อาเซียนซัมมิต

มาเลย์ยัน “ทรัมป์” ร่วมประชุมอาเซียน ลุ้นเซ็นหยุดยิงไทย-กัมพูชา

โมฮาหมัด ฮาซัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมาเลเซีย เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ จะเดินทางเยือนมาเลเซียในวันที่ 26 ตุลาคมนี้ โดยทรัมป์มุ่งหวังที่จะมาเป็นสักขีพยานในการลงนามข้อตกลงหยุดยิงไทย-กัมพูชา

รมว.ต่างประเทศมาเลเซียเปิดเผยว่า มาเลเซียและสหรัฐฯ จะทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานในการหยุดยิงครั้งนี้ ซึ่งจะกำหนดให้ทั้งสองฝ่ายต้องถอนทุ่นระเบิดและอาวุธหนักทั้งหมดออกจากพื้นที่ชายแดน และหวังว่าจะลงนามข้อตกลงหยุดยิงได้สำเร็จระหว่างการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ของมาเลเซีย ระหว่างวันที่ 26-28 ตุลาคม

โมฮาหมัด ฮาซัน แถลงต่อสื่อมวลชนว่า “ในระหว่างการประชุมสุดยอดนี้ เราหวังว่าจะได้เห็นการลงนามปฏิญญากัวลาลัมเปอร์ระหว่างสองประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อให้เกิดสันติภาพและการหยุดยิงอย่างยั่งยืน”

ก่อนหน้านี้ สื่อออนไลน์ของสหรัฐฯ รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า ทำเนียบขาวได้แจ้งต่อทางการมาเลเซียว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ มีความยินดีที่จะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ครั้งที่ 47 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ในวันที่ 26-28 ตุลาคม หากเขาได้รับอนุญาตให้เป็นประธานในพิธีลงนามข้อตกลงสันติภาพระหว่างไทยและกัมพูชา ซึ่งจะจัดขึ้นนอกรอบการประชุมดังกล่าว

พิธีดังกล่าวจะเป็นเวทีสำคัญสำหรับปธน.ทรัมป์ในการแสดงบทบาทในฐานะบุคคลที่มีส่วนสำคัญในการยุติความขัดแย้งบริเวณชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชาในเดือนกรกฎาคม ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจากการปะทะกัน

มาเลเซียคอนเฟิร์ม “ทรัมป์” ร่วมประชุมอาเซียนซัมมิต ลุ้นเซ็นหยุดยิงไทย-กัมพูชา

การประชุมสุดยอดอาเซียนที่กำลังจะมาถึงนี้ได้รับความสนใจอย่างมากจากทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ จะเข้าร่วมงาน และความคาดหวังว่าจะมีการลงนามข้อตกลงหยุดยิงไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นประเด็นที่หลายฝ่ายเฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด ความขัดแย้งบริเวณชายแดนระหว่างไทยและกัมพูชาเป็นปัญหาที่ยืดเยื้อมานาน การเข้ามามีบทบาทของสหรัฐฯ ในครั้งนี้จึงถือเป็นสัญญาณที่ดีต่อการแก้ไขปัญหา

ทรัมป์หนุน! มาเลเซียเป็นเจ้าภาพลุ้นเซ็นหยุดยิงไทย-กัมพูชา

มาเลเซียในฐานะเจ้าภาพจัดการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งนี้ มีบทบาทสำคัญในการเป็นตัวกลางประสานงานระหว่างประเทศไทยและกัมพูชา เพื่อให้บรรลุข้อตกลงหยุดยิงไทย-กัมพูชา การที่มาเลเซียและสหรัฐฯ ร่วมมือกันในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะนำสันติภาพและความมั่นคงมาสู่ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

การลงนามข้อตกลงหยุดยิง หากเกิดขึ้นจริง จะเป็นก้าวสำคัญในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างไทยและกัมพูชา ซึ่งจะส่งผลดีต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมของทั้งสองประเทศ รวมถึงภูมิภาคโดยรวม การเจรจาและแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธีเป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายควรให้ความสำคัญ เพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืนสำหรับคนรุ่นต่อไป

นอกจากนี้ การที่ประธานาธิบดีทรัมป์เข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงความสำคัญที่สหรัฐฯ มีต่อภูมิภาคนี้ และความพร้อมที่จะเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น การมีส่วนร่วมของมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ อาจเป็นแรงผลักดันสำคัญที่ทำให้เกิดความคืบหน้าในการแก้ไขความขัดแย้งต่างๆ

อย่างไรก็ตาม การลงนามข้อตกลงหยุดยิงเป็นเพียงจุดเริ่มต้น การสร้างความเข้าใจและความไว้วางใจระหว่างทั้งสองประเทศต้องอาศัยความพยายามอย่างต่อเนื่องจากทุกฝ่าย การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่หยั่งรากลึกต้องใช้เวลาและความอดทน แต่การเริ่มต้นด้วยการหยุดยิงถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญ

การจับตามองความคืบหน้าในการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งนี้จึงเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างยิ่ง เพราะผลลัพธ์ของการประชุมอาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศในภูมิภาค และต่อเสถียรภาพและความมั่นคงโดยรวม

ที่มา – มาเลเซียคอนเฟิร์ม “ทรัมป์” ร่วมประชุมอาเซียนซัมมิต ลุ้นเซ็นหยุดยิงไทย-กัมพูชา

