อูโก เอกีตีเก กองหน้าชาวฝรั่งเศส ยืนยันไม่กดดันเรื่องค่าตัว หลังย้ายจาก ไอน์ทรัก แฟรงก์เฟิร์ต มาอยู่กับ ลิเวอร์พูล ทีมแชมป์เก่าของพรีเมียร์ ลีก ในราคา 79 ล้านปอนด์ การย้ายทีมครั้งนี้ทำให้เขาต้องรับแรงกดดันมหาศาล แต่เจ้าตัวก็ไม่ได้หวั่นไหวแต่อย่างใด

ก่อนหน้านี้ อูโก เอกีตีเก ได้รับความสนใจจากหลายสโมสรในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะ แต่สุดท้ายเจ้าตัวเลือกย้ายมาอยู่กับ ลิเวอร์พูล ทีมแชมป์เก่าของพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ และสามารถระเบิดฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมทันที ทำให้แฟนบอลต่างคาดหวังว่าเขาจะสามารถรักษาฟอร์มเก่งนี้ไว้ได้

และล่าสุดกองหน้าชาวฝรั่งเศส วัย 23 ปี รายนี้ ออกมาตอบคำถามเกี่ยวกับความกดดันในเรื่องค่าตัวของเขาในการย้ายมาอยู่กับ ลิเวอร์พูล ว่า

“ผมไม่ได้สนใจ ผมแค่มุ่งมั่นกับเกม เรื่องภายนอกนั้น ทุกคนสามารถพูดถึงราคาค่าตัวได้ แต่มันก็เป็นแบบนั้น ฟุตบอลได้เปลี่ยนไปแล้ว”

นอกจากนี้เขายังพูดถึงเหตุผลที่เลือกมาอยู่กับทีมหงส์แดง ว่า “มันคือตัวเลือกของผม มันคือสิ่งที่ผมต้องการ เพราะผมรู้สึกอยากมาที่นี่ และผมรู้ว่ามันเป็นช่วยเวลาที่เหมาะสมและสถานที่ที่ใช่สำหรับผม ผมต้องการจะออกไปเล่นในระดับสูง และการกลับมาครั้งนี้ ผมมีความพร้อมมากกว่าเดิม และผมไม่ได้คิดว่าผมทำอะไรผิดพลาด” การตัดสินใจเลือกซบ ลิเวอร์พูล ครั้งนี้จึงเป็นการพิสูจน์ตัวเองในระดับสูงสุด

เอกีตีเก ย้ำไม่กดดันเรื่องค่าตัว – เชื่อคิดถูกเลือกซบ ลิเวอร์พูล

การที่เอกีตีเกออกมาให้สัมภาษณ์ในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความมั่นใจในตัวเองอย่างเต็มเปี่ยม เขาพร้อมที่จะพิสูจน์ตัวเองให้แฟนบอลและสโมสรเห็นว่า เขาเหมาะสมกับค่าตัวที่สโมสรจ่ายไปอย่างแน่นอน

ทำไม เอกีตีเก ถึงเลือกซบ ลิเวอร์พูล?

เหตุผลที่เอกีตีเกเลือกย้ายมายังถิ่นแอนฟิลด์นั้นชัดเจน เขาต้องการเล่นในระดับที่สูงขึ้น และเชื่อมั่นว่าลิเวอร์พูลคือสโมสรที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเขาในเวลานี้ ด้วยระบบการเล่นที่เน้นเกมรุก และมีเพื่อนร่วมทีมระดับโลกมากมาย จะช่วยให้เขาพัฒนาฝีเท้าได้อย่างรวดเร็ว

การปรับตัวเข้ากับทีมใหม่

แน่นอนว่าการย้ายมาเล่นในลีกใหม่และสโมสรใหม่ ย่อมต้องใช้เวลาในการปรับตัว แต่ด้วยความสามารถและศักยภาพที่มีอยู่ เชื่อว่าเอกีตีเกจะสามารถปรับตัวเข้ากับระบบของลิเวอร์พูลได้อย่างรวดเร็ว และกลายเป็นกำลังสำคัญของทีมในอนาคตอันใกล้

ความคาดหวังจากแฟนบอล

แฟนบอลลิเวอร์พูลต่างคาดหวังว่าเอกีตีเกจะสามารถเข้ามาเติมเต็มแนวรุกของทีม และช่วยให้ทีมประสบความสำเร็จในการแข่งขันต่างๆ มากยิ่งขึ้น การที่เขาสามารถทำประตูได้อย่างต่อเนื่อง จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับทีมและแฟนบอลได้อย่างมาก

อนาคตของเอกีตีเกกับลิเวอร์พูล

อนาคตของเอกีตีเกกับลิเวอร์พูลดูสดใสอย่างมาก หากเขาสามารถรักษาฟอร์มการเล่นที่ดีได้อย่างต่อเนื่อง จะทำให้เขากลายเป็นนักเตะคนสำคัญของทีมในระยะยาว และอาจเป็นตำนานของสโมสรได้ในอนาคต

สิ่งที่น่าสนใจคือ เอกีตีเก ย้ำไม่กดดันเรื่องค่าตัว และพร้อมที่จะพิสูจน์ตัวเองในสนามแข่งขัน เขาต้องการที่จะตอบแทนความไว้วางใจที่สโมสรและแฟนบอลมีให้ โดยการทำผลงานให้ดีที่สุด และช่วยให้ทีมประสบความสำเร็จให้ได้มากที่สุด

• ความมุ่งมั่นของเอกีตีเก
• เป้าหมายของเขากับลิเวอร์พูล
• การปรับตัวเข้ากับทีม

โดยรวมแล้ว การย้ายทีมของเอกีตีเกมายังลิเวอร์พูล ถือเป็นการตัดสินใจที่น่าสนใจ และน่าติดตามอย่างยิ่ง แฟนบอลต่างรอคอยที่จะได้เห็นเขาลงสนาม และสร้างผลงานที่ยอดเยี่ยมให้กับทีมต่อไป

การที่ อูโก เอกีตีเก ย้ำไม่กดดันเรื่องค่าตัว นั้นแสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในตัวเองและความมุ่งมั่นที่จะประสบความสำเร็จกับลิเวอร์พูล ซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับอนาคตของเขากับทีม

ที่มา – เอกีตีเก ย้ำไม่กดดันเรื่องค่าตัว – เชื่อคิดถูกเลือกซบ ลิเวอร์พูล

ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ทำนายล่าสุดว่า ลิเวอร์พูล คือทีมเต็งคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้ไปครองมากที่สุดด้วยโอกาส 59.81% ตามด้วย อาร์เซนอล และแมนเชสเตอร์ ซิตี้

ความเคลื่อนไหวของฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2025-26 โดยเมื่อวันที่ 22 ก.ย. ทั้ง 20 ทีมในลีกลงสนามไปแล้ว 5 เกมเท่ากัน

ล่าสุดซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของ “ออปตา” เว็บไซต์ด้านสถิติลูกหนังชื่อดังได้คำนวณโอกาสของทุกทีมถึงเปอร์เซ็นต์คว้าแชมป์ในซีซั่นนี้ไปครอง

Liverpool’s Ryan Gravenberch, second right, celebrates with teammates after scoring his side’s opening goal during the English Premier League soccer match between Liverpool and Everton at Anfield stadium in Liverpool, England, Saturday, Sept. 20, 2025. (AP Photo/Rui Vieira)

ผลปรากฏว่า ลิเวอร์พูล ทีมจ่าฝูงปัจจุบันที่เก็บ 15 คะแนนเต็มจาก 5 นัด และแชมป์เก่ามีโอกาสซิวโทรฟี่ไปครองมากสุดขณะนี้ด้วยจำนวน 59.81%

ตามด้วยอันดับ 2 อย่าง อาร์เซนอล ซึ่งปัจจุบันเป็นรองจ่าฝูงด้วยโอกาส 23.83% และอันดับ 3 แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ปัจจุบันอยู่อันดับ 9 ตารางด้วยโอกาส 6.67%

ขณะที่อันดับ 4 และ5 คือ เชลซี (อันดับ 6 ตาราง) และคริสตัล พาเลซ (อันดับ 5 ตาราง) ด้วยโอกาส 3.33% และ2.26% ตามลำดับ ขณะที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทีมขวัญใจมหาชน (อันดับ 11 ตาราง) มีโอกาสคว้าแชมป์เพียง 0.21%

ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ทำนายล่าสุดทีมใดคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้

การทำนายผลการแข่งขันฟุตบอลโดยใช้ ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ทำนายล่าสุด กลายเป็นเรื่องที่ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ ในปัจจุบัน เนื่องจากความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมหาศาลและประเมินผลลัพธ์ที่เป็นไปได้อย่างแม่นยำ อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ควรตระหนักคือ การทำนายเหล่านี้เป็นเพียงการคาดการณ์โดยอิงจากสถิติและข้อมูลที่มีอยู่ ณ ขณะนั้นเท่านั้น ไม่ได้หมายความว่าผลลัพธ์จะเป็นไปตามนั้นเสมอไป

ปัจจัยที่มีผลต่อการทำนายของซูเปอร์คอมพิวเตอร์

หลายปัจจัยสามารถส่งผลต่อความแม่นยำของการ ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ทำนายล่าสุด ไม่ว่าจะเป็นฟอร์มการเล่นของทีม, สภาพความฟิตของผู้เล่น, สถิติการพบกันก่อนหน้า, เสียงเชียร์จากแฟนบอล, หรือแม้แต่ปัจจัยภายนอกอย่างสภาพอากาศ ดังนั้น แม้ว่าลิเวอร์พูลจะเป็นทีมเต็งตามการทำนาย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขาจะคว้าแชมป์ไปได้อย่างแน่นอน

การเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้น

สถานการณ์ต่างๆ ในพรีเมียร์ลีกสามารถเปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว การซื้อขายนักเตะในช่วงตลาดเปิด, การเปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีม, หรือแม้แต่การบาดเจ็บของผู้เล่นตัวหลัก ก็สามารถส่งผลกระทบต่ออันดับและโอกาสในการคว้าแชมป์ของแต่ละทีมได้ ดังนั้น การติดตามข่าวสารและสถานการณ์ต่างๆ อย่างใกล้ชิดจึงเป็นสิ่งสำคัญในการทำความเข้าใจโอกาสของแต่ละทีม

สุดท้ายนี้ การ ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ทำนายล่าสุดทีมใดคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของความสนุกในการติดตามฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อย่าลืมว่าฟุตบอลมีอะไรมากกว่าแค่สถิติและการคาดการณ์ และความไม่แน่นอนคือเสน่ห์ที่ทำให้กีฬาชนิดนี้เป็นที่นิยมไปทั่วโลก

ที่มา – ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ทำนายล่าสุดทีมใดคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้

สื่อรายงานว่า เรอัล มาดริด กำลังล็อกเป้าคว้าตัว ไรอัน กราเฟนแบร์ก กองกลางเนื้อหอมของลิเวอร์พูลมาร่วมทีม โดยมี ชาบี อลอนโซ เป็นผู้ชื่นชอบสไตล์การเล่นของเขาเป็นพิเศษ

กราเฟนแบร์ก โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นกับลิเวอร์พูลมาตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้วต่อเนื่องมาจนถึงซีซั่นนี้ จนก้าวขึ้นมาเป็นหัวใจสำคัญในแดนกลางของทีมอย่างเต็มตัว ด้วยทักษะการจ่ายบอลที่แม่นยำ การครองบอลที่เหนียวแน่น และความสามารถในการขับเคลื่อนเกมที่ยอดเยี่ยม ทำให้เขากลายเป็นที่หมายปองของหลายสโมสรชั้นนำในยุโรป

Liverpool’s Ryan Gravenberch (38) celebrates with teammates after scoring his side’s opening goal during the English Premier League soccer match between Liverpool and Everton at Anfield stadium in Liverpool, England, Saturday, Sept. 20, 2025. (AP Photo/Rui Vieira)

ล่าสุด “ฟิชาเฆส” สื่อดังจากสเปนรายงานว่า ฟลอเรนติโน เปเรซ ประธานสโมสร เรอัล มาดริด วางตัว ไรอัน กราเฟนแบร์ก เป็นเป้าหมายหลักในการเสริมทัพช่วงซัมเมอร์นี้ และได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่จาก ชาบี อลอนโซ อดีตนักเตะชื่อดังของทีม

ทั้งสองฝ่ายมีความเห็นตรงกันว่า ดาวเตะวัย 23 ปีรายนี้ตอบโจทย์ความต้องการของทีมอย่างสมบูรณ์แบบ ในแง่ของสิ่งที่อลอนโซกำลังมองหา แต่เป็นที่ทราบกันดีว่าการเซ็นสัญญา กราเฟนแบร์ก ออกจากลิเวอร์พูลนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างแน่นอน

สื่อดังกล่าวระบุเพิ่มเติมว่า ค่าตัวของ กราเฟนแบร์ก อยู่ที่ประมาณ 65 ล้านยูโร (ราว 2.43 พันล้านบาท) อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าราคานี้อาจจะต่ำกว่าที่ลิเวอร์พูลจะยอมปล่อยตัวดาวเตะทีมชาติเนเธอร์แลนด์รายนี้ ซึ่งยังมีสัญญากับทีมยาวไปจนถึงปี 2028

เรอัล มาดริด ล็อกเป้าคว้า กราเฟนแบร์ก จริงหรือ?

แน่นอนว่าข่าวนี้สร้างความฮือฮาให้กับแฟนบอลเป็นอย่างมาก เพราะ กราเฟนแบร์ก ถือเป็นนักเตะที่กำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น และเป็นกำลังสำคัญของลิเวอร์พูลในปัจจุบัน การที่เรอัล มาดริด ให้ความสนใจในตัวเขา แสดงให้เห็นถึงฝีเท้าและความสามารถที่โดดเด่นของนักเตะรายนี้

ทำไมเรอัล มาดริด ถึงอยากได้ กราเฟนแบร์ก?

มีหลายปัจจัยที่ทำให้เรอัล มาดริด ต้องการคว้าตัว กราเฟนแบร์ก มาร่วมทีม ประการแรกคือ อายุยังน้อยและมีศักยภาพในการพัฒนาอีกมาก ประการที่สองคือ สไตล์การเล่นที่เข้ากับระบบของทีม และประการสุดท้ายคือ ความสามารถในการเล่นได้หลากหลายตำแหน่งในแดนกลาง ทำให้เขาสามารถเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับทีม

อย่างไรก็ตาม การคว้าตัว กราเฟนแบร์ก มาร่วมทีมไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะลิเวอร์พูลคงไม่ต้องการปล่อยตัวนักเตะคนสำคัญของทีมไปอย่างแน่นอน นอกจากนี้ ยังมีสโมสรอื่นๆ อีกมากมายที่ให้ความสนใจในตัวเขา ทำให้เรอัล มาดริด ต้องทุ่มสุดตัวหากต้องการได้ตัวนักเตะรายนี้มาครอบครอง

การย้ายทีมของ กราเฟนแบร์ก จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่? คงต้องติดตามข่าวสารกันต่อไปอย่างใกล้ชิด แต่ที่แน่ๆ คือ ชื่อของ ไรอัน กราเฟนแบร์ก ได้กลายเป็นที่จับตามองของแฟนบอลทั่วโลกไปแล้ว

ที่มา – แข้งหงส์อีกแล้ว เรอัล มาดริด ล็อกเป้าคว้า กราเฟนแบร์ก เสริมแดนกลาง

อาร์เนอ ชล็อต เทรนเนอร์ของ ลิเวอร์พูล ออกมาชื่นชม ไรอัน กราเฟนเบิร์ช กองกลางดีกรีทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ที่ทำผลงานได้ยอดเยี่ยมต่อเนื่อง และล่าสุดเป็นคนทำ 1 ประตู กับอีก 1 แอสซิสต์ พาทีมหงส์แดง เปิดสนามแอนฟิลด์ เอาชนะ เอฟเวอร์ตัน ไป 2-1 ในศึกเมอร์ซีไซด์ ดาร์บีแมตช์ ซึ่งเป็นเกมพรีเมียร์ ลีก อังกฤษ เมื่อวันที่ 20 กันยายน

จากชัยชนะในแมตช์นี้ทำให้ ลิเวอร์พูล แชมป์เก่าของลีกสูงสุดเมืองผู้ดี ยังคงยึดบัลลังก์จ่าฝูงต่อไป หลังคว้าชัย 5 นัดรวด เก็บไป 15 คะแนนเต็ม ซึ่งหลังจบเกมดังกล่าว อาร์เนอ ชล็อต เทรนเนอร์ของ ลิเวอร์พูล ออกมาชื่นชม ไรอัน กราเฟนเบิร์ช ว่า

“ผมคิดว่าเขาได้รับความสนใจเพราะสิ่งที่เขาทำในเกมรุก แต่ผมก็เห็นว่าเขาวิ่งเยอะแค่ไหนด้วยในตอนที่ไม่มีบอล มีหลายครั้งที่เขาคอยช่วยคอนเนอร์ แบรดลีย์ อยู่ตรงนั้น และก็เหมือนกับโดมินิก โซโบสไล, จำนวนการวิ่งของพวกเขาช่วยคอนเนอร์ได้มาก มันทำให้เราสามารถปล่อยให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้อยู่ในแดนหน้ามากขึ้นเพื่อให้เขาแสดงศักยภาพที่ดีที่สุด เขาทำได้ดีมากและตอนนี้มันอาจจะโดดเด่นขึ้นจากจำนวนประตูและแอสซิสต์ของเขา แต่แม้ว่าเขาจะไม่ได้ทำทั้งสองอย่าง เขาก็ยังคงเล่นได้ดีมากอยู่ดี”

อาร์เนอ ชม กราเฟนเบิร์ช สุดแจ่ม จริงหรือ?

จากคำกล่าวของอาร์เนอ ชล็อต เราจะเห็นได้ว่าสิ่งที่ทำให้ กราเฟนเบิร์ช โดดเด่นไม่ใช่แค่เพียงทักษะการทำประตูและการจ่ายบอลเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความขยันในการวิ่งช่วยเกมรับอีกด้วย ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งสำหรับทีมที่ต้องการประสบความสำเร็จในระยะยาว

การที่ กราเฟนเบิร์ช สามารถวิ่งช่วยเกมรับได้อย่างขยันขันแข็ง ทำให้เพื่อนร่วมทีมอย่าง โดมินิก โซโบสไล และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ สามารถโฟกัสกับการเล่นเกมรุกได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องเกมรับมากนัก นี่คือสิ่งที่ทำให้ลิเวอร์พูลมีความสมดุลทั้งในเกมรุกและเกมรับ และเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้พวกเขาสามารถทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในฤดูกาลนี้

ความสำคัญของกราเฟนเบิร์ช ในแผนของคล็อปป์

การมาของ ไรอัน กราเฟนเบิร์ช ได้เข้ามาเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายไปในแดนกลางของลิเวอร์พูล เขามีความสามารถในการครองบอลที่ดี, มีวิสัยทัศน์ในการจ่ายบอลที่ยอดเยี่ยม และมีความขยันในการวิ่งช่วยเกมรับ ทำให้เขาสามารถเล่นได้ทั้งในบทบาทของกองกลางตัวรุกและกองกลางตัวรับ นี่คือสิ่งที่ทำให้เขาเป็นผู้เล่นที่มีประโยชน์อย่างมากสำหรับทีม

นอกจากนี้ ความสามารถในการปรับตัวเข้ากับแท็คติกของทีมได้อย่างรวดเร็ว ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้กราเฟนเบิร์ชได้รับการชื่นชมจากอาร์เนอ ชล็อต เขาสามารถเข้าใจบทบาทของตัวเองในทีม และสามารถทำตามแผนการเล่นที่โค้ชวางไว้ได้อย่างแม่นยำ

ไม่ใช่เเค่การทำประตูเเละแอสซิสต์ เเต่การวิ่งช่วยเกมรับของเขา ช่วยให้ทีมมีความสมดุลเเละเเข็งเเกร่งยิ่งขึ้น นี่เเหละคือสิ่งที่ทำให้เขาโดดเด่นเเละเป็นที่รักของเเฟนบอล

โดยรวมแล้ว ไรอัน กราเฟนเบิร์ช ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเขาสมควรได้รับโอกาสในการลงเล่นเป็นตัวจริงให้กับลิเวอร์พูลอย่างต่อเนื่อง ด้วยฟอร์มการเล่นที่ยอดเยี่ยมและความมุ่งมั่นในการพัฒนาตัวเอง เขาจะเป็นกำลังสำคัญของทีมในการไล่ล่าความสำเร็จในฤดูกาลนี้อย่างแน่นอน

การที่ลิเวอร์พูลมีนักเตะอย่างกราเฟนเบิร์ชอยู่ในทีม ถือเป็นเรื่องที่โชคดีอย่างยิ่ง เพราะเขาไม่เพียงแต่เป็นนักเตะที่มีพรสวรรค์ แต่ยังเป็นนักเตะที่มีความทุ่มเทและพร้อมที่จะทำทุกวิถีทางเพื่อทีม

และสำหรับแฟนบอลลิเวอร์พูล การได้เห็นกราเฟนเบิร์ชโชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยมเช่นนี้ ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่ง เพราะเขาจะเป็นหนึ่งในนักเตะที่จะช่วยให้ทีมประสบความสำเร็จในอนาคตอย่างแน่นอน

ที่มา – อาร์เนอ ชม กราเฟนเบิร์ช สุดแจ่ม – เผย 1 ข้อที่ทำให้โดดเด่นกว่าเดิม

อาร์เนอ ชล็อต เฮดโค้ช ลิเวอร์พูล รับ “หงส์แดง” หมดแรงในช่วงครึ่งหลังในเกมเฉือน เอฟเวอร์ตัน 2-1 พร้อมไร้ปัญหาในการเลือกส่ง อเล็กซานเดอร์ อิซัก หรืออูโก เอกีตีเก ลงสนาม

โดย ลิเวอร์พูล เฉือนชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-1 ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ 2025-26 นัดเมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บีแมตช์เมื่อวันที่ 20 ก.ย.

จากผลที่เกิดขึ้นทำให้ “หงส์แดง” ชนะ 5 นัดรวดเก็บ 15 คะแนนเต็มนำจ่าฝูง และเป็นครั้งที่ 3 ในยุคพรีเมียร์ลีกที่ซิวชัย 5 เกมติด

Liverpool’s manager Arne Slot leaves the field with Liverpool’s Conor Bradley at the end of the English Premier League soccer match between Liverpool and Everton at Anfield stadium in Liverpool, England, Saturday, Sept. 20, 2025. (AP Photo/Rui Vieira)

หลังเกม ชล็อต ยอมรับว่า ทีมของเขาหมดแรงในช่วงครึ่งหลังเนื่องจากเจอโปรแกรมถี่ “มีความตึงเครียดในช่วงท้ายเกม เราต้องการสภาพจิตใจอีกครั้งในวันนี้ เรารู้ดีว่าเกมนี้จะยากแค่ไหน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการเตรียมตัวที่ดีเท่าไหร่ แต่เราเพิ่งเล่นเกมที่สามในเวลาไม่ถึงเจ็ดวัน คุณเห็นได้เลยว่าเราเริ่มหมดแรงแล้ว แต่สภาพจิตใจในครึ่งหลังนั้นยอดเยี่ยมมาก”

นอกจากนั้นเฮดโค้ชวัย 47 ปียังระบุว่า ไม่มีปัญหาในการเลือกส่ง อเล็กซานเดอร์ อิซัก หรืออูโก เอกีตีเก ลงสนาม “ผมไม่ปวดหัวเลย นักเตะสองคนนี้มีความสุขมากที่เรามีพวกเขาทั้งสองคน ทั้งคู่รู้ดีว่าการเล่นสามรอบ 90 นาทีเป็นเรื่องยากมากสำหรับพวกเขา อูโก อายุ 21, 22 ปี และกำลังจะมาสู่ลีกใหม่ที่เข้มข้นขึ้น คุณจะเห็นได้เลยว่าคนที่คุ้นเคยกับการเล่นแบบนี้แล้ว อเล็กซ์ยังไม่พร้อมที่จะเล่น 90 นาที เราพยายามให้เขาเล่นในตำแหน่งนั้นตราบใดที่เขายังฟิตอยู่ เป็นเรื่องดีที่คุณสามารถถามคำถามนี้กับผมได้ทุกตำแหน่ง”

ชล็อตรับ ลิเวอร์พูลหมดแรงครึ่งหลังเกมเฉือนเอฟเวอร์ตัน

สถานการณ์ของลิเวอร์พูลในขณะนี้ดูเหมือนว่าจะต้องเจอความท้าทายอย่างต่อเนื่อง ทั้งในเรื่องของโปรแกรมการแข่งขันที่แน่นขนัด และความกดดันจากความคาดหวังของแฟนบอล แต่ถึงอย่างไรก็ตาม อาร์เนอ ชล็อต ยังคงมองโลกในแง่ดี และพร้อมที่จะนำทีมฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ ไปให้ได้

