พระพันปีหลวง

พสกนิกรลงนามถวายความอาลัยพระพันปีหลวง รพ.จุฬาฯ

รพ.จุฬาลงกรณ์ เปิดให้พสกนิกร ลงนามถวายความอาลัย พระพันปีหลวง จนถึงเวลา 20.00 น.

เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 25 ต.ค.68 ณ อาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศ มีประชาชนสวมชุดสีดำเดินทางมาถวายความอาลัยแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

ตามประกาศสำนักพระราชวัง สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จสวรรคต เมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2568 ท่ามกลางความเศร้าโศกของประชาชนคนไทยทั้งประเทศนั้น โรงพยาบาลจุฬาฯ เปิดให้ประชาชนชาวไทย ร่วมลงนามถวายความอาลัยแด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ณ บริเวณชั้น 1 โถงอาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์

โดยมีประชาชนจากทั่วสารทิศเดินทางมาร่วมถวายความอาลัยเนืองแน่น ต่างรู้สึกเศร้าโศกเสียใจต่อการจากไปของพระองค์ท่าน ที่ทรงเป็นที่รักและเคารพยิ่งของปวงชนชาวไทย

ทั้งประชาชนทั่วไป รวมถึงบุคคลในแวดวงสำคัญต่างๆ อาทิ นางฐาปนี เตชะเจริญวิกุล เจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เบอร์ลี่ ยุคเกอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BJC พร้อมด้วยสามี นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ของ บริษัท บิ๊กซี รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (BRC) ที่เดินทางมาแสดงความอาลัยแด่ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยมีเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ฯ คอยอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน

ต่อมา เวลา 15.30 น. ทางโรงพยาบาลได้เปิดให้สื่อมวลชนเข้าเก็บภาพบรรยากาศการลงนาม โดยทางโรงพยาบาล เปิดจุดลงนามถวายความอาลัยจนถึงเวลา 20.00 น. ณ บริเวณหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้าอาลัย ขณะที่เจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกให้การลงนามเป็นไปอย่างเรียบร้อย

พสกนิกรโศกเศร้า หลั่งไหลลงนามถวายความอาลัย พระพันปีหลวง ณ รพ.จุฬาลงกรณ์

การเปิดให้ประชาชนได้ร่วมลงนามถวายความอาลัยครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความรักและความผูกพันที่ประชาชนชาวไทยมีต่อสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง อย่างหาที่สุดมิได้

พสกนิกรจากทุกสารทิศต่างเดินทางมาด้วยใจที่เต็มไปด้วยความโศกเศร้า เพื่อแสดงความเคารพและรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน ที่ทรงทำเพื่อประเทศชาติและประชาชนมาโดยตลอดพระชนม์ชีพ

บรรยากาศโดยรอบโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์เต็มไปด้วยความเงียบสงบและความอาลัยรัก ประชาชนต่างพร้อมใจกันสวมชุดสีดำเพื่อเป็นการแสดงความเคารพและไว้อาลัย

ความสำคัญของการลงนามถวายความอาลัย

การลงนามถวายความอาลัยแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีและความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน ที่ทรงมีต่อประเทศชาติและประชาชนชาวไทย การมาร่วมลงนามถวายความอาลัย พสกนิกรโศกเศร้า หลั่งไหลลงนามถวายความอาลัย พระพันปีหลวง ณ รพ.จุฬาลงกรณ์ จึงเป็นการแสดงออกถึงความรักและผูกพันที่เรามีต่อพระองค์ท่าน

  • เป็นการแสดงความเคารพและความอาลัย
  • เป็นการรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ
  • เป็นการรวมพลังใจของคนไทยทั้งชาติ

ประชาชนจากทุกเพศทุกวัย ต่างเดินทางมาร่วมแสดงความอาลัยแด่พระองค์ท่านอย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นถึงความรักและความเคารพที่ประชาชนชาวไทยมีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างลึกซึ้ง

ขอเชิญชวนประชาชนชาวไทยร่วมกันแสดงความอาลัยแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และร่วมกันสืบสานพระราชปณิธานของพระองค์ท่าน เพื่อสร้างสรรค์สังคมไทยให้เจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้นไป

พสกนิกรโศกเศร้า หลั่งไหลลงนามถวายความอาลัย พระพันปีหลวง ณ รพ.จุฬาลงกรณ์ เป็นภาพที่สะท้อนถึงความรัก ความผูกพัน และความเคารพที่ประชาชนชาวไทยมีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างแท้จริง

ที่มา – พสกนิกรโศกเศร้า หลั่งไหลลงนามถวายความอาลัย พระพันปีหลวง ณ รพ.จุฬาลงกรณ์

นายกฯ แถลงการณ์ พระพันปีหลวง สวรรคต

“นายกฯ” แถลงการณ์ พระพันปีหลวง สวรรคต สูญเสียแม่ผู้ยิ่งใหญ่ของแผ่นดินไทย ยัน รัฐบาล จะจัดงานพระบรมศพอย่างสมพระเกียรติ ขอประชาชนร่วมแสดงความอาลัย

เมื่อเวลา 15.15 น. วันที่ 25 ต.ค. 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย แถลงการณ์ผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย เรื่อง สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สวรรคต

โดยมีใจความสำคัญว่า พี่น้องประชาชนชาวไทยทุกท่าน วันที่ 24 ตุลาคม 2568 เป็นวันที่ปวงชนชาวไทย ไม่ปรารถนาให้มาถึงเพราะเป็นวันที่สร้างความโทมนัส และความสูญเสียอันยิ่งใหญ่มายังพสกนิกรชาวไทยทุกคน

เมื่อได้ทราบจากแถลงการณ์ของสำนักพระราชวังว่า สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้เสด็จสวรรคต ด้วยพระอาการสงบ ณ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สิริพระชนมพรรษา 93 พรรษา

ในเวลานี้ มีแต่เสียงสะอื้นไห้ดังก้องอยู่ในหัวใจของปวงชนชาวไทยทั่วทั้งแผ่นดิน ดวงใจของพสกนิกรถูกปกคลุมด้วยม่านหมอกแห่งความโศกเศร้า ความอาดูรที่ไม่อาจหาคำใดมาทดแทนได้ เพราะพระองค์ท่านทรงเป็นทั้งแรงบันดาลใจ ความรัก และความเมตตาอันเป็นนิรันดร์

การเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ถือได้ว่าเป็นการสูญเสีย “แม่ผู้ยิ่งใหญ่ของแผ่นดินไทย” ที่ประชาชนทุกคนต่างรักและเทิดทูนไว้เหนือเกล้าเหนือกระหม่อม

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเป็นมิ่งขวัญ เป็นที่เทิดทูนสักการะของปวงชนชาวไทย ทั้งยังทรงเป็นสมเด็จพระบรมราชชนนีของพระมหากษัตริย์ที่สุดแสนประเสิรฐ เป็นหลักชัยของปวงชนชาวไทยทุกหมู่เหล่า สมดั่งพระราชอิสริยยศที่สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นหาที่สุดมิได้

ทรงประกอบพระราชกรณียกิจนานัปการ ด้วยพระปรีชาและพระวิริยอุตสาหะมาตลอดรัชสมัยแห่งพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โครงการในพระราชดำริ ทั้งด้านศิลปาชีพ ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ด้านการสาธารณสุข ล้วนก่อให้เกิดประโยชน์สุขแก่พสกนิกรทุกหมู่เหล่า

ทรงเป็นสมเด็จพระราชินีของราชอาณาจักรไทยที่เป็นความภาคภูมิใจของพสกนิกรชาวไทย และเป็นที่ยอมรับ ชื่นชมในพระปรีชาสามารถจากนานาอารยประเทศ

ในการนี้ รัฐบาล จะดำเนินการจัดงานพระบรมศพอย่างสมพระเกียรติ และขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวไทยทุกคน ร่วมใจแสดงความอาลัยและน้อมรำลึกจิตอันเป็นบุญกุศล ถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

พร้อมทั้งใช้พลังความรัก ความสามัคคี และความจงรักภักดีของพวกเราชาวไทย ถวายเป็นกำลังพระทัยแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบรมวงศานุวงค์ทุกพระองค์ ในห้วงเวลาแห่งความโศกเศร้านี้ โดยพร้อมเพรียงกันทั่วประเทศ

กระผม ในนามรัฐบาล และพสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า ขอน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ และขอตั้งจิตอธิษฐาน ขอส่งเสด็จสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ให้ทรงสถิตสถาพรในทิพยวิมาน และขอให้ได้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณปกเกล้าปกกระหม่อมให้ราชอาณาจักรไทย และปวงชนชาวไทย ผู้เป็นพสกนิกรของพระองค์ท่านให้มีความผาสุขร่มเย็นภายใต้ร่มพระบารมีแห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ดังที่เคยเป็นตลอดมา

ท้ายที่สุดนี้ ในนามของพสกนิกรชาวไทย ขอถวายพระพรชัยมงคลแด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี และพระบรมราชจักรีวงศ์ทุกพระองค์ ให้ทรงมีพระราชหฤทัยที่เข้มแข็ง สถิตย์เป็นมิ่งขวัญ ปกเกล้าปกกระหม่อมอาณาประชาราษฎร์ และราชอาณาจักรไทย ให้มีความสุขสวัสดิ์สถาพรตลอดกาลนาน

นายกฯ แถลงการณ์ พระพันปีหลวง สวรรคต

ความโศกเศร้าจากการเสด็จสวรรคตของพระพันปีหลวง

การสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่นี้ นับเป็นการสูญเสียครั้งสำคัญของประเทศไทย การที่ นายกฯ แถลงการณ์ พระพันปีหลวง สวรรคต ทำให้พสกนิกรชาวไทยทั่วประเทศต่างรู้สึกเศร้าโศกเสียใจอย่างสุดซึ้ง สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ฯ ทรงเป็นที่รักและเคารพอย่างสูงของคนไทยทุกคน พระองค์ทรงเป็นแม่ของแผ่นดินอย่างแท้จริง

รัฐบาลจะจัดงานพระบรมศพอย่างสมพระเกียรติเพื่อแสดงความอาลัยต่อการเสด็จสวรรคตของพระองค์ท่าน และขอเชิญชวนประชาชนชาวไทยทุกคนร่วมกันแสดงความอาลัยและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์

ขอให้พวกเราทุกคนร่วมกันส่งกำลังใจให้กับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ในช่วงเวลาแห่งความโศกเศร้านี้

การนายกฯ แถลงการณ์ พระพันปีหลวง สวรรคต เป็นการแจ้งข่าวที่สร้างความเสียใจให้กับคนไทยทั้งประเทศ แต่ก็เป็นโอกาสให้เราได้รำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและคุณงามความดีที่พระองค์ท่านได้ทรงสร้างไว้ให้กับประเทศชาติและประชาชน

การที่ นายกฯ แถลงการณ์ พระพันปีหลวง สวรรคต ทำให้เราชาวไทยได้ตระหนักถึงความสำคัญของการมีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นศูนย์รวมจิตใจของคนในชาติ และเป็นพลังสำคัญในการพัฒนาประเทศให้เจริญก้าวหน้าสืบไป

ที่มา – นายกฯ แถลงการณ์ พระพันปีหลวง สวรรคต ขอประชาชนร่วมแสดงความอาลัย

กรมศิลป์ เตรียมสร้างพระเมรุมาศ ประชุม 26 ต.ค.นี้

‘กรมศิลป์’ เตรียมความพร้อมออกแบบ ก่อสร้างพระเมรุมาศ บูรณะราชรถ ราชยาน ใช้ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ เรียกประชุมผู้ที่เกี่ยวข้อง 26 ต.ค.นี้

เมื่อวันที่ 25 ต.ค.68 นายพนมบุตร จันทรโชติ อธิบดีกรมศิลปากร เปิดเผยว่า กรมศิลปากรเป็นหน่วยงานหลักในการออกแบบและการก่อสร้างพระเมรุมาศ และอาคารประกอบ ซึ่งได้มีการเตรียมความพร้อมผู้ปฏิบัติงานในการถวาย ความจงรักภักดี แด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถพระบรมราชชนนีพันปีหลวง อย่างสมเกียรติ เน้นความงดงาม สง่างาม เป็นไปตามโบราณราชประเพณี

นอกจากนี้ ยังจัดเตรียมการดำเนินงาน บูรณะราชรถ ราชยาน เพื่อใช้ในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ งานหนังสือจดหมายเหตุ ซึ่งจะดำเนินการจดบันทึกเหตุการณ์ ตั้งแต่มีประกาศจากสำนักพระราชวัง เรื่อง สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สวรรคต

ซึ่งเป็นการรวมพลังและหัวใจใจขอข้าราชการ เจ้าหน้าที่กรมศิลปากรทุกฝ่าย มาร่วมกันทำงาน อย่างสุดความสามารถ และให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างดีที่สุด ทั้งนี้ต้องเป็นไปตามข้อสั่งการจากรัฐบาล

“กรมศิลปากรมีบุคลากรที่เคยถวายงานพระเมรุมาศมาหลายยุคสมัย ซึ่งแม้ว่าจะเกษียณอายุราชการไปแล้ว ก็ยังเป็นที่ปรึกษาของกรมศิลปากร จะทำงานร่วมกับบุคลากรของสำนักช่างสิบหมู่ สำนักสถาปัตยกรรม สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ และสำนักพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ จึงมั่นใจว่าการดำเนินงานจะเป็นไปตามโบราณราชประเพณีและอนุรักษ์ศิลปกรรมไทยไว้อย่างดีที่สุด อย่างไรก็ตามจะมีการประชุมผู้ที่เกี่ยวข้องของกรมศิลปากร ในวันที่ 26 ตุลาคมนี้ ” อธิบดีกรมศิลปากร กล่าว

กรมศิลป์ เตรียมความพร้อมออกแบบ ก่อสร้างพระเมรุมาศ เรียกประชุมผู้ที่เกี่ยวข้อง 26 ต.ค.นี้

