ผอ.พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์รับระบบรักษาความปลอดภัยมีจุดอ่อนเพียบ

ลอเรนซ์ เดส คาร์ส ผู้อำนวยการพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ในกรุงปารีสของฝรั่งเศสกล่าวยอมรับถึงความบกพร่องของระบบตรวจตราภายนอกและประกาศมาตรการรักษาความปลอดภัยชุดใหม่ โดยระบบกล้องวงจรปิดภายนอกไม่เพียงพอและเหตุโจรกรรมเครื่องประดับสะท้อน “จุดอ่อน” หลายประการ

เดส คาร์ส กล่าวต่อวุฒิสภาฝรั่งเศสเมื่อวันพุธ (22 ต.ค.) ว่า พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์เผชิญความผิดพลาดครั้งใหญ่และเธอขอรับผิดชอบด้วยการยื่นลาออก แต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าว โดยเดส คาร์ส ได้สรุปมาตรการยกระดับความปลอดภัย ทั้งเพิ่มแผงกั้นยานพาหนะ ขยายและปรับปรุงระบบตรวจตราทั่วพื้นที่ และขอให้กระทรวงกิจการภายในตั้งสถานีตำรวจภายในพิพิธภัณฑ์

ขณะเดียวกันเดส คาร์ส ปฏิเสธรายงานข่าวเมื่อไม่นานนี้ที่ว่า การดำเนินการตามแผนรักษาความปลอดภัยของพิพิธภัณฑ์มูลค่า 80 ล้านยูโร เกิดความล่าช้าอย่างต่อเนื่อง

ด้านเอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส เรียกร้องการเร่งยกระดับระบบรักษาความปลอดภัยของพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันพุธที่ผ่านมา

สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์กลับมาเปิดทำการเมื่อช่วงเช้าวันพุธ (22 ต.ค.) ซึ่งเป็นเวลา 3 วันหลังจากเกิดเหตุโจรกรรมเครื่องประดับครั้งใหญ่ มูลค่าราว 88 ล้านยูโร เมื่อวันอาทิตย์ (19 ต.ค.) ที่ผ่านมา

เหตุการณ์ล่าสุดที่พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ทำให้เกิดคำถามมากมายเกี่ยวกับมาตรฐานความปลอดภัยของสถานที่สำคัญทางวัฒนธรรมทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นการประเมินความเสี่ยงที่ครอบคลุม การใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย หรือการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ทุกองค์ประกอบล้วนมีความสำคัญต่อการปกป้องสมบัติล้ำค่าเหล่านี้จากภัยคุกคามต่างๆ

ผอ.พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ของฝรั่งเศสยอมรับระบบรักษาความปลอดภัยมีจุดอ่อนเพียบ

การยอมรับอย่างตรงไปตรงมาของผู้อำนวยการลูฟวร์ถึงข้อบกพร่องของระบบรักษาความปลอดภัยถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการแก้ไขปัญหา การดำเนินการตามมาตรการใหม่ๆ ที่เสนอมา เช่น การเพิ่มแผงกั้นยานพาหนะ การขยายและปรับปรุงระบบตรวจตรา รวมถึงการตั้งสถานีตำรวจภายในพิพิธภัณฑ์ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะยกระดับความปลอดภัยให้ดียิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม การแก้ไขปัญหาระบบรักษาความปลอดภัยที่มีจุดอ่อนเพียบอย่างที่เกิดขึ้นในพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์นั้น ไม่ได้เป็นเพียงแค่การเพิ่มจำนวนอุปกรณ์หรือเจ้าหน้าที่เท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับการปรับปรุงกระบวนการทำงาน การประสานงานระหว่างหน่วยงานต่างๆ และการสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยที่เข้มแข็งภายในองค์กร

สิ่งที่พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ต้องทำเพื่อแก้ไขระบบรักษาความปลอดภัย

วิเคราะห์จุดอ่อนและภัยคุกคาม

การวิเคราะห์อย่างละเอียดถึงจุดอ่อนเพียบในระบบรักษาความปลอดภัย รวมถึงการประเมินภัยคุกคามที่อาจเกิดขึ้น เป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญ การวิเคราะห์นี้ควรรวมถึงการตรวจสอบช่องโหว่ในระบบกล้องวงจรปิด ระบบสัญญาณเตือนภัย ระบบควบคุมการเข้าออก และมาตรการรักษาความปลอดภัยอื่นๆ

ปรับปรุงเทคโนโลยีและอุปกรณ์

การลงทุนในเทคโนโลยีและอุปกรณ์รักษาความปลอดภัยที่ทันสมัย เช่น กล้องวงจรปิดที่มีความละเอียดสูง ระบบตรวจจับความเคลื่อนไหวขั้นสูง และระบบควบคุมการเข้าออกแบบไบโอเมตริกซ์ สามารถช่วยเสริมสร้างความปลอดภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ฝึกอบรมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย

การฝึกอบรมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวดเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้พวกเขามีความรู้และทักษะในการรับมือกับภัยคุกคามต่างๆ การฝึกอบรมควรรวมถึงการฝึกปฏิบัติ การจำลองสถานการณ์ และการเรียนรู้เกี่ยวกับเทคนิคการรักษาความปลอดภัยล่าสุด

สร้างความร่วมมือกับหน่วยงานภายนอก

การสร้างความร่วมมือกับหน่วยงานภายนอก เช่น ตำรวจ หน่วยงานดับเพลิง และหน่วยงานข่าวกรอง สามารถช่วยให้พิพิธภัณฑ์ได้รับข้อมูลที่เป็นประโยชน์และสามารถตอบสนองต่อเหตุการณ์ฉุกเฉินได้อย่างรวดเร็ว

เหตุการณ์ที่พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์เป็นเครื่องเตือนใจว่าไม่มีสถานที่ใดที่ปลอดภัยอย่างสมบูรณ์แบบ การรักษาความปลอดภัยเป็นกระบวนการต่อเนื่องที่ต้องมีการปรับปรุงและพัฒนาอยู่เสมอ เพื่อให้สามารถรับมือกับภัยคุกคามที่เปลี่ยนแปลงไป การที่ผอ.พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ของฝรั่งเศสยอมรับระบบรักษาความปลอดภัยมีจุดอ่อนเพียบ และพร้อมที่จะแก้ไข ถือเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยของพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ และเป็นแบบอย่างให้แก่พิพิธภัณฑ์อื่นๆ ทั่วโลก

ที่มา – ผอ.พิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ของฝรั่งเศสยอมรับระบบรักษาความปลอดภัยมีจุดอ่อนเพียบ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *