรอบคัดเลือกนี้แสดงให้เห็นว่าฟุตบอลระดับนานชาติมีการแข่งขันที่สูงขึ้น ทุกทีมต่างพัฒนาฝีเท้าและพร้อมที่จะต่อสู้เพื่อโอกาสในการเข้าร่วมมหกรรมลูกหนังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก การที่ทีมใหญ่อย่างฝรั่งเศสต้องเจอกับความยากลำบากในการเอาชนะทีมรอง ทำให้เห็นว่าไม่มีทีมใดสามารถประมาทคู่ต่อสู้ได้เลย และทุกนัดมีความสำคัญอย่างยิ่งในการตัดสินว่าใครจะได้เป็นตัวแทนของทวีปยุโรปไปแข่งขันในฟุตบอลโลก 2026

ที่มา – ฝรั่งเศส แค่เจ๊า ไอซ์แลนด์ – เยอรมนี บุกเฉือน ไอร์แลนด์เหนือ ศึกคัดบอลโลก 2026

ยอดส่งออกเยอรมนีหดตัว! กระทบเศรษฐกิจ?

ยอดส่งออกเยอรมนีหดตัวสวนคาดการณ์ มูลค่าส่งออกไปสหรัฐฯ ทรุดหนักสุดในรอบเกือบ 4 ปี

สถานการณ์เศรษฐกิจโลกยังคงผันผวนอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดมีข่าวร้ายจากเยอรมนี เมื่อภาคการส่งออกของประเทศซึ่งเป็นเครื่องจักรสำคัญทางเศรษฐกิจ หดตัวลงอย่างน่าตกใจ ข้อมูลล่าสุดชี้ว่า ยอดส่งออกเยอรมนีหดตัวสวนคาดการณ์ มูลค่าส่งออกไปสหรัฐฯ ทรุดหนักสุดในรอบเกือบ 4 ปี ส่งสัญญาณอันตรายต่อเศรษฐกิจยุโรป

สำนักงานสถิติแห่งชาติเยอรมนีรายงานว่า ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ยอดส่งออกโดยรวมของเยอรมนีลดลง 0.5% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ตัวเลขนี้ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะขยายตัว 0.2% ซ้ำร้าย ยอดส่งออกไปยังสหรัฐฯ ซึ่งเป็นตลาดส่งออกที่สำคัญของเยอรมนี กลับหดตัวลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกัน สถานการณ์นี้สร้างความกังวลให้กับนักเศรษฐศาสตร์และผู้กำหนดนโยบายเป็นอย่างมาก

สาเหตุสำคัญที่ทำให้ ยอดส่งออกเยอรมนีหดตัวสวนคาดการณ์ มูลค่าส่งออกไปสหรัฐฯ ทรุดหนักสุดในรอบเกือบ 4 ปี คาดการณ์ว่ามาจากหลายปัจจัย หนึ่งในนั้นคือมาตรการกีดกันทางการค้าที่เข้มงวดขึ้นของสหรัฐฯ ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งมาตรการกำแพงภาษีที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ นำมาใช้ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสินค้าส่งออกจากเยอรมนี ทำให้ราคาสูงขึ้นและแข่งขันยากขึ้นในตลาดสหรัฐฯ

ในขณะที่ยอดส่งออกลดลง ยอดนำเข้าของเยอรมนีก็ปรับตัวลดลงเช่นกัน โดยลดลง 1.3% ส่งผลให้เยอรมนียังคงเกินดุลการค้าอยู่ที่ 1.72 หมื่นล้านยูโร ในเดือนสิงหาคม อย่างไรก็ตาม การเกินดุลการค้าที่เพิ่มขึ้นนี้ไม่ได้มาจากยอดส่งออกที่เพิ่มขึ้น แต่มาจากการนำเข้าที่ลดลง ซึ่งเป็นสัญญาณที่ไม่ดีนักสำหรับเศรษฐกิจโดยรวม

ผลกระทบต่อเศรษฐกิจเยอรมนีและยุโรป

สถานการณ์ที่ ยอดส่งออกเยอรมนีหดตัวสวนคาดการณ์ มูลค่าส่งออกไปสหรัฐฯ ทรุดหนักสุดในรอบเกือบ 4 ปี นี้เกิดขึ้นพร้อมกับรายงานอื่นๆ ที่บ่งชี้ถึงความอ่อนแอของภาคการผลิตในเยอรมนี ก่อนหน้านี้มีรายงานว่าคำสั่งซื้อภาคอุตสาหกรรมของเยอรมนีลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 และผลผลิตอุตสาหกรรมในเดือนสิงหาคมลดลงอย่างมากถึง 4.3% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า ตัวเลขเหล่านี้ชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจเยอรมนีกำลังเผชิญกับความท้าทายอย่างมาก และมีความเสี่ยงที่จะเข้าสู่ภาวะถดถอย

เยอรมนีซึ่งเป็นประเทศเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป มีความเปราะบางต่อความผันผวนของเศรษฐกิจโลกและการเปลี่ยนแปลงนโยบายการค้าของประเทศอื่นๆ รัฐบาลเยอรมนีคาดการณ์ว่าอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในปีนี้จะอยู่ที่เพียง 0.2% เท่านั้น ซึ่งเป็นอัตราที่ต่ำมากเมื่อเทียบกับศักยภาพของประเทศ

สถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้เป็นเครื่องเตือนใจว่าเศรษฐกิจโลกยังคงมีความไม่แน่นอนสูง และประเทศต่างๆ จำเป็นต้องเตรียมพร้อมรับมือกับความท้าทายที่อาจเกิดขึ้น การส่งเสริมการค้าเสรีและการสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เศรษฐกิจโลกฟื้นตัวและเติบโตได้อย่างยั่งยืน

ที่มา – ยอดส่งออกเยอรมนีหดตัวสวนคาดการณ์ มูลค่าส่งออกไปสหรัฐฯ ทรุดหนักสุดในรอบเกือบ 4 ปี

สนามบินมิวนิกเปิดแล้ว! หลังโดรนป่วนยกเลิก 17 เที่ยวบิน

สนามบินมิวนิกเปิดแล้ว! หลังโดรนป่วนยกเลิก 17 เที่ยวบิน ที่เยอรมนีได้กลับมาเปิดให้บริการตามปกติแล้ววันนี้ (3 ต.ค.) หลังจากต้องปิดสนามบินตลอดคืนเพราะมีผู้พบเห็นโดรนหลายครั้ง เหตุการณ์นี้ทำให้เที่ยวบินหลายสิบเที่ยวต้องถูกยกเลิกและเปลี่ยนเส้นทาง และยังสร้างความกังวลมากขึ้นเกี่ยวกับความปลอดภัยของโครงสร้างพื้นฐานสำคัญในยุโรป

สนามบินกลับมาให้บริการได้อีกครั้งในช่วงเช้ามืดวันศุกร์ โดยเที่ยวบินแรกซึ่งมาจากกรุงเทพฯ ลงจอดเมื่อเวลาประมาณ 5:25 น. ทางสนามบินเปิดเผยว่า การสั่งระงับควบคุมจราจรทางอากาศเมื่อค่ำวันพฤหัสบดี (2 ต.ค.) ทำให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินไป 17 เที่ยว ส่งผลกระทบต่อผู้โดยสารเกือบ 3,000 คน ส่วนเที่ยวบินขาเข้าอีก 15 เที่ยวก็ต้องเปลี่ยนไปลงจอดที่เมืองอื่นแทน เช่น ชตุทการ์ท นูเรมเบิร์ก และแฟรงก์เฟิร์ต

โฆษกตำรวจให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์บิลด์ (Bild) ว่า มีคนเห็นโดรนหลายลำบินอยู่เหนือสนามบินในช่วงค่ำ และเสริมว่าเพราะเป็นเวลากลางคืนและมืดมาก จึงไม่สามารถระบุขนาดหรือชนิดของโดรนได้

เหตุการณ์วุ่นวายที่มิวนิกครั้งนี้เกิดขึ้นต่อเนื่องจากกรณีคล้ายกันที่เดนมาร์กและนอร์เวย์ ซึ่งสนามบินของทั้งสองประเทศก็เพิ่งปิดชั่วคราวเมื่อสัปดาห์ก่อนเพราะถูกโดรนบุกรุกน่านฟ้าเช่นกัน จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้ในการประชุมสุดยอดเมื่อวันพุธ (1 ต.ค.) บรรดาผู้นำสหภาพยุโรปได้เห็นชอบแผนเสริมความแข็งแกร่งด้านการป้องกันโดรนของกลุ่มประเทศสมาชิก

“ยุโรปต้องป้องกันตัวเองได้” เมตเต เฟรเดอริกเซน นายกรัฐมนตรีเดนมาร์ก กล่าวหลังเสร็จสิ้นการประชุม

แม้ทางการจะยังไม่ชี้ชัดว่าใครเป็นผู้ก่อเหตุที่มิวนิก แต่เจ้าหน้าที่ยุโรปบางส่วนตั้งข้อสังเกตว่า รัสเซียอาจอยู่เบื้องหลังการก่อกวนครั้งอื่น ๆ ที่ผ่านมา

“รัสเซียพยายามทดสอบเรา และในขณะเดียวกันก็พยายามสร้างความแตกแยกและความวิตกกังวลในสังคมของเรา” เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป กล่าวเมื่อวันพุธ

ขณะที่เมื่อวันพฤหัสบดี ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ได้กล่าวเชิงติดตลกว่าจะไม่ส่งโดรนไปบินเหนือเดนมาร์กอีก อย่างไรก็ตาม รัฐบาลรัสเซียยังคงปฏิเสธความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทั้งหมด

เหตุการณ์ป่วนสนามบินครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศตึงเครียดในเมืองมิวนิกตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากเทศกาลเบียร์อ็อกโทเบอร์เฟสต์อันโด่งดังเพิ่งถูกสั่งปิดชั่วคราวจากการขู่วางระเบิด ประกอบกับมีการค้นพบวัตถุระเบิดในอาคารที่พักอาศัยทางตอนเหนือของเมืองด้วย

สนามบินมิวนิกเปิดแล้ว! หลังโดรนป่วนยกเลิก 17 เที่ยวบิน

ล่าสุด สนามบินมิวนิกเปิดแล้ว! หลังโดรนป่วนยกเลิก 17 เที่ยวบิน ส่งผลกระทบต่อการเดินทางของผู้โดยสารจำนวนมาก เหตุการณ์นี้เป็นเครื่องเตือนใจถึงความสำคัญของการรักษาความปลอดภัยของสนามบินและโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญอื่นๆ

ผลกระทบจากเหตุการณ์ สนามบินมิวนิกเปิดแล้ว! หลังโดรนป่วนยกเลิก 17 เที่ยวบิน

เหตุการณ์ที่ สนามบินมิวนิกเปิดแล้ว! หลังโดรนป่วนยกเลิก 17 เที่ยวบิน ทำให้เกิดผลกระทบอย่างมากต่อผู้โดยสารที่ต้องเดินทางผ่านสนามบินมิวนิก เที่ยวบินถูกยกเลิกและเปลี่ยนเส้นทาง ทำให้ผู้โดยสารจำนวนมากต้องตกค้างและเสียเวลาในการเดินทาง นอกจากนี้ เหตุการณ์นี้ยังส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของสนามบินมิวนิกอีกด้วย

เหตุการณ์โดรนรบกวนการดำเนินงานของสนามบินมิวนิกเป็นบทเรียนสำคัญที่ชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นในการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย เพื่อป้องกันเหตุการณ์ในลักษณะนี้ไม่ให้เกิดขึ้นอีกในอนาคต การใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการตรวจจับและสกัดกั้นโดรน รวมถึงการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวด จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าสนามบินและโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญอื่นๆ จะปลอดภัยจากภัยคุกคามจากโดรน

ที่มา – สนามบินมิวนิกกลับมาเปิดแล้ว หลังเจอโดรนป่วนจนต้องยกเลิก 17 เที่ยวบิน

พบโดรนปริศนาทำสนามบินมิวนิกป่วน ยกเลิก 17 เที่ยวบิน

เกิดเหตุวุ่นวายที่สนามบินมิวนิก ประเทศเยอรมนี เมื่อมีการพบโดรนปริศนาทำสนามบินมิวนิกป่วน ส่งผลให้เที่ยวบินจำนวนมากต้องถูกยกเลิกและเปลี่ยนเส้นทาง สร้างความเดือดร้อนให้กับผู้โดยสารจำนวนมาก เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงค่ำของวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ทำให้หอบังคับการบินต้องสั่งระงับการให้บริการเป็นการชั่วคราว