การเตรียมความพร้อมของกรมศิลปากรในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจและความละเอียดรอบคอบในการดำเนินงานพระราชพิธีที่สำคัญยิ่งนี้ การที่กรมศิลปากรได้รวบรวมบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญจากหลากหลายสาขา ไม่ว่าจะเป็นช่างสิบหมู่ สถาปนิก นักจดหมายเหตุ และนักพิพิธภัณฑ์ ล้วนเป็นสัญญาณที่ดีที่จะทำให้พระราชพิธีเป็นไปอย่างสมพระเกียรติและถูกต้องตามโบราณราชประเพณี

นอกจากนี้ การที่กรมศิลปากรให้ความสำคัญกับการบูรณะราชรถและราชยาน รวมถึงการจดบันทึกเหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะอนุรักษ์และสืบทอดมรดกทางวัฒนธรรมของชาติให้คงอยู่สืบไป การทำงานร่วมกันของบุคลากรจากหลากหลายสำนักภายในกรมศิลปากรเป็นเครื่องยืนยันถึงความสามัคคีและความร่วมมือในการปฏิบัติงานเพื่อประเทศชาติ

ความสำคัญของการออกแบบและก่อสร้างพระเมรุมาศ

การออกแบบและก่อสร้างพระเมรุมาศถือเป็นงานที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากเป็นสัญลักษณ์ของการถวายความเคารพและความอาลัยแด่พระบรมศพ การที่กรมศิลปากรได้เตรียมความพร้อมในการออกแบบ ก่อสร้างพระเมรุมาศ อย่างพิถีพิถัน จึงเป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีและความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้

การประชุมผู้ที่เกี่ยวข้องในวันที่ 26 ตุลาคมนี้ จะเป็นโอกาสอันดีที่กรมศิลปากรจะได้หารือและวางแผนการดำเนินงานให้เป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพสูงสุด การมีส่วนร่วมของบุคลากรที่มีประสบการณ์ในการถวายงานพระเมรุมาศในอดีต จะช่วยให้การดำเนินงานเป็นไปตามโบราณราชประเพณีและอนุรักษ์ศิลปกรรมไทยไว้อย่างดีที่สุด กรมศิลป์ดำเนินการทุกขั้นตอน เพื่อให้การ ก่อสร้างพระเมรุมาศ เป็นไปด้วยความเรียบร้อย และสมพระเกียรติ.

การที่กรมศิลปากรเตรียมความพร้อมออกแบบ ก่อสร้างพระเมรุมาศ ถือเป็นหน้าที่สำคัญในการอนุรักษ์และสืบทอดศิลปวัฒนธรรมไทย การดำเนินงานนี้ต้องการความร่วมมือจากผู้เชี่ยวชาญหลายสาขา และต้องเป็นไปตามโบราณราชประเพณี รวมถึงข้อสั่งการจากรัฐบาล การที่กรมศิลปากรมีการประชุมผู้ที่เกี่ยวข้องในวันที่ 26 ตุลาคมนี้ เป็นการแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในการวางแผนและเตรียมการเพื่อให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างราบรื่นและมีประสิทธิภาพ

สำหรับประชาชนทั่วไป การรับรู้ถึงความมุ่งมั่นและความตั้งใจของกรมศิลปากรในการเตรียมความพร้อมออกแบบ ก่อสร้างพระเมรุมาศ อาจช่วยสร้างความเชื่อมั่นและความไว้วางใจในกระบวนการจัดงานพระราชพิธีที่สำคัญนี้ การติดตามข่าวสารและความคืบหน้าเกี่ยวกับการดำเนินงานของกรมศิลปากรจะเป็นประโยชน์ในการทำความเข้าใจและร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการแสดงความเคารพและความอาลัย

ท้ายนี้ ขอเป็นกำลังใจให้กรมศิลปากรและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่านในการปฏิบัติหน้าที่อันสำคัญยิ่งนี้ ขอให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างราบรื่น ประสบความสำเร็จ และสมพระเกียรติ

ที่มา – ‘กรมศิลป์’ เตรียมความพร้อมออกแบบ ก่อสร้างพระเมรุมาศ เรียกประชุมผู้ที่เกี่ยวข้อง 26 ต.ค.นี้

ฮุน มาเนต ถวายความอาลัย พระพันปีหลวง

ฮุน มาเนต ถวายความอาลัย พระพันปีหลวง ยกย่องทรงเสียสละเพื่อปวงชน ทรงพระวิริยะในการอนุรักษ์และส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมไทย

เมื่อวันที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้ส่งหนังสือแสดงความอาลัยอย่างสุดซึ้งถึง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีของประเทศไทย เนื่องในการเสด็จสวรรคตของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยในหนังสือดังกล่าวได้ระบุถึงความรู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของประเทศไทย

ในนามของรัฐบาลและประชาชนแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา ข้าพเจ้าขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งมายังรัฐบาลและประชาชนชาวไทย ต่อการสูญเสียอันยิ่งใหญ่และไม่อาจทดแทนได้ของ “พระมารดาแห่งชาติไทย” ผู้ทรงเป็นที่รักยิ่งของปวงชน

