โซล แคมป์เบลล์ อดีตกองหลังของ อาร์เซนอล ออกมาแสดงความเห็นว่า อาร์เนอ ชล็อต ผู้จัดการทีมของ ลิเวอร์พูล ดวงดีที่พาทีมหงส์แดงได้แชมป์เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา เพราะได้รับทีมที่ดีมาจากเจอร์เกน คล็อปป์ ขณะที่ มิเกล อาร์เตตา ผู้จัดการทีมคนปัจจุบันของ อาร์เซนอล ต้องเจอกับงานที่ยากกว่า

ก่อนหน้านี้ อาร์เนอ ชล็อต เพิ่งเข้ามารับหน้าที่ผู้จัดการทีมของ ลิเวอร์พูล เมื่อฤดูกาลที่แล้ว แทนที่ของ เจอร์เกน คล็อปป์ เทรนเนอร์ชาวเยอรมัน

หลังจากนั้น อาร์เนอ พาหงส์ได้แชมป์ซีซันก่อน เพราะโชคดี จริงหรือ? อาร์เนอ ชล็อต สามารถพา ลิเวอร์พูล ผงาดแชมป์พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ฤดูกาลที่ผ่านมาได้ทันที ตั้งแต่การประเดิมคุมทีมหงส์แดงเป็นซีซีนแรก สิ่งนี้ทำให้เกิดคำถามมากมายเกี่ยวกับความสามารถที่แท้จริงของเขา

ทั้งนี้เมื่อฤดูกาลที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล ในยุคของ อาร์เนอ ชล็อต ฤดูกาลแรก นั้น แทบไม่ได้มีการปรับทัพนักเตะแต่อย่างใด โดยส่วนใหญ่เป็นผู้เล่นที่มาจากยุคนของ เจอร์เกน คล็อปป์ เกือบทั้งหมด ทำให้หลายคนมองว่าความสำเร็จของเขามาจากการต่อยอดทีมเดิมมากกว่าการสร้างทีมใหม่จากศูนย์

“ผมคิดว่าบางครั้งความช้านั้นก็เป็นเรื่องดี เขาไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมาก อาร์เนอสืบทอดทีมที่ยอดเยี่ยมและคว้าแชมป์ลีกมาครองได้สำเร็จ เขาไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมาก เขาโชคดี เป็นผู้จัดการทีมที่เข้ามาใหม่ แล้วก็ทำผลงานได้ดี นักเตะมีการตอบสนอง ส่วน มิเกล อาร์เตตา ต้องโละนักเตะบางครั้งออกไป พวกที่ใช้งานไม่ได้แล้ว” แคมป์เบลล์กล่าวถึงความแตกต่างระหว่างสถานการณ์ของทั้งสองผู้จัดการทีม

“ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เขามีทีมที่เกือบจะครบถ้วน แต่สิ่งที่ยังขาดไป คือ กองหน้าตัวเป้า, และในที่สุด พวกเขาก็ได้นักเตะอย่าง วิกเตอร์ เยอเคเรส ซึ่งย้ายมาจากสปอร์ติง ลิสบอน เมื่อช่วงฤดูร้อน แต่พวกเขาต้องหาวิธีที่จะเล่นกับเขาให้ได้ คุณจำเป็นต้องสร้างมันขึ้นมา”

“วิลเลียม ซาลิบา คงไม่ต่อสัญญาออกไปถึงปี 2030 หากเขาไม่ได้เชื่อมั่นว่า อาร์เซนอล จะคว้าแชมป์ลีกได้ พวกเขาแค่จำเป็นต้องชนะ ปีนี้พวกเขาจำเป็นต้องชนะให้ได้” แคมป์เบลล์กล่าวทิ้งท้าย

แคมป์เบลล์ชี้ อาร์เนอ พาหงส์ได้แชมป์ซีซันก่อน เพราะโชคดี

ความคิดเห็นของแคมป์เบลล์จุดประกายให้เกิดการถกเถียงอย่างกว้างขวางในหมู่แฟนบอลและนักวิเคราะห์กีฬา บางคนเห็นด้วยกับเขา โดยมองว่าอาร์เนอได้รับประโยชน์จากรากฐานที่คล็อปป์วางไว้ แต่บางคนก็แย้งว่าการเข้ามาสานต่อและรักษามาตรฐานของทีมก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกัน

อาร์เนอ พาหงส์ได้แชมป์ซีซันก่อน เพราะโชคดี หรือฝีมือ?

คำถามสำคัญคือ ความสำเร็จของอาร์เนอเกิดจากโชคหรือฝีมือกันแน่? แน่นอนว่าการได้รับทีมที่แข็งแกร่งมาตั้งแต่ต้นถือเป็นข้อได้เปรียบอย่างมาก แต่การบริหารจัดการทีมให้เล่นได้อย่างมีประสิทธิภาพและรักษาความสามัคคีในทีมก็ต้องอาศัยความสามารถและวิสัยทัศน์ของผู้จัดการทีมเช่นกัน

ความท้าทายของอาร์เตตา: ในขณะที่อาร์เนอได้รับทีมที่พร้อมใช้งาน อาร์เตตาต้องเผชิญกับความท้าทายในการสร้างทีมใหม่จากศูนย์ ซึ่งต้องใช้เวลา ความอดทน และการตัดสินใจที่เฉียบคมในการเสริมทัพนักเตะ

อนาคตของลิเวอร์พูลและอาร์เซนอล: ไม่ว่าความสำเร็จของอาร์เนอจะมาจากโชคหรือฝีมือ สิ่งสำคัญคือการที่เขาต้องพิสูจน์ตัวเองต่อไปในระยะยาว ส่วนอาร์เตตาก็ต้องพยายามอย่างหนักเพื่อพาอาร์เซนอลกลับมาทวงความยิ่งใหญ่อีกครั้ง การแข่งขันระหว่างทั้งสองทีมในฤดูกาลหน้าจึงน่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง

สุดท้ายแล้ว การที่ อาร์เนอ พาหงส์ได้แชมป์ซีซันก่อน เพราะโชคดี หรือไม่ คงต้องขึ้นอยู่กับการพิสูจน์ตัวเองในระยะยาว และการที่อาร์เซนอลจะสามารถก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเองได้หรือไม่ แต่สิ่งหนึ่งที่แน่นอนคือ ความเห็นของแคมป์เบลล์ได้สร้างความน่าสนใจให้กับการแข่งขันในฤดูกาลหน้าอย่างมาก

ที่มา – แคมป์เบลล์ ตำนานแข้งปืน ชี้ อาร์เนอ พาหงส์ได้แชมป์ซีซันก่อน เพราะโชคดี

สื่อรายงาน อาร์เนอ ชล็อต เฮดโค้ช ลิเวอร์พูล ยังวางแผนเสริมทัพให้ ลิเวอร์พูล อีก 2 ตำแหน่งคือ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ และแนวรุกด้านข้าง

แม้ว่าช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล จะทำการปรับขุมกำลังครั้งใหญ่ด้วยการใช้เงินไปกว่า 400 ล้านปอนด์ พร้อมทั้งทุบสถิติของอังกฤษถึง 2 ครั้ง ในการคว้าตัว อเล็กซานเดอร์ อิซัก และโฟลเรียน เวียร์ตซ์ เข้ามาร่วมทีม

แต่ล่าสุด “สกาย เยอรมนี” ได้ออกมาเปิดเผยว่า ถึงแม้จะมีการเสริมทัพอย่างเต็มที่ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาแล้วก็ตาม แต่ “หงส์แดง” ก็ยังคงมองหาผู้เล่นใหม่เข้ามาเสริมความแข็งแกร่งของทีมอยู่อีก 2 ตำแหน่ง นั่นก็คือ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟ และปีก

Soccer Football – Carabao Cup – Third Round – Crystal Palace v Millwall – Selhurst Park, London, Britain – September 16, 2025 Crystal Palace’s Marc Guehi reacts Action Images via Reuters/Matthew Childs EDITORIAL USE ONLY. 