ตามแถลงการณ์ของสนามบินมิวนิก ระบุว่า การพบโดรนปริศนาทำสนามบินมิวนิกป่วน ส่งผลให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินไปถึง 17 เที่ยวบิน และมีผู้โดยสารเกือบ 3,000 คนได้รับผลกระทบโดยตรง นอกจากนี้ ยังมีเที่ยวบินขาเข้าอีก 15 เที่ยวบินที่จำเป็นต้องเปลี่ยนไปลงจอดที่สนามบินอื่นแทน เช่น สนามบินในเมืองชตุทการ์ท นูเรมเบิร์ก เวียนนา และแฟรงก์เฟิร์ต

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ถือเป็นอีกครั้งที่โดรนก่อให้เกิดปัญหาในการบินในทวีปยุโรป ย้อนกลับไปเมื่อสัปดาห์ก่อน สนามบินในประเทศเดนมาร์กและนอร์เวย์ก็เคยต้องปิดให้บริการชั่วคราวเนื่องจากเหตุการณ์ในลักษณะเดียวกันนี้

ทางสนามบินมิวนิกได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า หอบังคับการบินของเยอรมนีได้เริ่มจำกัดการขึ้นลงของอากาศยานที่สนามบินมิวนิกตั้งแต่เวลา 22:18 น. ของคืนวันพฤหัสบดี ก่อนที่จะตัดสินใจสั่งระงับเที่ยวบินทั้งหมดในเวลาต่อมา หลังจากมีการพบโดรนปริศนาทำสนามบินมิวนิกป่วน หลายครั้งในบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง

พบโดรนปริศนาทำสนามบินมิวนิกป่วน

สถานการณ์นี้เกิดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศที่ค่อนข้างตึงเครียดในเมืองมิวนิกในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากเทศกาลเบียร์อ็อกโทเบอร์เฟสต์อันโด่งดังเพิ่งจะถูกสั่งปิดชั่วคราวเนื่องจากมีการขู่วางระเบิด นอกจากนี้ ยังมีการค้นพบวัตถุระเบิดในอาคารที่พักอาศัยทางตอนเหนือของเมืองอีกด้วย

ความเป็นไปได้และข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับโดรนปริศนา

สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศเดนมาร์กเมื่อสัปดาห์ก่อน ทางการเดนมาร์กได้เรียกโดรนเหล่านี้ว่าเป็นส่วนหนึ่งของการจู่โจมแบบผสมผสาน แต่ก็ปฏิเสธที่จะระบุว่าใครเป็นผู้กระทำหรือกลุ่มใดที่อยู่เบื้องหลัง อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี เมตเต เฟรเดอริกเซน ได้คาดการณ์ว่า อาจจะเป็นฝีมือของรัสเซีย โดยชี้ว่ารัสเซียเป็นประเทศที่เป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของยุโรป

ในขณะเดียวกัน เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ได้กล่าวติดตลกว่าจะไม่ส่งโดรนไปบินเหนือเดนมาร์กอีก อย่างไรก็ตาม รัฐบาลรัสเซียยังคงยืนกรานปฏิเสธความเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้น

เหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นถึงความเปราะบางของโครงสร้างพื้นฐานด้านการบิน และความจำเป็นในการเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยเพื่อป้องกันภัยคุกคามจากโดรน การนำเทคโนโลยีตรวจจับและต่อต้านโดรนมาใช้จึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าสนามบินจะสามารถดำเนินการได้อย่างราบรื่นและปลอดภัยสำหรับผู้โดยสารทุกคน นอกจากนี้ การสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดและแรงจูงใจเบื้องหลังการพบโดรนปริศนาทำสนามบินมิวนิกป่วน ก็เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีกในอนาคต

ที่มา – พบโดรนปริศนาทำสนามบินมิวนิกป่วน สั่งยกเลิก 17 เที่ยวบิน กระทบผู้โดยสารเกือบ 3 พัน

“ฟอน เดอร์ เลเยน” เตรียมมาตรการเล่นงานอิสราเอล

เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ เลเยน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ได้แถลงว่า EC เตรียมเสนอมาตรการคว่ำบาตรรัฐมนตรีอิสราเอลฝ่ายสุดโต่ง รวมถึงการระงับข้อตกลงความร่วมมือกับอิสราเอลในบางหมวด โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการค้า นี่เป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่า “ฟอน เดอร์ เลเยน” เตรียมออกมาตรการใหม่เล่นงานการค้าอิสราเอล จริง

ในระหว่างการแถลงนโยบายประจำปีต่อรัฐสภายุโรป ณ เมืองสทราซบูร์ ฟอน เดอร์ เลเยน กล่าวว่า “สถานการณ์ในกาซาได้สั่นคลอนมโนธรรมสำนึกของชาวโลก” พลางยอมรับว่าชาติยุโรปยังเสียงแตกในเรื่องนี้ แต่ EC ก็พร้อมจะดำเนินการเท่าที่มีอำนาจโดยลำพัง

เอกสารทางเลือกซึ่งฝ่ายการทูตของสหภาพยุโรป (EU) ได้ยกร่างไว้เมื่อเดือนก.ค. ระบุว่า การระงับข้อตกลงในหมวดที่ว่าด้วยการค้านั้น จะหมายถึงการยกเลิกสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากรสำหรับสินค้าอิสราเอลที่จะเข้ามายังตลาด EU ซึ่งมติดังกล่าวจำต้องอาศัยเสียงข้างมากจากรัฐบาลชาติสมาชิกตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้

ทั้งนี้ เงื่อนไขของเสียงข้างมากดังกล่าวคือต้องได้รับเสียงสนับสนุนจาก 15 ใน 27 ชาติสมาชิก และต้องมีประชากรรวมกันไม่ต่ำกว่า 65% ของทั้ง EU

