ซีเกมส์ ครั้งที่ 33

วอลเลย์บอลหญิง ล่าแชมป์ซีเกมส์สมัย17 ทีมชายชิง

นายสมพร ใช้บางยาง นายกสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย เผย ทีมลูกยางหญิงในร่ม จะส่งนักกีฬาชุดใหญ่ล่าแชมป์ซีเกมส์ สมัยที่ 17 ขณะที่ ทีมชายในร่ม อย่างน้อยต้องเข้าถึงรอบชิง ตั้งเป้า 2 เหรียญทอง จากทั้งหมด 4 อีเวนต์ โดยสมาคมฯ ได้รับการสนับสนุนจาก กกท. ในการเก็บตัวด้านสถานที่ฝึกซ้อม และการทดสอบสมรรถภาพนักกีฬา เป็นอย่างดี

นายสมพร ใช้บางยาง นายกสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงความพร้อมของทีมวอลเลย์บอลทีมชาติไทย ชุดเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทย เป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 9-20 ธันวาคม 2568 ว่า สำหรับวอลเลย์บอลในร่ม ทั้งทีมหญิงและทีมชาย หลังจากทราบผลการจับสลากแบ่งสายถือว่าเป็นที่น่าพอใจ ไม่น่ากังวลอะไร ทีมหญิงเป็นแชมป์ 16 สมัย เป้าหมายคือวอลเลย์บอลหญิง ล่าแชมป์ซีเกมส์สมัย17 สถานเดียว ดังนั้นเราจะส่งชุดที่ดีที่สุดเข้าร่วมการแข่งขันแน่นอน โดยนักกีฬาบางส่วนเก็บตัวอยู่ที่ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) หัวหมาก ส่วนตัวหลัก ๆ ต่างกระจายไปเล่นในลีกต่างประเทศกับต้นสังกัด ซึ่งสมาคมฯ จะเรียกนักกีฬาทั้งหมดเข้าสู่แคมป์ก่อนการแข่งขันจะเริ่มขึ้น 2 สัปดาห์ เพื่อให้นักกีฬาทั้งหมดได้ปรับตัวและฝึกซ้อมร่วมกัน

นายกสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย กล่าวต่อว่า ในส่วนของทีมชาย นักกีฬาตัวหลักส่วนใหญ่อยู่ในประเทศไทยอยู่แล้ว ไม่มีปัญหาอะไรได้ซ้อมอย่างต่อเนื่อง สำหรับเป้าหมายของเราอย่างน้อยต้องได้เข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ เพราะทีมชายในอาเซียนหลายทีมมีผลงานดีทั้ง อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, เวียดนาม หรือแม้กระทั่ง กัมพูชา ดังนั้นจะประมาทไม่ได้

“นักกีฬาวอลเลย์บอลในร่มทั้งทีมหญิงและทีมชาย ต่างเก็บตัวอยู่ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬา กกท. ซึ่งต้องขอบคุณ กกท. ที่ให้การสนับสนุนเรื่องสถานที่เก็บตัว การทดสอบสมรรถภาพทางกาย และอื่น ๆ ต่อเนื่องมาตั้งแต่จบการแข่งขันวอลเลย์บอลเนชั่นส์ลีก จนมาถึงซีเกมส์” นายสมพร กล่าว
ทั้งนี้ ผลจับสลากวอลเลย์บอลในร่ม ทีมหญิง ซีเกมส์ 2025 ไทย อยู่ในกลุ่ม เอ ร่วมกับ ฟิลิปปินส์ และ สิงคโปร์ ขณะที่ กลุ่มบี เวียดนาม, อินโดนีเซีย, เมียนมา, มาเลเซีย ส่วนวอลเลย์บอลในร่ม ทีมชาย ไทย อยู่ในกลุ่มเอ ร่วมกับ เวียดนาม, สิงคโปร์, สปป.ลาว ขณะที่ กลุ่มบี อินโดนีเซีย (แชมป์เก่า), กัมพูชา, ฟิลิปปินส์, เมียนมา

สำหรับการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 วอลเลย์บอล มีชิงชัยทั้งหมด 4 เหรียญทอง จาก วอลเลย์บอลในร่ม (ทีมชาย-ทีมหญิง) แข่งขันที่อินดอร์ สเตเดี้ยม หัวหมาก และ วอลเลย์บอลชายหาด (ทีมชาย-ทีมหญิง) แข่งขันที่จังหวัดชลบุรี สมาคมฯ ตั้งเป้าหมายคว้า 2 เหรียญทองจาก วอลเลย์บอลในร่ม ทีมหญิง และวอลเลย์บอลชายหาด ทีมหญิง

วอลเลย์บอลหญิง ล่าแชมป์ซีเกมส์สมัย17

ความมุ่งมั่นของสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทยในการส่งทีมวอลเลย์บอลหญิงชุดใหญ่เพื่อวอลเลย์บอลหญิง ล่าแชมป์ซีเกมส์สมัย17 แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจที่จะรักษาความเป็นผู้นำในภูมิภาคอาเซียน การเตรียมความพร้อมของทีมอย่างเข้มข้น ทั้งการเก็บตัวฝึกซ้อม การทดสอบสมรรถภาพร่างกาย และการรวมตัวของนักกีฬาจากลีกต่างประเทศ สะท้อนให้เห็นถึงการวางแผนที่เป็นระบบเพื่อเป้าหมายสูงสุด

ความหวังของทีมวอลเลย์บอลหญิงไทยในการล่าแชมป์ซีเกมส์สมัยที่ 17

การที่ทีมวอลเลย์บอลหญิงไทยตั้งเป้าหมายที่จะคว้าแชมป์ซีเกมส์สมัยที่ 17 เป็นเรื่องที่น่าติดตามอย่างยิ่ง ด้วยสถิติที่แข็งแกร่งและประสบการณ์ของนักกีฬา ทำให้พวกเขามีโอกาสสูงที่จะประสบความสำเร็จ อย่างไรก็ตาม การแข่งขันกีฬาย่อมมีปัจจัยที่ไม่แน่นอนเสมอ การเตรียมตัวให้พร้อมทั้งร่างกายและจิตใจจึงเป็นสิ่งสำคัญยิ่ง

นอกจากนี้ การสนับสนุนจาก กกท. ในด้านสถานที่ฝึกซ้อมและการทดสอบสมรรถภาพร่างกาย เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้นักกีฬามีความพร้อมมากยิ่งขึ้น การมีสถานที่และอุปกรณ์ที่ทันสมัยเอื้อต่อการพัฒนาทักษะและความสามารถของนักกีฬาอย่างเต็มที่

สำหรับทีมชาย การตั้งเป้าหมายที่จะเข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาทีมให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น แม้ว่าจะมีคู่แข่งที่น่ากลัวหลายทีมในอาเซียน แต่ด้วยการฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่องและการวางแผนที่ดี ทีมชายก็มีโอกาสที่จะสร้างผลงานที่น่าประทับใจได้เช่นกัน

โดยรวมแล้ว สถานการณ์ของทีมวอลเลย์บอลไทยทั้งทีมหญิงและทีมชาย ดูมีความพร้อมและมีความมุ่งมั่นที่จะประสบความสำเร็จในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งนี้ การสนับสนุนจากทุกภาคส่วนจะเป็นกำลังใจสำคัญให้นักกีฬาไทยสามารถทำผลงานได้ดีที่สุด และนำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ

การแข่งขันครั้งนี้จะเป็นบทพิสูจน์ความสามารถของนักกีฬาวอลเลย์บอลไทย และเป็นโอกาสให้พวกเขาได้แสดงศักยภาพสู่สายตาชาวโลก มาร่วมส่งแรงใจเชียร์ทีมชาติไทยให้คว้าชัยชนะในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 33 นี้ไปด้วยกัน วอลเลย์บอลหญิง ล่าแชมป์ซีเกมส์สมัย17 จะเป็นจริงได้หรือไม่ ร่วมติดตามและให้กำลังใจนักกีฬาไทยไปด้วยกัน!

ที่มา – วอลเลย์บอลหญิง ส่งชุดใหญ่ ล่าแชมป์ซีเกมส์ สมัย17 ทีมชายต้องชิง วางเป้า2ทอง

น้องโอ๋-รถถัง นำทัพ ONE อุ่นเครื่องมวยซีเกมส์

ทีมกำปั้นไทยชุดลุยซีเกมส์ อุ่นเครื่องมวย “วันแชมเปี้ยนชิพ” (ONE Championship) โดยมี “น้องโอ๋ ฮาม่ามวยไทย” นำทีม เผยนักชกมวยสากลทีมชาติไทยมีฝีไม้ลายมือดี แต่ต้องเสริมความแข็งแกร่ง มั่นใจทำได้ตามเป้าหมายในกีฬาซีเกมส์ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 9-20 ธ.ค.นี้

ความเคลื่อนไหวของทีมมวยสากลทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ ล่าสุดเมื่อวันที่ 21 ต.ค. ที่ผ่านมา ได้มีการอุ่นเครื่องลงนวมกับทีมมวยวันแชมเปี้ยนชิพ ซึ่งนำทีมโดย “น้องโอ๋ ฮาม่ามวยไทย” ที่เตรียมขึ้นชกชิงแชมป์โลกมวยไทย รุ่นฟลายเวต กับ “รถถัง จิตรเมืองนนท์” ในรายการ ONE 173 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ในวันที่ 16 พ.ย.นี้ โดยน้องโอ๋ได้ลงนวมกับ “คุณาธิป ปิดนุช” นักมวยซีเกมส์ในรุ่น 63.5 กก.

น้องโอ๋กล่าวว่าน้องๆ ทีมชาติไทยมีทักษะการชกที่ดี มีจังหวะและฝีมือที่ยอดเยี่ยม แต่ต้องเสริมเรื่องพละกำลังและความแข็งแกร่ง หากทำได้ตามเป้าหมายนี้ มั่นใจว่าจะสร้างผลงานที่ดีในซีเกมส์ได้อย่างแน่นอน การที่ น้องโอ๋ – รถถัง นำทัพ ONE Championship บุกอุ่นเครื่อง ทีมกำปั้น ซีเกมส์ ถือเป็นประสบการณ์ที่มีค่าสำหรับนักกีฬามวยสากล

นอกจากนี้ยังมี “แรมโบ้เล็ก ฉ.อจลบุญ” พบกับ “บรรจง สินศิริ” ในรุ่น 69 กก. และ “พีระพัฒน์ เยียะสูงเนิน” รุ่น 75 กก. พบกับ “ดานี่ โรดริเกซ” แชมป์รุ่นเวลเตอร์เวตจากเวทีราชดำเนิน (RWS)

ดร.ประชุม บุญเทียม อุปนายกสมาคมกีฬามวยสากลแห่งประเทศไทย และรองเลขาธิการสมาคมฯ ได้เข้าเยี่ยมชมการลงนวมฝึกซ้อม และกล่าวขอบคุณมวยไทยอาชีพที่เสียสละเวลามาฝึกซ้อมให้ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากในเรื่องของการออกหมัดและพละกำลัง หลังจากนี้ทีมมวยสากลชุดซีเกมส์จะเดินทางไปแข่งขันที่ฟินแลนด์ และเข้าค่ายเทรนนิ่งแคมป์ที่อุซเบกิสถาน เพื่อเตรียมความพร้อมในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนถึงมหกรรมกีฬาซีเกมส์ที่ประเทศไทย โดยได้กำชับห้ามนักกีฬาบาดเจ็บโดยเด็ดขาด

พ.ต.ท.วิจารณ์ พลฤทธิ์ หัวหน้าสต๊าฟโค้ชทีมมวยสากลทีมหญิง เผยว่าความพร้อมของนักกีฬาตอนนี้อยู่ที่ 80 เปอร์เซ็นต์ เหลือเพียงเรื่องแท็กติกและพละกำลังเท่านั้น เชื่อมั่นว่าจะได้ 5 เหรียญทองตามเป้าที่สมาคมฯ ตั้งไว้ ส่วนคู่แข่งที่สำคัญในซีเกมส์ของมวยหญิงคือเวียดนาม ซึ่งเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวและประมาทไม่ได้

ทีมมวยสากลชุดซีเกมส์มีโปรแกรมเดินทางไปชกที่ประเทศฟินแลนด์ ในรายการ “แทมเมอร์ ทัวร์นาเมนต์ 2025” ระหว่างวันที่ 29 ต.ค. – 3 พ.ย.นี้ ที่เมืองแทมเปเร ประเทศฟินแลนด์ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมก่อนถึงการแข่งขันซีเกมส์

น้องโอ๋ – รถถัง นำทัพ ONE Championship บุกอุ่นเครื่อง ทีมกำปั้น ซีเกมส์

การที่ น้องโอ๋ – รถถัง นำทัพ ONE Championship บุกอุ่นเครื่อง ทีมกำปั้น ซีเกมส์ ในครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงความร่วมมืออันดีระหว่างวงการมวยไทยอาชีพและมวยสากลสมัครเล่น ซึ่งจะช่วยยกระดับมาตรฐานของกีฬามวยในประเทศไทยให้สูงขึ้นไปอีกขั้น

ทำไมน้องโอ๋-รถถังถึงสำคัญต่อการอุ่นเครื่องมวยซีเกมส์

การมีนักกีฬาระดับโลกอย่างน้องโอ๋และรถถังมาช่วยฝึกซ้อมและให้คำแนะนำ จะทำให้นักมวยสากลทีมชาติไทยได้เรียนรู้เทคนิคและแทคติกต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ในการแข่งขันจริง นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับนักกีฬา ก่อนที่จะเดินทางไปแข่งขันในรายการสำคัญอย่างซีเกมส์อีกด้วย

  • การอุ่นเครื่องกับนักมวยไทยอาชีพช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่ง
  • นักกีฬาได้เรียนรู้เทคนิคใหม่ๆ จากนักมวยระดับโลก
  • เป็นการสร้างขวัญและกำลังใจก่อนการแข่งขันซีเกมส์

การเตรียมความพร้อมอย่างเข้มข้นของทีมมวยสากลชุดซีเกมส์ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและความตั้งใจที่จะคว้าเหรียญทองในการแข่งขันที่กำลังจะมาถึง แฟนๆ กีฬามวยชาวไทยร่วมส่งกำลังใจเชียร์ทัพนักกีฬาไทยให้ประสบความสำเร็จในการแข่งขันซีเกมส์ครั้งนี้ด้วยนะครับ

ในฐานะแฟนกีฬามวย ผมคิดว่าการที่ น้องโอ๋ – รถถัง นำทัพ ONE Championship บุกอุ่นเครื่อง ทีมกำปั้น ซีเกมส์ เป็นสิ่งที่ดีมากๆ ครับ มันแสดงให้เห็นถึงสปิริตและความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ของนักกีฬามวยไทยอาชีพที่มีต่อวงการมวยสากลสมัครเล่น ผมเชื่อว่าความร่วมมือแบบนี้จะช่วยพัฒนากีฬามวยของไทยให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้นไปอีก

ที่มา – น้องโอ๋ – รถถัง นำทัพ ONE Championship บุกอุ่นเครื่อง ทีมกำปั้น ซีเกมส์

ซีเกมส์พร้อม! สนาม 3 เมืองหลัก ซีเกมส์ 2025

อีกไม่นานเกินรอ! การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 กำลังจะระเบิดศึกขึ้นที่ประเทศไทย ในวันที่ 9-20 ธันวาคม 2568 โดยมี 3 จังหวัดหลักเป็นเจ้าภาพ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร, ชลบุรี และสงขลา ล่าสุด ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) พร้อมด้วย นายชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ ซีอีโอสหพันธ์กีฬาซีเกมส์ และนายชูชีพ ธรรมเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ได้ร่วมกันประชุมติดตามความคืบหน้าการเตรียมงานของจังหวัดสงขลาเป็นครั้งที่ 3 แล้ว

การประชุมครั้งนี้มีผู้ทรงคุณวุฒิจากหลายภาคส่วนเข้าร่วม อาทิ ดาโต๊ะ โลว เป่ง ชู ที่ปรึกษานักกฎหมายซีเกมส์, คริส ชาน เซ้ง เฮง ที่ปรึกษาฝ่ายเทคนิคกีฬาซีเกมส์, พลเรือเอก อธินาถ ปะจายะกฤตย์ ผู้อำนวยการสหพันธ์กีฬาเอเชียตะวันออกเฉียงใต้, นางสาวศมจรส มิ่งคำเลิศ ผู้อำนวยการสำนักผู้ว่าการ กกท., และนายยุธยา จีนหีต ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนากีฬาเป็นเลิศ กกท. โดยจัดขึ้น ณ โรงแรมลากูน่า แกรนด์ โฮเทล แอนด์ สปา จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2568

ดร.ก้องศักด ย้ำว่า จังหวัดสงขลา จะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬา 10 ชนิด ได้แก่ หมากรุก, กาบัดดี้, ฟุตบอล, ยูโด, คาราเต้, มวยปล้ำ, ปันจักสีลัต, วูซู, มวยไทย และเปตอง โดยขณะนี้เหลือเวลาอีกเพียง 50 วันเท่านั้น ทุกภาคส่วนกำลังเร่งเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ ทั้งในส่วนของนักกีฬาไทย และสถานที่จัดการแข่งขันในทั้ง 3 จังหวัด ซึ่งมีความพร้อมเกือบ 100% แล้ว

ผู้ว่าการ กกท. เชิญชวนให้คนไทยร่วมส่งกำลังใจเชียร์นักกีฬาไทย และติดตามข่าวสารการแข่งขันจากช่องทางต่างๆ เพื่อร่วมชมและเชียร์กีฬาซีเกมส์ในสนาม หรือรับชมการถ่ายทอดสดจากที่บ้าน พร้อมทั้งร่วมกันเป็นเจ้าบ้านที่ดีต้อนรับนักกีฬาและเจ้าหน้าที่จากประเทศสมาชิกอาเซียนทั้ง 10 ประเทศ

สนาม 3 เมืองหลัก ซีเกมส์ พร้อมแล้ว

ดร.ก้องศักดยังกล่าวถึงความพิเศษของการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ซึ่งมีการบรรจุกีฬามากถึง 50 ชนิด โดยยืนยันว่าทุกชนิดกีฬานั้นเป็นกีฬาสากล มีถึง 27 ชนิดที่บรรจุในการแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ และ 9 ชนิดที่บรรจุในเอเชียนเกมส์ นอกจากนี้ กีฬาอื่นๆ ก็เคยมีการแข่งขันในระดับนานาชาติมาแล้วทั้งสิ้น ทำให้ซีเกมส์ครั้งนี้เป็นการยกระดับไปสู่มหกรรมกีฬาสากลอย่างแท้จริง

50 ชนิดกีฬาในซีเกมส์ 2025

การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 จะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-20 ธันวาคม 2568 ประกอบด้วย 50 ชนิดกีฬา ดังนี้

  1. ว่ายน้ำ
  2. กรีฑา
  3. ยิงธนู
  4. แบดมินตัน
  5. บาสเกตบอล
  6. เรือแคนู-กรรเชียง
  7. จักรยาน
  8. ขี่ม้า
  9. ฟันดาบ
  10. ฟุตบอล
  11. กอล์ฟ
  12. ยิมนาสติก
  13. แฮนด์บอล
  14. ฮอกกี้
  15. ยูโด
  16. รักบี้
  17. เรือใบ
  18. ยิงปืน
  19. เทเบิลเทนนิส
  20. เทควันโด
  21. เทนนิส
  22. ไตรกีฬา
  23. วอลเลย์บอล
  24. มวยปล้ำ
  25. ไอซ์สเก็ต
  26. ไอซ์ฮอกกี้
  27. ปัญจกีฬา
  28. ยกน้ำหนัก
  29. เบสบอล-ซอฟท์บอล
  30. บิลเลียด-สนุกเกอร์
  31. มวยสากล
  32. ฟลอร์บอล
  33. อีสปอร์ต
  34. มวย
  35. เนตบอล
  36. ปันจักสีลัต
  37. เปตอง
  38. เซปักตะกร้อ
  39. สควอช
  40. โบว์ลิ่ง
  41. เอ็กซ์ตรีม
  42. คาราเต้
  43. ยูยิตสู
  44. คริกเกต
  45. วูซู
  46. กาบัดดี้
  47. เทคบอล
  48. คิกบ็อกซิ่ง
  49. วู้ดบอล
  50. หมากรุกสากล

นอกจากนี้ ยังมีกีฬาสาธิตอีก 3 ชนิด ได้แก่ กีฬาทางอากาศ, ชักเย่อ, และจานร่อน รวมถึงกีฬาส่งเสริมมูลค่า 1 ชนิด คือ MMA-ศิลปะการต่อสู้แบบผสม โดยมีการชิงชัยทั้งสิ้น 574 เหรียญทอง

เตรียมตัวให้พร้อม! ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ที่ยิ่งใหญ่และน่าประทับใจที่สุด!

ที่มา – สนาม 3 เมืองหลัก ซีเกมส์ พร้อมแล้ว – ก้องศักด ย้ำ 50 กีฬาที่บรรจุยกระดับสู่สากล

ช้างศึก ร่วมกลุ่ม กัมพูชา แบ่งสาย ฟุตบอลชาย ซีเกมส์ 2025

ความเคลื่อนไหวการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทย โดย กรุงเทพฯ, ชลบุรี และสงขลา เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 9-20 ธันวาคม 2568

ล่าสุดเมื่อวันที่ 19 ต.ค.68 มีพิธีจับสลากแบ่งสายอย่างเป็นทางการ อีกหนึ่งไฮไลต์อยู่ที่กีฬาฟุตบอล ทีมชาย มี 10 ชาติเข้าร่วมการแข่งขัน ปรากฎว่า กลุ่ม A ช้างศึก ทีมชาติไทย, กัมพูชา และ ติมอร์เลสเต ส่วน กลุ่ม B เวียดนาม, มาเลเซีย และลาว และ กลุ่ม C อินโดนีเซีย, เมียนมา, ฟิลปปินส์, สิงคโปร์

ช้างศึก ร่วมกลุ่ม กัมพูชา แบ่งสาย ฟุตบอลชาย ซีเกมส์ 2025

การจับสลากแบ่งสายครั้งนี้ถือเป็นที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง สำหรับแฟนบอลชาวไทย เพราะเป็นการกำหนดเส้นทางของช้างศึกในการแข่งขันฟุตบอลชาย ซีเกมส์ 2025 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ การที่ทีมชาติไทยถูกจัดให้อยู่ในกลุ่ม A ร่วมกับกัมพูชาและติมอร์เลสเต ทำให้หลายฝ่ายมองว่าโอกาสในการผ่านเข้าสู่รอบต่อไปนั้นสดใส แต่ก็ไม่ควรประมาทคู่ต่อสู้

กัมพูชาเป็นทีมที่พัฒนาขึ้นมาอย่างรวดเร็วในช่วงหลายปีที่ผ่านมา พวกเขามีผู้เล่นที่มีทักษะและความสามารถเฉพาะตัวสูง และได้รับการฝึกสอนจากโค้ชที่มีประสบการณ์ การเจอกับกัมพูชาจึงเป็นบททดสอบสำคัญสำหรับช้างศึก

ติมอร์เลสเต แม้จะเป็นทีมที่อ่อนที่สุดในกลุ่ม แต่ก็ไม่ควรถูกมองข้าม พวกเขามีความมุ่งมั่นและตั้งใจที่จะสร้างผลงานที่ดีในการแข่งขันซีเกมส์ การประมาทติมอร์เลสเตอาจนำมาซึ่งความผิดพลาดได้

โอกาสของช้างศึกในซีเกมส์ 2025

ด้วยศักยภาพของผู้เล่นและประสบการณ์ของทีมชาติไทย ทำให้หลายคนเชื่อมั่นว่าช้างศึกมีโอกาสสูงที่จะคว้าเหรียญทองในการแข่งขันซีเกมส์ 2025 แต่ก็ต้องไม่ประมาทคู่ต่อสู้ และต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการแข่งขันทุกนัด

การแข่งขันฟุตบอลชาย ซีเกมส์ เป็นรายการที่ได้รับความสนใจจากแฟนบอลชาวไทยเป็นอย่างมาก การที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ทำให้แฟนบอลตั้งความหวังว่าช้างศึกจะสามารถสร้างผลงานที่ดีและคว้าเหรียญทองมาครองได้สำเร็จ

การเตรียมทีมของช้างศึกจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง ผู้ฝึกสอนจะต้องวางแผนการฝึกซ้อมให้เหมาะสมกับสภาพร่างกายและจิตใจของผู้เล่น และจะต้องสร้างทีมเวิร์คที่ดี เพื่อให้ผู้เล่นสามารถเล่นร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ การสนับสนุนจากแฟนบอลก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน กำลังใจจากแฟนบอลจะเป็นแรงผลักดันให้ช้างศึกสามารถทำผลงานได้ดียิ่งขึ้น

การแข่งขันฟุตบอลชาย ซีเกมส์ 2025 ที่กำลังจะมาถึงนี้ จึงเป็นโอกาสที่ดีสำหรับช้างศึกในการแสดงศักยภาพและสร้างความสุขให้กับแฟนบอลชาวไทย มาร่วมกันส่งกำลังใจเชียร์ช้างศึกให้คว้าเหรียญทองมาครองให้ได้!