ทำไมชล็อตถึงคิดว่าลิเวอร์พูลหมดแรงครึ่งหลังเกมเฉือนเอฟเวอร์ตัน

เหตุผลหลักที่ ชล็อต มองว่าลูกทีมของเขา ลิเวอร์พูลหมดแรงครึ่งหลังเกมเฉือนเอฟเวอร์ตัน นั้นมาจากการที่ทีมต้องลงเล่นถี่เกินไปในระยะเวลาอันสั้น ซึ่งส่งผลต่อสภาพร่างกายและความสดของผู้เล่นอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ การที่ต้องเจอกับเกมที่มีความเข้มข้นสูงอย่างเมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บีก็ยิ่งทำให้ผู้เล่นต้องใช้พลังงานมากขึ้นไปอีก

ถึงแม้ว่าทีมจะประสบปัญหาเรื่องความเหนื่อยล้า แต่ชล็อตก็ยังคงชื่นชมสปิริตของลูกทีมที่ไม่ยอมแพ้ และสามารถเอาชนะเอฟเวอร์ตันไปได้ในที่สุด ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งทางจิตใจของนักเตะลิเวอร์พูลชุดนี้

ความสามารถในการจัดการทีมของชล็อตในการโรเตชั่นผู้เล่นและการวางแผนการเล่นให้เหมาะสมกับสภาพร่างกายของนักเตะ จะเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้ลิเวอร์พูลสามารถรักษาฟอร์มการเล่นที่ดีได้อย่างต่อเนื่องตลอดฤดูกาล

แน่นอนว่าการที่ ลิเวอร์พูลหมดแรงครึ่งหลังเกมเฉือนเอฟเวอร์ตัน เป็นสิ่งที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อผลงานของทีมในระยะยาว อย่างไรก็ตาม ด้วยความสามารถและประสบการณ์ของชล็อต เชื่อว่าเขาจะสามารถหาทางออกที่ดีที่สุดสำหรับทีมได้อย่างแน่นอน

ดังนั้น สิ่งที่แฟนบอลลิเวอร์พูลทำได้ในตอนนี้คือการให้กำลังใจและสนับสนุนทีมอย่างเต็มที่ เพื่อช่วยให้พวกเขาสามารถก้าวผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปได้ และกลับมาโชว์ฟอร์มที่แข็งแกร่งอีกครั้ง

สถานการณ์นี้เป็นบททดสอบสำคัญสำหรับลิเวอร์พูลและอาร์เนอ ชล็อต ว่าพวกเขาจะสามารถรับมือกับความท้าทายที่ถาโถมเข้ามาได้อย่างไร แต่ด้วยศักยภาพที่มีอยู่ เชื่อว่าพวกเขามีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน

ชล็อตรับ ลิเวอร์พูลหมดแรงครึ่งหลังเกมเฉือนเอฟเวอร์ตัน เป็นสัญญาณเตือนให้ทีมต้องกลับมาทบทวนและปรับปรุงในหลายๆ ด้าน เพื่อให้พร้อมสำหรับการแข่งขันที่เข้มข้นขึ้นในอนาคต

การที่ลิเวอร์พูลยังสามารถเก็บชัยชนะได้ถึงแม้จะอยู่ในสภาพที่ไม่สมบูรณ์ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความกระหายในชัยชนะของทีม ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าชื่นชมและเป็นกำลังใจให้กับแฟนบอล

สุดท้ายนี้ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการที่ทีมต้องเรียนรู้จากความผิดพลาดและพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง เพื่อก้าวไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ นั่นคือการคว้าแชมป์ในฤดูกาลนี้

ที่มา – เจอโปรแกรมถี่ ชล็อต รับ ลิเวอร์พูล หมดแรงครึ่งหลังเกมเฉือน เอฟเวอร์ตัน

คืนนี้มีไฮไลต์สำคัญอยู่ที่ศึกเมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บี! ลิเวอร์พูลเปิดบ้านต้อนรับเอฟเวอร์ตัน และยังมีบิ๊กแมตช์ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ปะทะ เชลซี คอบอลห้ามพลาด ช่องทางถ่ายทอดสด ลิเวอร์พูล ดวล เอฟเวอร์ตัน เมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บี – แมนยู ปะทะ เชลซี คืนนี้มีที่ไหนบ้าง ตามมาดูกัน!

วันเสาร์ที่ 20 กันยายน 2568
ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ

ลิเวอร์พูล-เอฟเวอร์ตัน: คู่แรก เวลา 18.30 น. ถ่ายทอดสดทางโมโนแม็กซ์ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล พบ “ทอฟฟี่สีน้ำเงิน” เอฟเวอร์ตัน ศึกเมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บีครั้งที่ 247! สถิติเดิม ลิเวอร์พูลชนะ 100 เอฟเวอร์ตันชนะ 68 เสมอกัน 78 นัด ฤดูกาลที่แล้วเสมอ 2-2 ที่บ้านเอฟเวอร์ตัน และลิเวอร์พูลชนะ 1-0 ในบ้าน

คาดการณ์ 11 ตัวจริง: ลิเวอร์พูลอาจส่ง อูโก เอกิติเก, โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โดมินิก โซโบสไล ส่วนเอฟเวอร์ตันน่าจะใช้งาน เบโต, เคียร์แนน ดิวส์บิวรี-ฮอลล์, แจ๊ก กรีลิช ลิเวอร์พูลฟอร์มกำลังขึ้น แต่เอฟเวอร์ตันก็เป็นคู่ต่อสู้ที่ประมาทไม่ได้ เชื่อว่าลิเวอร์พูลน่าจะคว้าชัยไปได้

ไบรตัน-ท็อตแนม ฮอตสเปอร์: เวลา 21.00 น. ถ่ายทอดสดทางโมโนแม็กซ์ ไบรตันเล่นในบ้านได้ดี แม้สเปอร์สจะฟอร์มแรง แต่เชื่อว่าไบรตันน่าจะเบียดชนะ

เบิร์นลีย์-น็อตติงแฮม ฟอเรสต์: เวลา 21.00 น. ถ่ายทอดสดทางโมโนแม็กซ์ เบิร์นลีย์ยังพอมีหวังในบ้าน ส่วนฟอเรสต์อยู่ในช่วงปรับตัว เจ้าบ้านมีโอกาสเฮ

เวสต์แฮม ยูไนเต็ด-คริสตัล พาเลซ: ลอนดอนดาร์บี เวลา 21.00 น. ถ่ายทอดสดทางโมโนแม็กซ์ เวสต์แฮมฟอร์มไม่ดี คริสตัล พาเลซมีลุ้นบุกชนะ

วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส-ลีดส์ ยูไนเต็ด: เวลา 21.00 น. ถ่ายทอดสดทางโมโนแม็กซ์ วูล์ฟส์แพ้รวด แต่ลีดส์ก็ไม่ได้แข็งแกร่งมาก น่าจะจบเสมอ

แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด-เชลซี: บิ๊กแมตช์ เวลา 23.30 น. ถ่ายทอดสดทางโมโนแม็กซ์ แมนยูยังมีปัญหา เชลซีเพิ่งเหนื่อยจากเกมยุโรป คู่นี้น่าจะจบเสมอ

ฟูแลม-เบรนต์ฟอร์ด: ลอนดอนดาร์บี เวลา 02.00 น. ถ่ายทอดสดทางโมโนแม็กซ์ ศักยภาพใกล้เคียงกัน ฟูแลมได้เปรียบในบ้าน โอกาสชนะสูงกว่า

ฟุตบอลบุนเดสลีกา เยอรมนี

ฮอฟเฟนไฮม์-บาเยิร์น มิวนิก: เวลา 20.30 น. ถ่ายทอดสดทางบีอิน สปอร์ตส์ 3 ฮอฟเฟนไฮม์ฟอร์มดี บาเยิร์นเพิ่งเหนื่อยจากเกมยุโรป คู่นี้อาจเสมอ

แวร์เดอร์ เบรเมน-ไฟรบวร์ก: เวลา 20.30 น. ถ่ายทอดสดทางบีอิน สปอร์ตส์ 5 และทรู พรีเมียร์ ฟุตบอล 5 ฟอร์มใกล้เคียงกัน เบรเมนได้เปรียบในบ้าน โอกาสชนะสูงกว่า

