OpenAI ปรับโครงสร้าง ปูทาง IPO – Microsoft ถือหุ้น 27%

ไมโครซอฟท์ (Microsoft) และโอเพนเอไอ (OpenAI) ได้ประกาศข้อตกลงปรับโครงสร้างองค์กรครั้งสำคัญ ซึ่งเป็นการปูทางไปสู่การเสนอขายหุ้น IPO โดย Microsoft ยังคงถือหุ้น 27% ข้อตกลงนี้เปิดโอกาสให้ผู้สร้าง ChatGPT สลัดภาพองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร และเตรียมพร้อมสำหรับการระดมทุนครั้งใหญ่เพื่อพัฒนาดาต้าเซ็นเตอร์และเทคโนโลยี AI ในอนาคต ภายใต้การนำของซีอีโอ แซม อัลท์แมน

ภายใต้ข้อตกลงใหม่นี้ โอเพนเอไอ ซึ่งมีมูลค่าบริษัทประเมินกว่า 5 แสนล้านดอลลาร์ จะถูกปรับโครงสร้างเป็น “บริษัทเพื่อประโยชน์สาธารณะ” (Public Benefit Corporation – PBC) ที่ยังคงถูกควบคุมโดยองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร อัลท์แมนระบุว่าการเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์เป็นเส้นทางที่เป็นไปได้มากที่สุดสำหรับอนาคตของบริษัท เนื่องจากต้องใช้เงินทุนมหาศาลในการสร้างและฝึกฝนระบบ AI

การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อโอเพนเอไอ (OpenAI) ในการระดมทุนและการพัฒนาเทคโนโลยี AI อย่างต่อเนื่อง การปรับโครงสร้างครั้งนี้เป็นการ OpenAI ปรับโครงสร้าง ปูทาง IPO ที่น่าจับตามอง

ในไลฟ์สตรีม อัลท์แมนและยาคุบ พาชอคกี หัวหน้านักวิทยาศาสตร์ของโอเพนเอไอ ได้สรุปแผนการที่จะเปลี่ยนโอเพนเอไอจากบริษัทที่เน้นผลิตภัณฑ์ไปสู่การเป็นแพลตฟอร์มที่เปิดให้คนทั่วโลกสามารถสร้างเครื่องมือ บริการ และธุรกิจของตนเองบนเทคโนโลยีของบริษัทได้

ความเคลื่อนไหวนี้ได้รับการตอบรับอย่างดีจากนักลงทุน รวมถึง เจนเซน หวง ซีอีโอของอินวิเดีย (Nvidia) ที่กล่าวว่า “ถ้าคุณบอกผมว่าโอเพนเอไอจะเข้าตลาดหลักทรัพย์ในปีหน้า ผมก็ไม่แปลกใจเลย และนี่อาจเป็นหนึ่งในการเสนอขายหุ้น IPO ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในประวัติศาสตร์”

ข้อตกลงครั้งนี้เกิดขึ้นเพื่อยกเลิกข้อจำกัดสำคัญในการระดมทุนและจัดหาทรัพยากรคอมพิวเตอร์จากไมโครซอฟท์ ซึ่งเป็นเงื่อนไขในข้อตกลงเดิมตั้งแต่ปี 2562 และได้กลายเป็นต้นตอของความตึงเครียดหลังจาก ChatGPT ได้รับความนิยมอย่างถล่มทลาย

การหารือเพื่อ OpenAI ปรับโครงสร้าง ปูทาง IPO เริ่มต้นขึ้นหลังเหตุการณ์ที่อัลท์แมนถูกปลดออกจากตำแหน่งชั่วคราวในช่วงปลายปี 2566 ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าโครงสร้างองค์กรที่ไม่เหมือนใครของโอเพนเอไอได้จำกัดอำนาจของนักลงทุนและพันธมิตรทางธุรกิจอย่างไมโครซอฟท์

อย่างไรก็ตาม โฆษกของโอเพนเอไอยืนยันว่า อัลท์แมนจะไม่ได้รับหุ้นในบริษัทใหม่ และยังคงได้รับค่าตอบแทนเท่าเดิมที่ประมาณ 76,000 ดอลลาร์ต่อปี

อัลท์แมนเปิดเผยว่า โอเพนเอไอมีภาระผูกพันทางการเงินสูงถึง 1.4 ล้านล้านดอลลาร์ สำหรับการสร้างโครงสร้างพื้นฐานศูนย์ข้อมูลขนาดประมาณ 30 กิกะวัตต์ในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า โดยตั้งเป้าหมายสูงสุดคือการสร้างศูนย์ข้อมูลที่สามารถผลิตไฟฟ้าได้ 1 กิกะวัตต์ต่อสัปดาห์