โฟลเรียน แพลตเทนเบิร์ก ผู้สื่อข่าว ได้ออกมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า “มุมมองที่ผ่อนคลายมากเกี่ยวกับตลาดซื้อขายนักเตะสองรอบถัดไป อาจมีการปรับเปลี่ยนเกิดขึ้น แต่จะไม่มากเท่ากับช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา สำหรับตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ๊ก มาร์ก เกอี (คริสตัล พาเลซ) และดาโยต์ อูปาเมกาโน (บาเยิร์น มิวนิก) อยู่ในกลุ่มผู้เข้าชิง นอกจากนี้ สโมสรยังคงมองหาปีกตัวเก่งอยู่”

นอกจากนี้ ยังมีรายงานเพิ่มเติมว่า ผู้เล่นในตำแหน่งปีกที่ทีมกำลังมองหาอยู่นั้น มีความเป็นไปได้ที่จะเข้ามาเป็นตัวแทนของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ โดยมีชื่อของ อันทวน เซเมนโย จาก บอร์นมัธ และไมเคิล โอลิเซ จาก บาเยิร์น มิวนิก อยู่ในรายชื่อที่ทีมให้ความสนใจ

ยังไม่แกร่งพอ ชล็อต วางแผนเสริมแข้งใหม่ให้ ลิเวอร์พูล อีก 2 ตำแหน่ง

ลิเวอร์พูลต้องการอะไร? นี่คือสิ่งที่ อาร์เนอ ชล็อต มองหา

การที่ ชล็อต วางแผนที่จะเสริมทัพในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟและปีก แสดงให้เห็นว่าเขากำลังมองหาที่จะเพิ่มตัวเลือกในแนวรับและแนวรุกของทีม โดยเฉพาะในตำแหน่งปีกที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงในอนาคตอันใกล้ การได้ตัวผู้เล่นที่มีคุณภาพเข้ามาร่วมทีม จะช่วยเพิ่มความหลากหลายและความอันตรายในเกมรุกของลิเวอร์พูลมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ การมีเซ็นเตอร์ฮาล์ฟที่แข็งแกร่ง ก็จะช่วยเพิ่มความมั่นคงในเกมรับของทีมอีกด้วย

สำหรับแฟนบอลลิเวอร์พูล การเสริมทัพครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของสโมสรในการรักษาความสำเร็จและพร้อมที่จะท้าทายเพื่อแย่งชิงตำแหน่งแชมป์ในฤดูกาลต่อๆ ไป การเข้ามาของผู้เล่นใหม่ที่มีศักยภาพ จะเป็นการเติมเต็มช่องว่างและเพิ่มขีดความสามารถของทีมให้สูงขึ้นไปอีกขั้น

การตัดสินใจของ อาร์เนอ ชล็อต ที่จะ **ยังไม่แกร่งพอ ชล็อต วางแผนเสริมแข้งใหม่ให้ ลิเวอร์พูล อีก 2 ตำแหน่ง** บ่งบอกถึงความทะเยอทะยานและความต้องการที่จะสร้างทีมที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริง การเสริมทัพในตำแหน่งที่สำคัญ จะช่วยให้ลิเวอร์พูลมีความพร้อมมากยิ่งขึ้นในการเผชิญหน้ากับความท้าทายต่างๆ ที่รออยู่ในอนาคต และเพื่อกลับมาทวงความยิ่งใหญ่ในเวทีพรีเมียร์ลีกอีกครั้ง หวังว่าการเสริมทัพครั้งนี้จะนำพาความสำเร็จมาสู่ทีม และสร้างความสุขให้กับแฟนบอลทั่วโลก

ดังนั้น การที่ **ยังไม่แกร่งพอ ชล็อต วางแผนเสริมแข้งใหม่ให้ ลิเวอร์พูล อีก 2 ตำแหน่ง** จึงเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับอนาคตของสโมสรแห่งนี้

ที่มา – ยังไม่แกร่งพอ ชล็อต วางแผนเสริมแข้งใหม่ให้ ลิเวอร์พูล อีก 2 ตำแหน่ง

ในโลกฟุตบอลที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความกดดัน ลิเวอร์พูลกำลังเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบากหลังจากแพ้ติดต่อกันสองนัดรวด โดยเฉพาะเกมในยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ที่บุกไปพ่ายกาลาตาซาราย 0-1 ซึ่งส่งผลกระทบรุนแรงต่อขวัญกำลังใจของทีม ชล็อต อัพเดตอาการเจ็บ อลิสซอน-เอกีตีเก – กระตุ้นทีมโชว์ฟอร์มดีกว่านี้ เป็นหัวข้อที่แฟนๆ ลิเวอร์พูลกำลังให้ความสนใจอย่างมากในขณะนี้

ชล็อต อัพเดตอาการเจ็บ อลิสซอน-เอกีตีเก – กระตุ้นทีมโชว์ฟอร์มดีกว่านี้

อาร์เน่ ชล็อต เฮดโค้ชของลิเวอร์พูล ได้ออกมาพูดถึงสถานการณ์ล่าสุดของทีม โดยเฉพาะอาการบาดเจ็บของผู้เล่นหลักสองคน ได้แก่ อลิสซอน เบ็คเกอร์ ผู้รักษาประตูมือหนึ่ง และอูโก เอกีตีเก กองหน้าคนใหม่ที่เพิ่งย้ายมาร่วมทีม อาการบาดเจ็บของทั้งคู่นี้เกิดขึ้นในเกมที่ลิเวอร์พูลบุกไปเยือนกาลาตาซาราย ซึ่งเป็นความพ่ายแพ้ที่เจ็บปวดสำหรับแฟนบอลหงส์แดง

ชล็อต เปิดเผยว่าอลิสซอนจะไม่อยู่ในทีมสำหรับเกมวันพรุ่งนี้ และจะไม่ได้เดินทางไปบราซิลเพื่อลงเล่นให้ทีมชาติ การฟื้นตัวของเขายังคงเป็นเครื่องหมายคำถาม โดยโค้ชวัย 47 ปี ระบุว่า “อลิสซอน ไม่ได้อยู่ในทีมวันพรุ่งนี้ และเขาจะไม่ได้เดินทางไปบราซิล มันขึ้นอยู่กับว่าการฟื้นตัวจะเร็วแค่ไหน” เขายังเสริมอีกว่า “ผมคงแปลกใจถ้าเขาจะได้ลงเล่นในเกมแรกหลังพักเบรกทีมชาติ หลังจากนั้นทุกอย่างอาจจะเร็วขึ้นหรือช้าลง มันยากที่จะพูด”

ส่วนอาการบาดเจ็บของอลิสซอน ดูเหมือนจะเป็นปัญหาที่กล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง แต่ชล็อตยอมรับว่าเขาไม่ใช่หมอ จึงไม่สามารถยืนยันได้ว่ามันเป็นอาการเดียวกันกับครั้งก่อนหรือไม่ สถานการณ์นี้ทำให้แฟนๆ กังวล เพราะอลิสซอนเป็นหัวใจสำคัญในแนวรับของลิเวอร์พูล

อัพเดทล่าสุดของเอกีตีเก และผู้เล่นอื่นๆ

สำหรับอูโก เอกีตีเก ชล็อตแจ้งว่าเขาจะกลับมาลงฝึกซ้อมอีกครั้งในวันนี้ และต้องดูว่าสภาพร่างกายเป็นอย่างไรบ้าง เช่นเดียวกับเฟเดริโก้ เคียซา ที่ก็มีอาการบาดเจ็บรบกวน เอกีตีเก ซึ่งเป็นความหวังใหม่ในแนวรุกของทีม ต้องรีบหายให้ทันเพื่อช่วยเสริมพลังให้กับการโจมตีที่กำลังขาดความคมในช่วงนี้

นอกจากเรื่องอาการบาดเจ็บแล้ว ชล็อตยังใช้โอกาสนี้กระตุ้นทีมให้แสดงศักยภาพที่แท้จริงออกมา หลังจากที่ลิเวอร์พูลแพ้สองนัดติดในทุกรายการ เขากล่าวว่า “ปฏิกิริยาหลังจากแพ้ 2 เกมรวด คุณสามารถเถียงได้ถ้านั่นเป็นไปในทางบวก แต่สิ่งที่ผมเห็นคือทีมที่เล่นจนถึงนาทีสุดท้ายเพื่อพยายามคว้าผลการแข่งขัน”

ชล็อตยอมรับว่าช่องว่างระหว่างชัยชนะและความพ่ายแพ้ในพรีเมียร์ลีกนั้นแคบมาก เหมือนกับฤดูกาลที่แล้ว เขากำลังพยายามหาวิธีปรับปรุงทีม ไม่ใช่แค่พึ่งพาโชคหรือลูกตั้งเตะเท่านั้น “อีกครั้ง เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นได้ และเราควรจะทำได้ดีกว่านี้ ไม่ว่าเราจะมีโชคหรือไม่มีโชค” คำพูดเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของโค้ชในการผลักดันทีมให้ก้าวข้ามอุปสรรค

การขาดหายไปของผู้เล่นหลักอย่างอลิสซอนและเอกีตีเก จะส่งผลกระทบต่อฟอร์มการเล่นของลิเวอร์พูลอย่างไร? นี่คือคำถามที่แฟนๆ ต้องติดตาม ลิเวอร์พูลมีผู้เล่นสำรองที่สามารถทดแทนได้ แต่การปรับตัวในเกมใหญ่ๆ อย่างพรีเมียร์ลีกนั้นไม่ง่าย โดยเฉพาะเกมบุกเยือนเชลซีในวันที่ 4 ตุลาคมนี้ ซึ่งเป็นแมตช์ที่สำคัญสำหรับการลุ้นท็อปโฟร์

จากมุมมองของผู้วิเคราะห์ ชล็อตกำลังสร้างทีมที่แข็งแกร่งขึ้นจากความล้มเหลว เขาเน้นย้ำถึงการเล่นแบบไม่ยอมแพ้ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของลิเวอร์พูลสมัยยูรเก้น คล็อปป์ แฟนบอลควรให้กำลังใจทีมต่อไป เพราะฤดูกาลยังยาวไกล และโอกาสพลิกเกมยังมีอยู่มาก

• อาการบาดเจ็บของอลิสซอน: คาดฟื้นตัวหลังเบรกทีมชาติ
• เอกีตีเก: กลับมาซ้อมวันนี้ รอเช็กสภาพ
• ชล็อตกระตุ้นทีม: ต้องโชว์ฟอร์มดีกว่านี้เพื่อชัยชนะ
• เกมถัดไป: บุกเชลซี 4 ต.ค. พรีเมียร์ลีก

ในฐานะแฟนฟุตบอล ลิเวอร์พูลมีศักยภาพมากพอที่จะกลับมาครองเกมได้ หากชล็อตสามารถจัดการอาการบาดเจ็บและปรับแท็คติกได้ทัน แนะนำให้แฟนๆ ติดตามข่าวสารต่อไป และเชียร์ทีมในทุกนัด เพื่อช่วยให้หงส์แดงทะยานสู่ความสำเร็จ

ที่มา – ชล็อต อัพเดตอาการเจ็บ อลิสซอน-เอกีตีเก – กระตุ้นทีมโชว์ฟอร์มดีกว่านี้

ลิเวอร์พูล ไม่คาดหวัง ชล็อต ต้องพาทีมป้องแชมป์ พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้

แม้เสริมทัพเยอะ ลิเวอร์พูล ไม่คาดหวัง ชล็อต ต้องพาทีมป้องแชมป์ พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ จริงๆ แล้ว แม้ “หงส์แดง” จะทุ่มเงินมหาศาลเพื่อเสริมทีม แต่สโมสรก็ไม่ได้กดดันกุนซือชาวเยอรมันให้ต้องคว้าแชมป์ซ้ำรอยฤดูกาลที่แล้ว เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นร้อนในวงการฟุตบอลอังกฤษ โดยเฉพาะหลังจากที่ลิเวอร์พูลเพิ่งสะดุดแพ้สองนัดติดในทุกรายการ

แม้เสริมทัพเยอะ ลิเวอร์พูล ไม่คาดหวัง ชล็อต ต้องพาทีมป้องแชมป์ พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้

ฤดูกาลใหม่ของพรีเมียร์ลีกเริ่มต้นขึ้นด้วยความคาดหวังสูงจากแฟนบอลลิเวอร์พูล หลังจากทีมคว้าแชมป์ลีกได้อย่างยิ่งใหญ่ในฤดูกาลก่อน แต่สำหรับบอร์ดบริหารของสโมสร พวกเขามองว่าฤดูกาลนี้คือบททดสอบที่แท้จริงสำหรับอาร์เน่ ชล็อต ในปีที่สองของการคุมทีม แม้จะลงทุนเสริมทัพไปกว่า 450 ล้านปอนด์ในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา โดยดึงตัวนักเตะระดับท็อปอย่างอเล็กซานเดอร์ อิซัก และโฟลเรียน เวียร์ตซ์ ซึ่งกลายเป็นสถิติการย้ายทีมที่แพงที่สุดในประวัติศาสตร์อังกฤษ

อย่างไรก็ตาม ผลงานช่วงเปิดฤดูกาลของลิเวอร์พูลกลับไม่น่าประทับใจนัก พวกเขาต้องรอจนถึงช่วงทดเจ็บเพื่อเอาชนะคู่แข่งหลายนัด และล่าสุดเพิ่งแพ้ติดต่อกันสองเกมในทุกรายการ ทำให้แฟนบอลเริ่มกังวล แต่สื่อชั้นนำอย่าง “เดอะ ไทมส์” รายงานว่าสโมสรไม่ได้คาดหวังให้ชล็อตต้องป้องกันแชมป์ได้ทันที บางคนอาจมองว่าการทุ่มเงินขนาดนี้ควรนำไปสู่ความสำเร็จที่ชัดเจน แต่ความเป็นจริงนั้นซับซ้อนกว่านั้น

ความกดดันที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังการเสริมทัพ

การเสริมทัพของลิเวอร์พูลในซัมเมอร์นี้ถือเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งของสโมสร โดยชล็อตเลือกที่จะโฟกัสไปที่การสร้างทีมในระยะยาวมากกว่าผลลัพธ์ทันที เขาต้องการปรับแท็คติกให้เหมาะกับผู้เล่นใหม่ๆ ซึ่งรวมถึงการเปลี่ยนแปลงในแนวรุกและแนวรับ อิซักที่ย้ายมาจากนิวคาสเซิ่ลด้วยค่าตัวมหาศาล คาดว่าจะเป็นตัวหลักในแนวหน้า ขณะที่เวียร์ตซ์จะช่วยเพิ่มความสร้างสรรค์ในแดนกลาง

