ซาอุฯ จบเจ๊าแต่ก็เพียงพอ – กาตาร์เฉือนยูเออีคว้าตั๋วไป ฟุตบอลโลก 2026

การแข่งขัน ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบสี่ เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม กลุ่มบี ซาอุดีอาระเบียผู้เป็นเจ้าภาพประจำกลุ่ม เสมอกับอิรัก 0-0 ส่งผลให้ซาอุดีอาระเบียได้ไปฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย

อันดับของกลุ่มนี้หลังจบ 2 นัด 1. ซาอุดีอาระเบีย (4 คะแนน), 2. อิรัก (4 คะแนน), 3. อินโดนีเซีย (0 คะแนน)

แม้ซาอุดีอาระเบียกับอิรักจะมีคะแนนเท่ากัน แถมผลต่างประตูได้เสียยัง +1 เท่ากันด้วย แต่ซาอุดีอาระเบียมีจำนวนประตูได้มากกว่า จึงคว้าแชมป์กลุ่มและได้ไปฟุตบอลโลก 2026 รอบสุดท้ายอย่างสวยงาม ในขณะที่อิรักต้องไปเล่นต่อในรอบห้า ส่วนอินโดนีเซียต้องอกหักตกรอบไปอย่างน่าเสียดาย

(AP Photo/Hussein Sayed)

ในส่วนของกลุ่มเอ กาตาร์ที่เป็นเจ้าภาพประจำกลุ่ม ก็ไม่น้อยหน้า สามารถเอาชนะสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ไปได้ด้วยสกอร์ 2-1 ทำให้กาตาร์ได้ผ่านเข้าไปเล่นในฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายได้เช่นกัน

อันดับของกลุ่มนี้หลังจบ 2 นัด 1. กาตาร์ (4 คะแนน), 2. ยูเออี (3 คะแนน), 2. โอมาน (1 คะแนน)

ผลจากชัยชนะครั้งนี้ ทำให้กาตาร์ได้ผ่านเข้าสู่ฟุตบอลโลก 2026 รอบสุดท้าย ในขณะที่ยูเออีจะต้องไปเตะต่อในรอบห้าเพื่อลุ้นพื้นที่ต่อไป โดยจะต้องเจอกับอิรัก ส่วนโอมานก็ต้องยุติเส้นทางในรอบคัดเลือกไป

สรุปทีมเอเชียที่ได้ไปฟุตบอลโลก 2026

ณ ตอนนี้ มีทีมจากเอเชียที่การันตีการเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลกแล้วทั้งหมด 8 ทีม ได้แก่ ออสเตรเลีย, อิหร่าน, ญี่ปุ่น, จอร์แดน, เกาหลีใต้, อุซเบกิสถาน, กาตาร์ และล่าสุด ซาอุดีอาระเบีย

สำหรับการแข่งขันในรอบห้า จะเป็นการแข่งขันแบบเหย้า-เยือน โดยนัดแรกจะเล่นที่บ้านของยูเออีในวันที่ 13 พฤศจิกายน และนัดที่สองจะเล่นที่บ้านของอิรักในวันที่ 18 พฤศจิกายน ทีมที่ชนะในรอบนี้ จะได้สิทธิ์ไปเล่นในรอบเพลย์ออฟระหว่างทวีปต่อไป ส่วนทีมที่แพ้จะต้องตกรอบไปอย่างน่าเสียดาย

การที่ซาอุดีอาระเบียและกาตาร์สามารถคว้าตั๋วไปฟุตบอลโลก 2026 ได้สำเร็จ แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาของฟุตบอลในภูมิภาคตะวันออกกลางที่กำลังก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง และน่าจับตามองว่าพวกเขาจะสามารถสร้างผลงานได้ดีเพียงใดในการแข่งขันระดับโลกครั้งนี้

ที่มา – ซาอุฯ จบเจ๊าแต่ก็เพียงพอ – กาตาร์เฉือนยูเออีคว้าตั๋วไป ฟุตบอลโลก 2026

ทำเนียบขาวได้ออกมาแสดงความเสียใจอย่างยิ่งต่อกรณีที่กองทัพอิสราเอลปฏิบัติการโจมตีกรุงโดฮา เมืองหลวงของกาตาร์ โดยระบุว่าเป็นเหตุการณ์ที่ “น่าเสียใจ” และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ รู้สึก “เสียใจเป็นอย่างมาก” กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

“ท่านประธานาธิบดีมองว่ากาตาร์เป็นพันธมิตรและเพื่อนที่แข็งแกร่งของสหรัฐฯ และท่านรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากกับสถานที่ที่เกิดการโจมตีครั้งนี้” แคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกทำเนียบขาวกล่าวในการแถลงข่าวเมื่อวันอังคาร

“ในช่วงเช้าของวันอังคาร คณะบริหารของประธานาธิบดีทรัมป์ได้รับการแจ้งจากกองทัพสหรัฐฯ ว่าอิสราเอลทำการโจมตีกลุ่มฮามาส ซึ่งน่าเสียใจอย่างยิ่งที่เป้าหมายอยู่ในส่วนหนึ่งของกรุงโดฮา เมืองหลวงของกาตาร์” เลวิตต์กล่าว

“การทิ้งระเบิดฝ่ายเดียวภายในกาตาร์ ซึ่งเป็นประเทศที่มีอธิปไตยและเป็นพันธมิตรใกล้ชิดกับสหรัฐฯ ที่กำลังทำงานอย่างหนักในการเสี่ยงภัยร่วมกันกับเราเพื่อเป็นคนกลางในการเจรจาสันติภาพนั้น ไม่ได้ทำให้เป้าหมายของอิสราเอลหรืออเมริกามีความคืบหน้าแต่อย่างใด” เธอกล่าวเสริม

“ท่านประธานาธิบดีได้พูดคุยกับประมุขและนายกรัฐมนตรีของกาตาร์แล้ว … ท่านได้ให้คำมั่นกับพวกเขาว่าเหตุการณ์เช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นบนแผ่นดินของพวกเขาอีก” เลวิตต์กล่าว

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า กลุ่มฮามาสแถลงเมื่อวันอังคารว่า ผู้แทนเจรจาของฮามาสรอดชีวิตจากการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลในกรุงโดฮา อย่างไรก็ดี มีผู้เสียชีวิต 6 ราย ซึ่งรวมถึงสมาชิกผู้ติดตามคณะผู้แทนเจรจา และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของกาตาร์เสียชีวิต 1 ราย

ก่อนหน้านี้ กองทัพอิสราเอลและหน่วยความมั่นคงชินเบท (Shin Bet) ได้ออกแถลงการณ์ร่วมกันว่า กองทัพอากาศอิสราเอลได้ “ทำการโจมตีโดยมุ่งเป้าไปที่ผู้นำระดับสูงของกลุ่มฮามาสในกาตาร์”

“ทรัมป์” เสียใจกับเหตุการณ์อิสราเอลโจมตีกรุงโดฮา

สถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสยังคงทวีความรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเหตุการณ์ “ทรัมป์” เสียใจกับเหตุการณ์อิสราเอลโจมตีกรุงโดฮา ถือเป็นอีกหนึ่งจุดเปลี่ยนสำคัญที่อาจส่งผลกระทบต่อการเจรจาสันติภาพในอนาคต การออกมาแสดงความเสียใจของประธานาธิบดีทรัมป์สะท้อนให้เห็นถึงความกังวลของสหรัฐฯ ต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และความสำคัญของกาตาร์ในฐานะพันธมิตรที่ใกล้ชิด

ผลกระทบจากเหตุการณ์ “ทรัมป์” เสียใจกับเหตุการณ์อิสราเอลโจมตีกรุงโดฮา

เหตุการณ์ “ทรัมป์” เสียใจกับเหตุการณ์อิสราเอลโจมตีกรุงโดฮา อาจส่งผลกระทบหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น:

• ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ: เหตุการณ์ดังกล่าวอาจสร้างความตึงเครียดในความสัมพันธ์ระหว่างอิสราเอลและกาตาร์ รวมถึงอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างอิสราเอลและสหรัฐฯ ด้วย
• การเจรจาสันติภาพ: การโจมตีดังกล่าวอาจทำให้การเจรจาสันติภาพระหว่างอิสราเอลและกลุ่มฮามาสเป็นไปได้ยากยิ่งขึ้น
• สถานการณ์ในภูมิภาค: เหตุการณ์นี้อาจนำไปสู่ความรุนแรงที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาค

การที่ “ทรัมป์” เสียใจกับเหตุการณ์อิสราเอลโจมตีกรุงโดฮา นั้น แสดงให้เห็นว่าสหรัฐฯ ให้ความสำคัญกับการรักษาสมดุลในภูมิภาค และต้องการให้มีการแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธี อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ที่เกิดขึ้นยังคงมีความซับซ้อนและยากที่จะคาดเดาได้ว่าจะนำไปสู่ทิศทางใดในอนาคต

ในขณะที่สถานการณ์ยังคงพัฒนาต่อไป สิ่งสำคัญคือการติดตามข่าวสารและข้อมูลอย่างใกล้ชิด เพื่อทำความเข้าใจผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากเหตุการณ์นี้ และเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่อาจเปลี่ยนแปลงไปได้

โดยรวมแล้ว เหตุการณ์นี้ชี้ให้เห็นถึงความเปราะบางของสถานการณ์ในตะวันออกกลาง และความสำคัญของการทำงานร่วมกันระหว่างประเทศต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งอย่างยั่งยืน

ที่มา – “ทรัมป์” เสียใจกับเหตุการณ์อิสราเอลโจมตีกรุงโดฮา ลั่นจะไม่ให้เกิดขึ้นอีก