บริษัทใหม่ในชื่อ โอเพนเอไอ กรุ๊ป พีบีซี (OpenAI Group PBC) จะดำเนินงานคล้ายกับบริษัททั่วไปมากขึ้น ตอกย้ำอำนาจของอัลท์แมนในการตัดสินใจและทำข้อตกลงต่าง ๆ โดยไมโครซอฟท์จะยังคงถือหุ้นในสัดส่วน 27% คิดเป็นมูลค่าราว 1.35 แสนล้านดอลลาร์ และยังคงเป็นผู้เล่นคนสำคัญในอนาคตของบริษัทต่อไป ซึ่งข้อตกลงนี้สะท้อนว่าไมโครซอฟท์สร้างผลตอบแทนได้เกือบ 10 เท่าจากเงินลงทุน 1.38 หมื่นล้านดอลลาร์ ส่งผลให้หุ้นไมโครซอฟท์ปรับตัวขึ้น 2% และมีมูลค่าตลาดทะลุ 4 ล้านล้านดอลลาร์อีกครั้ง

ข้อตกลงนี้จะผูกพันทั้งสองบริษัทไปจนถึงปี 2575 เป็นอย่างน้อย โดยโอเพนเอไอจะยังคงแบ่งปันรายได้ประมาณ 20% ให้กับไมโครซอฟท์ต่อไปอีกหลายปี และข้อตกลงการแบ่งรายได้จะสิ้นสุดลงก็ต่อเมื่อคณะกรรมการอิสระประกาศว่าโอเพนเอไอบรรลุถึง “ปัญญาประดิษฐ์ทั่วไป” (Artificial General Intelligence – AGI) แล้วเท่านั้น

เบรต เทย์เลอร์ ประธานคณะกรรมการของมูลนิธิโอเพนเอไอ (OpenAI Foundation) ยืนยันว่า “องค์กรไม่แสวงหาผลกำไรยังคงควบคุมองค์กรที่แสวงหาผลกำไร และตอนนี้มีช่องทางเข้าถึงทรัพยากรมหาศาลได้โดยตรง” โดยคณะกรรมการของมูลนิธิฯ ซึ่งรวมถึงอัลท์แมน จะมีอำนาจในการแต่งตั้งและถอดถอนสมาชิกคณะกรรมการของบริษัท PBC

อดัม ซาร์ฮาน ซีอีโอของ 50 ปาร์ค อินเวสท์เมนท์ส (50 Park Investments) มองว่า “โอเพนเอไอยังคงเผชิญกับการตรวจสอบเรื่องความโปร่งใสและการใช้ข้อมูล แต่โดยรวมแล้ว โครงสร้างนี้น่าจะช่วยให้มีเส้นทางที่ชัดเจนยิ่งขึ้นสำหรับนวัตกรรมและความรับผิดชอบ”

นอกจากนี้ ไมโครซอฟท์ยังเปิดเผยอีกว่าได้บรรลุข้อตกลงให้โอเพนเอไอซื้อบริการคลาวด์คอมพิวติ้ง Azure มูลค่า 2.5 แสนล้านดอลลาร์ เพื่อแลกกับการที่ไมโครซอฟท์จะสละสิทธิ์ในการเป็นผู้ให้บริการด้านการประมวลผลแก่โอเพนเอไอแต่เพียงผู้เดียว (right of first refusal) อีกต่อไป

OpenAI ปรับโครงสร้าง ปูทาง IPO

โดยสรุปแล้ว การ OpenAI ปรับโครงสร้าง ปูทาง IPO ครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาเทคโนโลยี AI และการเติบโตของ OpenAI การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่เพียงแต่จะส่งผลกระทบต่อ OpenAI และ Microsoft เท่านั้น แต่ยังรวมถึงอุตสาหกรรมเทคโนโลยีโดยรวมอีกด้วย

ทำไมการปรับโครงสร้าง OpenAI และการปูทางสู่ IPO ถึงสำคัญ?

การ OpenAI ปรับโครงสร้าง ปูทาง IPO เป็นการเปิดโอกาสให้บริษัทสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่มากขึ้น เพื่อนำไปพัฒนาเทคโนโลยี AI ที่ล้ำสมัยและตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนและพันธมิตรทางธุรกิจ

การเปลี่ยนแปลงนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ OpenAI ในการพัฒนาเทคโนโลยี AI ที่เป็นประโยชน์ต่อสังคม และพร้อมที่จะเติบโตในตลาดโลกอย่างยั่งยืน การปรับโครงสร้างนี้เป็นการปูทางไปสู่อนาคตที่สดใสของ OpenAI และเทคโนโลยี AI

ที่มา – OpenAI ปรับโครงสร้างใหม่ปูทาง IPO – Microsoft ยังคงถือหุ้น 27%

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *