เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เมื่อคนร้ายลอบยิงฐานตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ นราธิวาส 41 ที่ดุซงญอ ทำให้ ส.ต.ต. ได้รับบาดเจ็บจากกระสุนปืน

เมื่อเวลา 18.05 น. ของวันที่ 29 ตุลาคม 2568 มีรายงานข่าวว่าเกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบจำนวน บุกโจมตีฐานปฏิบัติการของเจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยปฏิบัติการพิเศษ นราธิวาส 41 โดยใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดยิงใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ มว.ฉก.นปพ.นราธิวาส 41

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่ฐาน มว.ฉก.นปพ.นราธิวาส 41 ตำบลและอำเภอดุซงญอ จังหวัดนราธิวาส ส่งผลให้ ส.ต.ต.ภาณุวัฒน์ ทองโอ อายุ 29 ปี ได้รับบาดเจ็บจากคมกระสุนของคนร้าย โดยมีบาดแผลที่แขนซ้าย ขาซ้าย และขาขวา อาการโดยรวมรู้สึกตัวดี และถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลจะแนะ ก่อนถูกส่งต่อไปยังโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์เพื่อทำการรักษาต่อไป

ในขณะนี้ เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงกำลังอยู่ในระหว่างการเข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุเพื่อรวบรวมหลักฐานและสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป เหตุการณ์ ส.ต.ต.เจ็บ ลอบยิงฐานตร.หน่วยปฏิบัติการพิเศษ นราธิวาส 41 ที่ดุซงญอ ครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่ตอกย้ำถึงความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และความเสี่ยงที่เจ้าหน้าที่ต้องเผชิญในการปฏิบัติหน้าที่เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง

ส.ต.ต.เจ็บ ลอบยิงฐานตร.หน่วยปฏิบัติการพิเศษ นราธิวาส 41 ที่ดุซงญอ

สถานการณ์ความรุนแรงในจังหวัดนราธิวาสยังคงเป็นสิ่งที่ต้องจับตามองอย่างใกล้ชิด เหตุการณ์ ส.ต.ต.เจ็บ ลอบยิงฐานตร.หน่วยปฏิบัติการพิเศษ นราธิวาส 41 ที่ดุซงญอ แสดงให้เห็นถึงความท้าทายในการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่เสี่ยงภัย และความจำเป็นในการเพิ่มมาตรการป้องกันเพื่อปกป้องชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและเจ้าหน้าที่

มาตรการรับมือเหตุการณ์ ส.ต.ต.เจ็บ ลอบยิงฐานตร.หน่วยปฏิบัติการพิเศษ นราธิวาส 41 ที่ดุซงญอ

การตอบสนองต่อเหตุการณ์ ส.ต.ต.เจ็บ ลอบยิงฐานตร.หน่วยปฏิบัติการพิเศษ นราธิวาส 41 ที่ดุซงญอ จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนในพื้นที่ เพื่อร่วมกันสร้างความเข้าใจและความไว้วางใจซึ่งกันและกัน รวมถึงการสนับสนุนการทำงานของเจ้าหน้าที่ในการรักษาความสงบเรียบร้อย

• การเพิ่มความเข้มงวดในการลาดตระเวนและตรวจสอบพื้นที่เสี่ยง
• การเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างเจ้าหน้าที่กับประชาชนในพื้นที่
• การพัฒนาศักยภาพของเจ้าหน้าที่ในการรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน
• การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติ

นอกจากนี้ การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งและความไม่เข้าใจในระดับท้องถิ่นก็เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อสร้างสภาวะแวดล้อมที่เอื้อต่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขและความเจริญรุ่งเรืองของพื้นที่

เหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในจังหวัดชายแดนใต้ สะท้อนให้เห็นถึงความจำเป็นในการทบทวนและปรับปรุงยุทธศาสตร์ในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่ การมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน การสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ และการส่งเสริมการศึกษา จะเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างความมั่นคงและยั่งยืนในระยะยาว การแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนใต้ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ด้วยความมุ่งมั่นและความร่วมมือจากทุกฝ่าย เราสามารถสร้างสันติสุขและอนาคตที่ดีกว่าให้กับพื้นที่แห่งนี้ได้

ที่มา – ส.ต.ต.เจ็บ ลอบยิงฐานตร.หน่วยปฏิบัติการพิเศษ นราธิวาส 41 ที่ดุซงญอ นราธิวาส

สถานการณ์ไฟใต้เดือดระอุขึ้นอีกครั้ง! เกิดเหตุการณ์คนร้ายวางระเบิดถล่มรถกระบะของอาสาสมัครรักษาดินแดน (อส.) ชุดคุ้มครองตำบล (ชคต.) เรียง ในพื้นที่รือเสาะ จังหวัดนราธิวาส ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บหลายราย

เมื่อเวลา 15.30 น. ของวันที่ 27 ตุลาคม 2568 ได้รับรายงานว่าเกิดเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดเจ้าหน้าที่ อส. ชุด ชคต.เรียง บนถนนในพื้นที่บ้านมูบา (บ้านย่อยบ้านบลูกาฮีเล) หมู่ 6 ตำบลบาตง อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส ภายหลังเกิดเหตุ เจ้าหน้าที่หน่วยเก็บกู้และตรวจสอบวัตถุระเบิด (EOD) ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ได้รุดเข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุอย่างเร่งด่วน

จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบหลุมระเบิดขนาดใหญ่บริเวณริมถนน และรถกระบะของเจ้าหน้าที่ อส. ถูกแรงระเบิดอย่างรุนแรงจนกระเด็นพลิกคว่ำ สภาพพังเสียหายยับเยิน พบร่างของ มญ.ไซนูเด็ง ดอฆอ หัวหน้าชุด ชคต.เรียง เสียชีวิต ณ จุดเกิดเหตุ นอกจากนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่ อส. ได้รับบาดเจ็บอีกจำนวนหลายนาย ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เร่งนำตัวส่งโรงพยาบาลเพื่อทำการรักษาต่อไป

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการเก็บรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุอย่างละเอียด เพื่อนำไปวิเคราะห์และสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมทั้งเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่อย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการก่อเหตุซ้ำ

เหตุการณ์ไฟใต้เดือดที่รือเสาะ

เหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในอำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาสครั้งนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่สะท้อนให้เห็นถึงสถานการณ์ไฟใต้เดือดที่ยังคงเป็นปัญหาสำคัญที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วนและต่อเนื่อง

ความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับเจ้าหน้าที่ อส. ผู้เสียสละตนเพื่อปกป้องความสงบสุขของประชาชน เป็นสิ่งที่น่าเศร้าใจอย่างยิ่ง และเป็นเครื่องเตือนใจให้ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันอย่างจริงจังเพื่อนำสันติสุขกลับคืนสู่พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

ความคืบหน้าล่าสุดเหตุไฟใต้เดือด

ล่าสุด เจ้าหน้าที่กำลังเร่งสืบสวนเพื่อหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมายโดยเร็วที่สุด และได้มีการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ในการลาดตระเวนและเฝ้าระวังในพื้นที่เสี่ยง เพื่อป้องกันเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้นอีก

เหตุการณ์ความรุนแรงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ยังคงเป็นสิ่งที่น่ากังวลใจ และส่งผลกระทบต่อความรู้สึกและความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง การแก้ไขปัญหาความขัดแย้งและความรุนแรงในพื้นที่ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ในการสร้างความเข้าใจ สร้างความไว้วางใจ และสร้างโอกาสในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน เพื่อให้เกิดสันติสุขอย่างยั่งยืนในพื้นที่

นอกจากการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดแล้ว การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในพื้นที่ การส่งเสริมการศึกษา การสร้างงาน และการแก้ไขปัญหาความยากจน ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยลดเงื่อนไขที่นำไปสู่ความรุนแรงได้ การเปิดโอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจและบริหารจัดการท้องถิ่นของตนเอง ก็จะช่วยสร้างความรู้สึกเป็นเจ้าของและลดความขัดแย้งได้อีกด้วย

การแก้ไขปัญหาไฟใต้เดือดเป็นกระบวนการที่ต้องใช้เวลาและความอดทน แต่ด้วยความมุ่งมั่นและความร่วมมือจากทุกฝ่าย เราเชื่อมั่นว่าสันติสุขสามารถเกิดขึ้นได้ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างแน่นอน เพราะความสูญเสียที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ทำให้เราตระหนักว่าสันติภาพนั้นมีค่ามากเพียงใด และเราทุกคนมีหน้าที่ที่จะต้องร่วมกันสร้างสันติภาพให้เกิดขึ้น

ที่มา – ไฟใต้เดือดอีก ระเบิดถล่มกระบะอส.เรียง หัวหน้าชุดพลีชีพ เจ็บอีกหลายนายที่รือเสาะ

ว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาว เผยนาทีหนีตาย กระโดดข้ามกำแพงสูง 1.5 เมตร หลังคนร้ายอาวุธครบมือ ปล้นร้านทอง ห้างดัง ด้าน ห้างสรรพสินค้า แจ้งเวลาเปิด-ปิดใหม่แล้ว

วันที่ 6 ต.ค.2568 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ห้างบิ๊กซี สาขาสุไหงโก-ลก หลังเกิดเหตุกลุ่มคนร้ายอาวุธครบมือบุกปล้นร้านทองเยาวราชกรุงเทพ ภายในห้างบิ๊กซี สาขาสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ซึ่งเหตุเกิดขึ้นเมื่อช่วงค่ำวันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา

โดยล่าสุดวันนี้บิ๊กซี สาขาสุไหงโก-ลก งดให้บริการลูกค้าชั่วคราว 1 วัน เพื่อให้เจ้าหน้าที่เข้ามาตรวจสอบ และรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติม พร้อมสำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้น อีกทั้งเพื่อจัดมาตราการดูแลความปลอดภัยให้เข้มงวดขึ้น รวมถึงปรับเวลาเปิด-ปิดในการให้บริการ เบื้องต้นกำหนดเปิดให้บริการในเวลา 12.00-20.30 น. เริ่มเปิดตามปกติในวันที่ 7 ต.ค.68

ว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาว เผยนาทีหนีตาย กระโดดข้ามกำแพงสูง 1.5 เมตร หลังคนร้ายอาวุธครบมือ ปล้นร้านทอง ห้างดัง ด้าน ห้างสรรพสินค้า แจ้งเวลาเปิด-ปิดใหม่แล้ว

สำหรับรถจักรยานยนต์และรถยนต์ที่จอดทิ้งไว้ภายในบิ๊กซีตั้งแต่เมื่อคืนนี้ วันนี้หลังเที่ยงเจ้าหน้าที่แจ้งให้เดินทางไปรับรถจักรยานยนต์และรถยนต์ได้

• อ่านข่าว : ปล้นสะท้านเมือง! นาที 8 คนร้ายอาวุธครบมือ จับตัวประกันในห้าง กวาดทองเกือบหมดร้าน

ด้าน กลุ่มลูกค้าซึ่งอยู่ในที่เกิดเหตุเมื่อวันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นสร้างความตกใจให้กับตนเองและครอบครัวมาก ขณะที่เกิดเหตุตนกับแฟนซึ่งกำลังมีกำหนดจะแต่งงานเร็ว ๆ นี้ ไปซื้อของสดเพื่อนำไปให้ครอบครัว

