รถยนต์ไฟฟ้า

โตโยต้ารุกแอฟริกาใต้! เปิดตัว EV ใหม่ปี 69

โตโยต้ เตรียมแผนบุกตลาดแอฟริกาใต้ครั้งใหญ่! ประกาศเตรียมเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า (EV) รุ่นใหม่ถึง 3 รุ่นภายในปี 2569 สร้างความฮือฮาในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในภูมิภาคนี้ การเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือดกับคู่แข่งจากจีนอย่าง BYD รวมถึงผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่จากยุโรป

ปัจจุบัน Volvo ครองตำแหน่งผู้นำตลาดรถยนต์ EV ในแอฟริกาใต้ ตามมาด้วย BMW และ Mercedes-Benz อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตรถยนต์ EV จากจีนก็กำลังเร่งเครื่องเพื่อเข้าสู่ตลาดนี้เช่นกัน มองหาโอกาสใหม่ๆ ท่ามกลางข้อจำกัดทางการค้าและการส่งออกไปยังสหรัฐฯ และยุโรป

แม้ว่าในปัจจุบัน โตโยต้าจะจำหน่ายเฉพาะรถยนต์ไฟฟ้าไฮบริดในแอฟริกาใต้เท่านั้น แต่ก็ยังคงเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฮบริดและปลั๊กอินไฮบริด ด้วยส่วนแบ่งตลาดถึง 67% ในปี 2567 ด้วยรถยนต์รุ่นยอดนิยมอย่าง Corolla Cross แสดงให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของแบรนด์และความเชื่อมั่นของผู้บริโภค

แผนการเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า 3 รุ่นในปี 2569 ของโตโยต้า

แอนดรูว์ เคอร์บี ซีอีโอของโตโยต้าแอฟริกาใต้ เปิดเผยนอกรอบการประชุมเกี่ยวกับส่วนประกอบรถยนต์ว่า “เรากำลังจะเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ตั้งแต่ปี 2569 เมื่อถึงตอนนั้นเราจะมีรถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ 3 รุ่น” ข้อมูลนี้สร้างความตื่นเต้นให้กับวงการรถยนต์ แต่เคอร์บีไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับรุ่นรถยนต์หรือสเปคของรถยนต์ไฟฟ้าทั้ง 3 รุ่น

“เราไม่เชื่อว่าระบบส่งกำลังแบบเดียวจะครองอนาคต ดังนั้น เราจะมีทั้งเครื่องยนต์สันดาปภายใน รถยนต์ไฮบริด รถยนต์ไฮบริดแบบปลั๊กอิน รถยนต์ไฟฟ้าแบตเตอรี่ รถยนต์ไฟฟ้าเซลล์เชื้อเพลิง และอาจรวมถึงเครื่องยนต์สันดาปภายในที่ปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ด้วย” เคอร์บีกล่าว

โตโยต้ารุกตลาดแอฟริกาใต้ จ่อเปิดตัว EV ใหม่ 3 รุ่นในปี 2569

เคอร์บียังกล่าวถึงความท้าทายในการแข่งขันกับผู้ผลิตจากจีนว่าเป็นสิ่งที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด แม้ว่าจะมองว่าการแข่งขันเป็นสิ่งที่ดี แต่ก็เป็นข้อกังวลเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญสำหรับโตโยต้า และโตโยต้าต้องตอบสนองต่อความท้าทายนี้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โตโยต้ารุกตลาดแอฟริกาใต้ครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้า

“การแข่งขันกับจีนเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ แม้เขาจะยินดีกับการแข่งขัน แต่มันก็เป็นข้อกังวลเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญมากสำหรับโตโยต้า และโตโยต้าต้องแน่ใจว่าจะตอบสนองด้วยวิธีที่ถูกต้องและรวดเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้” เคอร์บีกล่าว

เคอร์บีกล่าวเสริมว่า ภาคส่วนยานยนต์ของแอฟริกาใต้อยู่ในจุดเปลี่ยนสำคัญ โดยมีปริมาณการผลิตค่อนข้างคงที่ การใช้วัตถุดิบในท้องถิ่นลดลง และยอดขายรถยนต์นำเข้าพุ่งสูงขึ้น โตโยต้ารุกตลาดแอฟริกาใต้จึงเป็นการปรับตัวเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้

การเคลื่อนไหวของโตโยต้าในแอฟริกาใต้ครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะขยายตลาดรถยนต์ไฟฟ้าไปยังภูมิภาคใหม่ๆ และแข่งขันกับผู้ผลิตรายอื่นๆ ในตลาดโลก การเปิดตัวรถยนต์ไฟฟ้า 3 รุ่นในปี 2569 จะเป็นก้าวสำคัญในการสร้างความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์โตโยต้าในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าของแอฟริกาใต้ และเป็นการตอกย้ำวิสัยทัศน์ของโตโยต้าในการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยียานยนต์ในอนาคต การตัดสินใจ โตโยต้ารุกตลาดแอฟริกาใต้ ถือเป็นกลยุทธ์ที่น่าสนใจและน่าติดตามอย่างยิ่ง