อนึ่ง EU นับเป็นคู่ค้าอันดับหนึ่งของอิสราเอล โดยมูลค่าการค้าระหว่างกันเมื่อปีที่แล้วนั้น คิดเป็นสัดส่วนเกือบหนึ่งในสามของมูลค่าการค้าระหว่างประเทศทั้งหมดของอิสราเอล

ฟอน เดอร์ เลเยน ยังกล่าวเสริมว่า EC จะชะลอการให้ความช่วยเหลือแก่อิสราเอลในระดับทวิภาคีไว้ก่อน อย่างไรก็ดี มาตรการนี้จะไม่กระทบกระเทือนความร่วมมือกับภาคประชาสังคมและศูนย์ยาด วาเชม (Yad Vashem) อันเป็นอนุสรณ์สถานแห่งชาติในการรำลึกถึงเหตุการณ์ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว

ก่อนหน้านี้ EC เคยมีความพยายามที่จะจำกัดสิทธิของอิสราเอลในการเข้าถึงโครงการวิจัยหลักของ EU แต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จเนื่องจากไม่ได้รับเสียงสนับสนุนจากชาติสมาชิกมากพอ

ในแวดวงการทูตต่างมองว่าท่าทีของเยอรมนีคือตัวแปรสำคัญ ซึ่งที่ผ่านมาฝ่ายเยอรมนีเองก็ยังไม่ได้แสดงท่าทีคล้อยตามข้อเสนอนี้แต่ประการใด

ประธาน EC กล่าวว่า ในเดือนหน้า ทางคณะฯ จะริเริ่มจัดตั้งกลุ่มผู้บริจาคเพื่อปาเลสไตน์ขึ้น ซึ่งจะครอบคลุมถึงการจัดตั้งกลไกเพื่อการบูรณะกาซาขึ้นด้วย

“ฟอน เดอร์ เลเยน” เตรียมออกมาตรการใหม่เล่นงานการค้าอิสราเอล

สถานการณ์ที่ “ฟอน เดอร์ เลเยน” เตรียมออกมาตรการใหม่เล่นงานการค้าอิสราเอลนี้ ส่งผลกระทบต่อหลายภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นด้านเศรษฐกิจ การเมืองระหว่างประเทศ หรือแม้แต่ภาพลักษณ์ของ EU เอง มาตรการดังกล่าวอาจนำไปสู่ความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดระหว่าง EU และอิสราเอล รวมถึงอาจส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพในภูมิภาคตะวันออกกลาง

ผลกระทบจากมาตรการ “ฟอน เดอร์ เลเยน” เตรียมออกมาตรการใหม่เล่นงานการค้าอิสราเอล

การที่ “ฟอน เดอร์ เลเยน” เตรียมออกมาตรการใหม่เล่นงานการค้าอิสราเอล อาจส่งผลให้สินค้าจากอิสราเอลมีราคาสูงขึ้นในตลาด EU เนื่องจากต้องเสียภาษีศุลกากร ทำให้ความสามารถในการแข่งขันลดลง นอกจากนี้ ยังอาจกระทบต่อการลงทุนและความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างทั้งสองฝ่าย

ในขณะเดียวกัน มาตรการนี้อาจได้รับการสนับสนุนจากบางประเทศใน EU ที่มีความเห็นอกเห็นใจชาวปาเลสไตน์ และมองว่าอิสราเอลควรรับผิดชอบต่อสถานการณ์ความขัดแย้งที่เกิดขึ้น

อย่างไรก็ตาม การตัดสินใจของ EU ในครั้งนี้ อาจทำให้เกิดความขัดแย้งภายในองค์กรเอง เนื่องจากแต่ละประเทศสมาชิกมีจุดยืนที่แตกต่างกันในประเด็นนี้

อนาคตความสัมพันธ์ระหว่าง EU และอิสราเอล

อนาคตความสัมพันธ์ระหว่าง EU และอิสราเอล ขึ้นอยู่กับการเจรจาและการประนีประนอมของทั้งสองฝ่าย หากสามารถหาทางออกร่วมกันได้ ก็อาจหลีกเลี่ยงความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นได้

แต่หากสถานการณ์ยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป ความสัมพันธ์ระหว่าง EU และอิสราเอล อาจเข้าสู่ช่วงเวลาที่ยากลำบาก ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความร่วมมือในด้านต่างๆ

การตัดสินใจของ “ฟอน เดอร์ เลเยน” ในครั้งนี้ จึงเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด

ที่มา – “ฟอน เดอร์ เลเยน” ส่งสัญญาณ เตรียมออกมาตรการใหม่เล่นงานการค้าอิสราเอล

เยอรมนีคืนฟอร์ม! สเปนถล่ม: คัดบอลโลก 2026

เยอรมนี คืนฟอร์มเก่งอัด ไอร์แลนด์เหนือ – สเปน ถล่ม ตุรกี ศึกคัดบอลโลก 2026 สุดมันส์! เยอรมนีกลับมาโชว์ฟอร์มโหด เปิดบ้านเฉือนเอาชนะไอร์แลนด์เหนือไปอย่างสุดมันส์ ในขณะที่สเปนก็ไม่น้อยหน้า บุกไปถล่มตุรกีถึงบ้านด้วยสกอร์ขาดลอย ในศึกฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก

การแข่งขันฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนยุโรป คู่ที่น่าสนใจอยู่ที่กลุ่มเอ “อินทรีเหล็ก” เยอรมนี ที่นัดแรกพลิกล็อกพ่าย สโลวะเกีย เปิดสนาม ไรน์ เอเนอร์จี สตาดิโอน รับการมาเยือนของ ไอร์แลนด์เหนือ

เกมนี้เจ้าถิ่นส่ง แซร์ช กนาบรี, โฟลเรียน เวียร์ตซ์ และนิก โวลเทอมาเดอ นำทัพด้านทีมเยือนส่ง คอเนอร์ แบรดลีย์, เจมี รีด และไอแซก ไพรซ์ เป็นแกนหลัก

Soccer Football – World Cup – UEFA Qualifiers – Group A – Germany v Northern Ireland – RheinEnergieStadion, Cologne, Germany – September 7, 2025 Germany’s Florian Wirtz scores their third goal from a free kick REUTERS/Thilo Schmuelgen

 