• การลงทุน 450 ล้านปอนด์: สร้างความแข็งแกร่งแต่ต้องใช้เวลา
• ผลงานเปิดฤดูกาล: สะดุดแต่ยังมีโอกาสแก้ตัว
• บทบาทของชล็อต: สร้างทีมระยะยาว ไม่ใช่แชมป์ทันที

แม้เสริมทัพเยอะ ลิเวอร์พูล ไม่คาดหวัง ชล็อต ต้องพาทีมป้องแชมป์ พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้ เพราะสโมสรเข้าใจดีว่าการเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่มักต้องใช้เวลาในการปรับตัว ผู้เล่นใหม่ต้องเข้ากับระบบของชล็อต ซึ่งเน้นการเล่นแบบไฮเพรสซิ่งและการครองบอล นอกจากนี้ การแข่งขันในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลนี้ดุเดือดยิ่งขึ้น กับทีมอย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้และอาร์เซนอลที่ยังคงแข็งแกร่ง

จากรายงานของเดอะ ไทมส์ ชล็อตได้รับการสนับสนุนเต็มที่จากบอร์ด แต่พวกเขาไม่ได้ตั้งเป้าหมายแชมป์ลีกเป็นหลัก เป้าหมายหลักคือการพัฒนาทีมให้แข็งแกร่งขึ้นและกลับมาท้าชิงแชมป์ในอนาคต สิ่งนี้ช่วยลดความกดดันให้กับกุนซือหนุ่ม ซึ่งกำลังเผชิญกับฤดูกาลที่ท้าทายที่สุดในอาชีพโค้ชของเขา

นอกจากนี้ ลิเวอร์พูลยังมีปัญหาเรื่องอาการบาดเจ็บของผู้เล่นหลักหลายคน ซึ่งส่งผลต่อฟอร์มการเล่น แต่ชล็อตยังคงยืนยันว่าทีมกำลังเดินหน้าตามแผน หากแฟนบอลอดทน พวกเขาจะเห็นการเติบโตของทีมในไม่ช้า

ในมุมมองของผู้เขียน แม้จะมีเสียงวิจารณ์ แต่การที่ลิเวอร์พูลไม่คาดหวังผลลัพธ์ทันทีจากชล็อต ถือเป็นกลยุทธ์ที่ชาญฉลาด มันช่วยให้ทีมโฟกัสที่การพัฒนาแทนที่จะไล่ล่าผลงานระยะสั้น คุณคิดอย่างไรกับสถานการณ์นี้? แชร์ความเห็นในคอมเมนต์ด้านล่าง และติดตามข่าวสารฟุตบอลพรีเมียร์ลีกกับเราต่อไป!

ที่มา – แม้เสริมทัพเยอะ ลิเวอร์พูล ไม่คาดหวัง ชล็อต ต้องพาทีมป้องแชมป์ พรีเมียร์ลีก ซีซั่นนี้

ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ฟันธงล่าสุดทีมใดคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ กลายเป็นประเด็นร้อนที่แฟนบอลทั่วโลกให้ความสนใจ โดยเฉพาะในฤดูกาล 2025-26 ที่การแข่งขันดุเดือดยิ่งกว่าเดิม ล่าสุด ซูเปอร์คอมพิวเตอร์จากเว็บไซต์สถิติชื่อดังอย่าง Opta ได้ทำนายโอกาสของแต่ละทีมในการคว้าแชมป์ โดยลิเวอร์พูลยังคงเป็นเต็งหนึ่งด้วยโอกาสสูงถึง 47.11% แม้จะเพิ่งสะดุดแพ้ในนัดแรกของฤดูกาลก็ตาม

ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ฟันธงล่าสุดทีมใดคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้

หลังจากที่ทั้ง 20 ทีมในพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ได้ลงสนามไปแล้ว 6 นัดในวันที่ 30 กันยายน 2025 การคำนวณจากซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของ Opta ก็ได้อัปเดตข้อมูลล่าสุดออกมา ซึ่งพิจารณาจากฟอร์มการเล่น สถิติการยิงประตู การป้องกัน และปัจจัยอื่นๆ ที่ซับซ้อน ลิเวอร์พูล ในฐานะจ่าฝูงที่เก็บ 15 คะแนนเต็มจาก 5 นัดแรก และเป็นแชมป์เก่า ยังคงครองความได้เปรียบสูงสุด แม้โอกาสจะลดลงจากสัปดาห์ก่อนที่เคยอยู่ที่ 59.81% หลังจากพวกเขาพ่ายแพ้ในนัดล่าสุด แต่ทีมหงส์แดงยังคงมีศักยภาพที่แข็งแกร่ง โดยเฉพาะเกมรุกที่ดุดันและการปรับตัวของผู้เล่นใหม่

Soccer Football – Premier League – Crystal Palace v Liverpool – Selhurst Park, London, Britain – September 27, 2025 Liverpool’s Federico Chiesa celebrates scoring their first goal Action Images via Reuters/Matthew Childs EDITORIAL USE ONLY.

อันดับโอกาสคว้าแชมป์จากซูเปอร์คอมพิวเตอร์

นอกจากลิเวอร์พูลแล้ว อาร์เซนอล ในฐานะรองจ่าฝูงก็มีโอกาสตามติดอย่างใกล้ชิดที่ 34.32% ทีมปืนใหญ่แสดงฟอร์มที่สม่ำเสมอ โดยเฉพาะในเกมรับที่แน่นแฟ้นและการโหมบุกของนักเตะดาวรุ่ง ส่วนแมนเชสเตอร์ ซิตี้ แม้จะรั้งอันดับ 7 ในตาราง แต่ยังมีโอกาส 9.61% ซึ่งไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเพราะทีมเรือใบสีฟ้ามักคัมแบ็กได้เสมอในช่วงท้ายฤดูกาล

• ลิเวอร์พูล: 47.11% – จ่าฝูงที่แข็งแกร่ง แต่ต้องแก้ไขจุดอ่อนหลังแพ้
• อาร์เซนอล: 34.32% – รองจ่าฝูงที่พุ่งแรง
• แมนเชสเตอร์ ซิตี้: 9.61% – ทีมเก๋าที่ไม่เคยยอมแพ้
• คริสตัล พาเลซ: 4.37% – อันดับ 3 ในตารางที่เซอร์ไพรส์
• เชลซี: 1.35% – อันดับ 8 แต่ยังมีลุ้น
• แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด: 0.09% – อันดับ 14 ที่ต้องลุ้นหนัก

การทำนายจากซูเปอร์คอมพิวเตอร์นี้ไม่ได้คำนึงแค่ผลงานปัจจุบันเท่านั้น แต่รวมถึงสถิติย้อนหลัง การบาดเจ็บของผู้เล่น และแม้กระทั่งสภาพอากาศในแต่ละนัด ทำให้การฟันธงนี้มีความน่าเชื่อถือสูง สำหรับลิเวอร์พูล พวกเขามีข้อได้เปรียบจากแอนฟิลด์ที่เป็นป้อมปราการ แต่การแพ้ครั้งแรกอาจเป็นบทเรียนสำคัญในการปรับแท็คติกของอาร์นี สล็อต

ในขณะที่อาร์เซนอลกำลังมาแรงด้วยการนำของมิเกล อาร์เตต้า ที่เน้นการเล่นแบบครองบอลและกดดันสูง ส่วนแมนเชสเตอร์ ซิตี้ แม้เพป กวาร์ดิออล่าจะปรับทีม แต่ประสบการณ์ของเควิน เดอ บรอยน์และเออร์ลิง ฮาลันด์ยังคงเป็นอาวุธลับ ทีมอย่างคริสตัล พาเลซที่กำลังเซอร์ไพรส์แฟนๆ ด้วยฟอร์มอันดับ 3 ก็มีโอกาสพลิกเกมได้ หากโอไลเวอร์ กลาสเนอร์รักษาความสม่ำเสมอไว้

สำหรับเชลซีและแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด โอกาสดูน้อย แต่ฟุตบอลคือกีฬาที่อะไรก็เกิดขึ้นได้ การบาดเจ็บหรือการเปลี่ยนโค้ชอาจเปลี่ยนแปลงทุกอย่างได้ในพริบตา แฟนปีศาจแดงคงหวังให้เอริค เทน ฮาก พาทีมกลับมาท็อปโฟร์ให้ได้ก่อน

ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ฟันธงล่าสุดทีมใดคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ ยังคงชี้ว่าลิเวอร์พูลมีลุ้นมากที่สุด แต่ฤดูกาลยาวไกล การแข่งขันในแต่ละนัดจะเป็นตัวกำหนดชะตากรรม หากคุณเป็นแฟนบอล อย่าลืมติดตามผลการแข่งขันและวิเคราะห์เพิ่มเติมด้วยตัวเอง เพราะสถิติเหล่านี้เป็นเพียงแนวทางเท่านั้น

ในความเห็นของผม ลิเวอร์พูลน่าจะคว้าแชมป์ได้จริง หากแก้ไขปัญหาเกมรับได้ทันเวลา แต่ถ้าอาร์เซนอลรักษาฟอร์มนี้ไว้ พวกเขาอาจสร้างปาฏิหาริย์ได้ คุณคิดอย่างไร? แสดงความเห็นในคอมเมนต์ด้านล่างและแชร์บทความนี้ให้เพื่อนๆ แฟนบอลได้อ่านกันนะ!

ที่มา – ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ ฟันธงล่าสุดทีมใดคว้าแชมป์ พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้

ชล็อต รับ ลิเวอร์พูล มีปัญหาป้องกันลูกตั้งเตะ – ในฤดูกาลใหม่นี้ ลิเวอร์พูล ภายใต้การคุมทีมของอาร์เน่ ชล็อต กำลังเผชิญกับความท้าทายที่ไม่คาดคิด โดยเฉพาะการป้องกันลูกตั้งเตะที่กลายเป็นจุดอ่อนของทีมหงส์แดง ล่าสุด ชล็อต ได้ออกมากล่าวยอมรับปัญหานี้อย่างตรงไปตรงมา พร้อมอธิบายเหตุผลที่ทำให้แนวรุกคนสำคัญอย่างเฟเดริโก้ เคียซา ไม่อยู่ในทีมชุดเยือนกาลาตาซาราย ในศึกยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก

ชล็อต รับ ลิเวอร์พูล มีปัญหาป้องกันลูกตั้งเตะ

ฤดูกาลที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล แสดงให้เห็นถึงความเหนียวแน่นในการป้องกัน โดยเฉพาะลูกตั้งเตะที่แทบไม่เสียประตูจากจังหวะนี้เลย แต่ในฤดูกาล 2023/24 ทีมของชล็อตกลับเสียประตูจากเซ็ตพีซไปแล้วถึง 4 ลูก ซึ่งถือเป็นสถิติที่น่ากังวลสำหรับแฟนบอลหงส์แดง ชล็อต วิเคราะห์ว่าปัญหานี้ไม่ได้เกิดจากการเปลี่ยนตัวผู้เล่นฟูลแบ็คเพียงอย่างเดียว แต่เป็นเรื่องที่ต้องปรับปรุงทั้งระบบการเล่น “สำหรับผม การป้องกันลูกตั้งเตะเป็นเพียงส่วนเล็กๆ แต่จุดแข็งของเราคือการไม่ให้คู่แข่งทำประตูได้ ซึ่งต้องเริ่มต้นจากการทำงานร่วมกันของทั้งทีม ไม่ใช่แค่กองหลัง” ชล็อต กล่าว

เขายังชี้แจงเพิ่มเติมว่า การเสียประตู 4 ลูกจากลูกตั้งเตะทำให้ทีมต้องปรับเปลี่ยนมากกว่าแค่ตำแหน่งฟูลแบ็ค “เราต้องมีผู้เล่น 11 คนที่ทุ่มเทอย่างหนักเพื่อหยุดโอกาสของคู่แข่ง แต่ลูกตั้งเตะคือเกมย่อยที่แตกต่าง เราต้องพัฒนาให้ดีขึ้นเพราะในพรีเมียร์ลีก ทีมที่ชนะจากจังหวะนี้มีไม่น้อย” ชล็อต เน้นย้ำ โดยทีมกำลังหาทางแก้ไขอย่างเร่งด่วนเพื่อไม่ให้ปัญหานี้กระทบต่อผลงานโดยรวม

แจงเหตุเคียซาไร้ชื่อเยือนกาลาตาซาราย

นอกจากประเด็นลูกตั้งเตะแล้ว ชล็อต ยังได้พูดถึงการขาดหายไปของเฟเดริโก้ เคียซา ดาวยิงฟอร์มร้อนที่ทำประตูได้อย่างต่อเนื่องในฤดูกาลนี้ โดยเคียซาไม่มีชื่อในทีมชุดบุกไปเยือนกาลาตาซาราย เมื่อวันที่ 30 กันยายน ในรอบลีกเฟส ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก เหตุผลหลักมาจากอาการบาดเจ็บเล็กน้อยที่เกิดขึ้นจากเกมล่าสุดกับคริสตัล พาเลซ “เคียซา มีอาการเจ็บไม่รุนแรง เขาลงซ้อมตั้งแต่เริ่มแต่ไม่สามารถจบเซสชั่นได้ เราจึงตัดสินใจไม่เสี่ยงพาเขาไป เพื่อให้ฟื้นตัวทันเกมสำคัญกับเชลซีในอีกไม่กี่วัน” ชล็อต อธิบาย

การขาดเคียซาในเกมนี้ทำให้ลิเวอร์พูลต้องปรับแผนการเล่น โดยชล็อต มองว่ามันเป็นโอกาสสำหรับผู้เล่นอื่นๆ ในทีมที่จะได้แสดงศักยภาพ แม้จะเป็นความเสียดายสำหรับแฟนบอลที่อยากเห็นเคียซาโชว์ฟอร์ม แต่การตัดสินใจนี้ช่วยรักษาสภาพร่างกายนักเตะให้พร้อมสำหรับโปรแกรมหนักต่อไป

ปัญหาป้องกันลูกตั้งเตะของลิเวอร์พูลไม่ใช่เรื่องใหม่ในฟุตบอล แต่สำหรับทีมระดับท็อปอย่างหงส์แดง มันอาจเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้เสียแต้มในหลายนัด ชล็อต ที่เพิ่งเข้ามาคุมทีม ต้องใช้เวลาปรับจูนให้ทีมกลับมาแข็งแกร่งดังเดิม โดยเฉพาะในรายการยูฟ่าที่ต้องการความสมบูรณ์แบบทุกด้าน นอกจากนี้ การจัดการอาการบาดเจ็บของเคียซายังแสดงให้เห็นถึงกลยุทธ์ระยะยาวของชล็อต ที่ให้ความสำคัญกับสุขภาพนักเตะมากกว่าชัยชนะชั่วคราว

ในมุมมองของแฟนบอล ลิเวอร์พูล ยังคงเป็นทีมที่ทรงพลัง แต่การแก้ไขจุดอ่อนลูกตั้งเตะจะเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จในฤดูกาลนี้ หากชล็อต สามารถจัดการได้ดี ทีมอาจกลับมาเป็นผู้ท้าชิงแชมป์อีกครั้ง

คุณคิดว่าลิเวอร์พูลจะแก้ปัญหานี้ได้อย่างไร? แชร์ความเห็นของคุณในคอมเมนต์ด้านล่าง และอย่าลืมติดตามข่าวสารฟุตบอลลิเวอร์พูลอัปเดตทุกวัน!

ที่มา – ชล็อต รับ ลิเวอร์พูล มีปัญหาป้องกันลูกตั้งเตะ – แจงเหตุ เคียซา ไร้ชื่อเยือน กาลาตาซาราย

ชล็อต รับ ลิเวอร์พูล สมควรพ่าย พาเลซ – ติงทีมป้องกันลูกตั้งเตะแย่

ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2025-26 ลิเวอร์พูลต้องพบกับความพ่ายแพ้ครั้งแรกของฤดูกาล เมื่อบุกไปแพ้คริสตัล พาเลซ ด้วยสกอร์ 1-2 เมื่อวันที่ 27 กันยายน ผลการแข่งขันนี้ทำให้แฟนบอลหงส์แดงต้องผิดหวังไม่น้อย โดยเฉพาะเมื่อทีมนำโดยอาร์เน่ ชล็อต กุนซือชาวดัตช์ ยอมรับตรงๆ ว่าทีมของเขาสมควรพ่ายแพ้จริงๆ และยังชี้ปัญหาการป้องกันลูกตั้งเตะที่ยังแย่อยู่

ชล็อต รับ ลิเวอร์พูล สมควรพ่าย พาเลซ

ชล็อต รับ ลิเวอร์พูล สมควรพ่าย พาเลซ หลังจากเกมที่เซลเฮิร์สต์ พาร์ค เจ้าบ้านคริสตัล พาเลซ ออกนำก่อนจากประตูของอิสไมลา ซาร์ ในนาทีที่ 9 ทำให้ลิเวอร์พูลตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากตั้งแต่ต้นเกม หงส์แดงพยายามไล่ตามตลอด แต่ต้องรอจนนาทีที่ 87 เฟเดริโก้ เคซ่า มาทำประตูตีเสมอให้ อย่างไรก็ตาม ในช่วงทดเจ็บนาที 90+7 เอ็ดดี้ เอ็นเคเทียห์ มาซัดประตูชัยให้พาเลซ ชนะไปแบบหวุดหวิด สุดมันส์

จากผลนี้นำทำให้ลิเวอร์พูลหยุดสถิติไร้พ่ายที่ 6 นัด มี 15 คะแนน ยังนำจ่าฝูงอยู่ แต่คริสตัล พาเลซ เก็บเพิ่มเป็น 12 คะแนนจาก 6 นัด ขึ้นมารั้งรองจ่าฝูง และยังไม่แพ้ใครในฤดูกาลนี้ แสดงให้เห็นถึงฟอร์มที่ร้อนแรงของทีมปราสาทเรือนแก้ว

ภาพจากแมตช์ ลิเวอร์พูล vs คริสตัล พาเลซ

หลังจบเกม ชล็อตให้สัมภาษณ์อย่างตรงไปตรงมาว่า ‘ครึ่งแรกของเราน่าผิดหวังมาก และช่วงท้ายเกมก็เช่นกัน เราต้องยกเครดิตให้กับพาเลซ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เราแพ้พวกเขา แม้แต่ในเกมจุดโทษ พวกเขาสมควรได้ประตูนำ 2-3 ลูกในครึ่งแรก เรามีโชคที่อลิสซอนช่วยไว้หลายครั้ง ครึ่งหลังเราดีกว่า สร้างโอกาสได้เยอะ แต่สุดท้ายทีมที่สมควรชนะคือพาเลซ’

ติงทีมป้องกันลูกตั้งเตะแย่

นอกจากชล็อต รับ ลิเวอร์พูล สมควรพ่าย พาเลซ แล้ว เขายังติงลูกทีมเรื่องการป้องกันลูกตั้งเตะที่ยังไม่ดีพอ ‘เราต้องเล่นลูกตั้งเตะให้ดีกว่านี้ ถ้าอยากอยู่รอดในลีกนี้ พรีเมียร์ลีกเน้นลูกตั้งเตะมากขึ้นทุกปี แผนของพาเลซสร้างปัญหาให้เราเยอะ พวกเขามีสไตล์ที่เข้ากับนักเตะ ถ้าเรากดดัน พวกเขาก็โต้กลับได้ง่าย ในครึ่งแรกเรามีปัญหานี้เยอะ’

ปัญหาการป้องกันลูกตั้งเตะของลิเวอร์พูลกลายเป็นจุดอ่อนที่ชล็อตต้องแก้ไขด่วน ฤดูกาลนี้หงส์แดงเสียประตูจากลูกตั้งเตะไปหลายลูกแล้ว ทำให้แฟนบอลกังวลถึงความมั่นคงของแนวรับ โดยเฉพาะเมื่อต้องเจอทีมที่เก่งด้านนี้อย่างพาเลซ

การแพ้ครั้งนี้เป็นบทเรียนสำคัญสำหรับลิเวอร์พูล ทีมต้องปรับปรุงทั้งเกมรับและเกมรุกให้สมดุลมากขึ้น ชล็อตที่เพิ่งเข้ามาคุมทีม ต้องหาทางทำให้ผู้เล่นแนวรุกอย่างซาลาห์, โจต้า และเคซ่า เข้าขากันให้ดีกว่าเดิม นอกจากนี้ การฝึกซ้อมลูกตั้งเตะต้องเข้มข้นขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดซ้ำ

• ครึ่งแรก: พาเลซครองเกม ลิเวอร์พูลตั้งรับลำบาก
• ครึ่งหลัง: หงส์แดงไล่เจ๊า แต่เสียประตูท้ายเกม
• ปัญหาหลัก: ป้องกันลูกตั้งเตะอ่อนแอ

ฤดูกาลนี้ลิเวอร์พูลยังนำจ่าฝูง แต่การแพ้พาเลซแสดงให้เห็นว่าทีมต้องระวังคู่แข่งทุกนัด โดยเฉพาะทีมที่เล่นแบบคอนเตอร์และลูกตั้งเตะได้ดี ชล็อตต้องนำทีมฟื้นตัวเร็ว สำหรับนัดต่อไปเพื่อรักษาตำแหน่งจ่าฝูง

ในมุมมองของผม การยอมรับความพ่ายแพ้ของชล็อตเป็นสัญญาณที่ดี แสดงถึงความรับผิดชอบ และหวังว่าจะนำไปสู่การปรับปรุงที่แท้จริง หงส์แดงยังมีโอกาสลุ้นแชมป์ ถ้าปัญหาลูกตั้งเตะถูกแก้ไขได้ทัน คุณคิดอย่างไรกับฟอร์มของลิเวอร์พูล? แสดงความเห็นในคอมเมนต์ด้านล่าง และติดตามข่าวสารฟุตบอลพรีเมียร์ลีกเพิ่มเติมกับเรา!

ที่มา – ชล็อต รับ ลิเวอร์พูล สมควรพ่าย พาเลซ – ติงทีมป้องกันลูกตั้งเตะแย่

คริสตัล พาเลซ ยังไม่แพ้ใครใน พรีเมียร์ลีก ซัดชัยเฉือนลิเวอร์พูลสุดดราม่า

คริสตัล พาเลซ ยังไม่แพ้ใครใน พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ กลายเป็นเซอร์ไพรส์ใหญ่ของลีก โดยเฉพาะแมตช์ล่าสุดที่พวกเขาพบกับลิเวอร์พูล ซึ่งจบลงด้วยชัยชนะสุดดราม่า 2-1 ที่เซลเฮิร์สต์ พาร์ก เมื่อวันที่ 27 กันยายน การแข่งขันนี้เต็มไปด้วยความตื่นเต้น ทำให้แฟนบอลทั่วโลกต้องลุ้นจนหยดสุดท้าย

เกมเริ่มต้นอย่างรวดเร็ว ในนาทีที่ 9 อิสไมลา ซาร์ เป็นคนสร้างประตูแรกให้คริสตัล พาเลซ จากลูกเตะมุมของไดจิ คามาดะ ที่ผู้เล่นลิเวอร์พูลสกัดพลาด ซาร์จึงตวัดยิงเข้าไปอย่างเฉียบขาด พาเลซนำ 1-0 ทันที นี่คือการแสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของแนวรุกทีมปราสาทเรือนแก้วในฤดูกาลนี้

ครึ่งแรกที่ลิเวอร์พูลเกือบพลิกเกม

ลิเวอร์พูลไม่ยอมแพ้ง่ายๆ นาที 19 โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ลองยิงฟรีคิกแต่ติดกำแพง บอลเด้งมาถึงไรอัน กราเฟนแบร์ก ที่ซัดจากนอกกรอบ แต่ดีน เฮนเดอร์สัน ผู้รักษาประตูของพาเลซปัดออกไปชนเสาได้อย่างน่าทึ่ง ช่วยรักษาสกอร์ไว้ได้ จนกระทั่งนาที 45+6 พาเลซเกือบหนีห่างเมื่ออดัม วอร์ตัน ส่งให้ฌอง-ฟิลิปป์ มาเตตา ปั่นบอลชนเสา จบครึ่งแรกด้วยสกอร์ 1-0

ครึ่งหลัง ลิเวอร์พูลบุกหนักเพื่อหวังตีเสมอ และในที่สุดนาที 87 ก็สำเร็จเมื่อกราเฟนแบร์กเปิดบอล โคดี กักโป สกัดพลาดเข้าทางเฟเดริโค เคียซา ที่ซัดเข้าไปง่ายๆ สกอร์เสมอ 1-1 ทุกอย่างดูเหมือนจะจบด้วยผลเสมอ แต่พาเลซแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น

ในช่วงทดเจ็บนาที 90+7 จากลูกทุ่มไกลของเจฟเฟร์ซอน เลร์มา ลูกลอยเข้าจนถึงมาร์ก เกอี ที่โหม่งต่อให้เอ็ดดี เอ็นเคเทียห์ พักบอลแล้วยิงตุงตาข่าย พาเลซพลิกกลับมานำ 2-1 และรักษาชัยชนะไว้ได้ คริสตัล พาเลซ ยังไม่แพ้ใครใน พรีเมียร์ลีก หลังผ่าน 6 นัด เก็บ 12 คะแนน รองจ่าฝูง ขณะที่ลิเวอร์พูลแพ้ครั้งแรก มี 15 คะแนน นำจ่าฝูง

ผลการแข่งขันคู่อื่นๆ ในพรีเมียร์ลีก

นอกจากนี้ ยังมีแมตช์น่าสนใจอื่นๆ เช่น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เปิดเอติฮัด สเตเดียม ถล่มเบิร์นลีย์ 5-1 เริ่มจากนาที 12 เฌเรมี โดกู สร้างประตู เมื่อมักซิม เอสแตฟ สกัดเข้าประตูตัวเอง นาที 38 เบิร์นลีย์ตีเสมอจากเจดอน แอนโธนี แต่ซิตี้กลับมานำอีกครั้งนาที 61 จากมาเตอุส นูเนส วอลเลย์สวยๆ และตามด้วยประตูทำเข้าประตูตัวเองอีกของเอสแตฟ นาที 65 นาที 90 เออร์ลิง ฮาลันด์ ยิงเพิ่มสองลูก ปิดเกม 5-1 ซิตี้มี 10 คะแนน อันดับ 4 เบิร์นลีย์ 4 คะแนน อันดับ 17

• เบรนต์ฟอร์ด ชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 3-1 แสดงให้เห็นถึงฟอร์มที่ฟื้นตัวของทีม
• เชลซี แพ้ ไบรท์ตัน 1-3 ทำให้ต้องปรับแผนด่วน
• ลีดส์ ยูไนเต็ด เสมอ บอร์นมัธ 2-2 เกมที่สูสีและน่าติดตาม

คริสตัล พาเลซ ยังไม่แพ้ใครใน พรีเมียร์ลีก ซัดชัยเฉือนลิเวอร์พูลสุดดราม่า ทำให้ฤดูกาลนี้กลายเป็นที่น่าจับตามอง พวกเขามีระบบทีมเวิร์คที่ดีเยี่ยม โดยเฉพาะแนวรับที่แข็งแกร่งและการโต้กลับที่รวดเร็ว นักเตะอย่างซาร์และเอ็นเคเทียห์ กลายเป็นดาวเด่นที่ช่วยให้ทีมรอดพ้นจากความพ่ายแพ้

จากสถิติ พาเลซชนะ 4 เสมอ 2 ใน 6 นัด แสดงถึงความสม่ำเสมอที่หาได้ยากในลีกที่ดุเดือดนี้ ขณะที่ลิเวอร์พูล แม้จะนำจ่าฝูงแต่ชัยชนะนี้อาจเป็นจุดเปลี่ยนให้พาเลซก้าวสู่ท็อป 4 ได้

สำหรับแฟนบอลที่ชื่นชอบพรีเมียร์ลีก การแข่งขันแบบนี้คือสิ่งที่ทำให้ลีกน่าติดตามที่สุด อย่าลืมติดตามแมตช์ต่อไปของคริสตัล พาเลซ เพื่อเชียร์ทีมที่กำลังมาแรง คุณคิดว่าพวกเขาจะไปได้ไกลแค่ไหนในฤดูกาลนี้?

ที่มา – คริสตัล พาเลซ ยังไม่แพ้ใครใน พรีเมียร์ลีก ซัดชัยเฉือนลิเวอร์พูลสุดดราม่า

(REUTERS/Hannah Mckay)

ในวงการฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ลิเวอร์พูล กำลังเป็นข่าวครึกโครมจากเหตุการณ์ในเกมคาราบาว คัพ ล่าสุด โดยเฉพาะประเด็นเกี่ยวกับกองหน้าดาวรุ่ง อูโก เอกีตีเก ที่โดนใบแดงจากการฉลองประตูสุดระทึก วันนี้เราจะมาพูดถึงเรื่อง ชล็อต ปัดข่าว ลิเวอร์พูล ปรับเงิน เอกีตีเก – ยืนยัน เลโอนี ต้องพักยาว 1 ปี ซึ่งเป็นหัวข้อที่แฟนบอลหงส์แดงให้ความสนใจอย่างมาก

ชล็อต ปัดข่าว ลิเวอร์พูล ปรับเงิน เอกีตีเก – ยืนยัน เลโอนี ต้องพักยาว 1 ปี

อาร์เน่ ชล็อต ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล ได้ออกมาให้สัมภาษณ์หลังเกม โดยยืนยันชัดเจนว่า ข่าวลือเรื่องสโมสรปรับเงินอูโก เอกีตีเก ไม่เป็นความจริงเลย ดาวยิงทีมชาติฝรั่งเศสวัย 19 ปี ทำประตูชัยสำคัญในนาทีสุดท้าย พาลิเวอร์พูลพลิกกลับมาชนะเซาธ์แฮมป์ตัน 2-1 ในคาราบาว คัพ รอบสาม เมื่อวันที่ 23 กันยายน 2567 แต่การถอดเสื้อฉลองความดีใจกลับทำให้เขาโดนใบเหลืองใบที่สอง ส่งผลให้โดนใบแดงไล่ออกจากสนามทันที

ก่อนหน้านี้ มีรายงานจากสื่อหลายแห่งว่า ลิเวอร์พูลวางแผนลงโทษเอกีตีเกด้วยการหักค่าเหนื่อย 2 สัปดาห์ เนื่องจากพฤติกรรมที่อาจส่งผลกระทบต่อวินัยของทีม แต่ชล็อตได้ปฏิเสธข่าวนี้อย่างหนักแน่น “วินัยในที่นี้ไม่ใช่การปรับเงิน เขาไม่ได้โดนอะไรแบบนั้นเลย” ชล็อตกล่าว “ผมคุยกับเขาแล้ว เขาขอโทษเพื่อนร่วมทีมทันทีทันใด เอกีตีเกยังเป็นวัยรุ่น และนักเตะทุกคนก็ทำผิดพลาดได้ สโมสรก็เช่นกัน ไม่จำเป็นต้องลงโทษด้วยเงินเสมอไป เขาเป็นเด็กดีมาก ถ้าถามสต๊าฟโค้ชว่าใครคือ 3 นักเตะที่สุภาพและอบอุ่นที่สุด ชื่อของเอกีตีเกต้องติดอันดับแน่นอน”

เหตุการณ์ใบแดงของเอกีตีเกที่กลายเป็นประเด็นร้อน

เหตุการณ์เกิดขึ้นในช่วงท้ายเกม เมื่อเอกีตีเกรับบอลจากเพื่อน ก่อนจะล่อลวงแนวรับเซาธ์แฮมป์ตันและยิงเข้าเป้าอย่างสวยงาม พาให้สกอร์กลายเป็น 2-1 และลิเวอร์พูลเข้ารอบสี่สำเร็จ แต่ด้วยใบเหลืองที่สะสมไว้ก่อนหน้า การฉลองด้วยการถอดเสื้อจึงกลายเป็นหายนะ น่าเสียดายที่ประตูนี้ไม่เพียงแต่เป็นจุดไฮไลต์ แต่ยังกลายเป็นบทเรียนราคาแพงสำหรับดาวรุ่งรายนี้

แฟนบอลลิเวอร์พูลจำนวนไม่น้อยแสดงความเห็นอกเห็นใจ โดยมองว่าเอกีตีเกกำลังอยู่ในฟอร์มที่ร้อนแรง หลังจากย้ายมาร่วมทีมในช่วงซัมเมอร์นี้ด้วยค่าตัวมหาศาล เขายิงไปแล้วหลายประตูในลีกและรายการอื่นๆ ทำให้หลายคนเชื่อว่าเขาจะกลายเป็นกำลังหลักแทนดาร์วิน นูเญซ ในอนาคต การที่ชล็อตปกป้องนักเตะคนนี้ แสดงให้เห็นถึงสไตล์การคุมทีมที่เน้นการพัฒนาและให้โอกาส มากกว่าการลงโทษอย่างเข้มงวด

สถานการณ์น่าเศร้าของโจวานนี เลโอนี

นอกจากประเด็นเอกีตีเกแล้ว ชล็อตยังอัปเดตอาการบาดเจ็บของโจวานนี เลโอนี กองหลังดาวรุ่งวัย 17 ปี ที่เพิ่งย้ายจากฟลาเมงโก้มาร่วมทีมในฤดูกาลนี้ ดาวเตะบราซิลรายนี้ได้รับบาดเจ็บเอ็นไขว้หน้าเข่าฉีกขาด (ACL) ในเกมเดียวกันนี้ ซึ่งเป็นข่าวร้ายสำหรับลิเวอร์พูลที่กำลังขาดแคลนตัวเลือกในแนวรับ

“เลโอนีอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ค่อยดีนัก” ชล็อตกล่าวด้วยน้ำเสียงห่วงใย “เอ็นไขว้หน้าฉีกขาดหมายความว่าเขาต้องพักรักษาตัวนานถึง 1 ปี การบาดเจ็บแบบนี้สำหรับเด็กอายุ 17 ที่เพิ่งย้ายมาประเทศใหม่ และได้ลงเล่นเกมแรกแบบน่าประทับใจ มันยากที่จะมองในแง่ดี” เลโอนีแสดงศักยภาพได้ดีในนัดแรกของเขา ก่อนจะเจ็บหนักแบบนี้ ส่งผลให้ลิเวอร์พูลต้องพึ่งพาเวอร์กิล ฟาน ไดจ์ค และอิบราฮิมา โกนาเต้ มากขึ้นไปอีก

การบาดเจ็บของเลโอนีไม่เพียงกระทบต่อตัวเขาเอง แต่ยังเป็นหายนะสำหรับแผนการของชล็อต ที่หวังใช้ดาวรุ่งรายนี้เป็นตัวสำรองระยะยาว ทีมเมดิคอลของลิเวอร์พูลจะดูแลเขาอย่างใกล้ชิด เพื่อให้กลับมาแข็งแกร่งกว่าเดิม

• ประเด็นหลัก: ชล็อตปกป้องเอกีตีเก ไม่มีการปรับเงิน
• ผลกระทบ: เอกีตีเกพลาดช่วยทีมในเกมต่อไป
• ข่าวร้าย: เลโอนีพักยาว 1 ปี จาก ACL
• อนาคต: ลิเวอร์พูลต้องปรับแผนแนวรับด่วน

โดยรวมแล้ว เหตุการณ์ในเกมคาราบาว คัพ นี้สะท้อนถึงความผันผวนของฟุตบอล ที่สามารถเปลี่ยนจากน้ำตาลายพรูไปสู่ความทุกข์ได้ในชั่วพริบตา สำหรับลิเวอร์พูล การที่ชล็อตจัดการเรื่องวินัยด้วยความเข้าใจ แสดงถึงผู้นำที่ยอดเยี่ยม ซึ่งจะช่วยให้ทีมก้าวต่อไปได้ แม้จะมีอุปสรรค

ในมุมมองของผม ชล็อตกำลังสร้างวัฒนธรรมทีมที่เน้นการเรียนรู้จากความผิดพลาด ซึ่งจะเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จในระยะยาว แฟนบอลหงส์แดงควรให้กำลังใจเอกีตีเกและเลโอนี อย่าลืมติดตามอัปเดตจากทีมต่อไป ลิเวอร์พูลยังมีศึกใหญ่รออยู่!

ที่มา – ชล็อต ปัดข่าว ลิเวอร์พูล ปรับเงิน เอกีตีเก – ยืนยัน เลโอนี ต้องพักยาว 1 ปี