ฟุตบอลไทย

บีจี ปทุม เกือบหลับ! เจ๊าประจวบ ประเดิมไทยลีก

บีจี ปทุม เกือบหลับ ได้จุดโทษท้ายเกมกู้ชื่อ ตามเจ๊าประจวบ ประเดิมไทยลีก

ฟุตบอลไทยลีกฤดูกาลใหม่เริ่มต้นขึ้นแล้ว! และเกมประเดิมสนามของ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ก็เกือบจะกลายเป็นฝันร้ายเสียแล้ว แต่โชคดีที่พวกเขายังมีฮึดในช่วงท้ายเกม ทำให้บีจี ปทุม เกือบหลับ แต่ยังดีที่ได้จุดโทษกู้ชื่อ ตามตีเสมอ พีที ประจวบ เอฟซี ได้สำเร็จ

เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2568 ที่สนามสามอ่าว สเตเดียม เป็นการพบกันระหว่าง “ต่อพิฆาต” พีที ประจวบ เอฟซี และ “เดอะ แรบบิท” บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ในศึก BYD SEALION 6 LEAGUE ONE 2025/26

บีจี ปทุม จัดทัพใหญ่ นำทัพโดย สารัช อยู่เย็น, ชนาธิป สรงกระสินธ์, เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ และ เอกนิษฐ์ ปัญญา แต่ในช่วงต้นเกมดูเหมือนว่าซุปเปอร์สตาร์เหล่านี้ยังไม่สามารถเค้นฟอร์มเก่งออกมาได้ ทำให้ทีมตกเป็นรองเจ้าบ้านไปก่อนถึงสองประตู

รูปเกมเป็นไปอย่างสนุก พีที ประจวบ เอฟซี อาศัยความได้เปรียบในบ้านเปิดเกมบุกเข้าใส่ ส่วน บีจี ปทุม พยายามตั้งเกมและหาจังหวะตอบโต้ แต่ก็ยังไม่สามารถเจาะแนวรับของเจ้าบ้านได้สำเร็จ

ในช่วงครึ่งหลัง บีจี ปทุม พยายามปรับเปลี่ยนแท็คติกเพื่อหวังทวงประตูคืน แต่ก็ยังคงติดขัดในจังหวะสุดท้าย จนกระทั่งช่วงท้ายเกม นาทีที่ 85 ความหวังของ “เดอะ แรบบิท” ก็มาถึง เมื่อ เจริญศักดิ์ วงษ์กรณ์ โดนทำฟาวล์ในเขตโทษ ผู้ตัดสินเช็ค VAR และตัดสินให้เป็นจุดโทษ

กาคุโตะ โนสึดะ รับหน้าที่สังหาร และก็ไม่ทำให้ผิดหวัง ซัดจุดโทษเข้าไปอย่างเฉียบคม ช่วยให้ บีจี ปทุม ไล่ตีเสมอเป็น 2-2 ได้สำเร็จในช่วงท้ายเกม

จบเกมด้วยผลเสมอ 2-2 แบ่งกันไปทีมละแต้ม ถือเป็นผลงานที่ไม่น่าพอใจนักสำหรับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่ขนผู้เล่นระดับซุปเปอร์สตาร์มาเต็มทีม

บทสรุปเกม บีจี ปทุม เกือบหลับ … แต่ยังดีที่มีแต้ม

เกมนี้แสดงให้เห็นว่าแม้จะมีผู้เล่นชื่อดังมากมาย แต่การเล่นเป็นทีมเวิร์คและความมุ่งมั่นก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน บีจี ปทุม ยังต้องปรับปรุงในหลายๆ ด้าน หากหวังที่จะประสบความสำเร็จในฤดูกาลนี้