ผลปรากฏว่า เยอรมนี กลับมาคืนฟอร์มเก่งเอาชนะไป 3-1 จากประตูของ แซร์ช กนาบรี นาทีที่ 7, นาดีม อามิรี นาที 69 และโฟลเรียน เวียร์ตซ์ ที่ยิงฟรีคิกสุดสวยนาที 72 ส่วน ไอร์แลนด์เหนือ ได้จาก ไอแซก ไพรซ์ นาที 34

จากผลที่เกิดขึ้นทำให้ “อินทรีเหล็ก” มีเพิ่มเป็น 3 คะแนนจาก 2 นัดอยู่อันดับ 3 ตารางส่วน ไอร์แลนด์เหนือ หยุดอยู่ที่ 3 คะแนนจาก 2 นัดอยู่อันดับ 2

Soccer Football – World Cup – UEFA Qualifiers – Group E – Turkey v Spain – Konya Buyuksehir Arena, Konya, Turkey – September 7, 2025 Spain’s Mikel Merino celebrates scoring their fifth goal REUTERS/Murad Sezer

 

ส่วนอีกคู่ไฮไลท์ในกลุ่มอี “กระทิงดุ” สเปน คว้าชัย 2 นัดรวดหลังบุกถล่ม ตุรกี ขาดลอย 6-0 จากประตูของ มิเกล เมริโน ทำแฮตทริกนาทีที่ 22, 45+1 และ57, เปดรี นาทีที่ 6 และ62 รวมถึง เฟร์รัน ตอร์เรส นาที 53

เยอรมนี คืนฟอร์มเก่งอัด ไอร์แลนด์เหนือ – สเปน ถล่ม ตุรกี ศึกคัดบอลโลก 2026

ผลงานที่น่าประทับใจของทั้งเยอรมนีและสเปนในศึกคัดบอลโลก 2026 นี้ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและศักยภาพของทีมในการแข่งขันระดับนานาชาติ แฟนบอลทั่วโลกต่างตั้งตารอชมผลงานของพวกเขาในรอบต่อไป

สรุปผลการแข่งขัน: เยอรมนี คืนฟอร์มเก่งอัด ไอร์แลนด์เหนือ – สเปน ถล่ม ตุรกี ศึกคัดบอลโลก 2026

สรุปผลการแข่งขันคัดบอลโลก 2026 ที่น่าสนใจ:

  • เยอรมนี พบ ไอร์แลนด์เหนือ: เยอรมนี ชนะ 3-1
  • ตุรกี พบ สเปน: สเปน ชนะ 6-0

ผลการแข่งขันคู่อื่นๆ

กลุ่มเอ

ลักเซมเบิร์ก 0-1 สโลวะเกีย

กลุ่มอี

จอร์เจีย 3-0 บัลแกเรีย

กลุ่มจี

ลิทัวเนีย 2-3 เนเธอร์แลนด์

โปแลนด์ 3-1 ฟินแลนด์

กลุ่มเจ

มาซิโดเนียเหนือ 5-0 ลิกเตนสไตน์

เบลเยียม 6-0 คาซัคสถาน

 

โดยรวมแล้ว การแข่งขันฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือกเต็มไปด้วยความสนุก ตื่นเต้น และผลการแข่งขันที่น่าประหลาดใจหลายคู่ ทีมใหญ่หลายทีมต่างก็โชว์ฟอร์มได้อย่างแข็งแกร่ง ในขณะที่ทีมเล็กก็พยายามอย่างเต็มที่เพื่อสร้างเซอร์ไพรส์ ศึกคัดบอลโลก 2026 ยังมีอะไรให้ติดตามอีกมากมาย แฟนบอลทั่วโลกห้ามพลาด! เหล่าบรรดาทีมชั้นนำต่างขับเคี่ยวกันอย่างดุเดือดเพื่อคว้าตั๋วไปเล่นในรอบสุดท้ายของ ฟุตบอลโลก 2026 เยอรมนี คืนฟอร์มเก่งอัด ไอร์แลนด์เหนือ – สเปน ถล่ม ตุรกี ศึกคัดบอลโลก 2026 เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเรื่องราวทั้งหมด มาร่วมติดตามและให้กำลังใจทีมโปรดของคุณในการแข่งขันที่เข้มข้นนี้กันต่อไป

ที่มา – เยอรมนี คืนฟอร์มเก่งอัด ไอร์แลนด์เหนือ – สเปน ถล่ม ตุรกี ศึกคัดบอลโลก 2026

สโลวะเกียอัดเยอรมนี: สเปน, เบลเยียมลิ่ว ฟุตบอลโลก

สโลวะเกียอัดเยอรมนี – สเปนกับเบลเยียมชนะขาดลอย ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก

การแข่งขัน ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนยุโรป เมื่อวันที่ 4 กันยายน กลุ่มเอ สโลวะเกียเปิดสนามเทเฮลเน โปล รับการมาเยือนของ “อินทรีเหล็ก”เยอรมนี โดยทั้งคู่ต่างลงสนามเป็นแมตช์แรก สโลวะเกียอัดเยอรมนี ไปอย่างเหนือความคาดหมาย

ครึ่งแรกนาที 42 ดาวิด ฮานช์โก แทงบอลทะลุแนวรับเข้าพื้นที่ด้านซ้ายของเขตโทษ ดาวิด สเตรเล็ก โฉบมาถึงแล้วตวัดส่งเข้ากลางให้ฮานช์โกวิ่งเติมมายิงเสียบตาข่าย สโลวะเกียออกนำ 1-0

ครึ่งหลังนาที 55 มาร์ติน ดูบราฟกา สาดบอลยาวขึ้นหน้า นอร์เบิร์ต กยอมแบร์ ชิงจังหวะขึ้นโขกต่อไปให้ ดาวิด สเตรเล็ก เลี้ยงจี้ใส่กองหลังจนเข้าถึงพื้นที่ด้านขวาของเขตโทษ ก่อนสบจังหวะปั่นด้วยซ้ายเสียบเสาสองสุดสวย สโลวะเกียจึงชนะไป 2-0 อย่างสวยงาม เป็นการเริ่มต้น ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก ที่ดีเยี่ยมของพวกเขา