เอาก์สบวร์ก-ไมนซ์: เวลา 20.30 น. ถ่ายทอดสดทางบีอิน สปอร์ตส์ 6 เอาก์สบวร์กเล่นดีกว่าไมนซ์ เจ้าบ้านน่าชนะ

ฮัมบูร์ก-ไฮเดนไฮม์: เวลา 20.30 น. ถ่ายทอดสดทางบีอิน สปอร์ตส์ 7 ฟอร์มแย่พอกัน น่าจะแบ่งแต้ม

ไลป์ซิก-โคโลญจน์: เวลา 23.30 น. ถ่ายทอดสดทางบีอิน สปอร์ตส์ 3 ไลป์ซิกเริ่มตั้งหลักได้ โคโลญจน์ฟอร์มดี แต่เจ้าบ้านน่าชนะ

ฟุตบอลเซเรีย อา อิตาลี

โบโลญญา-เจนัว: เวลา 20.00 น. ถ่ายทอดสดทางทรู พรีเมียร์ ฟุตบอล 3 โบโลญญามีขุมกำลังดีกว่า เจนัว เจ้าบ้านน่าคว้าชัย

เวโรนา-ยูเวนตุส: เวลา 23.00 น. ถ่ายทอดสดทางทรู พรีเมียร์ ฟุตบอล 3 เวโรนาฟอร์มไม่ดี เจอ ยูเวนตุสที่กำลังมั่นใจ ทีมเยือนน่าบุกชนะ

อูดิเนเซ-เอซี มิลาน: เวลา 01.45 น. ถ่ายทอดสดทางทรู พรีเมียร์ ฟุตบอล 3 ทั้งคู่ฟอร์มดี น่าจะกินกันไม่ลง และจบเสมอ

ฟุตบอลลา ลีกา สเปน

จิโรนา-เลบานเต: เวลา 19.00 น. ถ่ายทอดสดทางบีอิน สปอร์ตส์ 4 และทรู พรีเมียร์ ฟุตบอล 4 ทั้งคู่ฟอร์มแย่ จิโรนามีปัญหาน้อยกว่าเลบานเต เจ้าบ้านน่าชนะ

เรอัล มาดริด-เอสปันยอล: เวลา 21.15 น. ถ่ายทอดสดทางบีอิน สปอร์ตส์ 4 และทรู พรีเมียร์ ฟุตบอล 4 เรอัล มาดริดเหนือกว่าเอสปันยอล เจ้าบ้านน่าคว้าชัย

เดปอร์ติโบ อลาเบส-เซบียา: เวลา 23.30 น. ถ่ายทอดสดทางบีอิน สปอร์ตส์ 1 อลาเบสหวังผลในบ้าน เซบียาไม่แกร่งมาก เจ้าถิ่นน่าชนะ

บียาร์เรอัล-โอซาซูนา: เวลา 23.30 น. ถ่ายทอดสดทางบีอิน สปอร์ตส์ 4 และทรู พรีเมียร์ ฟุตบอล 4 บียาร์เรอัลแข็งแกร่งกว่าโอซาซูนา เจ้าบ้านคงไม่พลาด

บาเลนเซีย-แอธเลติก บิลเบา: เวลา 02.00 น. ถ่ายทอดสดทางบีอิน สปอร์ตส์ 1 บาเลนเซียเล่นในบ้านได้ดี บิลเบาก็แข็งแกร่ง น่าจะจบเสมอ

ช่องทางถ่ายทอดสด ลิเวอร์พูล ดวล เอฟเวอร์ตัน เมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บี – แมนยู ปะทะ เชลซี

สรุปช่องทางถ่ายทอดสด ลิเวอร์พูล ดวล เอฟเวอร์ตัน

สำหรับแฟนบอลที่กำลังมองหา ช่องทางถ่ายทอดสด ลิเวอร์พูล ดวล เอฟเวอร์ตัน เมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บี – แมนยู ปะทะ เชลซี และคู่อื่นๆ ในคืนนี้ สามารถติดตามได้ตามช่องทางที่ระบุไว้ข้างต้น อย่าพลาดชม!

โดยรวมแล้วคืนนี้มีหลายคู่ที่น่าสนใจ ทั้งศึกเมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บี และบิ๊กแมตช์ระหว่าง แมนฯ ยูไนเต็ด กับ เชลซี แฟนบอลเตรียมตัวให้พร้อม แล้วมาเชียร์ทีมโปรดไปด้วยกัน!

ที่มา – ช่องทางถ่ายทอดสด ลิเวอร์พูล ดวล เอฟเวอร์ตัน เมอร์ซีย์ไซด์ดาร์บี – แมนยู ปะทะ เชลซี

อาร์เนอ ชล็อต เฮดโค้ช ลิเวอร์พูล แสดงความมั่นใจว่า อเล็กซานเดอร์ อิซัก และอูโก เอกีตีเก จะสามารถเล่นร่วมกันได้ แม้ว่าทั้งคู่จะเป็นผู้เล่นในตำแหน่งเดียวกันก็ตาม พร้อมทั้งไม่เห็นด้วยกับคำวิจารณ์ที่ว่า โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ฟอร์มตก

หลังจากที่ลิเวอร์พูลได้คว้าตัว 2 กองหน้าใหม่อย่าง อิซักและเอกีตีเก มาร่วมทีมในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะซัมเมอร์ที่ผ่านมา ทำให้เกิดคำถามว่าใครจะได้ลงเป็นตัวจริง หรือทั้งคู่จะสามารถเล่นด้วยกันได้หรือไม่ ซึ่งเป็นประเด็นที่น่าสนใจสำหรับแฟนบอลและผู้ที่ติดตามทีม

ล่าสุด อาร์เนอ ชล็อต ได้ออกมาแสดงความมั่นใจว่าทั้งสองจะสามารถลงสนามร่วมกันได้ โดยกล่าวว่า “ผมกำลังพิจารณาเรื่องการเล่นร่วมกันของทั้งคู่ เพราะคุณต้องพิจารณาหลายสิ่งหลายอย่างประกอบกัน ถ้าทั้งคู่อยู่ในช่วงฟอร์มที่ดีที่สุดในชีวิต คุณก็ต้องพิจารณาถึงความเป็นไปได้นั้นด้วย แต่ที่สำคัญคือเรามีระบบ 4-3-3 และในช่วงท้ายเกม เราก็เคยเล่นด้วยกองหน้าตัวเป้าเบอร์ 9 สองคนอยู่แล้ว”

“อูโก้ สามารถเล่นทางฝั่งซ้ายได้ ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่ดีสำหรับทีมของเรา เรามีตัวเลือกมากมาย และถ้ามีผู้เล่นบางคนไม่ฟิตสมบูรณ์ เราก็สามารถปรับมาใช้ระบบ 4-4-2 ได้ ซึ่งทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับฟอร์มและความฟิตของผู้เล่นแต่ละคน” ชล็อตกล่าวเสริม

นอกจากนี้ เฮดโค้ชวัย 47 ปี ยังได้กล่าวถึงเสียงวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับผลงานของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่ดูเหมือนว่าฟอร์มจะตกลงไปว่า “สำหรับผมแล้ว เมื่อคุณเป็นผู้เล่นที่ยอดเยี่ยม สิ่งที่สำคัญคือการที่คุณยังคงมีส่วนร่วมกับทีม แม้ว่าคุณจะไม่ได้อยู่ในช่วงฟอร์มที่ดีที่สุดก็ตาม ผู้เล่นหลายคนอาจมีส่วนร่วมกับทีมได้ด้วยการทำประตูและการทำแอสซิสต์ แต่จะมีผู้เล่นเพียงไม่กี่คนที่สามารถมีส่วนร่วมกับทีมได้ แม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เล่นดีก็ตาม”

“สิ่งที่ โม ทำได้อย่างโดดเด่นคืออัตราการทำงานของเขา มันเป็นเรื่องยากมากที่จะโดดเด่นอยู่เสมอ แต่เขาก็ยังคงเป็นผู้เล่นคนสำคัญของทีมอยู่ดี นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมแฟนบอลถึงรักเขามาก และนั่นคือเหตุผลที่เขาได้รับการยกย่องอย่างมาก และนั่นคือสิ่งที่ทำให้เขาพิเศษ”

ชล็อตมั่นใจ อิซัก-เอกีตีเก เล่นด้วยกันได้

การที่ อาร์เนอ ชล็อต ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงความมั่นใจในการที่ อิซัก-เอกีตีเก จะเล่นร่วมกันได้นั้น แสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นในการวางแผนการเล่นของเขา และความเชื่อมั่นในศักยภาพของผู้เล่นทุกคนในทีม การมีตัวเลือกในแดนหน้าที่หลากหลาย จะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อลิเวอร์พูลในการรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นตลอดฤดูกาล

นอกจากนี้ การที่ชล็อตออกมาปกป้อง โมฮาเหม็ด ซาลาห์ จากคำวิจารณ์ ยังแสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญกับผู้เล่นที่เป็นแกนหลักของทีม และการสร้างขวัญกำลังใจให้กับผู้เล่นเหล่านั้น แม้ว่าฟอร์มการเล่นของซาลาห์อาจจะไม่ร้อนแรงเหมือนเก่า แต่ความทุ่มเทและประโยชน์ที่เขามีต่อทีมก็ยังคงสูงอยู่

มุมมองต่อ อิซัก-เอกีตีเก และโอกาสในการเล่นร่วมกัน

การที่ชล็อตมองว่า อิซัก-เอกีตีเก สามารถเล่นร่วมกันได้นั้น เป็นการเปิดโอกาสให้ลิเวอร์พูลมีรูปแบบการเล่นที่หลากหลายมากขึ้น อาจจะเห็นการปรับเปลี่ยนแผนการเล่นในช่วงท้ายเกม หรือในบางสถานการณ์ที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพในเกมรุก การมีกองหน้าสองคนที่สามารถสร้างความแตกต่างได้ จะเป็นอาวุธที่สำคัญสำหรับทีม

อย่างไรก็ตาม การที่ทั้งคู่จะสามารถเล่นร่วมกันได้อย่างลงตัวนั้น ต้องอาศัยการฝึกซ้อมและความเข้าใจในแท็คติกของทีมเป็นอย่างดี ชล็อตจะต้องหาวิธีที่จะดึงศักยภาพของทั้งคู่ออกมาให้ได้มากที่สุด และปรับให้เข้ากับระบบการเล่นของทีม

โดยรวมแล้ว การเสริมทัพในแดนหน้าของลิเวอร์พูลในครั้งนี้ ถือว่าน่าสนใจและน่าติดตามเป็นอย่างยิ่ง แฟนบอลคงต้องรอชมกันต่อไปว่า อิซัก-เอกีตีเก จะสามารถปรับตัวเข้ากับทีมได้รวดเร็วแค่ไหน และจะสามารถสร้างผลงานได้ดีเพียงใด

สิ่งที่ชล็อตแสดงออกมาคือความเชื่อมั่นในลูกทีม และพร้อมที่จะให้โอกาสทุกคนได้พิสูจน์ตัวเอง สิ่งนี้น่าจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ลิเวอร์พูลมีความแข็งแกร่งขึ้นในฤดูกาลที่จะมาถึง

ที่มา – ชล็อต มั่นใจ อิซัก-เอกีตีเก เล่นร่วมกันได้ – ไม่เห็นด้วย ซาลาห์ ฟอร์มตก

เป๊ป กวาร์ดิโอลา กุนซือ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ออกโรงป้อง อาร์เซนอล และลิเวอร์พูล หลังถูกวิจารณ์ว่าใช้เงินซื้อความสำเร็จการการเสริมทัพเยอะในช่วงตลาดซัมเมอร์ที่ผ่านมา

โดย อาร์เซนอล และลิเวอร์พูล ต่างใช้งบแบบจัดเต็มในการเสริมผู้เล่นใหม่ในตลาดแข้งหน้าร้อนที่ผ่านมาด้วยเงิน 225 ล้านปอนด์ และ415 ล้านปอนด์ (ยังไม่หักลบเงินที่ขายนักเตะ) ตามลำดับ

จากการเสริมทัพครั้งใหญ่ทำให้ ลิเวอร์พูล และอาร์เซนอล ถูกกระแสวิจารณ์ว่าใช้เงินซื้อความสำเร็จหากสามารถคว้าแชมป์ลีกซีซั่นนี้ได้

ทว่าล่าสุด เป๊ป ให้สัมภาษณ์ไม่เห็นด้วยกับความคิดนี้ “สิ่งเดียวที่ผมอยากจะบอก มิเกล อาร์เตตา เพื่อนของผม ถ้าเขาคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ ก็คงเป็นเพราะใช้เงิน ไม่ใช่เพราะเขาทำงานหนัก เหมือนกับ ลิเวอร์พูล ถ้า อาร์เนอ ชล็อต ได้แชมป์ ก็คงเป็นเพราะใช้เงินเยอะ ใช่ไหม? เพราะไม่ใช่แค่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เท่านั้นที่ทำแบบนี้ ใช่ไหม?”

“ฟังนะ ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ทุกสโมสรสามารถทำอะไรก็ได้ที่พวกเขาต้องการ พวกเขาอยากใช้เงินเพราะพวกเขาต้องการ และมันก็โอเค”

“ถ้าอย่างนั้น สิ่งเดียวที่ผมพูดได้ก็คือ พวกเขาฉลาด ใช้เงินในสิ่งที่พวกเขาเชื่อว่าทำได้ เพื่อแข่งขันกับทีมที่ดีที่สุดในพรีเมียร์ลีก หรือในยุโรป”

เป๊ปป้อง อาร์เซนอล-ลิเวอร์พูล หลังถูกวิจารณ์เสริมทัพเยอะ – ใช้เงินซื้อความสำเร็จ

เป๊ป กวาร์ดิโอลา ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ออกมาปกป้องอาร์เซนอลและลิเวอร์พูล จากเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่ว่าพวกเขา ใช้เงินซื้อความสำเร็จ หลังจากที่ทั้งสองทีมทุ่มเงินจำนวนมหาศาลในการเสริมทัพในช่วงตลาดซื้อขายนักเตะซัมเมอร์ที่ผ่านมา อาร์เซนอลภายใต้การคุมทีมของมิเกล อาร์เตต้า และลิเวอร์พูลที่นำโดยเยอร์เก้น คล็อปป์ (ก่อนการเปลี่ยนแปลงผู้จัดการทีม) ต่างก็เสริมความแข็งแกร่งให้กับทีมอย่างมากเพื่อหวังที่จะท้าทายตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ลีก

การลงทุนครั้งใหญ่ของทั้งสองทีมทำให้เกิดคำถามว่า ความสำเร็จที่ได้มานั้นเกิดจากการ ใช้เงินซื้อความสำเร็จ หรือเกิดจากการทำงานหนักและการวางแผนที่ดีกันแน่ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นในประเด็นนี้ โดยกล่าวว่าการที่สโมสรต่างๆ ใช้เงินในการเสริมทัพนั้นเป็นเรื่องปกติ และเป็นสิ่งที่พวกเขาเชื่อว่าจะช่วยให้ทีมประสบความสำเร็จได้

มุมมองของเป๊ป เกี่ยวกับการใช้เงินซื้อความสำเร็จ

เป๊ป กวาร์ดิโอลา มองว่าการที่สโมสรต่างๆ ลงทุนในการเสริมทัพนั้นเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เพราะทุกทีมต่างต้องการที่จะแข่งขันและประสบความสำเร็จ เขาเชื่อว่าสโมสรต่างๆ มีสิทธิ์ที่จะใช้เงินตามที่พวกเขาต้องการ และถ้าหากอาร์เซนอลหรือลิเวอร์พูลสามารถคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ ก็ไม่ได้หมายความว่าพวกเขา ใช้เงินซื้อความสำเร็จ เพียงอย่างเดียว แต่เป็นเพราะพวกเขามีการวางแผนที่ดีและมีการทำงานหนักด้วย

นอกจากนี้ เป๊ปยังกล่าวอีกว่า การที่สโมสรต่างๆ ใช้เงินซื้อความสำเร็จ นั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะหลายทีมในยุโรปก็ทำเช่นกัน เขาเชื่อว่าทุกสโมสรมีสิทธิ์ที่จะทำในสิ่งที่พวกเขาคิดว่าดีที่สุด เพื่อที่จะแข่งขันกับทีมที่ดีที่สุดและประสบความสำเร็จ

อย่างไรก็ตาม การใช้เงินในการเสริมทัพไม่ได้เป็นปัจจัยเดียวที่นำไปสู่ความสำเร็จ เพราะยังมีปัจจัยอื่นๆ อีกมากมายที่มีผลต่อผลงานของทีม เช่น การจัดการทีมที่ดี การมีนักเตะที่มีคุณภาพ การมีระบบการเล่นที่แข็งแกร่ง และการมีโชคช่วย

ดังนั้น การวิพากษ์วิจารณ์ว่าอาร์เซนอลและลิเวอร์พูล ใช้เงินซื้อความสำเร็จ จึงอาจจะไม่ยุติธรรมนัก เพราะทั้งสองทีมได้ลงทุนในการเสริมทัพเพื่อที่จะพัฒนาทีมและเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกสโมสรต่างก็ทำกัน

การที่เป๊ป กวาร์ดิโอลา ออกมาปกป้องอาร์เซนอลและลิเวอร์พูล แสดงให้เห็นว่าเขาเข้าใจถึงความจำเป็นในการลงทุนเพื่อพัฒนาทีมและแข่งขันในระดับสูง เขาเชื่อว่าทุกสโมสรมีสิทธิ์ที่จะทำในสิ่งที่พวกเขาคิดว่าดีที่สุด เพื่อที่จะประสบความสำเร็จ และการที่สโมสรต่างๆ ใช้เงินในการเสริมทัพนั้นเป็นเรื่องปกติและเข้าใจได้

สุดท้ายแล้ว ความสำเร็จของทีมไม่ได้ขึ้นอยู่กับการใช้เงินเพียงอย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่กับการทำงานหนัก การวางแผนที่ดี และการมีปัจจัยอื่นๆ ที่สนับสนุนด้วย การลงทุนในการเสริมทัพเป็นเพียงหนึ่งในปัจจัยที่จะช่วยเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จเท่านั้น

ที่มา – เป๊ป ป้อง อาร์เซนอล-ลิเวอร์พูล หลังถูกวิจารณ์เสริมทัพเยอะ – ใช้เงินซื้อความสำเร็จ

อาร์เนอ ชล็อต เฮดโค้ช ลิเวอร์พูล ชื่นชมฝีเท้าของ อเล็กซานเดอร์ อิซัก หลังลงประเดิมสนามให้ทีม พร้อมชี้ควรเอาชนะ แอตเลติโก มาดริด ง่ายกว่านี้

โดย ลิเวอร์พูล จากอังกฤษเปิดสนาม แอนฟิลด์ แซงชนะ แอตฯ มาดริด แบบหืดจับ 3-2 ในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก 2025-26 รอบลีกเฟส นัดแรก เมื่อวันที่ 17 ก.ย.

เกมนี้ “หงส์แดง” ออกนำก่อน 2-0 จาก แอนดี โรเบิร์ตสัน นาทีที่ 4 และโมฮาเหม็ด ซาลาห์ นาทีที่ 6 ก่อนมาถูก “ตราหมี” ตีเสมอจาก 2 ประตูของ มาร์กอส ยอเรนเต นาที 45+3 และ81 ทว่านาที 90+2 เฟอร์จิล ฟาน ไดก์ มาโหม่งประตูชัยให้เจ้าถิ่นคว้าชัยหวุดหวิด

Alexander Isak ควบคุมบอลในเกมที่ลิเวอร์พูลพบกับแอตเลติโก มาดริด (AP Photo/Jon Super)

แมตช์นี้ อเล็กซานเดอร์ อิซัก กองหน้าคนใหม่ได้ลงประเดิมสนามให้ทีมเป็นนัดแรกก่อนถูกเปลี่ยนตัวออกนาที 58 ซึ่ง ชล็อต กล่าวถึงผลงานของแข้งรายนี้ว่า “ในช่วง 60 นาทีที่เขาลงเล่น เขาดูฟิตมากสำหรับผม แต่หลังจากผ่านไป 10 นาที เขาก็ยังไม่เหนื่อยมาก เขาสามารถเล่นในระดับนี้ได้ค่อนข้างดีหลังจากฝึกซ้อมกับทีมหนึ่งหรือสองสัปดาห์”

“เขาเล่นฟุตบอลได้ และเป็นคนที่ดูสนุก ซึ่งผมไม่แปลกใจเลย เขาฟิตกว่าที่ผมคาดไว้ แต่แฟนๆ ไม่ควรคาดหวังมากเกินไป เราเล่นกันสัปดาห์ละสามครั้ง ซึ่งมันมากเกินไปสำหรับเขา”

“เรามีกองหน้าหมายเลข 9 ที่ยอดเยี่ยมสองคน (อิซัก และอูโก เอกีตีเก) และเราจะใช้งานพวกเขาทั้งสองคนนี้ตลอดอาชีพการเล่นที่นี่”

นอกจากนั้นเฮดโค้ชวัย 47 ปีระบุถึงฟอร์มของทีมที่ต้องเอาชนะในช่วงท้ายเกมอีกครั้งว่า “เกมแบบนี้ไม่ควรเป็นฝ่ายชนะในช่วงท้ายเกม ผมเข้าใจว่า นี่คือเรื่องราวของเกมนี้ และห้าเกมหลังสุด แต่สำหรับผมแล้ว มันแตกต่างจากเกมที่เราเคยเล่นกันมาก่อนหน้านี้ เรามีเกมรุกที่ยอดเยี่ยมมากมายในวันนี้ ซึ่งเราน่าจะทำประตูที่สามได้”

ชล็อต ปลื้มฝีเท้า อิซัก หลังประเดิมสนามให้ทีม – ชี้ควรชนะ แอตฯ มาดริด ง่ายกว่านี้

จากผลงานของ อเล็กซานเดอร์ อิซัก ที่ลงสนามนัดแรกให้กับลิเวอร์พูล ทำให้แฟนบอลหลายคนเกิดความคาดหวังถึงศักยภาพของนักเตะรายนี้ อย่างไรก็ตาม อาร์เนอ ชล็อต ออกมากล่าวถึงความคาดหวังของแฟนบอลว่าอย่าเพิ่งคาดหวังมากเกินไป เนื่องจากตารางการแข่งขันที่ค่อนข้างถี่อาจส่งผลต่อสภาพร่างกายของนักเตะได้

ความเห็นของชล็อต หลังเกมกับแอตเลติโก มาดริด

หลังจบเกมที่ลิเวอร์พูลเฉือนชนะ แอตเลติโก มาดริด ไปอย่างหวุดหวิด 3-2 อาร์เนอ ชล็อต ได้ให้สัมภาษณ์ถึงรูปเกมโดยรวมว่าทีมของเขาควรจะ ชนะ แอตฯ มาดริด ง่ายกว่านี้ เนื่องจากมีโอกาสทำประตูมากมาย แต่ไม่สามารถเปลี่ยนเป็นสกอร์ได้ นอกจากนี้ เขายังกล่าวถึงฟอร์มการเล่นของทีมที่ต้องรอจนถึงช่วงท้ายเกมถึงจะคว้าชัยชนะได้ ซึ่งเขาไม่ค่อยพอใจกับสถานการณ์เช่นนี้เท่าไหร่นัก

โดยรวมแล้ว ชล็อต แสดงความพอใจกับผลงานของ อิซัก ในการประเดิมสนาม แต่ก็เตือนแฟนๆ ไม่ให้ตั้งความหวังไว้สูงเกินไป นอกจากนี้ เขายังมองว่าทีมของเขาควรจะ ชนะ แอตฯ มาดริด ง่ายกว่านี้ หากสามารถใช้โอกาสที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุดได้ สำหรับแฟนบอลลิเวอร์พูล นี่คือสัญญาณที่ดีที่ทีมกำลังมีตัวเลือกในแดนหน้าที่หลากหลายมากขึ้น และพร้อมที่จะต่อสู้เพื่อแย่งชิงแชมป์ในฤดูกาลนี้

การเข้ามาของ อิซัก ทำให้เกมรุกของลิเวอร์พูลมีความหลากหลายมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และการปรับตัวเข้ากับทีมอย่างรวดเร็วของเขาเป็นสิ่งที่น่าจับตามอง อย่างไรก็ตาม ชล็อต ยังคงต้องบริหารจัดการนักเตะอย่างระมัดระวัง เพื่อให้แน่ใจว่าทุกคนจะพร้อมสำหรับการแข่งขันที่เข้มข้นตลอดฤดูกาล

ที่มา – ชล็อต ปลื้มฝีเท้า อิซัก หลังประเดิมสนามให้ทีม – ชี้ควรชนะ แอตฯ มาดริด ง่ายกว่านี้