  • จุดเด่นของเกม: ความฮึดสู้ของบีจี ปทุม ในช่วงท้ายเกม
  • จุดที่ต้องปรับปรุง: การประสานงานในแดนหน้า และความเหนียวแน่นในเกมรับ
  • ผู้เล่นที่โดดเด่น: กาคุโตะ โนสึดะ (บีจี ปทุม)

ถึงแม้ว่าบีจี ปทุม เกือบหลับ และผลเสมอในเกมนี้อาจจะไม่เป็นที่น่าพอใจสำหรับแฟนบอล แต่ก็ถือเป็นบทเรียนสำคัญที่พวกเขาต้องนำไปปรับปรุงแก้ไข เพื่อให้ทีมแข็งแกร่งยิ่งขึ้นในอนาคต

สำหรับ พีที ประจวบ เอฟซี การได้หนึ่งแต้มในบ้านถือเป็นผลงานที่น่าพอใจ พวกเขาแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและสปิริตในการเล่น แม้ว่าจะมีผู้เล่นชื่อดังน้อยกว่า แต่ก็สามารถสู้กับ บีจี ปทุม ได้อย่างสูสี

โดยรวมแล้วเกมนี้เป็นเกมที่สนุกและตื่นเต้น แฟนบอลได้เห็นถึงความสามารถของผู้เล่น และความเข้มข้นของการแข่งขันฟุตบอลไทยลีก ฤดูกาล 2025-26

สำหรับบีจี ปทุมฯ การได้ 1 แต้มจากเกมนี้อาจไม่สวยหรู แต่แสดงให้เห็นถึงสปิริตของทีมที่ไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ และพร้อมจะสู้จนถึงที่สุด อย่างไรก็ตาม พวกเขาต้องกลับไปทำการบ้านอย่างหนักเพื่อปรับปรุงทีมให้แข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิม หากหวังที่จะประสบความสำเร็จในฤดูกาลนี้

และแน่นอนว่า การได้เห็น ชนาธิป สรงกระสินธ์ กลับมาวาดลวดลายในไทยลีก เป็นสิ่งที่แฟนบอลหลายคนตั้งตารอคอย หวังว่าเขาจะสามารถเค้นฟอร์มเก่งออกมาได้ในเร็ววัน และช่วยให้บีจี ปทุมฯ ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้

ที่มา – บีจี ปทุม เกือบหลับ ได้จุดโทษท้ายเกมกู้ชื่อ ตามเจ๊าประจวบ ประเดิมไทยลีก

เมืองทอง เปิดตัวทีมใหม่! ลุ้นแชมป์เอเชีย

เมืองทอง เปิดตัวทีมลุยฤดูกาลใหม่ – วางเป้าคว้าแชมป์พ่วงโควตาสโมสรเอเชีย

เมื่อวันที่ 13 ส.ค.68 ที่ธันเดอร์โดม ฟุตบอล พาร์ค เมืองทองธานี สโมสร เมืองทอง ยูไนเต็ด จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวสโมสรอย่างยิ่งใหญ่ประจำฤดูกาล 2025-26 ภายใต้แคมเปญ ‘Rise of the Kirins’ แนะนำเฮดโค้ช กัปตันทีม นักเตะใหม่และผู้เล่น ในทีมทุกคน โดยมีแขกผู้มีเกียรติสื่อมวลชน และ แฟนบอล ร่วมงานอย่างคับคั่ง

สำหรับแคมเปญ ‘Rise of the Kirins’ กิเลนผยอง…ทะยานสู่ความสำเร็จยุคใหม่สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่น ของสโมสรที่จะกลับมาสร้างความยิ่งใหญ่และทะยานสู่ความสำเร็จอีกครั้งในฤดูกาลนี้โดยการสร้างทีมที่สมดุลระหว่าง ผู้เล่นดาวรุ่งมากพรสวรรค์และผู้เล่นประสบการณ์สูง

