ภาคบริการ

PMI ภาคบริการอินเดียโตช้าลง ก.ย. นี้!

วันนี้เรามาอัปเดตข่าวเศรษฐกิจอินเดียกันหน่อยนะครับ กับดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคบริการล่าสุด หลายคนอาจจะสงสัยว่า PMI ภาคบริการอินเดียโตช้าลงในเดือนก.ย. นี่มันหมายความว่ายังไง? แล้วมีผลกระทบอะไรบ้าง? มาดูกันเลย!

ผลสำรวจจาก S&P Global เผยว่าดัชนี PMI ภาคบริการขั้นสุดท้ายของอินเดียจาก HSBC ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 60.9 ในเดือนกันยายน จากที่เคยขึ้นไปสูงถึง 62.9 ในเดือนสิงหาคม ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดในรอบ 15 ปีเลยทีเดียว ตัวเลขนี้ยังต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้เบื้องต้นที่ 61.6 ด้วยนะครับ

แต่ไม่ต้องตกใจกันไป ดัชนี PMI ที่สูงกว่า 50 นั้นยังคงบ่งชี้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจยังอยู่ในภาวะขยายตัวอยู่ เพียงแต่เป็นการขยายตัวที่ช้าลงเท่านั้นเองครับ ส่วนดัชนีที่ต่ำกว่า 50 ถึงจะเรียกว่าอยู่ในภาวะหดตัว

บริษัทต่างๆ รายงานว่าธุรกิจยังคงเติบโตได้เนื่องจากอุปสงค์ที่ยังแข็งแกร่งและการลงทุนด้านเทคโนโลยี แต่ก็มีบางบริษัทที่ยอมรับว่ากำลังเผชิญกับการแข่งขันที่สูงขึ้นและมาตรการควบคุมต้นทุนอยู่เช่นกัน เรียกได้ว่ามีทั้งปัจจัยบวกและปัจจัยท้าทายที่ต้องรับมือกันไป

สำหรับดัชนีธุรกิจใหม่ แม้จะลดลงจากเดือนสิงหาคม แต่ก็ยังคงแข็งแกร่งและขยายตัวเร็วที่สุดเป็นอันดับสองนับตั้งแต่เดือนสิงหาคมปี 2567 เลยทีเดียว แสดงให้เห็นว่ายังมีโอกาสในการเติบโตอีกมาก

อย่างไรก็ตาม ดัชนีอุปสงค์จากต่างประเทศสำหรับภาคบริการของอินเดียอ่อนตัวลงอย่างเห็นได้ชัด โดยคำสั่งซื้อเพื่อการส่งออกขยายตัวในอัตราที่ช้าที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม บริษัทต่างๆ ระบุว่าการแข่งขันด้านราคากับผู้ให้บริการต่างชาติเป็นปัจจัยสำคัญที่ฉุดรั้งยอดขาย งานนี้ต้องทำการบ้านกันหนักหน่อยแล้ว!

ถึงกระนั้น ความเชื่อมั่นทางธุรกิจสำหรับปีหน้ากลับปรับตัวดีขึ้นสู่ระดับสูงสุดในรอบ 6 เดือน บริษัทต่างๆ ให้เหตุผลว่าตนมีมุมมองเชิงบวกจากแผนการจัดแคมเปญโฆษณา การคาดการณ์ว่าประสิทธิภาพจะเพิ่มขึ้น กลยุทธ์ราคาที่แข่งขันได้ และแนวโน้มการลดหย่อนภาษี มองไปข้างหน้าก็ยังมีเรื่องดีๆ ให้ลุ้นกันอยู่

แต่ก็มีเรื่องที่ต้องจับตาดูกันต่อไปคือ การจ้างงานยังขยายตัวในระดับที่ไม่สูงนัก โดยมีบริษัทไม่ถึง 5% ที่ตอบแบบสำรวจว่ามีการจ้างงานเพิ่ม ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจได้ในระยะยาว

ทั้งแรงกดดันด้านต้นทุนและการขึ้นราคาบริการต่างปรับลดลงจากเดือนสิงหาคม การผลักภาระต้นทุนไปยังผู้บริโภคอยู่ในอัตราที่ต่ำที่สุดนับตั้งแต่เดือนมีนาคม ซึ่งเป็นผลดีต่อผู้บริโภคโดยตรงครับ

อัตราเงินเฟ้อของอินเดียในเดือนสิงหาคมได้เพิ่มขึ้นเป็น 2.07% จาก 1.61% ในเดือนกรกฎาคม ยุติแนวโน้มขาลงที่ดำเนินมาติดต่อกัน 9 เดือน แต่ตัวเลขดังกล่าวยังอยู่ในกรอบเป้าหมาย 2-6% ของธนาคารกลางอินเดีย ซึ่งในการประชุมเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ธนาคารกลางได้ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (repo rate) ไว้ที่ 5.50%

ดัชนี PMI รวมภาคการผลิต-ภาคบริการขั้นสุดท้ายของอินเดียจาก HSBC ลดลงมาอยู่ที่ 61.0 ในเดือนกันยายน จาก 63.2 ในเดือนก่อนหน้า นับเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน แต่ยังสะท้อนถึงการขยายตัวโดยรวมที่แข็งแกร่งอยู่

ตัวเลขในดัชนี PMI รวมชี้ให้เห็นว่าทั้งสองภาคส่วนเติบโตช้าลง โดยมีคำสั่งซื้อใหม่และผลผลิตเพิ่มขึ้นในอัตราที่ลดลงในเดือนกันยายน ซึ่งสอดคล้องกับประเด็นที่ว่า PMI ภาคบริการอินเดียโตช้าลงในเดือนก.ย.

PMI ภาคบริการอินเดียโตช้าลงในเดือนก.ย.

สรุปง่ายๆ ก็คือ PMI ภาคบริการอินเดียโตช้าลงในเดือนก.ย. จริง แต่ภาพรวมเศรษฐกิจของอินเดียก็ยังอยู่ในช่วงขยายตัว เพียงแต่ต้องจับตาสถานการณ์อย่างใกล้ชิดและเตรียมพร้อมรับมือกับความท้าทายต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้น

ทำไม PMI ภาคบริการอินเดียถึงโตช้าลง?

สาเหตุหลักๆ ก็มาจากอุปสงค์ที่แผ่วลง โดยเฉพาะอุปสงค์จากต่างประเทศที่ได้รับผลกระทบจากการแข่งขันด้านราคาที่สูงขึ้น นอกจากนี้ การแข่งขันภายในประเทศและมาตรการควบคุมต้นทุนก็เป็นอีกปัจจัยที่ทำให้การเติบโตช้าลง

ถึงแม้ว่า PMI ภาคบริการอินเดียโตช้าลงในเดือนก.ย. แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเศรษฐกิจอินเดียกำลังจะแย่ลงนะครับ เพียงแต่เป็นการส่งสัญญาณว่าเราต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และมองหาโอกาสในการลงทุนในภาคส่วนอื่นๆ ที่ยังมีศักยภาพในการเติบโต

สำหรับนักลงทุนและผู้ประกอบการไทย การทำความเข้าใจข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้ตัดสินใจลงทุนและวางแผนธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น อย่าลืมติดตามข่าวสารเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสดีๆ นะครับ

ที่มา – PMI ภาคบริการอินเดียโตช้าลงในเดือนก.ย. หลังดีมานด์แผ่ว