ฟุตบอลทีมชาติไทย

อิชิอิ ปรับ ช้างศึก ดีขึ้น ลั่นย้ำชัย ไต้หวัน

เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม ที่ห้องแถลงข่าว ไทเป มูนิซิปัล สเตเดียม ฝ่ายจัดการแข่งขันจัดงานแถลงข่าวความพร้อมก่อนการแข่งขันฟุตบอล เอเชียน คัพ 2027 รอบคัดเลือก กลุ่มดี นัดที่สี่ ระหว่าง ไต้หวัน เปิดบ้านรับการมาเยือน ทีมชาติไทย ในวันที่ 14 ตุลาคม เวลา 17.30 น.

มาซาทาดะ อิชิอิ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ชาวญี่ปุ่น กล่าวว่า เราเจอคู่ต่อสู้ทีมเดิมอย่างไต้หวัน เกมแรกเราชนะมาได้ เป้าหมายเกมนี้ยังคงเหมือนกัน ไม่ว่าเราจะเล่นเกมเหย้าหรือเกมเยือน เราต้องแก้ไขที่ตัวเรามากกว่า หากเราไปเล่นเกมเยือนแล้วเล่นไม่ดี คู่ต่อสู้ไม่เหมือนเดิมทุกครั้ง มีเปลี่ยนแปลงไป ผมพยายามแก้ไขในสิ่งที่เรายังทำได้ยังไม่ดี”

“สำหรับเกมนี้คงพูดถึงวิธีการเล่นไม่ได้ว่าจะแตกต่างกันอย่างไร แต่อยากจะบอกว่าจากการดูเกมแรก สิ่งไหนที่ต้องปรับปรุงเราจะทำให้ดีกว่าที่ผ่านมา และมารอดูกันตอนเริ่มเกมว่าจะเป็นอย่างไร ในส่วนของณัฐพงษ์ สายริยา มีการเล่นในไทยลีกที่เสถียรและเสมอต้นเสมอปลาย ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นเกมที่ดี และช่วยพูดกระตุ้นแนะนำเพื่อนๆได้ดี”

ด้าน ธีรศักดิ์ เผยพิมาย กล่าวว่า “เรามีการทำการบ้านที่ดีมาโดยตลอดตั้งแต่เข้าแคมป์วันแรก พรุ่งนี้เราจะเก็บสามคะแนนให้ได้ครับ บรรยากาศในทีมดีขึ้นครับจากเกมแรกที่ทำให้เราเก็บสามแต้มในบ้านได้ เกมนี้เช่นกันเราต้องทำให้ได้ เพื่อจะที่จะทำให้แฟนบอลมีความสุขและมีกำลังใจลุยกันต่อในเกมต่อไป ส่วนตัวกดดันครับที่เป็นกองหน้าคนเดียว แต่พี่ๆ คอยซัพพอร์ตตลอด และจะทำให้เต็มที่ครับ จะคว้าชัยชนะให้ได้”

สำหรับ ทีมชาติไทย จะทำการแข่งขันฟุตบอล เอเชียน คัพ 2027 รอบคัดเลือก กลุ่มดี นัดที่สี่ พบกับ ไต้หวัน ที่ไทเป มูนิซิปัล สเตเดียม ในวันที่ 14 ตุลาคม 2568 เวลา 17.30 น. ตามเวลาประเทศไทย ถ่ายทอดสดทาง ช่อง 32, YouTube : BG SPORTS และ True Visions Now

อิชิอิ ปรับ ช้างศึก ดีขึ้น ลั่นย้ำชัย ไต้หวัน

ความเคลื่อนไหวล่าสุดของทีมชาติไทย ก่อนลงสนามพบกับไต้หวัน ในศึกเอเชียน คัพ 2027 รอบคัดเลือก มาซาทาดะ อิชิอิ กุนซือชาวญี่ปุ่น เน้นย้ำถึงการปรับปรุงแก้ไขข้อผิดพลาดจากเกมแรกที่พบกัน เพื่อเป้าหมายในการเก็บชัยชนะต่อเนื่อง

สถานการณ์ของทีมชาติไทยในกลุ่มดี ถือว่าอยู่ในทิศทางที่ดี การเก็บชัยชนะในเกมนี้จะยิ่งเป็นการเสริมสร้างความมั่นใจ และเพิ่มโอกาสในการผ่านเข้ารอบต่อไปอย่างมาก การที่อิชิอิให้ความสำคัญกับการปรับปรุงทีม แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาทีมชาติไทยให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

ความพร้อมของช้างศึก ก่อนลั่นย้ำชัย ไต้หวัน

จากคำสัมภาษณ์ของทั้ง มาซาทาดะ อิชิอิ และ ธีรศักดิ์ เผยพิมาย สะท้อนให้เห็นถึงความพร้อมและความมุ่งมั่นของทีมชาติไทยในการเผชิญหน้ากับไต้หวัน การที่ทีมมีการทำการบ้านอย่างหนัก มีการปรับปรุงแก้ไขข้อผิดพลาด และมีบรรยากาศภายในทีมที่ดี ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่จะนำไปสู่ชัยชนะ

  • การปรับปรุงทีมตามแนวทางของอิชิอิ
  • ความมุ่งมั่นของนักเตะทุกคน
  • บรรยากาศทีมที่เป็นหนึ่งเดียวกัน

ธีรศักดิ์ เผยพิมาย กองหน้าดาวรุ่ง ยอมรับถึงความกดดันในการเป็นกองหน้าตัวเป้า แต่ก็ได้รับกำลังใจและการสนับสนุนจากพี่ๆ ในทีม ทำให้มีความมั่นใจที่จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และคว้าชัยชนะมาครองให้ได้

มาซาทาดะ อิชิอิ ยังได้กล่าวถึง ณัฐพงษ์ สายริยา ว่าเป็นผู้เล่นที่มีความสม่ำเสมอในการเล่นไทยลีก มีการขึ้นเกมที่ดี และสามารถกระตุ้นแนะนำเพื่อนร่วมทีมได้ดี ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญของทีมชาติไทย

สิ่งสำคัญที่สุดคือการที่ทีมชาติไทยต้องโฟกัสที่ตัวเอง ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด และไม่ประมาทคู่ต่อสู้ แม้ว่าเกมแรกจะสามารถเอาชนะมาได้ แต่ไต้หวันก็พร้อมที่จะสู้เต็มที่ในบ้านของตัวเอง

การที่ทีมชาติไทย ภายใต้การคุมทีมของ อิชิอิ ปรับ ช้างศึก ให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับอนาคตของฟุตบอลไทย การให้โอกาสนักเตะดาวรุ่ง การสร้างทีมเวิร์ค และการมีแทคติกที่ชัดเจน ล้วนเป็นสิ่งที่แฟนบอลชาวไทยคาดหวัง

อย่าลืมติดตามชมและเชียร์ทีมชาติไทย ในการแข่งขันฟุตบอล เอเชียน คัพ 2027 รอบคัดเลือก กลุ่มดี นัดที่สี่ พบกับ ไต้หวัน ในวันที่ 14 ตุลาคม 2568 เวลา 17.30 น. ตามเวลาประเทศไทย ถ่ายทอดสดทาง ช่อง 32, YouTube : BG SPORTS และ True Visions Now มาร่วมส่งกำลังใจให้ทัพช้างศึกคว้าชัยชนะกลับบ้านให้ได้!

อิชิอิ ปรับ ช้างศึก ให้ดีขึ้นจริงหรือไม่? เกมกับไต้หวันจะเป็นบทพิสูจน์สำคัญ และชัยชนะจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุด

ที่มา – อิชิอิ ปรับ ช้างศึก ดีขึ้น ลั่นย้ำชัย ไต้หวัน – ธีรศักดิ์ รับกดดันเป็นกองหน้าคนเดียว

อิชิอิ หวัง! ไต้หวันเปิดเกมรุกให้ทีมชาติไทย

เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2568 ที่ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ฟุตบอลชายทีมชาติไทย รวมตัวกันเตรียมออกเดินทางไปยัง ไต้หวัน เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนทำการแข่งขันฟุตบอล เอเชียน คัพ 2027 รอบคัดเลือก กลุ่มดี นัดที่สี่ พบกับ ไต้หวัน ในวันที่ 14 ตุลาคมนี้ เวลา 17.30 น.

การเดินทางครั้งนี้นำโดย มาซาทาดะ อิชิอิ หัวหน้าผู้ฝึกสอนชาวญี่ปุ่น พร้อมด้วยทีมงานสต๊าฟโค้ชและนักกีฬาทั้ง 23 คน อาธิเช่น ชนาธิป สรงกระสินธ์, เบนจามิน เดวิส, สุภโชค สารชาติ, นิโคลัส มิคเกลสัน, วีระเทพ ป้อมพันธุ์ ฯลฯ

ก่อนออกเดินทาง “มาซาทาดะ อิชิอิ” หัวหน้าผู้ฝึกสอน กล่าวว่า “หลังจากที่เราแข่งจบแมตช์แรกด้วยความที่ไม่มีเวลามาก เราได้มีการแบ่งผู้เล่นเพื่อฟื้นฟูร่างกายและอีกชุดได้ฝึกซ้อมบ้าง จากนี้ไปเรามีเวลาอีกสองวันในการลงแทคติกอีกครั้ง การที่โค้ชไต้หวัน บอกว่าจะเปิดเกมรุกมากขึ้นผมอยากให้เป็นแบบนั้นด้วย เพราะหากเขาเล่นเกมรุกมากจะเปิดพื้นที่เข้าทำให้เรามากขึ้น” อิชิอิแสดงความหวังว่า ไต้หวันเปิดเกมรุกให้ทีมชาติไทย จะเป็นผลดีต่อทีม

“เหตุผลที่เรียกนักเตะสองคนทั้งสันติภาพ จันทร์หง่อมและทรงวุฒิ ใคร่ครวญเข้ามาเพิ่มเติม เพราะเป็นผู้เล่นที่คุ้นเคยกันอยู่แล้ว และสามารถเรียกเข้ามาได้เลย เพราะนักเตะบางคนไม่สามารถมาได้หรืออยู่ไกลทำให้เราไม่ได้เรียกมาได้ รวมถึงการเรียกสองคนนี้ผมมีความคิดในใจอยู่แล้วว่าจะให้เขาเรียกยังไงบ้าง”

“หลังจากนี้เราต้องการสามแต้มทุกเกม เพราะด้วยเกมกับเติร์กเมนิสถานเราไม่สามารถทำได้ ทำให้เราต้องมาทดแทนในส่วนที่เราไม่สามารถเก็บแต้มจากนัดนั้นมาได้ แม้ศรีลังกาจะชนะเติร์กเมนิสถานมาได้แต่ผมอยากโฟกัสกับทีมเรามากกว่า แน่นอนว่าเกมต่อไปพวกเขายังได้เจอกันอีก เราต้องเน้นที่ทีมเรามากกว่าที่จะต้องเก็บสามแต้มให้ได้”

ด้าน สันติภาพ จันทร์หง่อม กองหลังทีมชาติไทย กล่าวว่า “พวกเราพร้อมร้อยเปอร์เซ็นต์ ด้วยแทคติกของโค้ชด้วยและนักเตะที่มีอยู่ทุกคนพร้อมเต็มที่แล้ว ผมรู้สึกดีใจทุกครั้งที่ได้ติดทีมชาติ และดีใจที่จะได้รับใช้ชาติในครั้งนี้ ส่วนตัวพร้อมเสมอหากโค้ชเมื่อโค้ชเรียกเข้ามา ทุกอย่างอยู่ที่โค้ชด้วยครับว่าจะเล่นแทคติกแบบแผ่นยังไง ผมมีหน้าที่ทำตามโค้ชครับ จริงๆผมถนัดแบ็คขวาแต่เคยเล่นแบ็คซ้ายมาด้วย แต่อยู่ที่โค้ชว่าจะให้ลงตรงไหนครับ เกมนี้เป็นเกมเยือนเรารู้อยู่แล้วว่าจะต้องไปเก็บสามแต้มให้ได้ครับ”

ขณะที่ ศฤงคาร พรมสุภะ กองหลังทีมชาติไทย กล่าวว่า “หลังจากที่เราได้มีเวลาฟื้นฟูร่างกายและได้ซ้อมในช่วงเช้าที่ผ่านมา ถือว่าทุกคนพร้อมที่จะเดินทางไปเยือนไชนีส ไทเปแล้วครับ เราได้แก้ไขข้อผิดพลาดและเตรียมแผนมาอย่างดี ผมคิดว่าเราจะทำออกมาได้ดีครับ”

“ผมไม่ได้กังวลที่โค้ชไต้หวันบอกว่าจะเปิดเกมรุกมากขึ้น เพราะเราเตรียมตัวมาอย่างดีทั้งเกมรุกและเกมรับ ทีมของเรามีวิธีการที่จะรับมือพวกเขาจากการที่ได้สเกาท์กันมา เป้าหมายในเกมนี้คือต้องเก็บสามแต้ม ทุกคนจะพยายามเล่นกันอย่างเต็มที่ครับ”

สำหรับ ทีมชาติไทย จะทำการแข่งขันฟุตบอล เอเชียน คัพ 2027 รอบคัดเลือก กลุ่มดี นัดที่สี่ พบกับ ไชนีส ไทเป ณ ไทเป มูนิซิปัล สเตเดียม ในวันที่ 14 ตุลาคม 2568 เวลา 17.30 น. ตามเวลาประเทศไทย ถ่ายทอดสดทาง ไทยรัฐ ทีวี ช่อง 32, YouTube : BG SPORTS และ True Visions Now

อิชิอิ หวังเห็น ไต้หวัน เปิดเกมรุกให้ ทีมชาติไทย มีพื้นที่

ทำไมอิชิอิถึงหวังให้ไต้หวันเปิดเกมรุก?

มาซาทาดะ อิชิอิ หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย มองว่าการที่ไต้หวันเปิดเกมรุกมากขึ้น จะทำให้ทีมชาติไทยมีพื้นที่ในการเล่นเกมรุกมากขึ้นเช่นกัน ซึ่งจะเป็นโอกาสที่ดีในการทำประตูและเก็บชัยชนะ

แผนการรับมือเกมรุกของไต้หวัน

แม้ว่าอิชิอิจะหวังให้ไต้หวันเปิดเกมรุกให้ทีมชาติไทย แต่ทีมชาติไทยก็ไม่ได้ประมาทและได้เตรียมแผนการรับมือเกมรุกของไต้หวันมาเป็นอย่างดี ทั้งในส่วนของเกมรับและการโต้กลับเร็ว

เป้าหมายของทีมชาติไทย

เป้าหมายหลักของทีมชาติไทยในการแข่งขันครั้งนี้คือการเก็บสามแต้มให้ได้ทุกนัด เพื่อโอกาสในการผ่านเข้ารอบคัดเลือก เอเชียน คัพ 2027

นักเตะทีมชาติไทยทุกคนต่างมุ่งมั่นและพร้อมที่จะทำหน้าที่ของตนเองอย่างเต็มที่ เพื่อนำชัยชนะกลับมาให้แฟนบอลชาวไทย อิชิอิ หวังเห็น ไต้หวัน เปิดเกมรุกให้ ทีมชาติไทย เพื่อช่วยให้ทีมบรรลุเป้าหมายนั้น

การที่อิชิอิออกมาให้สัมภาษณ์ในลักษณะนี้แสดงให้เห็นถึงความมั่นใจในศักยภาพของทีมชาติไทย และความเชื่อมั่นว่าทีมจะสามารถรับมือกับทุกสถานการณ์ได้เป็นอย่างดี

สิ่งสำคัญที่สุดคือการที่นักเตะทุกคนเล่นด้วยความมุ่งมั่น ทุ่มเท และทำงานเป็นทีม เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ร่วมกัน และสร้างความสุขให้กับแฟนบอลชาวไทยทุกคน

ในฐานะแฟนบอลชาวไทย เรามาร่วมส่งกำลังใจเชียร์ทีมชาติไทยให้ประสบความสำเร็จในการแข่งขัน เอเชียน คัพ 2027 รอบคัดเลือก และคว้าชัยชนะกลับมาฝากพวกเราทุกคนกันนะครับ

ที่มา – อิชิอิ หวังเห็น ไต้หวัน เปิดเกมรุกให้ ทีมชาติไทย มีพื้นที่ – ลั่นเก็บ 3 แต้มทุกนัด

ช้างศึกเชื่อมั่น! เกมเยือนไต้หวันมีพื้นที่มากขึ้น

เมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2568 ที่ยามาโอกะ ฮานาซากะ อคาเดมี 1 ฟุตบอลชายทีมชาติไทย ลงฝึกซ้อมครั้งสุดท้ายที่ประเทศไทย ก่อนออกเดินทางไต้หวัน เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนทำการแข่งขันฟุตบอล เอเชียน คัพ 2027 รอบคัดเลือก กลุ่มดี นัดที่สี่ พบกับ ไต้หวัน ในวันที่ 14 ตุลาคมนี้ เวลา 17.30 น. ถ่ายทอดสดทาง ช่อง 32, ยูทูป : BG SPORTS และ True Visions Now

การฝึกซ้อมครั้งนี้ มาซาทาดะ อิชิอิ หัวหน้าผู้ฝึกสอน นำทัพติวเข้ม โดยเน้นไปที่ลงรายละเอียดแทคติกทั้งเกมรุกและเกมรับ รวมไปถึงการเล่นลูกตั้งเตะ ซึ่งใช้เวลา 1 ชั่วโมง 30 นาที

ปฏิวัติ คำไหม ผู้รักษาประตูทีมชาติไทย จากสโมสร ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด กล่าวว่า “เรามีเวลาพักอยู่หลายวัน ทำให้สามารถฟื้นฟูร่างกายได้ดีก่อนที่จะลงแข่งขันกับไต้หวัน อีกครั้ง เราต้องโฟกัสที่ทีมของเราเป็นหลัก ส่วนตัวผมมั่นใจว่าเราจะสามารถผ่านเกมนี้ไปได้”

“ลูกฟุตบอลอาจจะแตกต่างจากนัดแรกที่เราเพิ่งลงเล่นมา ในตำแหน่งผู้รักษาประตูมีผลอยู่บ้าง เพราะมันค่อนข้างลื่นและน้ำหนักไม่ได้คุ้นชินมาก แต่ยังมีเวลาในการปรับตัวให้ดีขึ้น จุดแข็งของไต้หวันชุดนี้ผมมองว่าเขามีเกมรับที่ค่อนข้างรับต่ำด้วยการเล่นกองหลังห้าคน ทำให้เรามีพื้นที่ค่อนข้างยากในการทำประตู หากเราเพิ่มผู้เล่นเข้าไปจะเหลือคนที่เล่นเกมรับน้อย เราต้องระวังลูกโต้กลับด้วย”

“ส่วนตัวผมคิดว่าเป็นโอกาสดีสำหรับเราหากไต้หวันเปิดเกมรุกในการเล่นในบ้านของเขา เพราะจะทำให้หลังบ้านเขามีพื้นที่ให้กับเรามากขึ้น เพราะเกมรุกของเรามีคุณภาพที่ดีอยู่แล้ว การที่ไม่มีกองหน้าเวลาเราจะเล่นลูกเปิดจากได้ข้างอาจจะมีผลอยู่บ้าง แต่ในเมื่อเราไม่มีเราต้องปรับแก้ตามสถานการณ์ด้วยการเล่นหน้าไลน์แทน เกมฟุตบอลมันต้องปรับเปลี่ยนกันได้เป็นเรื่องปกติครับ”

“จังหวะที่ผมออกมาตัดบอลพลาดทางโค้ชได้มีการพูดถึงลูกนี้เหมือนกัน มันเป็นข้อผิดพลาดที่ต้องกลับมาช่วยกันแก้ไขว่ามันเกิดขึ้นเพราะอะไร และต้องพยายามลดข้อผิดพลาดให้น้อยที่สุด จะไม่ให้เกิดขึ้นอีก”

หลังจากนี้ ทีมชาติไทย จะรวมตัวกันที่ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ในเวลา 17.45 น. เพื่อออกเดินทางไป ประเทศไต้หวัน ในเวลา 20.00 น.