การจับสลากแบ่งสายครั้งนี้ ทำให้เราเห็นภาพรวมของการแข่งขันฟุตบอลชาย ซีเกมส์ 2025 ได้ชัดเจนยิ่งขึ้น แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการเตรียมความพร้อมของทีมชาติไทย ทั้งในด้านของตัวผู้เล่น แทคติก และสภาพจิตใจ เพื่อให้พร้อมสำหรับการแข่งขันจริง และคว้าเหรียญทองมาครองให้ได้ตามเป้าหมาย

ที่มา – ช้างศึก ร่วมกลุ่ม กัมพูชา แบ่งสาย ฟุตบอลชาย ซีเกมส์ 2025

แฟนกีฬาเฮ! ซีเกมส์ ส่อให้ชมฟรีทุกกีฬา

แฟนกีฬาเตรียมเฮ! มีข่าวดีเกี่ยวกับการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพในช่วงวันที่ 9-20 ธันวาคม 2568 ที่กำลังจะมาถึง ก่อนหน้านี้มีการวางแผนว่าจะเปิดให้ประชาชนชาวไทยเข้าชมฟรี ยกเว้นกีฬายอดนิยมบางประเภท เช่น วอลเลย์บอล หรือ ฟุตบอล ที่อาจจะต้องมีการจำหน่ายบัตรเข้าชม

ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ได้ออกมาเปิดเผยความคืบหน้าล่าสุดว่า คณะกรรมการจัดการแข่งขันกำลังพิจารณาความเป็นไปได้ที่จะเปิดให้เข้าชมการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ฟรีทั้งหมดเลยหรือไม่

“เรื่องนี้ยังต้องรอการพิจารณาและอนุมัติจากรัฐบาลในการประชุมคณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ซึ่งหลังจากมีการเปลี่ยนรัฐบาล เรื่องเหล่านี้จะถูกนำมาพิจารณาอย่างรวดเร็ว โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งเป็นประธานคณะกรรมการฯ จะเป็นผู้ประกาศให้ทราบต่อไป”

“สิ่งที่ยืนยันได้แน่นอนคือ เราจะมีโควต้าสำหรับเด็กนักเรียน นักศึกษา และผู้ด้อยโอกาสต่างๆ อย่างแน่นอน ส่วนพี่น้องประชาชนทั่วไป ขอให้รอการพิจารณาจากคณะกรรมการจัดการแข่งขันก่อน ซึ่งจะมีการประกาศให้ทราบอีกครั้งว่าจะเปิดให้ชมฟรีทั้งหมด หรือจะมีการเก็บค่าเข้าชมในบางประเภทกีฬา” ดร.ก้องศักด กล่าว พร้อมทั้งเสริมว่า ในกรณีที่มีการเปิดให้เข้าชมฟรี ก็จะต้องมีการจัดการระบบต่างๆ เช่น การลงทะเบียนล่วงหน้าเพื่อจำกัดจำนวนที่นั่ง เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย และความปลอดภัยของผู้เข้าชม

ก่อนหน้านี้ มีรายงานข่าวว่ากีฬาที่คาดว่าจะเปิดให้ชมฟรีคือ ฟุตบอล และ ฟุตซอล ทั้งประเภทชายและหญิง นอกจากนี้ ยังมีความเป็นไปได้สูงที่จะเปิดให้ชมฟรีในกีฬาทุกประเภทที่มีการแข่งขันในซีเกมส์ครั้งนี้

แฟนกีฬาเตรียมเฮ! ซีเกมส์ ส่อให้ชมฟรีทุกกีฬา

แล้วกีฬาอะไรบ้างที่น่าสนใจในซีเกมส์ครั้งนี้?

แน่นอนว่าฟุตบอลและวอลเลย์บอลเป็นกีฬายอดนิยมที่คนไทยให้ความสนใจเป็นพิเศษ แต่กีฬาอื่นๆ ก็มีความน่าสนใจไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็น:

  • มวยไทย: กีฬาประจำชาติที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย
  • ตะกร้อ: อีกหนึ่งกีฬาที่เป็นเอกลักษณ์ของไทย
  • แบดมินตัน: กีฬาที่คนไทยประสบความสำเร็จในระดับโลก
  • ว่ายน้ำ: กีฬาที่ต้องใช้ความแข็งแรงและความอดทน
  • กรีฑา: การแข่งขันความเร็วและพละกำลังที่น่าตื่นเต้น

การที่รัฐบาลกำลังพิจารณาเปิดให้ชมฟรีทุกกีฬานั้น ถือเป็นโอกาสที่ดีสำหรับแฟนกีฬาชาวไทยที่จะได้สัมผัสประสบการณ์การเชียร์กีฬาซีเกมส์อย่างใกล้ชิด และเป็นกำลังใจให้นักกีฬาไทยคว้าเหรียญทองมาครองให้ได้มากที่สุด

การเปิดให้ชมฟรี จะช่วยกระตุ้นความสนใจในกีฬาต่างๆ ให้กับเยาวชน และสร้างแรงบันดาลใจให้หันมาเล่นกีฬาเพื่อสุขภาพที่แข็งแรง และอาจจะค้นพบนักกีฬาหน้าใหม่ที่จะสร้างชื่อเสียงให้กับประเทศต่อไปในอนาคต

ดังนั้น แฟนกีฬาชาวไทยเตรียมตัวให้พร้อม! ติดตามข่าวสารและประกาศจากคณะกรรมการจัดการแข่งขันอย่างใกล้ชิด เพื่อไม่ให้พลาดโอกาสในการเข้าชมกีฬาที่คุณชื่นชอบฟรี! มาร่วมส่งแรงใจเชียร์นักกีฬาไทยให้สุดเสียงไปด้วยกัน!

ที่มา – แฟนกีฬาเตรียมเฮ ! ซีเกมส์ ส่อให้ชมฟรีทุกกีฬา พร้อมโควตา นักเรียน-ผู้ด้อยโอกาส

มีต เดอะ เพรส ซีเกมส์ หนแรก! กรีฑาหวัง 17 ทอง

มีต เดอะ เพรส ซีเกมส์ 2025 หนแรก สุดคึกคัก! กรีฑา วางเป้ากวาด 17 ทอง ยอดรวม 6 สมาคมแรก พุ่ง 36 เหรียญทอง จักรยานมั่นใจ 6 ทอง, ขี่ม้า ขอ 5 ทอง, ขี่ม้าโปโล 2 ทอง, ไตรกีฬา หวัง 2-4 ทอง และ ปัญจกีฬาเชื่อมี 2 เหรียญทอง

นายไพฑูร ชุติมากรกุล นายกสมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย, นายธนา ไชยประสิทธิ์ รองประธานและเลขาธิการ คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ในฐานะหัวหน้าคณะนักกีฬาไทย ชุดซีเกมส์ 2025 ร่วมงานแถลงข่าว มีต เดอะ เพรส ซีเกมส์ 2025 ที่ห้องประชุม 222 โซนอี4-อี5 สนามราชมังคลากีฬาสถาน กกท. เมื่อ 14 ต.ค. 2568

นายไพฑูร ชุติมากรกุล นายกสมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย เผยว่า งาน มีต เดอะ เพรส ซีเกมส์ 2025 รอบนี้ ถือเป็นหนแรก ที่สมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทยจัดขึ้น โดยกำหนดจัดขึ้นทั้งหมด 9 ครั้ง เพื่อเช็คความพร้อมและประเมินความคาดหวังสมาคมกีฬาต่างๆ ของไทย ก่อนเข้าร่วมซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ซึ่งประเทศไทย จะเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 9-20 ธ.ค. 2568 ซึ่งหนแรกมี 6 สมาคมกีฬาเข้าร่วม หลังจากนี้ถือเป็นโค้งสุดท้ายของการเตรียมงาน เชื่อว่ากระแสซีเกมส์จะยิ่งแทรกซึมเข้าไปอยู่ในความสนใจของประชาชนคนไทยมากขึ้นเรื่อยๆ และแน่นอนว่าเป้าหมายของไทย หนีไม่พ้นการทวงคืนเจ้าเหรียญทอง

ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ เผยว่า ตนมั่นใจครั้งนี้ ทัพนักกีฬาไทยจะทวงคืนเจ้าเหรียญทอง และสร้างความภาคภูมิใจให้กับคนไทยแน่นอน หนนี้ มี 50 ชนิดกีฬา 3 กีฬาสาธิต และ 1 กีฬาสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ แม้จะจัดกีฬามากที่สุดก็จริง แต่ส่วนมากเป็นกีฬาที่อยู่ในโอลิมปิกเกมส์ และเอเชียนเกมส์ และรอบนี้นักกีฬาไทยที่เข้าร่วมมีมากกว่า 2,000 คน ส่วนกัมพูชา ยืนยันส่งนักกีฬาเข้าร่วมประมาณ 300 คน ซึ่งลดลงจากตอนแรก เนื่องจากกัมพูชากังวลในเรื่องของความปลอดภัย

