อัตราภาษี

บราซิลส่งออกกาแฟสำเร็จรูปไปสหรัฐฯ ร่วงเพราะภาษี

สถานการณ์การค้าระหว่างประเทศกำลังร้อนระอุ! บราซิล ประเทศผู้ผลิตและผู้ส่งออกกาแฟรายใหญ่ที่สุดของโลก กำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่ เมื่อการส่งออกกาแฟสำเร็จรูปไปสหรัฐฯ ดิ่งลงเหวถึงเกือบ 60% ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา สาเหตุหลักมาจากอะไร? คำตอบคือ “พิษภาษีทรัมป์”

สมาคมอุตสาหกรรมกาแฟสำเร็จรูปแห่งบราซิล (ABICS) เปิดเผยข้อมูลที่น่าตกใจว่า ในเดือนสิงหาคมปีนี้ บราซิลส่งออกกาแฟสำเร็จรูปไปสหรัฐฯ เพียง 26,460 กระสอบ (กระสอบละ 60 กิโลกรัม) เท่านั้น ตัวเลขนี้ลดลงถึง 59.9% เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว และยังลดลงถึง 50.1% เมื่อเทียบกับเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา

ทำไมสถานการณ์ถึงเลวร้ายขนาดนี้? อากีนัลโด ลิมา ผู้อำนวยการบริหารของ ABICS อธิบายว่า “อัตราภาษีที่สูงถึง 50% ทำให้การค้ากับอเมริกาแทบเป็นไปไม่ได้เลย” เขาเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการเปิดช่องทางการเจรจา เพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างบราซิลและสหรัฐอเมริกาให้กลับสู่สภาวะปกติ

บราซิลส่งออกกาแฟสำเร็จรูปไปสหรัฐฯ

แม้ว่าสหรัฐฯ จะยังคงเป็นผู้ซื้อกาแฟสำเร็จรูปรายใหญ่ที่สุดของบราซิล โดยมียอดซื้อรวม 443,179 กระสอบในช่วง 8 เดือนแรกของปีนี้ แต่สถานการณ์ที่เกิดขึ้นก็ส่งสัญญาณอันตรายต่ออุตสาหกรรมกาแฟของบราซิลอย่างมาก ผู้ซื้อรายใหญ่อันดับรองลงมาคือ อาร์เจนตินาและรัสเซีย

ในช่วงเดือนมกราคมถึงสิงหาคม บราซิลส่งออกกาแฟสำเร็จรูปไปยัง 88 ประเทศทั่วโลก รวมทั้งสิ้น 2.5 ล้านกระสอบ ซึ่งลดลง 3.9% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม ด้วยความผันผวนของราคากาแฟและอัตราแลกเปลี่ยน ทำให้รายได้จากการส่งออกกาแฟสำเร็จรูปกลับพุ่งสูงขึ้นถึง 33% สู่ระดับ 760.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ผลกระทบต่อตลาดกาแฟในประเทศ

ในขณะที่การส่งออกเผชิญกับความท้าทาย ตลาดกาแฟสำเร็จรูปภายในประเทศบราซิลกลับมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ในช่วงเดือนมกราคมถึงสิงหาคม ชาวบราซิลบริโภคกาแฟสำเร็จรูปรวม 763,645 กระสอบ เพิ่มขึ้น 4.7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว แสดงให้เห็นถึงความนิยมอย่างต่อเนื่องของกาแฟสำเร็จรูปในหมู่ผู้บริโภคชาวบราซิล

สถานการณ์ที่เกิดขึ้นนี้แสดงให้เห็นถึงความเปราะบางของการค้าโลก และผลกระทบจากนโยบายกีดกันทางการค้าที่อาจส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมต่างๆ อย่างรุนแรง บราซิลจำเป็นต้องหาทางออกเพื่อแก้ไขปัญหานี้โดยเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการเจรจาทางการค้า หรือการหาตลาดใหม่ๆ เพื่อลดการพึ่งพาตลาดสหรัฐฯ เพียงอย่างเดียว

การส่งออกกาแฟสำเร็จรูปไปสหรัฐฯ ที่ลดลงอย่างมากนี้ เป็นบทเรียนสำคัญสำหรับผู้ประกอบการและผู้กำหนดนโยบาย ว่าการเตรียมพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลง และการกระจายความเสี่ยง เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในการทำธุรกิจในโลกยุคปัจจุบัน

ถึงแม้ว่ารายได้จากการส่งออกกาแฟสำเร็จรูปจะเพิ่มขึ้น แต่การพึ่งพาตลาดใดตลาดหนึ่งมากเกินไป อาจนำมาซึ่งความเสี่ยงที่คาดไม่ถึง ดังนั้นการมองหาตลาดใหม่ๆ และการสร้างความสัมพันธ์ทางการค้าที่แข็งแกร่งกับหลากหลายประเทศ จะเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความมั่นคงให้กับอุตสาหกรรมกาแฟของบราซิลในระยะยาว

ที่มา – บราซิลส่งออกกาแฟสำเร็จรูปไปสหรัฐฯ ร่วงเกือบ 60% เดือนส.ค. พิษภาษีทรัมป์

สหรัฐฯ เลื่อนขึ้นภาษีสินค้าจีนอีก 90 วัน

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ได้ลงนามในคำสั่งฝ่ายบริหาร เพื่อขยายเวลาข้อตกลงพักรบทางภาษีระหว่างจีนกับสหรัฐฯ ออกไปอีก 90 วันแล้ว เพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนที่อัตราภาษีของสหรัฐฯ ต่อสินค้าจีนจะกลับไปสูงถึงเลขหลักร้อย

เดิมที ข้อตกลงพักรบทางภาษีระหว่างจีนกับสหรัฐฯ มีกำหนดจะสิ้นสุดในวันนี้ (12 ส.ค.) เวลา 00:01 น. ตามเวลาฝั่งตะวันออก หรือ 11:01 น. ของวันนี้ตามเวลาไทย คำสั่งดังกล่าวจึงช่วยยับยั้งไม่ให้อัตราภาษีของสหรัฐฯ ต่อสินค้าจีนพุ่งสูงถึง 145% ขณะที่อัตราภาษีของจีนต่อสินค้าสหรัฐฯ พุ่งแตะ 125%

ปัจจุบัน สินค้านำเข้าจากจีนต้องเสียภาษีในอัตรา 30% ซึ่งประกอบด้วยอัตราพื้นฐาน 10% และภาษีที่เกี่ยวข้องกับเฟนทานิลอีก 20% ส่วนจีนก็ได้ลดอัตราภาษีนำเข้าจากสหรัฐฯ ลงมาที่ 10% เช่นกัน

ทั้งสองฝ่ายเคยประกาศพักรบในข้อพิพาทการค้าหลังการเจรจาที่เมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในเดือนพ.ค. โดยตกลงระยะเวลา 90 วันสำหรับเจรจาต่อไป ก่อนจะพบกันอีกครั้งที่กรุงสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน ปลายเดือนก.ค. แต่ไม่ได้ประกาศขยายเวลาพักรบการค้าเพิ่มเติม

การตัดสินใจของสหรัฐฯ ในการสหรัฐฯ เลื่อนขึ้นภาษีสินค้าจีนอีก 90 วัน ถือเป็นข่าวดีสำหรับผู้ประกอบการที่ทำการค้าระหว่างประเทศ เนื่องจากช่วยลดความผันผวนและความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้นจากสงครามการค้าที่ทวีความรุนแรงขึ้น การเลื่อนขึ้นภาษีดังกล่าวจะช่วยให้ทั้งสองฝ่ายมีเวลามากขึ้นในการเจรจาและหาทางออกร่วมกัน ซึ่งอาจนำไปสู่ข้อตกลงทางการค้าที่เป็นประโยชน์ต่อทั้งสองฝ่ายในระยะยาว

อย่างไรก็ตาม การสหรัฐฯ เลื่อนขึ้นภาษีสินค้าจีนอีก 90 วัน นี้เป็นเพียงการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเท่านั้น สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญต่อเศรษฐกิจโลก และอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจและผู้บริโภคในหลายประเทศ ผู้ประกอบการจึงควรติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและเตรียมพร้อมรับมือกับความผันผวนที่อาจเกิดขึ้น

สหรัฐฯ เลื่อนขึ้นภาษีสินค้าจีนอีก 90 วัน

การที่สหรัฐฯ ตัดสินใจสหรัฐฯ เลื่อนขึ้นภาษีสินค้าจีนอีก 90 วัน นั้น มีนัยสำคัญหลายประการ ประการแรก แสดงให้เห็นว่าสหรัฐฯ ยังคงให้ความสำคัญกับการเจรจากับจีน และพร้อมที่จะหาทางออกร่วมกันผ่านการเจรจา ประการที่สอง สะท้อนให้เห็นถึงความกังวลของสหรัฐฯ เกี่ยวกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากสงครามการค้าที่ทวีความรุนแรงขึ้นต่อเศรษฐกิจของตนเอง

การเลื่อนขึ้นภาษียังมีผลต่อตลาดหุ้นและความเชื่อมั่นของนักลงทุนอีกด้วย ข่าวนี้อาจช่วยบรรเทาความกังวลของนักลงทุนและช่วยให้ตลาดหุ้นปรับตัวขึ้นได้ในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม นักลงทุนควรระมัดระวังและติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากความไม่แน่นอนยังคงมีอยู่สูง

ในส่วนของผู้บริโภค การเลื่อนขึ้นภาษีอาจช่วยชะลอการขึ้นราคาสินค้าบางประเภทที่นำเข้าจากจีน อย่างไรก็ตาม ในระยะยาว ผู้บริโภคอาจยังคงต้องเผชิญกับราคาสินค้าที่สูงขึ้น หากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนยังคงดำเนินต่อไป

ดังนั้น ผู้ประกอบการและผู้บริโภคควรเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น และปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในตลาดโลก การติดตามข่าวสารและข้อมูลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนอย่างสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้เราสามารถตัดสินใจได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม

การตัดสินใจของสหรัฐฯ ในครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความซับซ้อนและความไม่แน่นอนของสถานการณ์การค้าระหว่างประเทศ การเจรจาและการประนีประนอมเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ทั้งสองฝ่ายสามารถหาทางออกร่วมกันได้ แต่การเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดก็เป็นสิ่งที่จำเป็นเช่นกัน

ที่มา – สหรัฐฯ เลื่อนขึ้นภาษีสินค้าจีนอีก 90 วัน ก่อนเส้นตายไม่กี่ชั่วโมง