อีกคู่ในกลุ่มเดียวกัน ลักเซมเบิร์ก แพ้ ไอร์แลนด์เหนือ 1-3

อันดับในตอนนี้ 1. ไอร์แลนด์เหนือ (3 คะแนน), 2. สโลวะเกีย (3 คะแนน), 3. ลักเซมเบิร์ก (0 คะแนน), 4. เยอรมนี (0 คะแนน)

(REUTERS/Spasiyana Sergieva)

ด้านกลุ่มอี บัลแกเรียเปิดสนามกีฬาแห่งชาติวาซิล เลฟสกี แพ้ต่อ “กระทิงดุ”สเปน 0-3
ทีมเยือนได้ประตูจาก มิเคล โอยาร์ซาบาล นาที 5, มาร์ก กูกูเรยา นาที 30, มิเคล เมริโน นาที 38

อีกคู่ในกลุ่มนี้ จอร์เจีย แพ้ ตุรกี 2-3

อันดับในตอนนี้ 1. สเปน (3 คะแนน), 2. ตุรกี (3 คะแนน), 3. จอร์เจีย (0 คะแนน), 4. บัลแกเรีย (0 คะแนน)

(REUTERS/Piroschka Van De Wouw)

กลุ่มจี “กังหันสีส้ม”เนเธอร์แลนด์ เปิดสนามสตาดิโอน เฟเยนูร์ด เสมอกับโปแลนด์ 1-1
เจ้าบ้านได้ประตูจาก เดนเซล ดุมฟรีส์ นาที 28 ส่วนทีมเยือนได้จาก แมตตี แคช นาที 80

อีกคู่ในกลุ่มนี้ ลิทัวเนีย เสมอ มอลตา 1-1

สรุปผล ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก

อันดับในตอนนี้ 1. เนเธอร์แลนด์ (3 นัด : 7 คะแนน), 2. โปแลนด์ (4 นัด : 7 คะแนน), 3. ฟินแลนด์ (4 นัด : 7 คะแนน), 4. ลิทัวเนีย (4 นัด : 3 คะแนน), 5. มอลตา (5 นัด : 2 คะแนน)

(REUTERS/Denis Balibouse)

กลุ่มเจ ลิกเตนสไตน์เปิดสนามไรน์พาร์ก สตาดิโอน แพ้ต่อ “ปีศาจแดง”เบลเยียม 0-6

ทีมเยือนได้ประตูจาก มักซิม เดอ คอยเปอร์ นาที 29, ยูรี ทีเลอมันส์ นาที 46 และ 70 (จุดโทษ), อาร์กธูร์ เธียต นาที 60, เควิน เดอ บรอยน์ นาที 62, มาลิก โฟฟา นาที 90+1

อีกคู่ในกลุ่มนี้ คาซัคสถาน แพ้ เวลส์ 0-1

อันดับในตอนนี้ 1. เวลส์ (5 นัด : 10 คะแนน), 2. นอร์ทมาซิโดเนีย (4 นัด : 8 คะแนน), 3. เบลเยียม (3 นัด : 7 คะแนน), 4. คาซัคสถาน (4 นัด : 3 คะแนน), 5. ลิกเตนสไตน์ (4 นัด : 0 คะแนน)

สรุปผลการแข่งขัน ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนยุโรป สโลวะเกียสร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการเอาชนะเยอรมนี ในขณะที่สเปนและเบลเยียมก็โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม ห้ามพลาดติดตามข่าวสารฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก อย่างใกล้ชิด!

ที่มา – สโลวะเกียอัดเยอรมนี – สเปนกับเบลเยียมชนะขาดลอย ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก

กลุ่มทุนเยอรมนี-นอร์เวย์ ตัวเต็งดีลเรือดำน้ำแคนาดา

การแข่งขันเพื่อคว้าดีลโครงการเรือดำน้ำแคนาดาครั้งใหม่กำลังเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ โดยล่าสุด มาร์ก คาร์นีย์ นายกรัฐมนตรีแคนาดา ได้ออกมาเปิดเผยว่า รัฐบาลได้คัดเลือกบริษัทที่เสนอราคาเหลือเพียง 2 รายสุดท้าย ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ กลุ่มบริษัทร่วมทุนจากเยอรมนีและนอร์เวย์ ที่ได้รับการจับตามองว่าเป็นตัวเต็งในศึกชิงดีลครั้งนี้

กลุ่มทุนเยอรมนี-นอร์เวย์ติดโผตัวเต็ง ศึกชิงดีลเรือดำน้ำแคนาดา

ระหว่างการเยือนเยอรมนีอย่างเป็นทางการ นายกฯ คาร์นีย์ได้ให้สัมภาษณ์ร่วมกับ ฟรีดริช แมร์ซ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ณ กรุงเบอร์ลิน ว่า เขามีกำหนดการเดินทางไปเยี่ยมชมอู่ต่อเรือของบริษัท Thyssenkrupp Marine Systems ที่เมืองคีล พร้อมด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของแคนาดา ซึ่งการเดินทางครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของแคนาดาในการจัดหาเรือดำน้ำแคนาดาที่มีประสิทธิภาพ และตอบโจทย์ความต้องการของกองทัพ

นอกจากประเด็นเรื่องเรือดำน้ำแคนาดาแล้ว ผู้นำแคนาดายังได้ประกาศปฏิญญาร่วมฉบับใหม่ว่าด้วยความร่วมมือด้านแร่สำคัญระหว่างสองประเทศ โดยย้ำว่าแคนาดาสามารถเข้ามามีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างความมั่นคงด้านห่วงโซ่อุปทานแร่ให้กับเยอรมนี ซึ่งกำลังพยายามลดการพึ่งพาการจัดหาแร่จากจีนและรัสเซีย ความร่วมมือนี้จะช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ และลดความเสี่ยงจากภูมิรัฐศาสตร์โลก

ตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมของความร่วมมือนี้คือ การจับมือกันระหว่างบริษัทเหมืองแร่ Troilus Gold ของแคนาดา กับบริษัท Aurubis AG ในเมืองฮัมบูร์ก เพื่อสร้างห่วงโซ่อุปทานแม่เหล็กแร่หายากเชื่อมโยงระหว่างรัฐควิเบกของแคนาดากับเยอรมนี ซึ่งเป็นโครงการที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของความร่วมมือระหว่างประเทศในการสร้างความมั่นคงด้านอุปทานแร่