นายธนา ไชยประสิทธิ์ ในฐานะหัวหน้านักกีฬาไทย ชุดซีเกมส์ ครั้งที่ 33 เผยว่า เราเริ่มเก็บตั้งแต่ เดือน ม.ค. 2568 ทุกสมาคมมีความพร้อม หลายสมาคมส่งนักกีฬาไปฝึกซ้อมและแข่งขันต่างประเทศ การเตรียมการที่ดีและมีความพร้อมในครั้งนี้ ตนเชื่อว่าจะทำให้ทัพนักกีฬาไทยคว้าเจ้าเหรียญทองได้อย่างแน่นอน ส่วนการแข่งขันที่จัดใน 3 จังหวัด ตนมองว่าท้าทายในเรื่องของการบริหารจัดการอยู่บ้าง แต่ก็เชื่อว่าไทยจะสามารถผ่านไปได้ด้วยดี ในช่วงโค้งสุดท้ายนี้ ตนอยากขอเตือนให้นักกีฬาระวังอุบัติเหตุทั้งจากการฝึกซ้อมหรือการใช้ชีวิตนอกสนาม รวมถึงการรับประทานยา ซึ่งอาจขัดต่อกฎระเบียบเรื่องสารกระตุ้น

พลเรือเอก สุธีพงศ์ แก้วทับ อุปนายกสมาคมกีฬาปัญจกีฬาแห่งประเทศไทย ในฐานะผู้จัดการทีมปัญจกีฬาไทย เผยว่า ทีมเก็บตัวฝึกซ้อมอยู่ที่ชลบุรี ตั้งแต่ ธ.ค. 2567 ภายใต้การคุมทีมของโค้ชชาวเยอรมัน ซึ่งจะจัดที่หาดจอมเทียน 16-20 ธ.ค. 2568 เริ่มแข่งจริง 17 ธ.ค. ชิง 6 เหรียญทอง ถือเป็นครั้งที่ 2 ที่มีจัดในซีเกมส์ ต่อจากที่ฟิลิปปินส์ เมื่อปี 2019 รอบนี้มี 8 ชาติเข้าร่วม ไทยส่ง 12 คน แบ่งเป็น ชาย 6 คน หญิง 6 คน เป้าหมายมองไปที่ 2 เหรียญทอง ที่มีลุ้นก็คือ อีเวนต์ ไตรแอธเล ที่เรามี จ่าเอก ภูริช โยเฮือง ซึ่งผ่านเวทีโอลิมปิก 2024 มาแล้ว เป็นความหวัง

วิจิตร สิทธินาวิน นายกสมาคมกีฬาไตรกีฬาแห่งประเทศไทย เผยว่า ไตรกีฬาซีเกมส์ 2025 จะแข่งขันที่แหลมแม่พิมพ์ จ.ระยอง ชิงชัย 11 เหรียญทอง แข่งขัน 16-19 ธ.ค. 2568 ซึ่งเป็นช่วงวันธรรมดา ดังนั้นถือว่าไม่กระทบหรือรบกวนนักท่องเที่ยว อีกนัยยะหนึ่งถือเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองระยอง หนนี้ทีมตั้งเป้าหมายไว้ 2 เหรียญทองอย่างน้อย หรืออาจได้ถึง 4 เหรียญทอง อย่างก็ตามต้องสู้กับกัมพูชา ที่ดึงผู้เล่นระดับโลกจากฝรั่งเศสเกือบยกเซตและดึงนักกีฬาจีนมาช่วยอีก เรียกว่านักกีฬาทั้งทีมไม่มีชาวกัมพูชาเลย ซึ่งนี่คือคู่แข่งสำคัญที่จะแย่งเหรียญทองจากเรา

สุระกิจ อุดมพืช ผู้ช่วยเลขาธิการสมาคมกีฬาขี่ม้าแห่งประเทศไทย เผยว่า สำหรับขี่ม้า กลับมาแข่งขันในซีเกมส์อีกครั้งรอบ 8 ปึ ซึ่งเราเก็บตัวมาอย่างต่อเนื่อง 2 ปี มีทั้งกลุ่มที่ซ้อมอยู่ที่ไทยและต่างประเทศ หลายคนมีแมตช์แข่งขันอย่างต่อเนื่องด้วย ซึ่งเป้าหมายเราคาดหวังที่ 5 เหรียญทอง ซึ่งสมาคมเชื่อมั่นในศักยภาพของนักกีฬาไทย ว่าจะไปถึง 6 เหรียญทองแน่นอน

นพ.ไพโรจน์ บุญคงชื่น นายกสมาคมกีฬาขี่ม้าโปโลแห่งประเทศไทย เผยว่า ที่ผ่านมาสมาคมพยายามเตรียมทีมอย่างเต็มที่ ฝึกซ้อมและแข่งขันมาโดยตลอด สำหรับซีเกมส์ 2025 มีชิง 2 เหรียญทอง แข่งขันที่วีเอส สปอร์ต คลับ และสยาม โปโล ปาร์ค ถือเป็นการกลับมาจัดชิงชัยเป็นหนแรกตั้งแต่ปี 2017 ด้วย ในด้านความคาดหวังของทีม ยังเชื่อว่าจะคว้าได้ทั้ง 2 เหรียญทอง ทั้งในประเภทแฮนดิแคป 2-4 และ 4-6 ส่วนคู่แข่งสำคัญ คือ มาเลเซีย

“โค้ชตั๊ม” พล.อ.อ.วิสุทธิ์ กสิยะพัท รองประธานฝ่ายเทคนิค และหัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย จากสมาคมกีฬาจักรยานแห่งประเทศไทย เผยว่า จักรยานในซีเกมส์รอบนี้ เราจัดครบทั้ง 4 ประเภท รวม 17 เหรียญทอง แบ่งเป็นถนน 7 เหรียญทอง, บีเอ็มเอ็กซ์ 2 เหรียญทอง, เสือภูเขา 3 เหรียญทอง และลู่ 5 เหรียญทอง โดยจะมี 2 อีเวนต์ คือ ทีมเพอร์ซูต กับ ทีมสปรินต์ ซึ่งเป็นอีเวนต์ที่กัมพูชา ลงทะเบียนมาแต่ในตอนแรกแต่ถอนทีมไป ทำให้จัดแข่งขันไม่ได้ เนื่องจากชาติที่เข้าร่วมไม่ครบ 4 ชาติ ความหวังจากที่หวังเต็มที่ 8 เหรียญทองจึงลดลง อย่างไรก็ตามยังเชื่อว่าจากอีเวนต์ที่เหลือ เราน่าจะมี 6 เหรียญทองในมือ

พล.ต.ต.นภันต์วุฒิ เลี่ยมสงวน อุปนายกสมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทยฯ กล่าวว่า กรีฑาในซีเกมส์ เรามีเป้าหมายเดียว คือการครองเจ้าเหรียญทอง ครั้งก่อนเราได้มา 16 เหรียญทอง ได้เจ้าเหรียญทอง หนนี้เราหวัง 17 เหรียญทอง รอบนี้สมาคมพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อจะพัฒนานักกีฬา และตัดสินใจดึงโค้ชมือดีชาวอเมริกัน มาช่วยติวเข้มนักวิ่งระยะสั้น เพื่อทำสถิติให้ดีขึ้น รอบนี้สมาคมยังมั่นใจว่าทีมจะสร้างผลงานได้ดีอย่างที่เราตั้งเป้าเอาไว้อย่างแน่นอน

สรุป มีต เดอะ เพรส ซีเกมส์ 2025 ครั้งที่ 1 ทั้ง 6 สมาคมกีฬา ตั้งเป้ารวม 34-36 เหรียญทอง ประกอบด้วย กรีฑา 17 เหรียญทอง, ขี่ม้า 5 เหรียญทอง, ขี่ม้าโปโล 2 เหรียญทอง, ไตรกีฬา หวัง 2 เหรียญทองอย่างน้อย หรืออาจได้ถึง 4 เหรียญทอง, ปัญจกีฬาสมัยใหม่ 2 เหรียญทอง และจักรยาน 6 เหรียญทอง

ส่วน มีต เดอะ เพรส ซีเกมส์ 2025 หนที่ 2 จะมีขึ้นในวันพฤหัสบดี ที่ 16 ต.ค. 2568 ที่ ห้องประชุม 222 โซนอี4-อี5 สนามราชมังคลากีฬาสถาน กกท. เช่นเดิม เริ่มเวลา 13.00 น. โดยมี 7 สมาคมกีฬาเข้าร่วม ประกอบด้วย แบดมินตัน, เทนนิส, สควอช, เทเบิลเทนนิส, ยิมนาสติก, ยิงปืนรณยุทธ์ และ ยกน้ำหนัก

มีต เดอะ เพรส ซีเกมส์ 2025

สรุปผล มีต เดอะ เพรส ซีเกมส์ 2025 ครั้งที่ 1

โดยรวมแล้ว สมาคมกีฬาต่างๆ มีความมุ่งมั่นและตั้งใจที่จะทำผลงานให้ดีที่สุดในการแข่งขันซีเกมส์ 2025 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ การเตรียมตัวอย่างหนักและการดึงผู้เชี่ยวชาญเข้ามาช่วยฝึกสอน แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในการพัฒนานักกีฬา เพื่อเป้าหมายในการคว้าเหรียญทองและสร้างความภาคภูมิใจให้กับประเทศชาติ เชื่อว่าด้วยความมุ่งมั่นนี้ ทัพนักกีฬาไทยจะสามารถทำผลงานได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้อย่างแน่นอน

ที่มา – มีต เดอะ เพรส ซีเกมส์ หนแรกคึกคัก กรีฑา หวังกวาด 17 ทอง ยอดรวมพุ่ง 36 ทอง

เพิ่มเงินรางวัลซีเกมส์ไม่สะดุด! ไทยเดินหน้าชง

หลังจาก ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย เดินหน้าเสนอเพิ่มเงินรางวัลซีเกมส์ของนักกีฬาในมหกรรมซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ระหว่างวันที่ 9 -20 ธันวาคมนี้ โดยก่อนหน้านี้ได้เสนอเรื่องไปถึง นายสรวงศ์ เทียนทอง อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งก็ได้รับปากผลักดัน อย่างไรก็ตามล่าสุดเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงตัวรัฐมนตรีฯ จึงทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าเรื่องดังกล่าวจะสะดุดลง

ล่าสุด ผศ.พิมล ศรีวิกรม์ ได้ออกมาเผยถึงเรื่องนี้ว่า เรื่องเงินรางวัลที่เสนอไปว่าจะเพิ่มขึ้นได้นำเรียนไปถึงท่ายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (อรรถกร ศิริลัทธยากร) และท่านรองนายกรัฐมนตรี (นายธรรมนัส พรหมเผ่า) แล้ว ซึ่งท่านเองก็รับปากว่าจะนำเรื่องนี้ไปหารือกับคณะรัฐมนตรี ว่าจะทำอย่างไรได้บ้าง ก็ต้องรอดูกันต่อไปว่าจะออกมาในรูปแบบใดซึ่งท่านเองก็เพิ่งจะเข้ามารับตำแหน่งก็ต้องให้เวลาให้โอกาสท่านหน่อย

สำหรับเงินรางวัลซีเกมส์ เดิม เหรียญทอง 300,000 บาท, เหรียญเงิน 150,000 บาท และเหรียญทองแดง 75,000 บาท ซึ่งมีการเสนอให้เพิ่มเงินรางวัลซีเกมส์เป็น เหรียญทอง 500,000 บาท, เหรียญเงิน 300,000 บาท และ เหรียญทองแดง 150,000 บาท

เพิ่มเงินรางวัลซีเกมส์ไม่สะดุด! โอลิมปิคไทยเดินหน้าชง รมว.กีฬาคนใหม่ สานต่อ

การผลักดันเรื่องเพิ่มเงินรางวัลซีเกมส์ถือเป็นขวัญและกำลังใจที่สำคัญยิ่งสำหรับนักกีฬาไทยทุกคน ที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจฝึกซ้อมอย่างหนักเพื่อนำชื่อเสียงมาสู่ประเทศชาติ การเพิ่มเงินรางวัลจึงเป็นการตอบแทนความเสียสละและความพยายามของพวกเขาเหล่านั้น

ทำไมนักกีฬาถึงสมควรได้รับเงินรางวัลที่เพิ่มขึ้น?

  • เป็นแรงจูงใจ: เงินรางวัลที่มากขึ้นเป็นแรงจูงใจให้นักกีฬาพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้มาซึ่งชัยชนะ
  • ค่าใช้จ่ายในการฝึกซ้อม: การฝึกซ้อมกีฬาอย่างจริงจังมีค่าใช้จ่ายสูง นักกีฬาหลายคนต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายเอง เงินรางวัลที่เพิ่มขึ้นสามารถช่วยแบ่งเบาภาระเหล่านี้ได้
  • การยอมรับและความภาคภูมิใจ: การได้รับเงินรางวัลที่เหมาะสมเป็นการแสดงให้เห็นว่าสังคมให้ความสำคัญและเห็นคุณค่าของความสำเร็จของนักกีฬา

ขั้นตอนต่อไปในการผลักดันเรื่องนี้

หลังจากที่ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยได้นำเสนอเรื่องนี้ต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาคนใหม่แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี เพื่อขออนุมัติงบประมาณในการเพิ่มเงินรางวัล การติดตามความคืบหน้าอย่างใกล้ชิดจึงเป็นสิ่งสำคัญ

การที่รัฐมนตรีและรองนายกฯ รับปากจะนำเรื่องนี้ไปพิจารณาต่อ ถือเป็นสัญญาณที่ดี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องรอดูผลการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง ว่าจะมีการอนุมัติให้เพิ่มเงินรางวัลซีเกมส์ตามที่เสนอไปหรือไม่

การเพิ่มเงินรางวัลซีเกมส์ ไม่ใช่แค่เรื่องของตัวเงิน แต่เป็นเรื่องของขวัญและกำลังใจ เป็นการแสดงให้เห็นว่าประเทศชาติเห็นคุณค่าและความสำคัญของนักกีฬา ขอเป็นกำลังใจให้นักกีฬาไทยทุกคน และหวังว่าความพยายามของพวกเขาจะได้รับการตอบแทนอย่างเหมาะสม

ที่มา – เพิ่มเงินรางวัลซีเกมส์ไม่สะดุด! โอลิมปิคไทย เดินหน้าชง รมว.กีฬาคนใหม่ สานต่อ

ใจสั่งมา! กกท. ทาบ เสก โลโซ ร้องเพลงเชียร์ซีเกมส์

กกท. ร่วมมือกับ กรมราชทัณฑ์ เตรียมนำผู้ต้องขังที่ฝึกมวยไทยขึ้นโชว์ในพิธีเปิดซีเกมส์ ครั้งที่ 33 พร้อมประสานขอตัว “เสก โลโซ” ร้องเพลงเชียร์นักกีฬาไทยสร้างสีสันและแรงบันดาลใจ

ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยถึง ความคืบหน้าการเตรียมการจัดมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ระหว่างวันที่ 9-20 ธันวาคม 2568 ซึ่งประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ที่กรุงเทพมหานคร จังหวัดชลบุรี และจังหวัดสงขลา ว่าพิธีเปิดการแข่งขัน วันที่ 9 ธันวาคม 2568 นี้ ทุกอย่างได้ถูกเตรียมการไว้หมดแล้ว แม้จะยังบอกอะไรไม่ได้มาก เพราะต้องการให้พี่น้องประชาชนชาวไทยรวมถึงชาวอาเซียนทุกคนได้เห็นพร้อมกัน แต่รับรองว่าอลังการ น่าตื่นตาตื่นใจและไม่ล้าสมัยแน่นอน

ผู้ว่าการ กกท. เผยต่อว่า สิ่งที่บอกได้ตอนนี้คือ เราได้รับความร่วมมือจาก กรมราชทัณฑ์ ที่มีการลงนามในเอ็มโอยู กับ กกท. ซึ่งภายในกรมราชทัณฑ์ มีค่ายมวยและมีผู้ต้องขังหลายคนเรียนมวยไทยอยู่แล้ว โดย กกท.ได้พิจารณาถึงศิลปะการต่อสู้ประจำชาติไทยที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก ก็จะได้ประสานขอตัวผู้ที่ฝึกมวยไทยมาร่วมแสดงโชว์ในพิธีเปิดกีฬาซีเกมส์ นอกจากนี้ยังจะขอตัว เสกสรรค์ ศุขพิมาย หรือ “เสก โลโซ” ซึ่งเป็นนักโทษที่มีพฤติกรรมดีมาก และเคยช่วยงานของกรมราชทัณฑ์ด้วยการแสดงดนตรีมาแล้ว และส่วนตัวของ เสก โลโซ ก็ชอบกีฬาอยู่ด้วย กกท.จึงอยากให้เข้ามามีส่วนร่วมในการสร้างสีสัน สร้างแรงบันดาลใจผ่านเพลงเชียร์ ซึ่งเราจะขออนุญาตกรมราชทัณฑ์ ขอตัว เสก โลโซ มาช่วยงานกีฬาของประเทศไทยในการแข่งขันซีเกมส์ครั้งนี้

“พี่เสก อาจจะมาแต่งเพลงและร่วมร้องเพลงเชียร์ซีเกมส์ รวมทั้งอาจจะมาแสดงโชว์ในพิธีเปิดก็เป็นได้ คงต้องรอการเจรจาและขออนุญาตก่อน อย่างไรก็ตามจากที่ได้หารือเบื้องต้น พี่เสกมีความยินดีที่จะมาช่วยงานเพื่อชาติ ซึ่งนอกจากพี่เสกแล้ว ยังมีเหล่าบรรดานักแสดง ศิลปิน อินฟลูเอนเซอร์ และอดีตนักกีฬาทีมชาติไทยอีกหลายคน ที่เราติดต่อให้มาช่วยสร้างสีสันด้วยเช่นกัน เพื่อให้ซีเกมส์ครั้งนี้ มีความคึกคักมากยิ่งขึ้นและเป็นครั้งที่ดีที่สุดอย่างที่ตั้งใจไว้” ดร.ก้องศักด กล่าวปิดท้าย

