เคอริง อิตาลี: พนักงาน**หยุดงานประท้วง 4 ชั่วโมง**

พนักงาน Kering ในอิตาลีหยุดงานประท้วง 4 ชั่วโมง เหตุไม่พอใจบริษัทตัดสินใจฝ่ายเดียว

พนักงานของบริษัทเคอริง (Kering) ในประเทศอิตาลี เตรียม**หยุดงานประท้วง 4 ชั่วโมง**ในวันนี้ (21 ตุลาคม) เพื่อแสดงความไม่พอใจต่อการตัดสินใจของบริษัทในหลาย ๆ ประเด็นที่เกิดขึ้นโดยไม่ปรึกษาหารือกันก่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของการจำกัดจำนวนวันที่พนักงานสามารถทำงานจากระยะไกล (Remote Working) ได้

การ**หยุดงานประท้วง 4 ชั่วโมง**นี้ จะครอบคลุมถึงพนักงานของแบรนด์ดังต่าง ๆ ที่อยู่ภายใต้เครือ Kering ได้แก่ Gucci, Yves Saint Laurent, และ Balenciaga โดยจะมีการจัดชุมนุมเพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ทั้งในเมืองมิลาน และเมือง Scandicci ซึ่งตั้งอยู่ใกล้กับเมืองฟลอเรนซ์

สหภาพแรงงาน Filctem Cgil, Femca Cisl และ Uiltec Uil ได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า การเจรจาครั้งล่าสุดกับผู้บริหารของ Kering แสดงให้เห็นถึงการขาดการเปิดใจรับฟังความคิดเห็น และการตัดสินใจที่เกิดขึ้นแต่เพียงฝ่ายเดียว ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์อันดีระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง รวมถึงสิทธิของแรงงาน

ตัวแทนจากสหภาพแรงงานยังได้เปิดเผยว่า หนึ่งในประเด็นสำคัญที่ทำให้เกิดความไม่พอใจคือการที่บริษัทได้ทำการลดจำนวนวันที่อนุญาตให้พนักงานทำงานจากที่บ้านจากเดิม 8 วันต่อเดือน เหลือเพียง 4 วันต่อเดือน โดยที่ไม่ได้มีการเปิดรับฟังข้อเสนอแนะหรือความคิดเห็นจากพนักงานแต่อย่างใด

ทางด้าน Kering Italia ได้ออกมาชี้แจงว่า บริษัทได้แจ้งให้สหภาพแรงงานทราบถึงแผนการปรับเปลี่ยนนโยบายดังกล่าวตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนของปีที่ผ่านมา เพื่อให้สอดคล้องกับกลยุทธ์ในระดับโลก โดยข้อตกลงเดิมนั้นได้มีการขยายระยะเวลาไปจนถึงเดือนกันยายน ก่อนที่นโยบายใหม่จะมีผลบังคับใช้ในเดือนตุลาคมนี้

การนัด**หยุดงานประท้วง 4 ชั่วโมง**ครั้งนี้ เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่บริษัทกำลังเผชิญกับแรงกดดันทางธุรกิจอันเนื่องมาจากยอดขายที่ชะลอตัวลง รวมถึงภาระหนี้สินที่เพิ่มสูงขึ้น โดย Kering เพิ่งจะประกาศข้อตกลงการขายธุรกิจความงามให้กับ L’Oreal ด้วยมูลค่า 4 พันล้านยูโร เพื่อจัดการกับภาระหนี้สินที่สูงและมุ่งเน้นไปที่ธุรกิจแฟชั่นหลักของบริษัท

ทำไมพนักงาน Kering ในอิตาลีจึงหยุดงานประท้วง?

สาเหตุหลักของการประท้วงครั้งนี้ เกิดจากการที่พนักงานรู้สึกว่าบริษัทไม่ได้ให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของพวกเขาในการตัดสินใจเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องที่เกี่ยวข้องกับความสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว (Work-Life Balance) การที่บริษัทลดจำนวนวันที่สามารถทำงานจากที่บ้านได้ลงอย่างมาก ทำให้พนักงานหลายคนรู้สึกว่าพวกเขาไม่ได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นธรรม และไม่ได้รับการเคารพในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งขององค์กร

นอกจากนี้ การตัดสินใจที่เกิดขึ้นโดยไม่ปรึกษาหารือกับสหภาพแรงงาน ยังเป็นการส่งสัญญาณที่ไม่ดีเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง ซึ่งอาจนำไปสู่ความขัดแย้งและความไม่ไว้วางใจในระยะยาวได้

ในยุคปัจจุบันที่หลายองค์กรให้ความสำคัญกับการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ยืดหยุ่นและเอื้อต่อการมีส่วนร่วมของพนักงาน การที่ Kering ตัดสินใจลดจำนวนวันที่ทำงานจากที่บ้านได้ลง อาจถูกมองว่าเป็นความถอยหลัง และอาจส่งผลกระทบต่อขวัญและกำลังใจของพนักงานได้

การประท้วงของพนักงาน Kering ในอิตาลีครั้งนี้ เป็นเครื่องเตือนใจให้องค์กรต่าง ๆ ตระหนักถึงความสำคัญของการรับฟังความคิดเห็นของพนักงาน และการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง การตัดสินใจที่โปร่งใสและเป็นธรรม จะช่วยสร้างความไว้วางใจและความผูกพันของพนักงานต่อองค์กร ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จในระยะยาว

ที่มา – พนักงาน Kering ในอิตาลีหยุดงานประท้วง 4 ชั่วโมง ปมไม่พอใจบ.ตัดสินใจฝ่ายเดียว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *