ศาลสั่ง กทม. ชดใช้ค่ารถไฟฟ้าสายสีเขียว 1.1 หมื่นล้าน
ศาลปกครองกลาง สั่ง กทม.ชดใช้ค่าจ้างเดินรถ-ค่าซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าสายสีเขียว 1.1 หมื่นล้าน ภายใน 180 วันนับแต่คดีถึงที่สุด
เมื่อวันที่ 29 ก.ย.68 ศาลปกครองกลาง มีคำพิพากษา สั่งให้กรุงเทพมหานคร และบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ชำระค่าจ้างให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงส่วนต่อขยายโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ให้แก่บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน)
ตามที่ 2 ฝ่ายทำสัญญากันไว้ แต่กรุงเทพมหานคร กับบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด กระทำผิดสัญญาไม่ชำระค่าจ้างให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงส่วนต่อขยายที่ 1 และส่วนต่อขยายที่ 2 ตั้งแต่เดือน มิ.ย.64-ต.ค.65 เป็นเงินรวม 1.1 หมื่นล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยภายใน 180 วันนับแต่วันที่คดีถึงที่สุด
อย่างไรก็ตาม ผู้รับมอบอำนาจจากกรุงเทพฯ และบริษัทกรุงเทพธนาคม เปิดเผยว่า หลังจากนี้คงจะต้องกลับไปหารือกับทางผู้บริหารกทม.ว่าจะดำเนินการยื่นอุทธรณ์หรือไม่ เพราะหากยื่นอุทธรณ์ต้องอาจจะต้องมีภาระดอกเบี้ยสูงขึ้น
ศาลสั่ง กทม. ชดใช้ค่ารถไฟฟ้าสายสีเขียว 1.1 หมื่นล้าน
ข่าวล่าสุดเกี่ยวกับกรณีศาลสั่ง กทม. ชดใช้ค่ารถไฟฟ้าสายสีเขียว 1.1 หมื่นล้าน กำลังเป็นที่สนใจของประชาชนอย่างมาก คำตัดสินนี้มีผลกระทบโดยตรงต่อการบริหารจัดการงบประมาณของกรุงเทพมหานคร และอาจส่งผลกระทบต่อค่าโดยสารรถไฟฟ้าในอนาคต
เรื่องราวเริ่มต้นจากการที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) และบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด ไม่ได้ชำระค่าจ้างให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงส่วนต่อขยายโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวตามสัญญาที่ทำไว้กับบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC เป็นเวลานานหลายเดือน จำนวนเงินที่ค้างชำระรวมแล้วสูงถึง 1.1 หมื่นล้านบาท ทำให้ BTSC ต้องยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลาง
ผลกระทบจากคำตัดสินศาลต่อค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียว
คำตัดสินของศาลปกครองกลางที่ศาลสั่ง กทม. ชดใช้ค่ารถไฟฟ้าสายสีเขียว 1.1 หมื่นล้าน นี้อาจส่งผลกระทบต่อค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวในอนาคต เนื่องจาก กทม. อาจต้องหาแหล่งเงินทุนมาชำระหนี้ก้อนนี้ ซึ่งหนึ่งในแนวทางที่อาจถูกนำมาพิจารณาคือการปรับขึ้นค่าโดยสาร อย่างไรก็ตาม การปรับขึ้นค่าโดยสารอาจสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนผู้ใช้บริการรถไฟฟ้า ดังนั้น กทม. ต้องพิจารณาเรื่องนี้อย่างรอบคอบและหาทางออกที่เป็นธรรมกับทุกฝ่าย
นอกจากผลกระทบต่อค่าโดยสารแล้ว คำตัดสินนี้ยังอาจส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อโครงการรถไฟฟ้าในกรุงเทพมหานคร เนื่องจากแสดงให้เห็นถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการทำสัญญากับหน่วยงานภาครัฐ ดังนั้น กทม. ต้องสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนว่าการดำเนินโครงการรถไฟฟ้าในอนาคตจะเป็นไปอย่างโปร่งใสและเป็นธรรม
ทางออกที่เป็นไปได้สำหรับ กทม. ในสถานการณ์นี้คือการเจรจากับ BTSC เพื่อหาข้อยุติที่เป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย อาจมีการพิจารณาปรับโครงสร้างหนี้ หรือหาแหล่งเงินทุนอื่นมาชำระหนี้โดยที่ไม่ต้องปรับขึ้นค่าโดยสาร นอกจากนี้ กทม. ควรปรับปรุงระบบการบริหารจัดการโครงการรถไฟฟ้าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาการค้างชำระหนี้ในอนาคต
ประเด็นสำคัญที่ต้องพิจารณาคือการรักษาสมดุลระหว่างภาระทางการเงินของ กทม. และผลประโยชน์ของประชาชนผู้ใช้บริการรถไฟฟ้า การแก้ไขปัญหาศาลสั่ง กทม. ชดใช้ค่ารถไฟฟ้าสายสีเขียว 1.1 หมื่นล้าน นี้จึงต้องอาศัยความรอบคอบและความโปร่งใสในการตัดสินใจ เพื่อให้ได้ทางออกที่ดีที่สุดสำหรับทุกฝ่าย
การที่ศาลสั่ง กทม. ชดใช้ค่ารถไฟฟ้าสายสีเขียว 1.1 หมื่นล้าน ถือเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับหน่วยงานภาครัฐในการทำสัญญาและการบริหารจัดการโครงการขนาดใหญ่ ควรมีการวางแผนทางการเงินอย่างรอบคอบและมีการกำกับดูแลการดำเนินงานอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาทางการเงินที่อาจส่งผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้าง
ที่มา – ศาลปกครองกลาง สั่ง กทม.ชดใช้ค่าจ้างเดินรถ-ค่าซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าสายสีเขียว 1.1 หมื่นล้าน