ในช่วงเวลาแห่งความโศกเศร้าอย่างยิ่งนี้ ข้าพเจ้าและประชาชนชาวกัมพูชาขอร่วมส่งความระลึกถึงและคำภาวนาไปยังพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จะทรงได้รับการจดจำด้วยความเคารพและเทิดทูนสูงสุด สำหรับพระราชจริยวัตรแห่งความเสียสละเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีของประชาชนชาวไทย พระวิริยะอุตสาหะในการอนุรักษ์และส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมไทย ตลอดจนพระปณิธานอันแน่วแน่ในการพัฒนาชนบท ได้ทรงสร้างมรดกอันทรงคุณค่าไว้เป็นแรงบันดาลใจแก่ชนรุ่นต่อไป

การแสดงความอาลัยจากนายกรัฐมนตรีกัมพูชาในครั้งนี้ ถือเป็นการแสดงออกถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศ และความเคารพรักที่ผู้นำกัมพูชามีต่อพระบรมราชชนนีพันปีหลวงของไทย นอกเหนือจากนี้ ยังแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของบทบาทของพระองค์ในการพัฒนาประเทศ และการสร้างความสัมพันธ์อันดีกับนานาชาติ

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเป็นที่เคารพรักของปวงชนชาวไทย ด้วยพระราชกรณียกิจมากมายที่ทรงปฏิบัติเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน ทรงเป็นแบบอย่างของความเสียสละ ความเมตตา และความห่วงใยที่มีต่อพสกนิกรของพระองค์ การเสด็จสวรรคตของพระองค์จึงนำมาซึ่งความโศกเศร้าเสียใจอย่างสุดซึ้งแก่ชาวไทยทุกคน

ฮุน มาเนต ถวายความอาลัย พระพันปีหลวง

การที่ ฮุน มาเนต ถวายความอาลัย พระพันปีหลวง ถือเป็นเรื่องที่น่าซาบซึ้งใจอย่างยิ่ง แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างประเทศไทยและกัมพูชา และยังเป็นการยกย่องพระราชกรณียกิจอันยิ่งใหญ่ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงอุทิศพระวรกายและพระสติปัญญาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนชาวไทยมาอย่างยาวนาน

พระราชกรณียกิจของพระองค์เป็นที่ประจักษ์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทรงได้รับการยกย่องในฐานะผู้นำที่ทรงมีวิสัยทัศน์กว้างไกล และทรงเป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมความเข้าใจอันดีระหว่างประเทศ

ความสำคัญของการที่ ฮุน มาเนต ถวายความอาลัย พระพันปีหลวง

การที่ ฮุน มาเนต ถวายความอาลัย พระพันปีหลวง นั้นมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะเป็นการแสดงให้เห็นถึงความเคารพและความชื่นชมที่นานาชาติมีต่อพระองค์ นอกจากนี้ ยังเป็นการยืนยันถึงบทบาทสำคัญของพระองค์ในการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศ และการส่งเสริมความเข้าใจซึ่งกันและกันระหว่างวัฒนธรรม

พระราชกรณียกิจของพระองค์จะเป็นที่จดจำและยกย่องตลอดไป และจะเป็นแรงบันดาลใจให้แก่คนรุ่นหลังในการทำความดีเพื่อสังคมและประเทศชาติ

ในนามของประชาชนชาวไทย ข้าพเจ้าขอขอบคุณนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต และรัฐบาลกัมพูชา สำหรับความเสียใจและความอาลัยที่ท่านได้แสดงต่อการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของประเทศไทย ความรู้สึกของท่านเป็นที่ซาบซึ้งและเป็นกำลังใจให้เราก้าวผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปได้

แม้ว่าสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จะเสด็จสวรรคตแล้ว แต่พระราชกรณียกิจและพระคุณูปการของพระองค์จะยังคงอยู่ในความทรงจำของพวกเราตลอดไป พระองค์จะทรงเป็นแรงบันดาลใจให้เราทำความดีและพัฒนาประเทศชาติต่อไป

ที่มา – ฮุน มาเนต ถวายความอาลัย พระพันปีหลวง ยกย่องทรงเสียสละเพื่อปวงชน

พสกนิกรแน่นรพ.จุฬาฯ ส่งเสด็จ พระพันปีหลวง

พสกนิกรแน่นโรงพยาบาลจุฬาฯ เฝ้ารอส่งเสด็จ พระพันปีหลวง ครั้งสุดท้าย ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ เผย พระองค์ทรงเป็นแม่ของแผ่นดินอย่างแท้จริง