ใจสั่งมา! กกท. ประสาน กรมราชทัณฑ์ ทาบ เสก​ โลโซ ร้องเพลงเชียร์ซีเกมส์

การที่ กกท. ดึงตัว เสก โลโซ มาร่วม ร้องเพลงเชียร์ซีเกมส์ นับเป็นกิมมิคที่น่าสนใจอย่างยิ่ง เพราะเสก โลโซ ถือเป็นศิลปินร็อคเกอร์ระดับตำนานที่มีแฟนเพลงมากมาย การที่เขาได้กลับมาสร้างสรรค์ผลงานเพลงเพื่อเชียร์ทัพนักกีฬาไทย จะเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับนักกีฬาได้อย่างดีเยี่ยม

นอกจากนี้ การที่ กกท. ให้ความสำคัญกับการนำศิลปะมวยไทย ซึ่งเป็นศิลปะประจำชาติ มาผสมผสานในการแสดงพิธีเปิด ก็แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจที่จะเผยแพร่วัฒนธรรมไทยให้เป็นที่ประจักษ์แก่สายตาชาวโลก การแสดงมวยไทยในพิธีเปิด จะเป็นการสร้างความประทับใจและความภาคภูมิใจให้กับคนไทยทุกคน

ทำไมต้อง เสก โลโซ ร้องเพลงเชียร์ซีเกมส์

หลายคนอาจสงสัยว่าทำไม กกท. ถึงเลือก เสก โลโซ มาร่วมงาน เหตุผลสำคัญก็คือ เสก โลโซ เป็นศิลปินที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีเพลงฮิตมากมายที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้คน นอกจากนี้ เสก โลโซ ยังเป็นคนที่ชื่นชอบกีฬาเป็นอย่างมาก การที่เขาได้ ร้องเพลงเชียร์ซีเกมส์ จะเป็นการถ่ายทอดความรักในกีฬาและความรักชาติผ่านบทเพลงได้อย่างเต็มที่

การประสานความร่วมมือกับกรมราชทัณฑ์เพื่อนำผู้ต้องขังที่ฝึกมวยไทยมาร่วมแสดง ก็เป็นอีกหนึ่งแนวคิดที่น่าสนใจ เพราะเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ต้องขังได้แสดงความสามารถและศักยภาพของตนเอง ซึ่งจะเป็นการสร้างโอกาสในการกลับคืนสู่สังคมได้อย่างมีคุณภาพ

ดังนั้น การที่ กกท. ดึง เสก โลโซ มาร่วม ร้องเพลงเชียร์ซีเกมส์ และนำศิลปะมวยไทยมาผสมผสานในการแสดงพิธีเปิด จึงเป็นการผสมผสานที่ลงตัวและสร้างสรรค์ ซึ่งจะทำให้ซีเกมส์ครั้งนี้เป็นที่น่าจดจำและประทับใจอย่างแน่นอน

การมีส่วนร่วมของศิลปิน ดารา และอินฟลูเอนเซอร์ต่างๆ จะช่วยสร้างกระแสและความสนใจให้กับซีเกมส์มากยิ่งขึ้น ทำให้ประชาชนหันมาให้ความสนใจและติดตามเชียร์นักกีฬาไทยมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นการสร้างบรรยากาศของการเป็นเจ้าภาพที่ดี และสร้างความภาคภูมิใจให้กับคนไทยทั้งประเทศ

ซีเกมส์ครั้งนี้ ไม่ได้เป็นแค่การแข่งขันกีฬา แต่ยังเป็นโอกาสอันดีที่เราจะได้แสดงศักยภาพของประเทศไทยให้โลกได้เห็น ไม่ว่าจะเป็นด้านกีฬา วัฒนธรรม หรือการท่องเที่ยว การเตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่และการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน จะทำให้ซีเกมส์ครั้งนี้ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม

การที่ กกท. กล้าที่จะดึงบุคคลที่มีประวัติหลากหลายอย่าง เสก โลโซ มามีส่วนร่วม แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นในศักยภาพและความสามารถของทุกคน และเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้ที่เคยพลาดพลั้งในชีวิตได้กลับมายืนหยัดและสร้างคุณประโยชน์ให้กับสังคมอีกครั้ง นี่คือสิ่งที่น่าชื่นชมและเป็นแบบอย่างที่ดี

ที่มา – ใจสั่งมา! กกท. ประสาน กรมราชทัณฑ์ ทาบ เสก​ โลโซ ร้องเพลงเชียร์ซีเกมส์

ก้องศักด นำทีมสำรวจสงขลา ซีเกมส์ 2025

ก้องศักด นำทีมสำรวจสงขลา ซีเกมส์ 2025: ความพร้อมที่มั่นใจ

มหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ปี 2025 กำลังเป็นที่จับตามองของคนไทยทั้งประเทศ ด้วยการที่ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพ โดยมีกรุงเทพมหานคร ชลบุรี และสงขลา เป็นสามเมืองหลักที่จะจัดการแข่งขันระหว่างวันที่ 9-20 ธันวาคม 2568 ล่าสุด ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ได้นำทีมลงพื้นที่สำรวจความพร้อมในจังหวัดสงขลา ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการเตรียมการจัดการแข่งขันกีฬานานาชาติครั้งนี้

ก้องศักด นำทีมสำรวจเจ้าภาพ สงขลา – เชื่อมั่นไร้ปัญหา

เมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2568 ที่ห้องประชุม 1 ชั้น 5 ศาลากลางจังหวัดสงขลา ดร.ก้องศักด ได้เป็นประธานการประชุมติดตามความคืบหน้าและเตรียมการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 โดยมีผู้เข้าร่วมสำคัญ เช่น นางคณิตา ราษฎร์นุ้ย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา นางโปรดปราน สมานมิตร รองผู้ว่าการ กกท. ฝ่ายกีฬาอาชีพและกีฬามวย นายปรีชา ลาลุน รองผู้ว่าการ กกท. ฝ่ายกีฬาเป็นเลิศและวิทยาศาสตร์การกีฬา รวมถึงผู้บริหาร กกท. และผู้บริหารจังหวัดสงขลา

หลังจากการประชุม ดร.ก้องศักด พร้อมคณะได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสนามกีฬาติณสูลานนท์ ซึ่งเป็นสถานที่สำคัญสำหรับการแข่งขันกีฬาหลายประเภทในครั้งนี้ ในระหว่างการสำรวจ ดร.ก้องศักด ได้แสดงความมั่นใจในความพร้อมของจังหวัดสงขลา โดยกล่าวว่า “ก้องศักด นำทีมสำรวจเจ้าภาพ สงขลา – เชื่อมั่นไร้ปัญหาพร้อมจัด ซีเกมส์ 2025” ทุกภาคส่วนในจังหวัดได้บูรณาการการทำงานได้อย่างลงตัว ทำให้ทุกอย่างดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีอะไรต้องกังวล หลังจากนี้ กกท. และจังหวัดสงขลาจะประสานงานกันอย่างใกล้ชิด เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและเตรียมความพร้อมให้สมบูรณ์แบบ

ประสบการณ์เก่าแก่ของสงขลาในการเป็นเจ้าภาพกีฬานานาชาติ

จังหวัดสงขลาไม่ได้เพิ่งเริ่มต้นในการเป็นเจ้าภาพกีฬาระดับนานาชาติ ที่ผ่านมา จังหวัดนี้เคยร่วมจัดการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 13 เมื่อปี 2541 ซึ่งเป็นประสบการณ์อันล้ำค่าที่ช่วยสร้างพื้นฐานให้กับการเตรียมการครั้งนี้ นอกจากนี้ สงขลายังมีประวัติการจัดกีฬานานาชาติมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ทีมผู้จัดงานมีความชำนาญในด้านต่างๆ ตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐานไปจนถึงการต้อนรับนักกีฬาและผู้ชมจากทั่วทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

สำหรับซีเกมส์ 2025 นี้ จังหวัดสงขลาจะรับผิดชอบการแข่งขันกีฬา 10 ชนิด ได้แก่:

  • หมากรุก: กีฬาที่เน้นสมาธิและกลยุทธ์
  • กาบัดดี้: กีฬาใหม่ที่กำลังได้รับความนิยม
  • ฟุตบอล: กีฬาประเพณีที่ดึงดูดแฟนบอลจำนวนมาก
  • ยูโด: การต่อสู้แบบญี่ปุ่นที่ท้าทาย
  • คาราเต้: ศิลปะการต่อสู้คลาสสิก
  • มวยปล้ำ: กีฬาที่แสดงพละกำลัง
  • ปันจักสีลัต: กีฬาไทยแท้ที่ภาคภูมิใจ
  • วูซู: ศิลปะการต่อสู้อันงดงาม
  • มวย: กีฬาไทยที่โด่งดังระดับโลก
  • เปตอง: กีฬาความแม่นยำสำหรับทุกวัย