ช้างศึก เชื่อเกมเยือนไต้หวัน มีพื้นที่มากขึ้น

ความพร้อมของทีมชาติไทยก่อนเกมสำคัญที่จะพบกับไต้หวันในการแข่งขันฟุตบอล เอเชียน คัพ 2027 รอบคัดเลือก กลุ่มดี นัดที่สี่ ได้ถูกเน้นย้ำถึงความสำคัญของการปรับตัวและการใช้โอกาสที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์ที่ทีมอาจจะเผชิญหน้ากับความท้าทายในการเจาะแนวรับของคู่ต่อสู้

ปฏิวัติ คำไหม ผู้รักษาประตูของทีมชาติไทย ได้ให้สัมภาษณ์ถึงความเชื่อมั่นในการเผชิญหน้ากับไต้หวัน และมองว่า ช้างศึก เชื่อเกมเยือนไต้หวัน มีพื้นที่มากขึ้น หากไต้หวันเลือกที่จะเปิดเกมรุกมากขึ้นในบ้านของตนเอง นี่จะเป็นโอกาสให้ทีมชาติไทยได้ใช้ประโยชน์จากคุณภาพในเกมรุกที่มีอยู่

การปรับตัวของทีมชาติไทย เมื่อไม่มีกองหน้าตัวเป้า

การขาดหายไปของกองหน้าตัวเป้าอาจส่งผลกระทบต่อการเล่นในแดนหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการเข้าทำจากด้านข้าง อย่างไรก็ตาม ทีมชาติไทยแสดงให้เห็นถึงความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนแผนการเล่น โดยการใช้ผู้เล่นที่สามารถทดแทนในตำแหน่งหน้าไลน์ได้ สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถในการปรับตัวของทีมภายใต้สถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป

ผู้รักษาประตูทีมชาติไทยยังได้กล่าวถึงความแตกต่างของลูกฟุตบอลที่ใช้ในการแข่งขัน ซึ่งอาจส่งผลต่อการเล่นของผู้รักษาประตู แต่ยังมีเวลาให้ปรับตัวและทำความคุ้นเคยกับลูกฟุตบอลใหม่นี้

ช้างศึก เชื่อเกมเยือนไต้หวัน มีพื้นที่มากขึ้น และจะใช้โอกาสนี้ให้เป็นประโยชน์ในการทำประตูและคว้าชัยชนะกลับบ้าน การฝึกซ้อมอย่างหนักและการวิเคราะห์จุดแข็งและจุดอ่อนของคู่ต่อสู้ จะเป็นกุญแจสำคัญในการบรรลุเป้าหมาย

  • การเน้นเกมรุกที่มีคุณภาพ
  • การปรับตัวเมื่อไม่มีกองหน้าตัวเป้า
  • การเตรียมพร้อมสำหรับลูกโต้กลับของไต้หวัน

อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือการไม่ประมาทและให้ความเคารพคู่ต่อสู้ แม้ว่า ช้างศึก เชื่อเกมเยือนไต้หวัน มีพื้นที่มากขึ้น แต่การเล่นอย่างรัดกุมและมีวินัยยังคงเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้น

โดยรวมแล้ว ทีมชาติไทยมีความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจสำหรับการแข่งขันที่จะมาถึง การเดินทางไปไต้หวันเพื่อแข่งขันฟุตบอล เอเชียน คัพ 2027 รอบคัดเลือก เป็นโอกาสสำคัญในการแสดงศักยภาพและสร้างความภาคภูมิใจให้กับแฟนบอลชาวไทย

ในฐานะแฟนบอล เราควรส่งกำลังใจและสนับสนุนทีมชาติไทยอย่างเต็มที่ เพื่อให้พวกเขาสามารถทำผลงานได้ดีและบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ เชื่อมั่นในศักยภาพของทีมและร่วมกันเชียร์ ช้างศึก เชื่อเกมเยือนไต้หวัน มีพื้นที่มากขึ้น และจะคว้าชัยชนะกลับมาได้อย่างแน่นอน!

ที่มา – ช้างศึก เชื่อเกมเยือนไต้หวัน มีพื้นที่มากขึ้น – รับไร้ศูนย์หน้ามีผลต่อการเล่นด้านข้าง

แข่งที่ไหนก็ได้! มาดามแป้ง ประกาศกวาด 4 ทอง ซีเกมส์

ในวงการฟุตบอลไทยกำลังได้รับความสนใจอย่างมาก เมื่อ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้ออกมาแสดงวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนเกี่ยวกับอนาคตของทีมชาติไทย โดยเฉพาะในรายการใหญ่ๆ อย่างเอเชียนคัพและซีเกมส์ ล่าสุด มีข่าวสำคัญที่กลายเป็นหัวข้อร้อน “แข่งที่ไหนก็ได้! มาดามแป้ง ประกาศพาสมาคมบอล กวาด 4 ทอง ซีเกมส์” ซึ่งสะท้อนถึงความมุ่งมั่นที่จะพาทีมชาติประสบความสำเร็จ

แข่งที่ไหนก็ได้! มาดามแป้ง ประกาศพาสมาคมบอล กวาด 4 ทอง ซีเกมส์

ทีมชาติไทย “ช้างศึก” กำลังเตรียมตัวสำหรับโปรแกรมสำคัญในช่วงฟีฟ่าเดย์ เดือนตุลาคมนี้ โดยจะลงสนามในศึกฟุตบอลเอเชียนคัพ 2027 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย กลุ่มดี นัดที่ 3 พบกับทีมชาติไต้หวัน ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน วันที่ 9 ตุลาคม 2568 เวลา 19.30 น. ตามด้วยนัดที่ 4 ซึ่งเป็นการบุกไปเยือนไต้หวัน ที่ไทเป มูนิซิปัล สเตเดียม วันที่ 14 ตุลาคม 2568 เวลา 17.30 น. ปัจจุบัน ทีมไทยมี 3 คะแนน รั้งอันดับ 2 ของกลุ่ม และต้องการชัยชนะทั้งสองนัดเพื่อลุ้นเข้ารอบต่อไปอย่างมีลุ้น

“มาดามแป้ง” ได้ให้สัมภาษณ์ถึงความสำคัญของแมตช์เหล่านี้ โดยย้ำว่าทั้งสองนัดกับไต้หวันเป็นโอกาสทองที่ทีมชาติไทยไม่สามารถพลาดได้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ทีมต้องเก็บชัยชนะให้ได้ เพราะผลงานจะส่งผลโดยตรงต่อการเข้ารอบในเอเชียนคัพ ซึ่งเป็นรายการที่ไทยโหยหามานาน