ในงานเปิดตัวฤดูกาลนี้ สโมสรได้แนะนำขุนพลใหม่ที่จะมาเติมเต็มความแข็งแกร่งของทีม นำโดยผู้เล่นต่างชาติ อย่าง อาร์มิน เกรมส์ล, สเตฟานซอนคอฟ, ไมเคิ่ล เคมพ์เทอร์ อานาสรวมถึงสองดาวรุ่ง เนลสัน ออร์จิ บาตาตา และคนล่าสุด อานาสส์ อาห์ฮานนัค จากลีกดัทช์ ที่จะเข้ามาเสริมศักยภาพของทีมให้มีมิติมากขึ้น นอกจากนี้ ยังมีผู้เล่นประสบการณ์สูงในเวทีไทยลีก อย่าง เมลวินลอเรนเซ่น, เอมิล โรบัค และ จอห์น-พาทริก สเตร้าสส์ ที่จะเข้ามาเป็นแกนหลักสำคัญในการประคองทีม

 

ขุนพลไทยชุดนี้ยังเต็มไปด้วยนักเตะที่แข็งแกร่งเป็นกำลังหลักอย่างต่อเนื่องไม่ว่าจะเป็น ทริสต็องโด, สรวิทย์ พานทอง, กษิดิ์เดช เวทยาวงศ์ และผู้เล่นทีมชาติไทยอย่าง กรวิชญ์ ทะสา, ปุรเชษฐ์ ทอดสนิท, ทรงวุฒิ ใคร่ครวญ กรกฏ พิพัฒน์นัดดา และคคนะ คำยก ที่ก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญ อีกทั้งยังไปไกลถึงการติดทีมชาติชุดใหญ่ได้อย่างเต็มภาคภูมิ

นอกจากนี้ เมืองทองฯ ยังอุดมไปด้วยผู้เล่นอายุน้อยพรสวรรค์สูงมากมาย ไล่ตั้งแต่ สิรดนัย โพธิ์ศรี, ธีรภัทร นันทโกวัฒน์, ธีร์กวิน จันทร์ศรี, กฤตภัคแสงสวัสดิ์, อาทิตย์ บัวงาม, เจมส์ปกรณ์ ฟอลคอเนอร์, ศรายุทธ อยู่สืบเชื้อ และ คมสันต์ ซ้ายพิพันธ์ที่พร้อมจะก้าวขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญของสโมสรและฟุตบอลไทย ในอนาคต

โดยขุนพลทั้งหมดจะอยู่ภายใต้การคุมทีมของ ‘โค้ชอ้น’ รังสรรค์ วิวัฒน์ชัยโชคหนึ่งในเฮดโค้ชฝีมือดีของไทย ที่ได้รับการยกย่องในวงการเป็นอย่างมากที่จะมาสานต่อปรัชญาของสโมสรในการผสมผสานนักเตะประสบการณ์เข้ากับดาวรุ่ง เพื่อความสำเร็จในระยะยาวอย่างต่อเนื่อง

นายวิลักษณ์ โหลทอง ประธานสโมสร เมืองทองยูไนเต็ด กล่าวว่า“การเปิดฤดูกาล 2025-26 ภายใต้แคมเปญ Rise of the Kirins คือการประกาศให้ทุกคนเห็นถึงความมุ่งมั่นของเรา ที่จะพา กิเลนผยอง กลับมาทะยานสู่ความสำเร็จ อีกครั้ง การได้ยืนเคียงข้างกับผู้สนับสนุนทั้ง 12 องค์กรชั้นนำ ไม่ว่าจะเป็นพาร์ทเนอร์ที่อยู่กับเรามายาวนาน หรือพันธมิตรใหม่ที่เพิ่งเข้ามาร่วมเส้นทางล้วนสะท้อนถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพของสโมสรและทิศทางที่เรากำลังเดินไป ซึ่งต้องขอบคุณต่อความเชื่อมั่นที่มีให้กับทีมเรา จะบริหารทีมด้วยความตั้งใจที่จะทำทีมาสู่ความสำเร็จโดยมี เป้าหมายที่ยิ่งใหญ่ในการกลับมาทวงความสำเร็จสู่สนามธันเดอร์โดม สเตเดี้ยม และร่วมพัฒนานักเตะและวงการ ฟุตบอลไทยให้เติบโตด้วยกัน”