เพื่อสนับสนุนความร่วมมือเหล่านี้ นายกฯ คาร์นีย์ระบุว่า รัฐบาลแคนาดากำลังระดมเม็ดเงินลงทุนมหาศาลเกือบ 5 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ ทั้งด้านพลังงาน ท่าเรือ และระบบดิจิทัล การลงทุนเหล่านี้จะช่วยให้แคนาดาสามารถรองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจ และเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันในระดับโลก

เมื่อปีที่แล้ว แคนาดาและเยอรมนีได้ลงนามในข้อตกลงเพื่อผลักดันการค้าไฮโดรเจนสะอาดในเชิงพาณิชย์ แต่ความคืบหน้าของโครงการดังกล่าวยังคงมีความไม่แน่นอน เนื่องจากความต้องการเชื้อเพลิงสะอาดในเยอรมนียังอยู่ในวงจำกัด อย่างไรก็ตาม ทั้งสองประเทศยังคงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาความร่วมมือในด้านนี้ต่อไป

อนาคตของโครงการเรือดำน้ำแคนาดา

การที่กลุ่มทุนเยอรมนี-นอร์เวย์ติดโผตัวเต็งในศึกชิงดีลเรือดำน้ำแคนาดา แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของบริษัทในยุโรปในการแข่งขันในตลาดโลก และความสำคัญของความร่วมมือระหว่างประเทศในการพัฒนาเทคโนโลยีทางทหาร รัฐบาลแคนาดาจะต้องพิจารณาข้อเสนอของแต่ละบริษัทอย่างรอบคอบ เพื่อให้ได้เรือดำน้ำที่มีประสิทธิภาพ และคุ้มค่ากับเงินภาษีของประชาชน

การตัดสินใจของแคนาดาในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่จะส่งผลต่อความมั่นคงทางทหารของประเทศเท่านั้น แต่ยังมีผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และอนาคตของอุตสาหกรรมต่อเรือดำน้ำทั่วโลก การจับตาดูการแข่งขันครั้งนี้จึงเป็นสิ่งที่น่าสนใจอย่างยิ่ง

จากสถานการณ์ปัจจุบัน การที่กลุ่มทุนจากเยอรมนีและนอร์เวย์เป็นตัวเต็งนั้น แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในเทคโนโลยีและศักยภาพของบริษัทในยุโรป แต่สุดท้ายแล้ว การตัดสินใจขั้นสุดท้ายขึ้นอยู่กับการพิจารณาอย่างรอบคอบของรัฐบาลแคนาดา โดยคำนึงถึงปัจจัยด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเป็นสำคัญ

ที่มา – กลุ่มทุนเยอรมนี-นอร์เวย์ติดโผตัวเต็ง ศึกชิงดีลเรือดำน้ำแคนาดา

เยอรมนีไม่รับรองรัฐปาเลสไตน์ สวนทางตะวันตก

นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ยืนยันชัดเจนว่า เยอรมนีจะไม่รับรองรัฐปาเลสไตน์ สวนทางกับมติของกลุ่มพันธมิตรชาติตะวันตกที่กำลังผลักดันเรื่องนี้ในการประชุมสหประชาชาติที่จะถึงนี้ มาเจาะลึกถึงเหตุผลและประเด็นที่น่าสนใจในเรื่องนี้กันครับ

ฟรีดริช แมร์ซ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ได้ออกมาประกาศจุดยืนที่ชัดเจนว่า เยอรมนีจะไม่เข้าร่วมกับกลุ่มชาติพันธมิตรตะวันตกในการผลักดันให้มีการรับรองสถานะรัฐปาเลสไตน์ในการประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) ที่กำลังจะเกิดขึ้นในเดือนหน้า โดยให้เหตุผลสำคัญว่า สถานการณ์ปัจจุบันยังไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่จำเป็นสำหรับการรับรอง

ท่าทีดังกล่าวเกิดขึ้นระหว่างการแถลงข่าวร่วมกับ มาร์ก คาร์นีย์ นายกรัฐมนตรีแคนาดา ซึ่งเป็นหนึ่งในชาติแกนนำที่ได้ประกาศแผนการที่จะรับรองรัฐปาเลสไตน์ในการประชุมครั้งนี้ เช่นเดียวกับฝรั่งเศสและสหราชอาณาจักร (UK) ที่ได้ออกมาแสดงความเห็นในทิศทางเดียวกันก่อนหน้านี้แล้ว

นายกฯ แมร์ซ กล่าวอย่างหนักแน่นว่า “สำหรับประเด็นเรื่องการรับรองรัฐปาเลสไตน์นั้น จุดยืนของรัฐบาลสหพันธ์ฯ มีความชัดเจนมาโดยตลอด”

“ทางการแคนาดาทราบถึงจุดยืนของเราเป็นอย่างดีว่า เรานั้นจะไม่เข้าร่วมในความริเริ่มดังกล่าว เพราะเราเห็นว่าสถานการณ์ปัจจุบันยังไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่จำเป็น” ผู้นำเยอรมนีกล่าวเสริม

ทำไมเยอรมนีถึงไม่รับรองรัฐปาเลสไตน์?

คำถามสำคัญคืออะไรคือ “หลักเกณฑ์ที่จำเป็น” ที่นายกฯ เยอรมนีกล่าวถึง? แม้จะไม่มีการระบุรายละเอียดที่ชัดเจน แต่โดยทั่วไปแล้ว การรับรองรัฐเอกราชมักจะพิจารณาจากปัจจัยหลายประการ เช่น

  • การมีดินแดนที่ชัดเจน
  • การมีประชากรที่แน่นอน
  • การมีรัฐบาลที่มีประสิทธิภาพ
  • ความสามารถในการดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

สถานการณ์ในปาเลสไตน์ยังคงมีความซับซ้อนและอ่อนไหว การที่เยอรมนีตัดสินใจที่จะไม่รับรองรัฐปาเลสไตน์ในขณะนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความกังวลเกี่ยวกับความมั่นคงและความยั่งยืนของรัฐปาเลสไตน์ในอนาคต

ท่าทีที่สวนทางกับพันธมิตรตะวันตก

การที่เยอรมนีแสดงท่าทีที่สวนทางกับชาติพันธมิตรตะวันตกอย่างแคนาดา ฝรั่งเศส และสหราชอาณาจักร เป็นสิ่งที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง ความแตกต่างในมุมมองนี้อาจนำไปสู่ความท้าทายในการสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในตะวันออกกลาง

แน่นอนว่า การรับรองรัฐปาเลสไตน์เป็นประเด็นที่มีความละเอียดอ่อนและมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันอย่างมากในระดับนานาชาติ ชาติที่สนับสนุนการรับรองมองว่า นี่คือหนทางสู่การสร้างสันติภาพและความยุติธรรม ในขณะที่ชาติที่ไม่เห็นด้วยกังวลเกี่ยวกับผลกระทบต่อความมั่นคงในภูมิภาค

ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากการตัดสินใจของเยอรมนี มีดังนี้:

  • ความสัมพันธ์ระหว่างเยอรมนีและชาติพันธมิตรตะวันตกอื่น ๆ
  • การเจรจาสันติภาพระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์
  • เสถียรภาพในภูมิภาคตะวันออกกลาง

การตัดสินใจของเยอรมนีที่จะไม่รับรองรัฐปาเลสไตน์ เป็นการเน้นย้ำถึงความท้าทายและความซับซ้อนในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่ยืดเยื้อในตะวันออกกลาง ท่าทีที่แตกต่างกันของชาติตะวันตกอาจทำให้เกิดความไม่แน่นอนและส่งผลกระทบต่อกระบวนการสันติภาพในระยะยาว การติดตามสถานการณ์และทำความเข้าใจในมุมมองที่หลากหลายจึงเป็นสิ่งสำคัญ

ที่มา – นายกฯ เยอรมนียัน ไม่รับรองรัฐปาเลสไตน์ สวนทางมติพันธมิตรชาติตะวันตก

ความเชื่อมั่นธุรกิจเยอรมนี ส.ค. พุ่งสูงสุดรอบ 15 เดือน

ความเชื่อมั่นธุรกิจเยอรมนีเดือนส.ค.พุ่งสูงสุดรอบ 15 เดือน

สถาบันวิจัยเศรษฐกิจ Ifo ของเยอรมนีเปิดเผยผลสำรวจล่าสุดวันนี้ (25 สิงหาคม) ว่าดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจเยอรมนีเดือนส.ค.พุ่งสูงสุดรอบ 15 เดือนนับเป็นการส่งสัญญาณบวกต่อเศรษฐกิจของประเทศ

โดยดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างน่าสนใจ สู่ระดับ 89.0 ในเดือนสิงหาคม จาก 88.6 ในเดือนกรกฎาคม ตัวเลขนี้ไม่เพียงแต่แสดงถึงการปรับตัวดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังถือเป็นระดับสูงสุดในรอบ 15 เดือนที่ผ่านมา สร้างความประหลาดใจให้กับนักวิเคราะห์หลายฝ่าย เนื่องจากผลสำรวจออกมาสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะทรงตัวที่ระดับเดิม

Ifo ระบุว่า ปัจจัยหลักที่ผลักดันให้ดัชนีความเชื่อมั่นปรับตัวสูงขึ้นมาจากการที่ภาคธุรกิจเริ่มมีมุมมองที่เป็นบวกมากขึ้นต่อแนวโน้มในอนาคต อย่างไรก็ตาม แม้ว่าภาคธุรกิจจะมีความหวังต่ออนาคต แต่เมื่อพิจารณาจากสถานการณ์ปัจจุบัน ผู้ประกอบการกลับประเมินว่าภาวะทางธุรกิจโดยรวมยังคงค่อนข้างซบเซาและแย่ลงเล็กน้อย

เคลเมนส์ ฟิวสต์ ประธานสถาบัน Ifo ได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ดังกล่าวว่า “ภาพรวมการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเยอรมนียังคงอยู่ในภาวะที่อ่อนแอ ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิดต่อไป”

ปัจจัยที่ส่งผลต่อความเชื่อมั่นธุรกิจเยอรมนีเดือนส.ค.พุ่งสูงสุดรอบ 15 เดือน

การที่ความเชื่อมั่นธุรกิจเยอรมนีเดือนส.ค.พุ่งสูงสุดรอบ 15 เดือนมีปัจจัยหลายอย่างที่ส่งผลกระทบ ได้แก่

  • การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก: ถึงแม้จะไม่แข็งแกร่งมากนัก แต่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกโดยรวม ช่วยหนุนให้ภาคการส่งออกของเยอรมนีปรับตัวดีขึ้น
  • มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล: มาตรการต่างๆ ที่รัฐบาลเยอรมนีออกมาเพื่อช่วยเหลือภาคธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติ มีส่วนช่วยบรรเทาผลกระทบและสร้างความเชื่อมั่น
  • ความคาดหวังต่อการลดอัตราดอกเบี้ย: ความคาดหวังว่าธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยในอนาคตอันใกล้ ทำให้ธุรกิจต่างๆ มีความหวังว่าจะสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้ง่ายขึ้น

อย่างไรก็ตาม ยังมีปัจจัยเสี่ยงที่ต้องเฝ้าระวัง ได้แก่ สถานการณ์ความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ที่อาจส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทาน และภาวะเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับสูง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภค

โดยสรุปแล้ว การที่ความเชื่อมั่นธุรกิจเยอรมนีเดือนส.ค.พุ่งสูงสุดรอบ 15 เดือนเป็นสัญญาณบวกที่สำคัญ แต่ก็ยังต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดต่อไป เนื่องจากเศรษฐกิจเยอรมนียังคงเผชิญกับความท้าทายหลายประการ

การที่ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญเช่นนี้นับเป็นข่าวดีสำหรับเศรษฐกิจของเยอรมนีและเศรษฐกิจโลกโดยรวม อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวอย่างยั่งยืนยังคงต้องอาศัยปัจจัยสนับสนุนที่แข็งแกร่งและต่อเนื่อง รวมถึงการแก้ไขปัญหาและความท้าทายต่างๆ ที่ยังคงมีอยู่

ที่มา – ความเชื่อมั่นธุรกิจเยอรมนีเดือนส.ค.พุ่งสูงสุดรอบ 15 เดือน เหนือความคาดหมาย