การที่โตโยต้ารุกตลาดแอฟริกาใต้และเตรียมเปิดตัวรถยนต์ EV ใหม่ถึง 3 รุ่นในปี 2569 แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของแบรนด์ในการพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้าและขยายตลาดไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก การแข่งขันในตลาดรถยนต์ไฟฟ้ากำลังทวีความรุนแรงขึ้น และโตโยต้าก็พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับความท้าทายนี้

ที่มา – โตโยต้ารุกตลาดแอฟริกาใต้ จ่อเปิดตัว EV ใหม่ 3 รุ่นในปี 2569

BYD นำทัพ! แบรนด์รถไฟฟ้าจีนครองตลาดอินโดนีเซีย

ตลาดรถยนต์ไฟฟ้าในอินโดนีเซียกำลังร้อนแรง! และผู้นำไม่ใช่ใครอื่น แต่เป็นแบรนด์จากประเทศจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง BYD ที่กำลังสร้างปรากฏการณ์ยอดขายอันดับหนึ่งในแดนอิเหนา

แบรนด์รถไฟฟ้าจีนครองตลาดอินโดนีเซีย BYD ทำยอดขายอันดับหนึ่ง

สมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์อินโดนีเซีย (GAIKINDO) รายงานว่าในช่วงเดือนมกราคมถึงกรกฎาคมที่ผ่านมา แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าจากจีนสามารถยึดครองส่วนแบ่งตลาดรถ EV ในอินโดนีเซียได้อย่างน่าทึ่ง โดย BYD ขึ้นแท่นเป็นอันดับหนึ่งด้วยยอดขายสูงถึง 16,427 คัน ความสำเร็จนี้มาจากความนิยมอย่างล้นหลามของรถยนต์รุ่นต่างๆ เช่น M6, Sealion 7, Atto 3, Seal และ Dolphin

ความน่าสนใจยังไม่จบแค่นั้น เพราะในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม BYD ยังได้เปิดตัวรถยนต์ซิตี้คาร์รุ่นใหม่อย่าง Atto 1 ในงาน “GAIKINDO Indonesia International Auto Show” ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมงานอย่างมาก ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 195 ล้านรูเปียห์ (ประมาณ 12,080 ดอลลาร์สหรัฐ)

ไม่ใช่แค่ BYD เท่านั้นที่ประสบความสำเร็จ Denza แบรนด์พรีเมียมในเครือ BYD Group ก็ตามมาติดๆ ในอันดับสองของตลาดรถ EV อินโดนีเซีย ด้วยยอดขาย 6,256 คัน ในขณะที่ Wuling รั้งอันดับสามด้วยยอดขาย 6,210 คัน

แบรนด์อื่นๆ จากจีนที่ทำผลงานได้ดีเช่นกัน ได้แก่ Chery ที่อยู่ในอันดับสี่ด้วยยอดขาย 5,196 คัน และ Aion ในอันดับห้าด้วยยอดขาย 3,126 คัน

ยอดขายรถ EV โดยรวมในอินโดนีเซียในช่วงเดือนมกราคมถึงกรกฎาคมอยู่ที่ 42,178 คัน ซึ่งเกือบจะเทียบเท่ากับยอดขายรวมทั้งปีของปี 2567 ที่ 43,188 คัน แสดงให้เห็นถึงการเติบโตอย่างรวดเร็วของตลาดรถ EV ในประเทศ

รัฐบาลอินโดนีเซียเองก็ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้า เนื่องจากมีความมุ่งมั่นที่จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน โดยการเปลี่ยนจากการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลไปสู่พลังงานสะอาด

ทำไมแบรนด์รถไฟฟ้าจีนถึงครองใจชาวอินโดนีเซีย?

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้แบรนด์รถไฟฟ้าจีน ครองตลาดอินโดนีเซีย BYD ทำยอดขายอันดับหนึ่ง อาจมาจาก:

  • ราคาที่เข้าถึงได้: รถยนต์ไฟฟ้าจากจีนมักมีราคาที่แข่งขันได้เมื่อเทียบกับรถยนต์ไฟฟ้าจากแบรนด์อื่นๆ
  • เทคโนโลยีที่ทันสมัย: แบรนด์จีนหลายแบรนด์มีการพัฒนาเทคโนโลยีรถยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง
  • การออกแบบที่น่าดึงดูด: ดีไซน์ของรถยนต์หลายรุ่นมีความทันสมัยและตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค
  • การสนับสนุนจากภาครัฐ: นโยบายของรัฐบาลอินโดนีเซียที่ส่งเสริมการใช้รถยนต์ไฟฟ้า

การที่ แบรนด์รถไฟฟ้าจีนครองตลาดอินโดนีเซีย BYD ทำยอดขายอันดับหนึ่ง แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้าจีน และความต้องการรถยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หากคุณกำลังมองหารถยนต์ไฟฟ้า ลองพิจารณาแบรนด์จีนเหล่านี้ดู อาจจะตอบโจทย์ความต้องการของคุณก็ได้

ที่มา – แบรนด์รถไฟฟ้าจีนครองตลาดอินโดนีเซีย BYD ทำยอดขายอันดับหนึ่ง