ขณะที่ นายรณฤทธิ์ ซื่อวาจา ผู้อำนวยการสโมสร เมืองทอง ยูไนเต็ด กล่าวว่า “แคมเปญ’Rise of the Kirins’ ไม่ใช่แค่สโลแกน แต่คือพันธกิจที่เราจะนำพากิเลนผยองกลับคืนสู่ความยิ่งใหญ่ความสมดุลกับสร้างทีมคือสูตรสำเร็จ ที่เราเชื่อมั่นภายใต้ปรัชญาฟุตบอลเกมรุกอันเป็นดีเอ็นเอของสโมสร ทั้งการเสริมผู้เล่นต่างชาติคุณภาพสูงการดึงนักเตะไทยฝีมือดี รวมถึงการผลักดันดาวรุ่งขึ้นมาสู่ทีมชุดใหญ่ เพื่อสร้างสมดุลระหว่างประสบการณ์ และพลังของคนรุ่นใหม่ เป้าหมายของเราชัดเจน เราต้องการสร้างทีมที่แข็งแกร่งในทุกมิติ พร้อมแข่งขัน เพื่อความสำเร็จในทุกรายการ”

“ในฤดูกาล 2025-26 เราได้ผู้เล่นต่างชาติที่มากด้วยประสบการณ์จากลีกยุโรป ไม่ว่าจะเป็น อาร์มินเกรมส์ล, สเตฟาน ซอนคอฟ และ ไมเคิ่ล เคมพ์เทอร์รววมไปถึง อานาสส์ อาห์ฮานนัค แนวรุกคนใหม่ที่มาจากลีกดัทช์”

“เราจะสร้างยุคสมัยใหม่ที่น่าจดจำ ไม่ใช่แค่เพื่อแฟนๆ แต่เพื่อวงการฟุตบอลไทยทั้งหมด ความสำเร็จในซีซั่น ที่ผ่านมา ทั้งการเข้ารอบน็อกเอาต์เอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก 2 และรอบชิงชนะเลิศ เอฟเอคัพ สองปีซ้อน สะท้อนให้ เห็นถึงความกระหายในชัยชนะที่ยังคงอยู่ในสายเลือดของสโมสรเราไม่เคยหยุดนิ่งและพร้อมจะก้าวไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่กว่าเดิม”

“ฤดูกาลนี้เราต้องการที่จะลุ้นแชมป์ ส่วนจะเป็นแชมป์อะไรนั้นก็ต้องไปลุ้นกัน อาจจะเป็นถ้วยใดถ้วยหนึ่ง เราต้องการลุ้นแชมป์และต้องการโควตา เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก ผมคิดว่าเรามีศักยภาพมากพอ”

“สุดท้ายนี้ ผมขอเชิญชวนแฟนบอลทุกท่าน มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางครั้งสำคัญนี้ไม่ใช่แค่เพื่อ เมืองทอง ยูไนเต็ด แต่เพื่อสร้างสีสันและยกระดับฟุตบอลไทยให้เติบโตไปด้วยกัน เสียงเชียร์ของพวกคุณคือพลังที่ ขับเคลื่อนพวกเรา”

ส่วนของชุดแข่งขันฤดูกาล 2025-26 ซึ่งได้รับการออกแบบโดย EGO แบรนด์ผู้สนับสนุน ได้เผยโฉมชุดเหย้า ที่ได้แรงบันดาลใจจากชุดแข่งขันยุคที่คว้าแชมป์ไทยลีกในปี 2012 โดยใช้แถบสีแดงสลับดำกับแพทเทิร์นรูปแบบใหม่ ส่วนชุดเยือนได้รับการออกแบบให้เพิ่มแนวคิดของแฟชั่นสมัยใหม่ในสไตล์คลาสสิค ใส่ได้ในทุกโอกาศในชีวิตประจำวันและอีกหนึ่งดีไซน์ที่เผยโฉมในวันนี้ คือเสื้อผู้รักษาประตูในการออกแบบให้เกิดความน่าเกรงขามมากยิ่งขึ้น

เป้าหมายชัดเจน: เมืองทอง เปิดตัวทีมลุยฤดูกาลใหม่ – วางเป้าคว้าแชมป์พ่วงโควตาสโมสรเอเชีย

การเมืองทอง เปิดตัวทีมลุยฤดูกาลใหม่ – วางเป้าคว้าแชมป์พ่วงโควตาสโมสรเอเชียครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้งของสโมสร เราจะได้เห็นการผสมผสานระหว่างนักเตะมากประสบการณ์และดาวรุ่งฝีเท้าดีภายใต้การคุมทีมของโค้ชมากความสามารถ มาร่วมเชียร์และเป็นกำลังใจให้พวกเขาสร้างผลงานที่ยอดเยี่ยมกันครับ

สำหรับเป้าหมายที่วางไว้คือเมืองทอง เปิดตัวทีมลุยฤดูกาลใหม่ – วางเป้าคว้าแชมป์พ่วงโควตาสโมสรเอเชีย ซึ่งเป็นการแสดงความทะเยอทะยานของสโมสร

การที่เมืองทองยูไนเต็ดตั้งเป้าหมายใหญ่เช่นนี้ แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจในศักยภาพของทีมและความพร้อมที่จะทุ่มเททุกอย่างเพื่อบรรลุเป้าหมาย แฟนบอลอย่างเราก็พร้อมที่จะสนับสนุนและให้กำลังใจอย่างเต็มที่แน่นอนเพื่อ เมืองทอง เปิดตัวทีมลุยฤดูกาลใหม่ – วางเป้าคว้าแชมป์พ่วงโควตาสโมสรเอเชีย

ที่มา – เมืองทอง เปิดตัวทีมลุยฤดูการใหม่ – วางเป้าคว้าแชมป์พ่วงโควตาสโมสรเอเชีย

อุทัยธานี เจ๊า ชลบุรี บอลการกุศล ไทยลีก 2025

การแข่งขันฟุตบอลการกุศล รายการ “ไทยลีก ชาริตี้ แมตช์ 2025” ที่ทรู บีจี สเตเดียม เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม เป็นการดวลกันระหว่าง อุทัยธานี เอฟซี พบ ชลบุรี เอฟซี ซึ่งเรียกเสียงฮือฮาจากแฟนบอลเป็นอย่างมาก เพราะเป็นการรวมตัวของนักเตะชื่อดังมากมายเพื่อการกุศล

ผลการแข่งขันแมตช์นี้ทั้งสองทีมเล่นกันได้อย่างสูสี ก่อนจบลงด้วยผลเสมอ 1-1 โดย อุทัยธานี ได้ประตูนำก่อนจาก โมฮาเหม็ด อิซ่า นาที 49 สร้างความดีใจให้กับแฟนบอลอุทัยธานีที่ตามมาเชียร์ถึงขอบสนาม และชลบุรี มาตีเสมอจาก ณัฐนันท์ เบี้ยสัมฤทธิ์ นาที 75 ทำให้แฟนบอลชลบุรีได้เฮลั่นสนามเช่นกัน