ทันทีที่เกิดเหตุทุกคนต่างวิ่งไม่คิดชีวิต โดยมีพนักงานห้างบิ๊กซีนำทางไปโกดังด้านหลัง แต่ตนกับแฟนตัดสินใจกระโดดข้ามกำแพงออกมาเพื่อให้แน่ใจว่าปลอดภัย ทั้ง ๆ ที่กำแพงสูงเกือบ 1.5 เมตร ทันทีที่ออกมาได้ก็ขอความช่วยเหลือชาวบ้านบริเวณด้านหลังบิ๊กซี ซึ่งมีลุงกับป้าได้ช่วยไว้ รอจนกว่ามีญาติมารับ

ลูกค้า กล่าวต่อว่า หลังจากนี้ตั้งใจไม่ไปซื้อของที่บิ๊กซีอีกแล้ว เพราะจากเหตุการณ์สร้างความสะเทือนขวัญอย่างมาก ภาพติดตา เห็นกลุ่มคนร้ายถือปืนวิ่งเข้าไปในบิ๊กซี ผู้คนหวีดร้อง อีกทั้งมองว่าก่อนหน้านี้บิ๊กซีมีเจ้าหน้าที่ รปภ. จำนวนมากแต่ไม่มีหน่วยงานความมั่นคงเข้าไปดูแล อีกทั้งบริเวณหน้าบิ๊กซีไฟฟ้าน้อย กลางคืนมืด ซึ่งหากจะต้องปรับน่าจะต้องปรับมาตราการภาพรวมทั้งหมด

ว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาว เผยนาทีหนีตาย คนร้าย ปล้นร้านทอง ห้างดัง

จากเหตุการณ์นี้ทำให้เห็นถึงความสำคัญของการมีสติในสถานการณ์ฉุกเฉิน การตัดสินใจที่รวดเร็วของว่าที่บ่าวสาวคู่นี้ช่วยให้พวกเขารอดพ้นจากอันตรายมาได้ แต่สิ่งที่น่าพิจารณาคือมาตรการรักษาความปลอดภัยของห้างสรรพสินค้า ควรมีการทบทวนและปรับปรุงให้เข้มงวดมากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีกในอนาคต เหตุการณ์คนร้าย ปล้นร้านทอง ทำให้ผู้คนหวาดกลัว

ความรู้สึกของว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาว หลังรอดจากเหตุคนร้ายปล้นร้านทอง

เหตุการณ์ ปล้นร้านทอง ที่เกิดขึ้น ไม่เพียงแต่สร้างความเสียหายทางทรัพย์สิน แต่ยังส่งผลกระทบต่อจิตใจของผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวที่กำลังจะมีอนาคตสดใสรออยู่ข้างหน้า เหตุการณ์นี้เป็นเครื่องเตือนใจให้เราตระหนักถึงความไม่แน่นอนของชีวิต และความสำคัญของการเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่ไม่คาดฝัน

เรื่องราวของว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์คนร้าย ปล้นร้านทอง กลายเป็นอุทาหรณ์ให้เราเห็นว่า สติและการตัดสินใจที่รวดเร็วมีความสำคัญอย่างยิ่งในสถานการณ์คับขัน นอกจากนี้ เหตุการณ์นี้ยังกระตุ้นให้สังคมหันมาใส่ใจเรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัยในสถานที่สาธารณะมากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงเช่นนี้อีกในอนาคต

สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับทุกฝ่าย ทั้งผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้า หน่วยงานภาครัฐ และประชาชนทั่วไป หวังว่าการปรับปรุงมาตรการรักษาความปลอดภัยและการสร้างความตระหนักรู้ จะช่วยสร้างสังคมที่ปลอดภัยและน่าอยู่ยิ่งขึ้นสำหรับทุกคน

ที่มา – ว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาว เผยนาทีหนีตาย คนร้าย ปล้นร้านทอง ห้างดัง

สถานการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นในจังหวัดนราธิวาส เมื่อคืนที่ผ่านมา คนร้ายก่อเหตุ นราธิวาส ป่วนคืนเดียวหลายจุด คนร้ายลอบวางระเบิด บึ้มตู้เอทีเอ็มเสียงดังสนั่นและเผายางรถยนต์ เจ้าหน้าที่เร่งลงพื้นที่ตรวจสอบสถานการณ์

เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสเกิดขึ้นพร้อมกันหลายจุด เริ่มตั้งแต่ช่วงค่ำของวันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา เวลาประมาณ 19.40 น.

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สุไหงปาดี ได้รับแจ้งจากผู้บังคับกองร้อยทหารพราน 4811 ว่าเกิดเหตุเผายางรถยนต์และวางวัตถุต้องสงสัยบริเวณถนนหมายเลข 4056 พาดทางรถไฟ หมู่ 4 บ้านไอบาตู ตำบลโต๊ะเด็ง อำเภอสุไหงปาดี จากนั้นในเวลา 19.50 น. ได้รับแจ้งว่าได้ยินเสียงดังคล้ายระเบิด 1 ครั้ง แต่ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

นราธิวาส ป่วนคืนเดียวหลายจุด คนร้ายลอบวางระเบิด บึ้ม

ต่อมาในเวลา 23.55 น. เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงได้รับแจ้งว่ามีกลุ่มคนร้ายประมาณ 7-8 คน ลอบเผายางรถยนต์บนถนนหน้ามัสยิดดุซงญอ อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส และถนนบ้านสูแม หมู่ 3 ตำบลดุซงญอ อำเภอจะแนะ จังหวัดนราธิวาส

จากนั้นในเวลา 00.00 น. ของวันที่ 1 กันยายน เกิดเหตุระเบิดขึ้นที่หน้าธนาคาร ธกส. อำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส เบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ และในเวลาไล่เลี่ยกันมีรายงานว่าได้ยินเสียงระเบิดในพื้นที่บ้านคลองหงส์ หมู่ 3 ตำบลตะมะยูง อำเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส บริเวณตู้ ATM (หน้า อบต.ตะมะยูง) ซึ่งไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บเช่นกัน

นอกจากนี้ยังมีรายงานว่า เกิดเหตุระเบิดขึ้นบริเวณหน้าตู้ ATM ธกส. เจาะไอร้อง นราธิวาส ซึ่งเป็นตู้ ATM ที่อยู่ใกล้กับร้านโรสบิวตี้ ร้านสตรอเบอรี่คลับ และบริเวณใกล้เคียง เบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

เหตุการณ์ นราธิวาส ป่วนคืนเดียวหลายจุด คนร้ายลอบวางระเบิด บึ้ม ส่งผลกระทบต่อความรู้สึกของชาวบ้าน

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบต่อขวัญและกำลังใจของประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก หลายคนรู้สึกหวาดกลัวและกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของตนเอง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารได้เพิ่มกำลังในการลาดตระเวนและรักษาความปลอดภัยในพื้นที่เสี่ยง เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน

เหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในจังหวัดนราธิวาสในครั้งนี้ เป็นสิ่งที่น่าเศร้าใจและไม่ควรเกิดขึ้น ทางเจ้าหน้าที่รัฐควรเร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษตามกฎหมาย และเพิ่มมาตรการในการป้องกันเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข

ประชาชนในพื้นที่ยังคงต้องการความช่วยเหลือและความเข้าใจจากทุกภาคส่วน เพื่อให้พวกเขาสามารถก้าวผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปได้ การสร้างความสมานฉันท์และความร่วมมือกันระหว่างทุกฝ่าย เป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้สถานการณ์ในพื้นที่ดีขึ้น

เหตุการณ์ นราธิวาส ป่วนคืนเดียวหลายจุด คนร้ายลอบวางระเบิด บึ้ม ยังคงเป็นสิ่งที่ต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด อย่างไรก็ตาม การให้กำลังใจซึ่งกันและกัน และร่วมมือกันแก้ไขปัญหา จะเป็นหนทางที่จะนำพาความสงบสุขกลับคืนสู่พื้นที่

ที่มา – นราธิวาส ป่วนคืนเดียวหลายจุด คนร้ายลอบวางระเบิด บึ้มAYM เผายางรถ