การคัดเลือกกีฬาเหล่านี้ไม่เพียงแต่เพื่อความหลากหลาย แต่ยังเพื่อโปรโมทวัฒนธรรมและความสามารถของไทยให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น สนามติณสูลานนท์ได้รับการปรับปรุงเพื่อรองรับนักกีฬาจำนวนมาก โดยมีระบบไฟส่องสว่าง สิ่งอำนวยความสะดวก และมาตรฐานความปลอดภัยตามระดับนานาชาติ

นอกจากนี้ การนำทีมสำรวจของ ดร.ก้องศักด ยังช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นสหพันธ์กีฬา นักกีฬา หรือผู้สนับสนุน จังหวัดสงขลาได้เตรียมแผนการประชาสัมพันธ์และโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติม เช่น ที่พักสำหรับนักกีฬา การขนส่ง และกิจกรรมท่องเที่ยวเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวในช่วง赛事

ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพครั้งแรกในรอบหลายปี การจัดการซีเกมส์ 2025 นี้ถือเป็นโอกาสสำคัญในการแสดงศักยภาพของชาติ โดยเฉพาะในภาคใต้อย่างสงขลาที่มีทั้งความสวยงามทางธรรมชาติและวัฒนธรรมอันอุดมสมบูรณ์ ผู้ที่สนใจสามารถติดตามความคืบหน้าได้ที่เว็บไซต์การกีฬาแห่งประเทศไทย เพื่อไม่พลาดข้อมูลล่าสุด

สุดท้ายนี้ การสำรวจครั้งนี้ยืนยันแล้วว่าประเทศไทยพร้อมที่จะเป็นเจ้าภาพที่ยอดเยี่ยมสำหรับซีเกมส์ 2025 มาร่วมเชียร์และสนับสนุนนักกีฬาไทยกันเถอะ เพื่อสร้างความภาคภูมิใจให้กับชาติ!

ที่มา – ก้องศักด นำทีมสำรวจเจ้าภาพ สงขลา – เชื่อมั่นไร้ปัญหาพร้อมจัด ซีเกมส์ 2025

ผอ.กกท.ภาค 5 ยืนยันสนาม 700 ปี พร้อมรองรับฟุตบอลซีเกมส์ 2025

ในวงการกีฬาฟุตบอลของไทย กำลังมีข่าวดีมาจากภาคเหนือ โดยเฉพาะที่เชียงใหม่ ซึ่งเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ในปี 2568 การเตรียมความพร้อมของสถานที่แข่งขันกลายเป็นประเด็นสำคัญที่จะทำให้การแข่งขันครั้งนี้ประสบความสำเร็จ ผอ.กกท.ภาค 5 ยืนยันสนาม 700 ปี พร้อมรองรับฟุตบอลซีเกมส์ 2025 แล้ว ทำให้แฟนบอลชาวไทยตื่นเต้นกับโอกาสนี้

ผอ.กกท.ภาค 5 ยืนยันสนาม 700 ปี พร้อมรองรับฟุตบอลซีเกมส์ 2025

นายสงค์ศักย์ คำดีรุ่งริรัตน์ ผู้อำนวยการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ภาค 5 เชียงใหม่ ได้เปิดเผยข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับการปรับปรุงสนามฟุตบอลภายในสนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี ทั้งสนามที่ 1 และสนามที่ 2 ได้รับการดูแลอย่างดีเยี่ยม ตั้งแต่ระบบพื้นฐานไปจนถึงการบำรุงรักษาหญ้าสนาม ทำให้สนามอยู่ในสภาพสมบูรณ์แบบ สวยงาม และพร้อมใช้งานเต็มที่สำหรับการแข่งขันฟุตบอลชายในกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-20 ธันวาคม 2568

การยืนยันนี้ไม่ใช่แค่คำพูด แต่มาจากการทำงานหนักของทีมงานที่ทุ่มเทในการปรับปรุงทุกส่วนของสนาม ไม่ว่าจะเป็นระบบไฟส่องสว่าง ระบบระบายน้ำ หรือแม้แต่คุณภาพของพื้นหญ้าที่ต้องได้มาตรฐานระดับสากล สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี ถือเป็นหนึ่งในสถานที่สำคัญของภาคเหนือที่เคยรองรับการแข่งขันระดับชาติมาหลายครั้ง และครั้งนี้จะก้าวขึ้นสู่เวทีนานาชาติอย่าง SEA Games

การรับรองมาตรฐานจาก AFC และการขอใช้สนาม

สิ่งที่ทำให้มั่นใจยิ่งขึ้นคือ สนามฟุตบอลทั้งสองแห่งได้รับการรับรองจากสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย (AFC) เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันถึงคุณภาพที่ได้มาตรฐานสากล นอกจากนี้ ฝ่ายเทคนิคกีฬาของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ และการกีฬาแห่งประเทศไทย ได้ส่งหนังสือแจ้งความจำนงขอใช้สนามนี้สำหรับการแข่งขันฟุตบอลชายรอบคัดเลือกของซีเกมส์ 2025 เรียบร้อยแล้ว ทำให้ทุกอย่างเป็นไปตามแผน

“ขณะนี้สนามฟุตบอลของเราทั้งสองสนามพร้อมที่จะรองรับการแข่งขันทั้งในระดับชาติและนานาชาติ โดยเฉพาะกีฬาฟุตบอลซึ่งมีความพร้อม 100% สามารถใช้รองรับการแข่งขันได้อย่างแน่นอน” นายสงค์ศักย์กล่าวอย่างมั่นใจ ซึ่งคำพูดนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของทีมงานในการเตรียมความพร้อม

ไม่เพียงแต่สนามฟุตบอลเท่านั้น แต่ยังมีการวางแผนเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ เช่น ที่นั่งผู้ชม ระบบรักษาความปลอดภัย และการขนส่ง เพื่อให้การแข่งขันราบรื่น SEA Games 2025 จะเป็นโอกาสสำคัญที่เชียงใหม่จะได้แสดงศักยภาพในการเป็นเจ้าภาพกีฬานานาชาติ โดยคาดว่าจะมีนักกีฬาจาก 12 ประเทศเข้าร่วมแข่งขันในกีฬาฟุตบอล

ความสำคัญของสนาม 700 ปี ต่อฟุตบอลไทย

สนามกีฬาสมโภชเชียงใหม่ 700 ปี ไม่ใช่แค่สถานที่แข่งขัน แต่ยังเป็นสัญลักษณ์ของความภาคภูมิใจของคนเชียงใหม่และภาคเหนือ การที่ ผอ.กกท.ภาค 5 ยืนยันสนาม 700 ปี พร้อมรองรับฟุตบอลซีเกมส์ 2025 จะช่วยยกระดับฟุตบอลไทยให้เป็นที่จับตามองในภูมิภาคอาเซียนมากขึ้น นักเตะไทยจะมีโอกาสลงสนามในบ้านที่ได้มาตรฐาน สร้างแรงบันดาลใจให้เยาวชนรุ่นใหม่หันมาสนใจกีฬาฟุตบอล

  • การปรับปรุงระบบพื้นฐาน: ทำให้สนามทนทานต่อสภาพอากาศหลากหลาย
  • การบำรุงหญ้าสนาม: ใช้เทคโนโลยีทันสมัยเพื่อให้หญ้าเขียวชอุ่มตลอดปี
  • การรับรองจาก AFC: รับประกันคุณภาพระดับเอเชีย
  • การเตรียมสำหรับ SEA Games: รวมถึงห้องแต่งตัวและอุปกรณ์ทางการแพทย์

นอกจากนี้ ยังมีการประสานงานกับหน่วยงานท้องถิ่นเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวควบคู่ไปกับกีฬา ทำให้ผู้เข้าร่วมงานไม่เพียงแต่ได้ชมการแข่งขัน แต่ยังได้สัมผัสวัฒนธรรมล้านนาอย่างเต็มที่

ในมุมมองของผู้เขียน การเตรียมสนามครั้งนี้ไม่ใช่แค่สำหรับ SEA Games เพียงครั้งเดียว แต่เป็นการลงทุนระยะยาวที่ช่วยพัฒนากีฬาฟุตบอลในไทยให้เติบโตยั่งยืน หากคุณเป็นแฟนฟุตบอล อย่าลืมติดตามข่าวสารและเตรียมตัวไปเชียร์ทีมชาติไทยที่เชียงใหม่ในปีหน้า!

ที่มา – ผอ.กกท.ภาค 5 ยืนยันสนาม 700 ปี พร้อมรองรับฟุตบอลซีเกมส์ 2025