ความรับผิดชอบของกุนซือและทีมงาน

เมื่อถูกถามถึงอนาคตของมาซาทาดะ อิชิอิ กุนซือชาวญี่ปุ่น หากทีมไม่สามารถทำผลงานได้ตามเป้า มาดามแป้งตอบอย่างหนักแน่นว่า ทุกคนที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นโค้ช นักเตะ หรือสต๊าฟฟ์ ต้องร่วมมือกันรับผิดชอบ เพื่อบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ สิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงผูู้นำที่เน้นทีมเวิร์คและความสามัคคีในสมาคมฟุตบอลไทย

นอกจากโปรแกรมเอเชียนคัพแล้ว มาดามแป้งยังพูดถึงการเตรียมทีมสำหรับมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ซึ่งประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพระหว่างวันที่ 9-20 ธันวาคม 2568 ปัจจุบัน เรื่องสถานที่จัดการแข่งขันฟุตบอลยังไม่ลงตัว โดยมีจังหวัดผู้สมัครเช่น กรุงเทพมหานคร สงขลา และเชียงใหม่ แต่มาดามแป้งมั่นใจว่าอีกไม่นานจะมีบทสรุปที่ชัดเจน อย่างไรก็ตาม เธอเน้นย้ำว่า “แข่งที่ไหนก็ได้!” ตราบใดที่อยู่ในแผ่นดินไทย สิ่งสำคัญคือการโฟกัสที่การทวงเหรียญทองกลับมา เพราะไทยไม่ได้แชมป์ฟุตบอลซีเกมส์ตั้งแต่ปี 2017 ที่มาเลเซีย

วิสัยทัศน์ของมาดามแป้งชัดเจนมาก เธออยากเห็นทีมชาติไทยครองเหรียญทองทั้ง 4 รุ่น คือ ฟุตบอลชาย ฟุตบอลหญิง ฟุตซอลชาย และฟุตซอลหญิง “เล่นที่ไหนก็ได้ แต่อยากได้แชมป์มากกว่า ไม่เพียงแต่ฟุตบอลชายเท่านั้น แต่รวมถึงทุกประเภท” เธอกล่าวด้วยความมุ่งมั่น นี่คือการประกาศที่จุดประกายแรงบันดาลใจให้แฟนบอลไทย

  • ฟุตบอลชาย: ทีมชาติไทยมีศักยภาพสูง ภายใต้การนำของอิชิอิ ต้องปรับแท็คติกให้เหมาะกับคู่แข่งเอเชีย
  • ฟุตบอลหญิง: สาวๆ ช้างนวธารี กำลังมาแรง หลังจากผลงานดีในรายการก่อนหน้า
  • ฟุตซอลชาย: ทีมฟุตซอลไทยเป็นแชมป์เอเชียหลายสมัย ซีเกมส์ต้องเป็นของเรา
  • ฟุตซอลหญิง: การพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จะทำให้กวาดทองได้แน่นอน

การเป็นเจ้าภาพซีเกมส์ครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสทองสำหรับไทยในการแสดงศักยภาพด้านกีฬาฟุตบอล สมาคมกีฬาฟุตบอลฯ กำลังเร่งวางแผนฝึกซ้อม โดยเน้นพัฒนานักเตะเยาวชนให้พร้อมสำหรับรายการใหญ่ นอกจากนี้ มาดามแป้งยังผลักดันให้มีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน เช่น สนามฝึกซ้อมและศูนย์พัฒนา เพื่อยกระดับฟุตบอลไทยให้เทียบชั้นทีมชั้นนำในเอเชีย

ในมุมมองของผู้เชี่ยวชาญ การประกาศ “แข่งที่ไหนก็ได้! มาดามแป้ง ประกาศพาสมาคมบอล กวาด 4 ทอง ซีเกมส์” ไม่ใช่แค่คำพูด แต่เป็นแผนยุทธศาสตร์ที่ชัดเจน แฟนบอลไทยต่างคาดหวังว่าทีมชาติจะสร้างประวัติศาสตร์ ด้วยการครองเหรียญทองทั้งหมดในซีเกมส์ครั้งนี้ ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นของยุคทองฟุตบอลไทย

สุดท้ายนี้ แฟนๆ ช้างศึกอย่าลืมติดตามและให้กำลังใจทีมชาติไทยในทุกนัด สำหรับโปรแกรมเอเชียนคัพและซีเกมส์ที่กำลังจะมาถึง การสนับสนุนจากแฟนบอลคือพลังสำคัญที่ทำให้ทีมประสบความสำเร็จ ลุ้นเชียร์ไปด้วยกันเพื่อทองคำแห่งความภาคภูมิใจ!

ที่มา – แข่งที่ไหนก็ได้! มาดามแป้ง ประกาศพาสมาคมบอล กวาด 4 ทอง ซีเกมส์

โค้ชเตี้ย อยากคุมทีมชาติไทย

โค้ชเตี้ย อยากคุมทีมชาติไทย: เสียงชื่นชมจากเดอะตุ๊ก

ในวงการฟุตบอลไทยช่วงนี้ มีข่าวที่น่าสนใจมาก ๆ เลยทีเดียว โดยเฉพาะเรื่อง โค้ชเตี้ย อยากคุมทีมชาติ ซึ่งกลายเป็นหัวข้อที่แฟนบอลพูดถึงกันอย่างกว้างขวาง หลังจากที่ “เดอะตุ๊ก” นาวาอากาศเอก ปิยะพงษ์ ผิวอ่อน ตำนานนักฟุตบอลทีมชาติไทย และปัจจุบันดำรงตำแหน่งกรรมการกลางและโฆษกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้ออกมาแสดงความชื่นชอบในสไตล์การทำทีมของ “โค้ชเตี้ย” สะสม พบประเสริฐ กุนซือของพีที ประจวบ เอฟซี ในไทยลีก

เดอะตุ๊กย้ำชัดว่าสไตล์ของโค้ชเตี้ยนั้นเหมาะสมกับทีมระดับกลาง เพราะเขาคุมทีมมาอย่างยาวนานกว่า 10 ปี รู้จักวิธีการพัฒนาทีมให้แข็งแกร่งและยั่งยืน หากเดอะตุ๊กมีอำนาจตัดสินใจ เขาจะแต่งตั้งโค้ชเตี้ยเป็นกุนซือทีมชาติไทยชุดใหญ่ทันที คำพูดนี้ไม่ใช่แค่คำชื่นชมธรรมดา แต่เป็นการยอมรับจากรุ่นพี่ในวงการที่ผ่านประสบการณ์มามากมาย ทำให้แฟนบอลหลายคนเริ่มมองเห็นศักยภาพของโค้ชเตี้ยในระดับชาติ

โค้ชเตี้ย อยากคุมทีมชาติ: ความรู้สึกจริงใจจากกุนซือมากประสบการณ์

หลังจากได้ยินคำชื่นชมจากเดอะตุ๊ก โค้ชเตี้ย สะสม พบประเสริฐ ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์อย่างตรงไปตรงมา โดยบอกว่า “เคลิ้มเหมือนกันนะ ใครบ้างไม่อยากติดทีมชาติ ทหารยังอยากไปรบเลย ผมก็อยากรับใช้ชาติเหมือนกัน เพราะฉะนั้นไม่ต้องเขินอาย ผมไม่ได้เป็นคนพูด ถ้าผมเป็นคนพูดว่าไปอย่าง แต่นี่ระดับตำนานเป็นคนพูด ขอบคุณพี่ตุ๊กมาก” คำพูดนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความรักชาติของโค้ชเตี้ย ที่พร้อมจะก้าวขึ้นสู่เวทีใหญ่หากมีโอกาส

สำหรับประวัติของโค้ชเตี้ยนั้น เขาเริ่มเข้ามารับงานกับพีที ประจวบตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปี 2024 และสามารถพาทีมรอดจากการตกชั้นได้อย่างน่าประทับใจ แม้จะเพิ่งเข้ามาคุมทีมในช่วงวิกฤติก็ตาม ในฤดูกาล 2025/26 ทีมพีที ประจวบ ลงเล่นไป 6 นัด ชนะ 1 เสมอ 3 และแพ้ 2 นัด มี 6 คะแนน รั้งอันดับ 10 ของตารางไทยลีก ซึ่งถือว่าฟอร์มดีขึ้นกว่าเดิมมาก

สไตล์การทำทีมของโค้ชเตี้ยที่ทำให้เดอะตุ๊กประทับใจ

สไตล์การทำทีมของโค้ชเตี้ยเน้นไปที่การสร้างวินัยและการเล่นที่เป็นระบบ โดยเฉพาะการปรับจูนผู้เล่นให้เข้ากับจุดแข็งของทีม เขามีประสบการณ์คุมทีมหลายสโมสรในไทยลีก ทำให้รู้จักนักเตะไทยเป็นอย่างดี หาก โค้ชเตี้ย อยากคุมทีมชาติ จริง ๆ นี่อาจเป็นโอกาสทองสำหรับฟุตบอลไทย ที่ต้องการกุนซือที่เข้าใจวัฒนธรรมและสไตล์การเล่นของนักเตะไทยแบบลึกซึ้ง

ในอดีต โค้ชเตี้ยเคยประสบความสำเร็จกับทีมชลบุรี เอฟซี และทีมอื่น ๆ ที่เขาคุม โดยพาทีมคว้าแชมป์ลีกคัพและสร้างทีมที่แข็งแกร่ง การที่เขาสามารถปรับทีมพีที ประจวบให้มีฟอร์มดีขึ้นในฤดูกาลนี้ ยิ่งตอกย้ำถึงความสามารถของเขา แฟนบอลหลายคนเริ่มวิเคราะห์ว่า หากโค้ชเตี้ยได้คุมทีมชาติ เขาน่าจะนำเสนอแท็คติกที่เน้นการครองบอลและการโต้กลับเร็ว ซึ่งเหมาะกับผู้เล่นไทยที่มีความคล่องตัวสูง

  • ประสบการณ์ยาวนานกว่า 10 ปีในไทยลีก
  • ความสำเร็จในการพาทีมรอดตกชั้น
  • สไตล์ทำทีมที่เหมาะกับทีมชาติไทย
  • ความมุ่งมั่นในการรับใช้ชาติ

นอกจากนี้ การที่เดอะตุ๊กซึ่งเป็นตำนานทีมชาติออกมาชื่นชม ก็ช่วยเพิ่มน้ำหนักให้กับโค้ชเตี้ยในสายตาของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ หากมีการเปลี่ยนแปลงกุนซือทีมชาติในอนาคต ชื่อของโค้ชเตี้ยอาจถูกพิจารณาอย่างจริงจัง

อย่างไรก็ตาม ฟุตบอลไทยยังมีกุนซือฝีมือดีอีกหลายคน แต่การที่ โค้ชเตี้ย อยากคุมทีมชาติ และได้รับการสนับสนุนจากรุ่นพี่ ทำให้แฟนบอลรู้สึกตื่นเต้นกับความเป็นไปได้นี้ ในยุคที่ทีมชาติไทยต้องการก้าวสู่ระดับเอเชียที่สูงขึ้น การมีโค้ชที่เข้าใจนักเตะไทยลึกซึ้งอย่างโค้ชเตี้ย อาจเป็นกุญแจสำคัญ

สุดท้ายนี้ ผมคิดว่าโอกาสนี้เป็นสิ่งที่น่าจับตา หากสมาคมฯ มองเห็นศักยภาพจริง แฟนบอลไทยอาจได้เห็นโค้ชเตี้ยนำทัพช้างศึกสู่ความสำเร็จ คุณคิดอย่างไร ลองแสดงความเห็นในคอมเมนต์ด้านล่างนี้ และอย่าลืมติดตามข่าวฟุตบอลไทยอัปเดตที่นี่!

ที่มา – เคลิ้มนะ ! โค้ชเตี้ย ยอมรับอยากคุมทีมชาติ หลัง เดอะตุ๊ก ชื่นชอบสไตล์ทำทีม

รถทัวร์ทำงาน! แฟนบอลไทย แห่จองกฐิน โมฮานาด

ศึกฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน “คิงส์คัพ” ครั้งที่ 51 จบลงด้วยชัยชนะของอิรักที่เฉือนเอาชนะทีมชาติไทยไป 1-0 ที่สนามกีฬากลาง จ.กาญจนบุรี ท่ามกลางความผิดหวังของแฟนบอลชาวไทย

แต่สิ่งที่กลายเป็นประเด็นร้อนแรงหลังเกมคือเหตุการณ์ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ เมื่อ โมฮานาด อาลี ชามารี แข้งเบอร์ 10 ของอิรัก เข้าตัดเกมใส่ ชนาธิป สรงกระสินธ์ เพลย์เมกเกอร์คนสำคัญของทีมชาติไทย อย่างน่ากังขา จนได้รับใบแดงไล่ออกจากสนามไป เหตุการณ์นี้จุดประกายความไม่พอใจให้กับแฟนบอลไทยเป็นอย่างมาก

หลังจบเกม รถทัวร์ทำงาน! แฟนบอลไทย จำนวนมากแห่กันไปที่เฟซบุ๊กของ โมฮานาด อาลี โดยใช้ชื่อว่า Mohanad Ali โดยต่างเข้าไปแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับจังหวะดังกล่าว พร้อมทั้งวิพากษ์วิจารณ์การกระทำที่ดูรุนแรงและไม่จำเป็น

รถทัวร์ทำงาน! แฟนบอลไทย แห่จองกฐิน โมฮานาด

กระแส รถทัวร์ทำงาน! แฟนบอลไทย ครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความรักและหวงแหนในนักเตะขวัญใจของพวกเขา อย่าง ชนาธิป สรงกระสินธ์ และความไม่พอใจต่อการกระทำที่มองว่าไม่สมควรในสนามฟุตบอล

ทำไมแฟนบอลไทยถึงไม่พอใจ โมฮานาด อาลี?

ความไม่พอใจของแฟนบอลไทยที่มีต่อ โมฮานาด อาลี มาจากหลายปัจจัยประกอบกัน:

  • จังหวะฟาวล์รุนแรง: แฟนบอลมองว่าจังหวะที่ โมฮานาด อาลี เข้าสกัด ชนาธิป นั้นมีความรุนแรงเกินความจำเป็น และอาจเป็นอันตรายต่อนักเตะ
  • ผลกระทบต่อทีมชาติ: การบาดเจ็บของ ชนาธิป อาจส่งผลเสียต่อทีมชาติไทยในการแข่งขันรายการสำคัญอื่นๆ ในอนาคต
  • ความรักใน ชนาธิป: ชนาธิปเป็นนักเตะที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย แฟนบอลจึงรู้สึกหวงแหนและปกป้องเขาเป็นพิเศษ

เหตุการณ์นี้เป็นอุทาหรณ์ให้นักกีฬาและแฟนบอลตระหนักถึงความสำคัญของน้ำใจนักกีฬา และการเคารพซึ่งกันและกัน แม้ในการแข่งขันที่ดุเดือด

รถทัวร์ทำงาน! แฟนบอลไทย แห่จองกฐิน โมฮานาด กลายเป็นปรากฏการณ์ที่สะท้อนให้เห็นถึงพลังของ Social Media ในการแสดงออกถึงความรู้สึกและความคิดเห็นของคนในสังคม แม้ว่าการแสดงออกนั้นควรอยู่ในขอบเขตของความเหมาะสมและไม่ละเมิดสิทธิของผู้อื่น

ที่มา – รถทัวร์ทำงาน! แฟนบอลไทย แห่จองกฐิน โมฮานาด แข้งอิรักตัวเตะชนาธิป (มีวาร์ป)

ทีมชาติไทย งดซ้อม 6 ก.ย. เหตุแผนรั่ว

“ช้างศึก” ทีมชาติไทย โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม เอาชนะฟิจิ 3-0 ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศฟุตบอลชิงถ้วยพระราขทาน “คิงสคัพ” ครั้งที่ 51 กับอิรัก วันที่ 7 ก.ย. ได้สำเร็จ ซึ่งหลังจากนี้ วันที่ 5-6 ก.ย. จะกลับเข้าสู่โปรแกรมฝึกซ้อม เพื่อเตรียมตัวสำหรับรอบชิงชนะเลิศ

ก่อนหน้านี้ฝ่ายจัดการแข่งขันได้เปิดให้แฟนบอลได้มีโอกาสเข้ามารับชมการฝึกซ้อมของนักเตะทีมชาติไทยอย่างใกล้ชิด ทำให้แฟนบอลจำนวนมากตื่นเต้นที่จะได้เห็นนักเตะขวัญใจแบบใกล้ชิดติดขอบสนามซ้อม อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ล่าสุดได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว

แต่ล่าสุดฝ่ายจัดการแข่งขันได้ประกาศผ่านเพจ 51st King’s Cup 2025 Kanchanaburi ว่า “ประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน ในวันที่ 6 กันยายน 68 ทีมชาติไทย งดเข้าชมการฝึกซ้อม” สร้างความผิดหวังให้กับแฟนบอลจำนวนไม่น้อยที่ตั้งใจจะเดินทางมาชมการฝึกซ้อม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สาเหตุที่ฝ่ายจัดการแข่งขันประกาศเช่นนี้ เนื่องจากมีสื่อบางแห่ง เอาแผนการซ้อมของทีมชาติไทย งดเข้าชมซ้อม วันที่ 6 ก.ย. ออกไปเผยแพร่ลงทางโซเชียลมีเดีย เป็นเหตุให้ มาซาทาดะ อิชิอิ กุนซือชาวญี่ปุ่นของทัพช้างศึก เกิดความไม่พอใจ ทำให้แฟนบอลเมืองกาญจน์พลาดชมนักเตะขวัญใจแบบใกล้ชิด

อย่างไรก็ตามการฝึกซ้อม วันนี้ (วันที่ 5 ก.ย.) จะยังเปิดให้แฟนบอลเข้าชมปกติ เนื่องจากเป็นการซ้อมเบาๆ ไม่ได้ใส่แท็กติกอะไรมากมาย เป็นการวอร์มอัพร่างกายและปรับความเข้าใจกันเล็กน้อยก่อนถึงวันสำคัญ

ทีมชาติไทย งดเข้าชมซ้อม วันที่ 6 ก.ย.

การตัดสินใจของทีมงานสตาฟฟ์โค้ชที่ประกาศให้ ทีมชาติไทย งดเข้าชมซ้อม วันที่ 6 ก.ย. นั้น แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในรายละเอียดและความมุ่งมั่นที่จะรักษาความลับของแผนการเล่นเพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศกับอิรักที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 7 ก.ย. นี้

การรักษาความลับของแผนการเล่นเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในวงการฟุตบอลระดับสูง เพราะเพียงแค่คู่ต่อสู้รู้ถึงแผนการเล่นของเรา พวกเขาก็สามารถวางแผนรับมือและแก้เกมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้โอกาสในการคว้าชัยชนะของเราลดน้อยลง

ทำไมทีมชาติไทยถึงงดเข้าชมซ้อมวันที่ 6 ก.ย.?

  • เพราะมีสื่อนำแผนแท็กติกไปเผยแพร่
  • มาซาทาดะ อิชิอิ ไม่พอใจ
  • ต้องการรักษาความลับของแผนการเล่น

ถึงแม้ว่าการงดให้เข้าชมการฝึกซ้อมจะเป็นเรื่องที่น่าเสียดายสำหรับแฟนบอล แต่ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นเพื่อผลประโยชน์สูงสุดของทีมชาติไทยในการแข่งขันคิงส์คัพครั้งนี้ เราหวังว่าแฟนบอลจะเข้าใจและสนับสนุนทีมชาติไทยต่อไป

การแข่งขันคิงส์คัพครั้งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับทีมชาติไทย เพราะเป็นการแข่งขันในบ้านต่อหน้าแฟนบอลชาวไทย และเป็นโอกาสที่ดีที่จะสร้างความมั่นใจและแสดงศักยภาพของทีมก่อนที่จะมีการแข่งขันในระดับที่สูงขึ้นต่อไปในอนาคต

ดังนั้นการตัดสินใจของทีมงานสตาฟฟ์โค้ชจึงเป็นสิ่งที่สมเหตุสมผลและเป็นการตัดสินใจที่คำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของทีมชาติไทยอย่างแท้จริง

เราเชื่อว่าทีมชาติไทยจะสามารถเอาชนะอิรักและคว้าแชมป์คิงส์คัพมาครองได้สำเร็จ ด้วยการเตรียมตัวที่ดี การวางแผนที่รอบคอบ และการสนับสนุนจากแฟนบอลชาวไทยทุกคน

มาร่วมส่งกำลังใจให้ทีมชาติไทยคว้าแชมป์คิงส์คัพไปพร้อมๆ กัน!

ที่มา – ทีมชาติไทย ประกาศงดเข้าชมซ้อม วันที่ 6 ก.ย. เหตุมีสื่อนำแผนแท็กติกไปเผยแพร่

ปรเมศย์กระหายเล่นทีมชาติ! หวังโชว์ศักยภาพ

ปรเมศย์ อาจวิไล แมน ออฟ เดอะ แมตช์ ในเกมที่ทีมชาติไทยถล่มเอาชนะฟิจิ 3-0 ผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศฟุตบอลชิงถ้วยพระราขทาน “คิงสคัพ” ครั้งที่ 51 กับอิรัก วันที่ 7 ก.ย. กล่าวว่า “วันนี้เราเก็บชัยชนะได้ก็ถือเป็นสิ่งที่ดีก็ขอมอบชัยชนะเกมนี้ให้กับแฟนบอลทุกคนที่เข้ามาเชียร์ แน่นอนว่าเรามีสิ่งที่ต้องปรับปรุงในเกมนี้ เพื่อไปใช้เกมที่จะเจอกับ อิรัก เรามีเวลาไม่มาก ก็ต้องฟื้นฟูร่างกายให้ดีและพร้อมเจอกับอิรัก”

“ผมเพิ่งไปญี่ปุ่นครั้งแรกก็แน่นอนยังไม่ได้มีชื่อเล่นในเกมของเจลีก ส่วนใหญ่จะเป็นตัวสำรอง รวมถึงเกมอุ่นเครื่องที่สโมสรมี มีความกระหายที่อยาจะเล่นการกลับมาทีมชาติครั้งนี้ผมก็อยากจะเล่นเพื่อช่วยทีมชาติไทยให้ได้มากที่สุดและโชว์ศักยภาพว่าคุณภาพของเรา หลังได้ไปเล่นที่ญี่ปุ่นเป็นอย่างไร ก็อยากให้ช่วยประเทศของเรามีการพัฒนาในเรื่องของฟุตบอลมากยิ่งขึ้น”

“ก่อนอื่นต้องขอบคุณแฟนบอลที่มากันเยอะ วันนี้เราก็เก็บชัยชนะได้ อยากเชิญชวนแฟนบอลมาให้กำลังใจ ผมว่าแฟนบอลก็เป็นสิ่งสำคัญทำให้พวกเรามีแรงขับเคลื่อนเพื่อคว้าแชมป์ คิงส์ คัพในครั้งนี้ให้ได้ครับ”

โปรแกรมนัดต่อไปของ ทีมชาติไทย จะทำการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทานคิงส์ คัพ ครั้งที่ 51 รอบชิงชนะเลิศ พบกับ อิรัก ทีมอันดับ 58 ของโลก ที่สนามกีฬากลางจังหวัดกาญจนบุรี (กลีบบัว) ในวันที่ 7 ก.ย. เวลา 20.00 น.

ปรเมศย์ ลั่นกระหายเล่นทีมชาติ หวังโชว์ศักยภาพในรอบชิง หลังไปค้าแข้งที่ญี่ปุ่นมา

หลังจากที่ ปรเมศย์ อาจวิไล ได้รับตำแหน่งแมน ออฟ เดอะ แมตช์ ในเกมที่ทีมชาติไทยเอาชนะฟิจิไปอย่างสวยงาม เขาก็ได้ออกมาเปิดเผยถึงความรู้สึกและความมุ่งมั่นในการลงเล่นให้กับทีมชาติไทยในครั้งนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากการไปค้าแข้งที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่สำคัญอย่างยิ่งในชีวิตการค้าแข้งของเขา

ปรเมศย์ กล่าวว่าเขามีความกระหายที่จะลงเล่นให้กับทีมชาติไทยเป็นอย่างมาก และต้องการที่จะแสดงศักยภาพของตนเองให้แฟนบอลชาวไทยได้เห็น รวมถึงเป็นการพิสูจน์ให้เห็นถึงการพัฒนาฝีเท้าหลังจากการไปเล่นในเจลีก ประเทศญี่ปุ่น แม้ว่าโอกาสในการลงเล่นที่ญี่ปุ่นอาจจะยังไม่มากนัก แต่เขาก็ได้เรียนรู้และพัฒนาตนเองอยู่เสมอ และพร้อมที่จะนำประสบการณ์เหล่านั้นมาช่วยทีมชาติไทยให้ได้มากที่สุด

ปรเมศย์เผยความรู้สึกหลังเกมและเป้าหมายในการเล่นทีมชาติ

นอกจากนี้ ปรเมศย์ ยังได้กล่าวขอบคุณแฟนบอลชาวไทยที่เข้ามาให้กำลังใจทีมชาติไทยอย่างล้นหลาม และเชิญชวนให้แฟนบอลเข้ามาเชียร์ทีมชาติไทยในนัดชิงชนะเลิศกับอิรัก เพื่อเป็นแรงขับเคลื่อนให้ทีมชาติไทยคว้าแชมป์คิงส์คัพในครั้งนี้ให้ได้

การกลับมาเล่นให้กับทีมชาติไทยในครั้งนี้ สำหรับ ปรเมศย์ จึงเป็นเหมือนโอกาสครั้งสำคัญที่จะได้แสดงให้เห็นถึงการเติบโตในฐานะนักฟุตบอลอาชีพ รวมถึงเป็นการตอบแทนความไว้วางใจที่ได้รับจากแฟนบอลชาวไทย และเป็นการพิสูจน์ให้เห็นว่านักเตะไทยก็สามารถพัฒนาและก้าวไปสู่ระดับสากลได้

เกมชิงชนะเลิศกับอิรักจึงเป็นเกมที่สำคัญอย่างยิ่ง ไม่เพียงแต่สำหรับทีมชาติไทยเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสสำหรับ ปรเมศย์ ในการแสดงศักยภาพและพิสูจน์ตัวเองให้แฟนบอลได้เห็น หากเขาได้รับโอกาสในการลงสนาม เขาจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยทีมชาติไทยคว้าแชมป์คิงส์คัพมาครองให้ได้

ร่วมส่งกำลังใจให้นักเตะทีมชาติไทยในการแข่งขันคิงส์คัพ และติดตามผลงานของ ปรเมศย์ อาจวิไล ในการแข่งขันครั้งนี้ไปด้วยกัน!

ที่มา – ปรเมศย์ ลั่นกระหายเล่นทีมชาติ หวังโชว์ศักยภาพในรอบชิง หลังไปค้าแข้งที่ญี่ปุ่นมา