ลิเวอร์พูลยิงทดเจ็บเฉือนชัยแอตฯ มาดริด – เปแอสเชขนะขาดยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก

การแข่งขันฟุตบอลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก 2025-26 รอบลีก เมื่อวันที่ 16 กันยายน “หงส์แดง”ลิเวอร์พูล จากอังกฤษ เปิดสนามแอนฟิลด์รับการมาเยือนของ “ตราหมี”แอตเลติโก มาดริด จากสเปน เกมที่แฟนบอลทั่วโลกต่างจับตามอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลงานของลิเวอร์พูลในรายการนี้

เกมนี้เจ้าบ้านส่งกองหน้าใหม่ อเล็กซานเดอร์ อิซัก ลงเป็นตัวจริงนัดแรก ผนึกกำลังกับ โมฮาเหม็ด ซาลาห์, โคดี กักโป หวังเก็บสามแต้มสำคัญ ขณะที่ทีมเยือนนำทัพโดย จาโคโม รัสปาโดรี, อ็องตวน กรีซมันน์, จูเลียโน ซิเมโอเน หวังบุกมาแบ่งแต้มถึงถิ่น

เริ่มเกมมาเพียง 4 นาที ลิเวอร์พูลได้ฟรีคิกบริเวณหน้าเขตโทษ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ อัดด้วยซ้ายลูกพุ่งต่ำตรงมาแฉลบเท้า แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน เข้าประตูไป เจ้าบ้านนำ 1-0 นับเป็นเครดิตการทำประตูของโรเบิร์ตสัน สร้างความฮือฮาให้กับแฟนบอลในสนาม

นาที 6 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ส่งบอลให้ ไรอัน กราเฟนแบร์ก ซึ่งชิ่งคืนให้ซาลาห์วิ่งฝ่าแนวรับเข้าไปทางด้านขวาของเขตโทษ ก่อนที่ซาลาห์จะแต่งเข้าซ้ายแล้วกดเสียบตาข่าย ลิเวอร์พูลทิ้งห่าง 2-0 ทำให้สถานการณ์ของแอตเลติโก มาดริด เริ่มยากลำบาก

นาที 45+3 แอตฯ มาดริดตีไข่แตกได้ จาโคโม รัสปาโดรี เลี้ยงบอลเข้าถึงพื้นที่ด้านขวาของเขตโทษ จากนั้นส่งเข้ากลางให้ มาร์กอส ยอเรนเต รับแล้วจิ้มบอลไหลหนีมือนายทวารเข้าไป จบครึ่งแรกลิเวอร์พูลนำ 2-1 แม้จะตามหลัง แต่แอตฯ มาดริด ยังมีหวัง

ครึ่งหลังนาที 65 ลิเวอร์พูลสบโอกาสสวนกลับจนพาบอลมาถึงเขตโทษฝั่งแอตฯ มาดริด ก่อนจะเป็น โฟลริอัน เวียร์ตซ์ ที่ไหลให้ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ สับไกยิงแบบเหน่งๆ ไปชนเสาอย่างน่าเสียดาย พลาดโอกาสทองในการทำประตู

นาที 81 ปาโบล บาร์ริออส ได้บอลทางด้านซ้ายของเขตโทษแล้วยิงไปติดกองหลังลูกลอยมาบริเวณพื้นที่เส้นหัวกะโหลกหน้าเขตโทษ มาร์กอส ยอเรนเต จึงวอลเลย์สวนลูกไปแฉลบผู้เล่นคู่แข่งพุ่งเสียบตาข่าย แอตฯ มาดริดตีเสมอ 2-2 เกมกลับมาสูสีอีกครั้ง

นาที 90+2 แฟนบอลได้เฮลั่นสนาม โดมินิก โซโบสไล เปิดลูกเตะมุมจากฝั่งขวาเข้ากลางไปถึง เฟอร์จิล ฟาน ไดก์ กระโดดขึ้นโขกลูกเข้าประตูไป ลิเวอร์พูลนำอีกครั้ง 3-2 เป็นประตูชัยที่สำคัญ

นาที 90+4 ดิเอโก ซิเมโอเน เฮดโค้ชแอตฯ มาดริด มีเรื่องกระทบกระทั่งกับแฟนบอล ผู้ตัดสินจึงให้ใบแดงไล่ซิเมโอเนพ้นจากซุ้มม้านั่งข้างสนาม ก่อนที่จะจบเกมด้วยชัยชนะของลิเวอร์พูล 3-2 สรุปผลการแข่งขัน ลิเวอร์พูลยิงทดเจ็บเฉือนชัยแอตฯ มาดริด

(REUTERS/Stephanie Lecocq)

ทางด้านปารีส แซงต์ แชร์กแมง แชมป์เก่าจากฝรั่งเศส เปิดสนามปาร์ก เดส์ แพร็งซ์ รับการมาเยือนของอตาลันตา จากอิตาลี อีกคู่ที่น่าสนใจในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก

เริ่มเกมมาเพียง 3 นาที บราดเลย์ บาร์กโกลา จ่ายบอลเข้าพื้นที่ด้านซ้ายของเขตโทษ ฟาเบียน รุยซ์ รับได้แล้วหวดเรียดเข้ากลาง มาร์กินญอส จึงโฉบมาเข้าชาร์จระยะเผาขนไม่เหลือ เปแอสเชนำ 1-0 ออกสตาร์ทได้อย่างรวดเร็ว

นาที 39 อัชราฟ ฮาคิมี จ่ายบอลให้ ควิชา ควารัตสเคเลีย แผลงฤทธิ์พาบอลลุยจากระยะเกือบครึ่งสนามไปจนถึงบริเวณพื้นที่เส้นหัวกะโหลกหน้าเขตโทษ ก่อนยิงเสียบตาข่ายอย่างสวยงาม เปแอสเชบวกเพิ่มเป็น 2-0

นาที 43 ผู้ตัดสินเช็กวีเออาร์ย้อนหลังจังหวะที่ มาร์กินญอส ปะทะกับ ยูนุส มูซาห์ ในเขตโทษ ก่อนเป่าให้เปแอสเชได้จุดโทษ บราดเลย์ บาร์กโกลา รับหน้าที่สังหารไปเข้ามือ มาร์โค การ์เนเซกคี แบบง่ายๆ จบครึ่งแรกเจ้าบ้านนำ 2-0

ครึ่งหลังนาที 51 บราดเลย์ บาร์กโกลา ไหลบอลไปทางริมเขตโทษด้านซ้าย นูโน เมนเดส โฉบมารับแล้วล็อกหลบกองหลังที่เข้ามาสกัด จากนั้นพาไปซัดด้วยด้วยซ้ายมุมแคบลูกพุ่งผ่านนายทวารเข้าไป เปแอสเชทิ้งห่าง 3-0

นาที 90+1 ราอูล เบลลาโนวา ตัดบอลได้แต่จ่ายคืนผู้รักษาประตูเบาเกินไป กอนซาโล รามอส จึงโฉบมาถึงก่อนแล้วยิงเข้าไปง่ายๆ จบเกมเปแอสเชชนะขาดลอย 4-0 สรุปผล เปแอสเชขนะขาดยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก

ผลคู่อื่น โอลิมเปียกอส (กรีซ) เสมอ ปาฟอส (ไซปรัส) 0-0, สลาเวีย ปราก (สาธารณรัฐเช็ก) เสมอ โบโด/กลิมต์ (นอร์เวย์) 2-2, บาเยิร์น มิวนิก (เยอรมนี) ชนะ เชลซี (อังกฤษ) 3-1, อาแจ็กซ์ (เนเธอร์แลนด์) แพ้ อินเตอร์ มิลาน (อิตาลี) 0-2

สรุปผลยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก: ลิเวอร์พูลยิงทดเจ็บเฉือนชัยแอตฯ มาดริด – เปแอสเชขนะขาดยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก

จากผลการแข่งขันที่ออกมา แสดงให้เห็นถึงความเข้มข้นของการแข่งขันยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ในฤดูกาลนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งฟอร์มการเล่นของลิเวอร์พูลที่ยังคงความแข็งแกร่ง และเปแอสเชที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการเป็นแชมป์อีกครั้ง

ที่มา – ลิเวอร์พูลยิงทดเจ็บเฉือนชัยแอตฯ มาดริด – เปแอสเชขนะขาดยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก