อโมริมรับเอง! แมนยูจะเทียบลิเวอร์พูลเมื่อไหร่?
รูเบน อโมริม เฮดโค้ช แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ยอมรับไม่รู้ว่า “ปีศาจแดง” จะใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะไปถึงระดับเดียวกับ ลิเวอร์พูล
โดย แมนฯ ยูไนเต็ด มีโปรแกรมสำคัญในการบุกเยือน ลิเวอร์พูล คู่ปรับตลอดกาลในศึก “แดงเดือด” ที่สนาม แอนฟิลด์ วันที่ 19 ต.ค.นี้
อย่างไรก็ตาม “ปีศาจแดง” ต้องเจอกับฤดูกาลที่แย่สุดในยุคพรีเมียร์ลีกภายใต้การคุมทีมของ อโมริม เมื่อซีซั่นก่อนโดยจบอันดับที่ 15 ขณะที่ “หงส์แดง” คว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้เท่ากับสถิติเดิมของพวกเขาที่ 20 สมัย
แม้ทั้งสองสโมสรจะครองความยิ่งใหญ่ แต่ช่วงเวลาที่ดีที่สุดของสองสโมสรที่ประสบความสำเร็จสูงสุดของอังกฤษกลับแทบจะไม่เคยเกิดขึ้นพร้อมกัน และมักจะเกิดขึ้นเมื่ออีกฝ่ายกำลังถดถอยลง
เมื่อถูกถามว่าเป้าหมายที่เป็นไปได้ในการไล่ตามให้ไปอยู่ระดับเดียวกับ ลิเวอร์พูล นั้น อโมริม ระบุว่า “ผมไม่รู้ บางครั้งสิ่งต่างๆ ก็เปลี่ยนแปลงเร็วมาก เราสามารถชนะเกมไหนก็ได้ ดังนั้นหากเราคิดถึงเกมต่อไป นั่นคือสิ่งสำคัญที่สุด และเราสามารถชนะเกมต่อไปได้”
“เราจะต่อสู้เพื่ออยู่ในระดับเดียวกับ ลิเวอร์พูล ในอนาคต นั่นคือแนวคิด ผมไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลานานแค่ไหน”
การที่ รูเบน อโมริม กุนซือของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ออกมายอมรับว่า เขาเองก็ไม่มั่นใจว่าทีมรักของเขาจะสามารถก้าวไปเทียบชั้นกับทีมคู่อริตลอดกาลอย่าง ลิเวอร์พูล ได้เมื่อไหร่นั้น สร้างความฮือฮาให้กับแฟนบอลเป็นอย่างมาก เพราะเป็นการแสดงความเห็นที่ค่อนข้างตรงไปตรงมา และสะท้อนให้เห็นถึงสถานการณ์ที่แท้จริงของทีม
อโมริมรับเอง แมนยู จะไปถึงระดับเดียวกับ ลิเวอร์พูล ได้เมื่อใด?
สถานการณ์ของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานั้น ไม่สู้ดีนัก พวกเขาต้องเผชิญกับความยากลำบากในการกลับไปสู่จุดสูงสุดของวงการฟุตบอลอังกฤษ และยุโรป ผิดกับ ลิเวอร์พูล ที่ภายใต้การคุมทีมของ เจอร์เก้น คล็อปป์ พวกเขากลับมาเป็นหนึ่งในทีมที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก
ดังนั้น คำถามที่ว่า “แมนยูจะไปถึงระดับเดียวกับลิเวอร์พูลได้เมื่อไหร่?” จึงเป็นคำถามที่แฟนบอลหลายคนอยากรู้ และแน่นอนว่าไม่มีใครสามารถให้คำตอบที่ชัดเจนได้ แม้แต่ตัวกุนซือเองก็ตาม
ปัจจัยที่ส่งผลต่อการพัฒนาของ แมนยู
การที่ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะสามารถกลับไปเทียบชั้นกับ ลิเวอร์พูล ได้นั้น ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น:
- การเสริมทัพนักเตะ: การมีนักเตะที่มีคุณภาพ และเหมาะสมกับระบบการเล่น ถือเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง
- การวางแผนระยะยาว: ทีมต้องมีการวางแผนที่เป็นระบบ และมองถึงอนาคต
- ความอดทนของแฟนบอล: การเปลี่ยนแปลงต้องใช้เวลา แฟนบอลต้องให้โอกาสทีมได้พัฒนา
นอกจากนี้ ปัญหาภายในสโมสรต่างๆก็มีส่วนสำคัญเช่นกัน ทั้งเรื่องการบริหารจัดการ รวมไปถึงเรื่องของสปิริตภายในทีม หากภายในยังไม่แข็งแกร่งการจะก้าวไปข้างหน้าก็เป็นไปได้ยาก
ถึงแม้ว่า อโมริม จะไม่สามารถให้คำตอบที่ชัดเจนได้ว่า แมนยู จะสามารถไปถึงระดับเดียวกับ ลิเวอร์พูล ได้เมื่อไหร่ แต่เขาก็ยืนยันว่าทีมจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อไล่ตามให้ทัน และนั่นคือสิ่งที่แฟนบอลทุกคนอยากได้ยิน
แน่นอนว่าการเดินทางสู่จุดสูงสุดนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ด้วยความมุ่งมั่น และการทำงานหนัก เชื่อว่า แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะสามารถกลับมาเป็นทีมที่น่าเกรงขามได้อีกครั้ง และอาจจะกลับมายิ่งใหญ่ได้เทียบเท่าหรือมากกว่า ลิเวอร์พูล ก็เป็นได้ ใครจะรู้?
ดังนั้น เราในฐานะแฟนบอลก็คงต้องให้กำลังใจ สนับสนุนทีมต่อไป และหวังว่าสักวันหนึ่ง “ปีศาจแดง” จะกลับมายืนหยัดได้อย่างสง่างามอีกครั้ง
ที่มา – อโมริม รับเองไม่รู้ แมนยู จะไปถึงระดับเดียวกับ ลิเวอร์พูล ได้เมื่อใด