วันที่ 25 ต.ค.2568 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศในช่วงบ่ายที่บริเวณอาคารภูมิสิริมังคลานุสรณ์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เต็มไปด้วยประชาชนจำนวนมากที่เดินทางมาจากทั่วประเทศ เพื่อร่วมรอส่งเสด็จสู่สวรรคาลัยของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ท่ามกลางความโศกเศร้าและอาลัยอย่างสุดซึ้ง

ประชาชนต่างพร้อมใจแต่งกายไว้ทุกข์ ถือพระบรมฉายาลักษณ์ของพระองค์ไว้แนบอก เพื่อแสดงความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ บางรายถึงกับหลั่งน้ำตาเมื่อเอ่ยถึงพระเมตตาที่พระองค์ทรงมีต่อพสกนิกรไทยตลอดรัชกาล

พสกนิกรแน่นโรงพยาบาลจุฬาฯ เฝ้ารอส่งเสด็จ พระพันปีหลวง ครั้งสุดท้าย ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ เผย พระองค์ทรงเป็นแม่ของแผ่นดินอย่างแท้จริง

พสกนิกรแน่นโรงพยาบาลจุฬาฯ เฝ้ารอส่งเสด็จ พระพันปีหลวง ครั้งสุดท้าย ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ เผย พระองค์ทรงเป็นแม่ของแผ่นดินอย่างแท้จริง

น.ส.เฉลิมศรี อายุ 60 ปี ชาวจังหวัดนนทบุรี กล่าวด้วยน้ำเสียงสั่นเครือว่า เดินทางออกจากบ้านตั้งแต่เช้ามืดเพื่อมารอส่งเสด็จให้ใกล้ชิดพระองค์เป็นครั้งสุดท้าย ตนเคยมารับเสด็จหลายครั้ง และรู้สึกประทับใจในพระเมตตาและพระราชกรณียกิจที่ทรงห่วงใยประชาชน

สิ่งที่ตนจำไม่ลืม คือพระองค์ทรงมอบโอกาสให้คนไทยมีอาชีพ มีรายได้ ผ่านโครงการส่งเสริมศิลปาชีพ ทรงทำให้คนเล็ก ๆ อย่างเรามีคุณค่าในงานฝีมือของตัวเอง วันนี้ตั้งใจจะอยู่รอส่งเสด็จจนถึงวาระสุดท้าย จะพักค้างอยู่บริเวณโรงพยาบาล เพราะอยากอยู่ใกล้พระองค์

ด้าน นางธันยพร อายุ 65 ปี ชาวจังหวัดชลบุรี เดินทางมาร่วมรอส่งเสด็จด้วยหัวใจแห่งความภักดี กล่าวว่า เคยรับเสด็จพระองค์ท่านมาตั้งแต่อายุ 15 ปี และทุกครั้งที่มีโอกาสก็มักจะไปร่วมรับขบวนเสด็จอยู่เสมอ ตนดูข่าวพระราชสำนักมาตลอด ทุกครั้งที่ได้ทราบข่าวว่าพระองค์ประชวรก็รู้สึกเป็นห่วงและใจหาย พอได้ยินข่าวสวรรคต ก็ตัดสินใจเดินทางมาทันที เพื่อจะได้รอส่งเสด็จเป็นครั้งสุดท้าย

นางธันยพร กล่าวว่า สิ่งที่ประทับใจไม่เคยลืม คือครั้งหนึ่งเคยติดตามข่าวพระองค์ขณะเสด็จไปมอบโอกาสให้ชาวเขาที่ภาคเหนือ พระองค์ทรงพูดจาไพเราะ ทรงมีพระสุรเสียงอ่อนโยน และทรงเอ่ยเรียกประชาชนว่า “หนูจ๊ะ” ด้วยน้ำเสียงอบอุ่น ทำให้ตนรู้สึกซาบซึ้งและจดจำภาพนั้นไว้ในใจเสมอ พระองค์ทรงเป็นแม่ของแผ่นดินอย่างแท้จริง

ตลอดพระชนม์ชีพ พระพันปีหลวงทรงอุทิศพระวรกายเพื่อประโยชน์สุขของราษฎร ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการ ทั้งด้านการแพทย์ การศึกษา และการส่งเสริมอาชีพ โดยเฉพาะโครงการส่งเสริมศิลปาชีพ ที่ทรงริเริ่มเพื่อสร้างรายได้และอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทยให้คงอยู่สืบไป พระองค์ยังทรงฟื้นฟูผ้าไหมไทยให้กลับมาเจริญรุ่งเรือง และเผยแพร่ชื่อเสียงของผ้าไทยให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก

ขณะเดียวกัน ตลอดทั้งวันยังคงมีประชาชนทยอยเดินทางมาที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อร่วมถวายความอาลัย โดยเจ้าหน้าที่ได้อำนวยความสะดวกด้านจุดพักและน้ำดื่มให้กับประชาชนที่มาปักหลักรอส่งเสด็จในพื้นที่

พสกนิกรแน่นรพ.จุฬาฯ เฝ้ารอส่งเสด็จ พระพันปีหลวง

ความรู้สึกอาลัยรักและภักดีต่อ พระพันปีหลวง เป็นสิ่งที่พสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่ามีร่วมกัน การเดินทางมา พสกนิกรแน่นรพ.จุฬาฯ เฝ้ารอส่งเสด็จ พระพันปีหลวง ในครั้งนี้ เป็นการแสดงออกถึงความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้

ความประทับใจของประชาชนที่มีต่อพระพันปีหลวง

ประชาชนที่มาร่วม พสกนิกรแน่นรพ.จุฬาฯ เฝ้ารอส่งเสด็จ พระพันปีหลวง ต่างเล่าถึงความประทับใจที่เคยได้รับจากพระองค์ ทั้งเรื่องพระเมตตา พระอัจฉริยภาพ และพระราชกรณียกิจนานัปการที่ทรงทำเพื่อประเทศชาติและประชาชน

การสูญเสียครั้งนี้เป็นความเศร้าโศกของคนไทยทั้งประเทศ แต่พระเกียรติคุณและพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ จะยังคงสถิตอยู่ในใจของพสกนิกรตลอดไป

ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนร่วมกันสืบสานพระราชปณิธานของพระองค์ท่าน เพื่อพัฒนาประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้ายิ่งขึ้นไป

วันนี้ พสกนิกรแน่นรพ.จุฬาฯ เฝ้ารอส่งเสด็จ พระพันปีหลวง เพื่อแสดงความอาลัยเป็นครั้งสุดท้าย

ที่มา – พสกนิกรแน่นรพ.จุฬาฯ เฝ้ารอส่งเสด็จ พระพันปีหลวง ครั้งสุดท้าย

ราชกิจจาฯ ประกาศ: พระพันปีหลวงสวรรคต แนวทางไว้ทุกข์

ราชกิจจาฯ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สวรรคต และแนวทางการไว้ทุกข์

วันที่ 25 ตุลาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงสวรรคต อย่างเป็นทางการ โดยมีรายละเอียดเกี่ยวกับแนวทางการไว้ทุกข์

ประกาศดังกล่าว สืบเนื่องจากประกาศสำนักพระราชวัง เรื่อง สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สวรรคต ลงวันที่ 24 ตุลาคม 2568 ซึ่งรัฐบาลได้รับทราบด้วยความโทมนัสอย่างยิ่ง จึงได้มีประกาศแนวทางการปฏิบัติสำหรับการไว้ทุกข์ ดังนี้

  1. ให้สถานที่ราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานของรัฐ และสถานศึกษาทุกแห่ง ลดธงครึ่งเสา เป็นเวลา 30 วัน ตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป
  2. ให้ข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ และเจ้าหน้าที่ของรัฐไว้ทุกข์ มีกำหนด 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป

สำหรับประชาชนทั่วไป ขอความร่วมมือพิจารณาดำเนินการตามความเหมาะสม เพื่อร่วมแสดงความอาลัย

ประกาศ ณ วันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2568

อนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี

ราชกิจจาฯ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สวรรคต และแนวทางการไว้ทุกข์

ราชกิจจาฯ ประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สวรรคต และแนวทางการไว้ทุกข์

ราชกิจจาฯ ประกาศ: พระพันปีหลวงสวรรคต แนวทางไว้ทุกข์

การประกาศ ราชกิจจาฯ ประกาศ: พระพันปีหลวงสวรรคต แนวทางไว้ทุกข์ นี้ ถือเป็นการแจ้งให้ทราบโดยทั่วกันถึงการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และแนวทางปฏิบัติในช่วงเวลาแห่งความโศกเศร้าของประเทศ

รายละเอียดสำคัญในราชกิจจาฯ ประกาศ: พระพันปีหลวงสวรรคต แนวทางไว้ทุกข์

  • การลดธงครึ่งเสา: สถานที่ราชการและหน่วยงานต่างๆ จะลดธงครึ่งเสาเป็นเวลา 30 วัน
  • การไว้ทุกข์ของข้าราชการ: ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐจะไว้ทุกข์เป็นเวลา 1 ปี
  • แนวทางสำหรับประชาชน: ขอความร่วมมือประชาชนพิจารณาการไว้ทุกข์ตามความเหมาะสม

ในช่วงเวลาที่ ราชกิจจาฯ ประกาศ: พระพันปีหลวงสวรรคต แนวทางไว้ทุกข์ นี้ สิ่งสำคัญคือการร่วมกันแสดงความอาลัยและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงมีต่อประเทศชาติและประชาชนชาวไทย

การปฏิบัติตามแนวทางที่ระบุใน ราชกิจจาฯ ประกาศ: พระพันปีหลวงสวรรคต แนวทางไว้ทุกข์ เป็นการแสดงออกถึงความเคารพและความโศกเศร้าอย่างเหมาะสมต่อการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของประเทศชาติ การลดธงครึ่งเสา การไว้ทุกข์ของข้าราชการ และการที่ประชาชนร่วมพิจารณาแนวทางการแสดงความอาลัย ล้วนเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงความจงรักภักดีและความกตัญญูรู้คุณ

ขอให้ช่วงเวลาแห่งความโศกเศร้านี้ เป็นเครื่องเตือนใจให้เรารักและสามัคคีกัน เพื่อร่วมกันพัฒนาประเทศชาติให้เจริญก้าวหน้าต่อไป ตามรอยพระยุคลบาทของพระองค์

ที่มา – ราชกิจจาฯ ประกาศสำนักนายกฯ พระพันปีหลวง สวรรคต แนวทางไว้ทุกข์

ประชาชนร่วมอาลัย สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง สวรรคต

พสกนิกรถวายความอาลัย สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง สวรรคต ณ โรงพยาบาลจุฬาฯ ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ ร่ำไห้กอดพระฉายาลักษณ์

เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 25 ต.ค.2568 ที่บริเวณประตู 7 โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย ประชาชนบางส่วนร่วมทยอยสวมใส่ชุดดำถือถือพระบรมฉายาลักษณ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง มาไว้อาลัย

ภายหลังสำนักพระราชวัง เผยแพร่ประกาศสวรรคต เมื่อวันที่ 24 ต.ค.2568 เวลา 21.21 น. ที่ผ่านมา บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า ประชาชนต่างรู้สึกเศร้าเสียใจกับการจากไปของสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

พสกนิกรถวายความอาลัย สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง สวรรคต ณ โรงพยาบาลจุฬาฯ ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ ร่ำไห้กอดพระฉายาลักษณ์

พสกนิกรถวายความอาลัย สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง สวรรคต ณ โรงพยาบาลจุฬาฯ ซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ ร่ำไห้กอดพระฉายาลักษณ์

นางกาญจนีต์ สุวรรณโณ อายุ 57 ปี ชาวคลองสามวา เปิดเผยว่า เมื่อทราบข่าวเมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา จึงเดินทางมาจากบ้านแถวเขตคลองสามวา ภายหลังจากทราบข่าวรู้สึกช็อกเป็นอย่างมาก เหมือนประเทศไทยสูญเสียบุคคลสำคัญอย่างพระพันปีหลวงไป

ซึ่งเป็นถือเป็นพระราชินีของในหลวงรัชกาลที่ 9 เป็นที่รักของประชาชน พระองค์ทำอะไรมากมายให้ประเทศชาติเพื่อให้ประชาชนอยู่เย็นเป็นสุข และพระองค์ท่านไม่เคยทอดทิ้งประชาชน ไม่ว่าจะเป็นในหลวงรัชกาลที่ 9 รวมถึงในหลวงรัชกาลที่ 10 และพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ จึงมารอไว้อาลัยเพื่อรอส่งเสด็จเป็นครั้งสุดท้ายบริเวณดังกล่าว

พสกนิกรถวายความอาลัย สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง สวรรคต

ความสูญเสียครั้งนี้เป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของปวงชนชาวไทย สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเป็นที่รักและเคารพยิ่งของประชาชนชาวไทย พระองค์ทรงอุทิศพระวรกายและพระสติปัญญาเพื่อประโยชน์สุขของพสกนิกรเสมอมา พระมหากรุณาธิคุณของพระองค์จะยังคงสถิตอยู่ในใจของประชาชนชาวไทยตลอดไป

ประชาชนชาวไทยทั่วทุกสารทิศต่างร่วมกันแสดงความอาลัยต่อการเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง หลายคนเดินทางไปยังโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เพื่อถวายความอาลัยและแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้ง

ประชาชนแสดงความอาลัย สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง สวรรคต

บรรยากาศโดยรอบโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย เต็มไปด้วยความโศกเศร้า ประชาชนต่างสวมชุดดำและถือพระบรมฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง บางคนร่ำไห้ด้วยความเสียใจ

นอกจากนี้ หลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนได้จัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อถวายความอาลัยแด่สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เช่น การจัดพิธีทางศาสนา การจัดนิทรรศการ และการจัดกิจกรรมบำเพ็ญประโยชน์

การเสด็จสวรรคตของสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง เป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ของประเทศไทย ขอให้พวกเราชาวไทยร่วมกันน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ และสืบสานพระราชปณิธานของพระองค์ต่อไป

ขอเชิญชวนทุกท่านร่วมแสดงความอาลัยและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง

ที่มา – พสกนิกรถวายความอาลัย สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง สวรรคต