อันวาร์หนุนปาเลสไตน์ เสี่ยงสหรัฐฯ ไม่พอใจ

อันวาร์ปราศรัยหนุนปาเลสไตน์: นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย อันวาร์ อิบราฮิม ขึ้นกล่าวปราศรัยในการชุมนุมสนับสนุนปาเลสไตน์เมื่อคืนวันพุธที่ผ่านมา (8 ต.ค.) ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ โดยวิพากษ์วิจารณ์การกระทำของอิสราเอลในฉนวนกาซาอย่างดุเดือด ท่าทีดังกล่าวมีขึ้นไม่กี่สัปดาห์ก่อนที่อันวาร์จะเป็นเจ้าภาพต้อนรับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นพันธมิตรคนสำคัญของอิสราเอล

อันวาร์กล่าวต่อผู้ชุมนุมหลายพันคนว่า “สิ่งที่เรากำลังต่อสู้คือยักษ์ใหญ่อิสราเอล แต่เราไม่หวาดกลัวหรือวิตกกังวลแม้แต่น้อย” พร้อมยืนยันว่าไม่มีแผนยกเลิกคำเชิญทรัมป์ และเน้นย้ำว่า “ผมต้องการเจรจา”

การชุมนุมครั้งนี้มีขึ้นหลังจากทางการอิสราเอลได้ควบคุมตัวนักกิจกรรมชาวมาเลเซียซึ่งเข้าร่วมกองเรือที่พยายามส่งมอบความช่วยเหลือไปยังฉนวนกาซา นอกจากนี้ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ชาวมาเลเซียหลายพันคนก็ได้รวมตัวกันประท้วงหน้าสถานทูตสหรัฐฯ เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลวอชิงตันเข้ามาดำเนินการต่อกรณีอิสราเอล

ความขัดแย้งในฉนวนกาซาส่อเค้าว่าจะสร้างความซับซ้อนให้กับการเดินทางเยือนของทรัมป์ เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ระหว่างวันที่ 26-28 ต.ค. นี้ ขณะเดียวกัน พรรคฝ่ายค้านหลักของมาเลเซียได้เรียกร้องขอเข้าพบผู้นำสหรัฐฯ เพื่อประท้วงการกระทำของอิสราเอล และมีแผนจัดการชุมนุมสาธารณะระหว่างการเยือนดังกล่าวด้วย

ทั้งนี้ อันวาร์กำลังเผชิญบททดสอบทางการเมืองที่ละเอียดอ่อน ท่ามกลางความโกรธเกรี้ยวที่เพิ่มสูงขึ้นในหมู่ประชาชนต่อความเสียหายและวิกฤตมนุษยธรรมในกาซา ขณะที่สหรัฐฯ ได้ให้การรับรองอย่างแข็งขันถึงสิทธิของอิสราเอลในการป้องกันตนเอง และในขณะเดียวกัน อันวาร์ก็จำเป็นต้องสร้างความสัมพันธ์กับทรัมป์ด้วย

นอกจากนี้ นายกฯ มาเลเซียยังต้องเอาใจฐานเสียงในประเทศที่มองว่าการสนับสนุนชาวปาเลสไตน์เป็นหน้าที่ทางศาสนา โดยนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่งเมื่อปลายปี 2565 อันวาร์ได้พยายามเสริมสร้างภาพลักษณ์ความเป็นผู้นำอิสลามผ่านการขยายบทบาทของหน่วยงานรัฐบาลกลางที่กำกับดูแลกิจการศาสนาอิสลาม

อันวาร์ปราศรัยหนุนปาเลสไตน์: ความท้าทายทางการเมือง

สถานการณ์ที่เกิดขึ้นจากการที่ อันวาร์ปราศรัยหนุนปาเลสไตน์ นั้น นับเป็นความท้าทายทางการเมืองที่ละเอียดอ่อนสำหรับนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม ท่ามกลางกระแสความไม่พอใจที่เพิ่มขึ้นในหมู่ประชาชนชาวมาเลเซียต่อสถานการณ์ในฉนวนกาซา นโยบายต่างประเทศของมาเลเซียจึงต้องมีความสมดุลเพื่อรักษาความสัมพันธ์กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

ผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

การที่นายกฯ อันวาร์ อันวาร์ปราศรัยหนุนปาเลสไตน์ อาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นพันธมิตรใกล้ชิดของอิสราเอล ในขณะเดียวกัน มาเลเซียก็ต้องคำนึงถึงความสัมพันธ์กับประเทศในโลกมุสลิม ซึ่งให้การสนับสนุนชาวปาเลสไตน์อย่างแข็งขัน การบริหารจัดการความสัมพันธ์เหล่านี้จึงเป็นสิ่งที่ท้าทายอย่างยิ่ง

  • การเจรจากับสหรัฐฯ: อันวาร์จำเป็นต้องใช้ทักษะทางการทูตเพื่อเจรจาและทำความเข้าใจกับสหรัฐฯ เกี่ยวกับจุดยืนของมาเลเซียในประเด็นปาเลสไตน์
  • การรักษาความสัมพันธ์กับโลกมุสลิม: มาเลเซียต้องแสดงบทบาทในการสนับสนุนชาวปาเลสไตน์อย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศในโลกมุสลิม

ในภาพรวมแล้ว การที่ อันวาร์ปราศรัยหนุนปาเลสไตน์ สะท้อนให้เห็นถึงความซับซ้อนของการเมืองระหว่างประเทศ และความจำเป็นที่ผู้นำต้องตัดสินใจอย่างรอบคอบเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ

ที่มา – อันวาร์ปราศรัยหนุนปาเลสไตน์ สุ่มเสี่ยงทำสหรัฐฯ ไม่พอใจก่อนทรัมป์เยือนมาเลเซีย