สำหรับรายการนี้จัดขึ้นเพื่อนำรายได้ไปสนับสนุนสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นการช่วยเหลือวงการฟุตบอลไทยให้พัฒนาก้าวหน้ายิ่งขึ้น รวมถึงยังมีคอนเสิร์ตจากศิลปิน ฮิปฮอปสุดร้อนแรง อย่าง GUNNER, DIAMOND MQT, GUYGEEGEE และ YOUNGGU สร้างความสนุกสนานและความบันเทิงให้กับผู้ชมที่เข้ามาร่วมงานอย่างเต็มที่ บรรยากาศภายในงานเต็มไปด้วยความคึกคักและอบอุ่น

ส่วนฟุตบอล BYD ไทยลีก 1 ฤดูกาล 2025/26 จะเปิดฉากในวันที่ 15 ส.ค.นี้ แฟนบอลเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการเชียร์ทีมโปรดของคุณ และร่วมลุ้นไปกับการแข่งขันที่เข้มข้นตลอดฤดูกาล

อุทัยธานี เจ๊า ชลบุรี บอลการกุศล ไทยลีก ชาริตี้ แมตช์ 2025

เกม อุทัยธานี เจ๊า ชลบุรี บอลการกุศล ไทยลีก ชาริตี้ แมตช์ 2025 ถือเป็นการอุ่นเครื่องก่อนเปิดฤดูกาลใหม่ของทั้งสองทีม ทำให้โค้ชและนักเตะได้ทดลองทีมและปรับแทคติกต่างๆ เพื่อเตรียมความพร้อมให้มากที่สุด

นอกจากนี้ การแข่งขัน อุทัยธานี เจ๊า ชลบุรี บอลการกุศล ไทยลีก ชาริตี้ แมตช์ 2025 ยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างนักเตะและแฟนบอล รวมถึงเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีของวงการฟุตบอลไทยอีกด้วย

สรุปเหตุการณ์สำคัญในเกม อุทัยธานี เจ๊า ชลบุรี บอลการกุศล ไทยลีก ชาริตี้ แมตช์ 2025:

  • นาทีที่ 49: โมฮาเหม็ด อิซ่า ทำประตูให้ อุทัยธานี ขึ้นนำ 1-0
  • นาทีที่ 75: ณัฐนันท์ เบี้ยสัมฤทธิ์ ทำประตูตีเสมอให้ ชลบุรี เป็น 1-1
  • จบเกม: อุทัยธานี เอฟซี เสมอ ชลบุรี เอฟซี 1-1

ไฮไลท์สำคัญของแมตช์ อุทัยธานี เจ๊า ชลบุรี บอลการกุศล ไทยลีก ชาริตี้ แมตช์ 2025

แน่นอนว่าไฮไลท์ของเกมนี้อยู่ที่ประตูสุดสวยของทั้งสองทีม โดยเฉพาะประตูตีเสมอของ ณัฐนันท์ เบี้ยสัมฤทธิ์ ที่ยิงได้อย่างเฉียบคม ทำให้แฟนบอลชลบุรีได้เฮกันลั่นสนาม นอกจากนี้ การได้เห็นนักเตะชื่อดังลงสนามพร้อมกันก็เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ที่น่าจดจำ

สิ่งที่ได้เรียนรู้จากแมตช์นี้:

  • ทั้ง อุทัยธานี และ ชลบุรี ต่างก็มีพัฒนาการที่ดีขึ้น
  • ทั้งสองทีมยังต้องปรับปรุงในเรื่องของความเฉียบคมในการจบสกอร์
  • การแข่งขันไทยลีกในฤดูกาลใหม่จะเข้มข้นและสนุกสนานอย่างแน่นอน

โดยรวมแล้ว เกม อุทัยธานี เจ๊า ชลบุรี บอลการกุศล ไทยลีก ชาริตี้ แมตช์ 2025 เป็นเกมที่สนุกและมีความหมาย เพราะนอกจากจะได้ชมฟุตบอลที่สนุกแล้ว ยังได้ร่วมทำบุญอีกด้วย

ที่มา – อุทัยธานี เจ๊า ชลบุรี บอลการกุศล ไทยลีก ชาริตี้ แมตช์ 2025