ทรัมป์หารือเซเลนสกี หลังคุยปูตินไร้ผล
การประชุมสุดยอดระหว่างโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ และวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ในรัฐอะแลสกา จบลงโดยไม่มีข้อตกลงใด ๆ เพื่อยุติหรือชะลอสงครามรัสเซีย-ยูเครน แม้ทั้งสองฝ่ายระบุว่าการหารือเป็นไปอย่างได้ผลดีก่อนแยกย้ายกันเดินทางกลับ
หลังจากการพูดคุยนานเกือบ 3 ชั่วโมง ทั้งคู่ได้ให้สัมภาษณ์สั้น ๆ ว่า มีความคืบหน้าในบางประเด็น แต่ไม่เปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมและไม่ได้ตอบคำถามจากสื่อ
ในระหว่างเดินทางกลับถึงกรุงวอชิงตันเช้าวันนี้ (16 ส.ค.) ทรัมป์ได้โทรศัพท์หารือกับบรรดาผู้นำประเทศพันธมิตร เพื่อรายงานความคืบหน้าจากการประชุมสุดยอดครั้งนี้ โดย อัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป เป็นหนึ่งในผู้ร่วมสนทนา ขณะที่เจ้าหน้าที่นาโตเผยว่า มาร์ก รุตเตอ เลขาธิการนาโต และทำเนียบเอลีเซ่ยืนยันว่า ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศสก็เข้าร่วมการสนทนาด้วย
ข้อมูลจากคณะกรรมาธิการยุโรประบุเพิ่มเติมว่าผู้นำจากเยอรมนี ฟินแลนด์ โปแลนด์ อิตาลี และสหราชอาณาจักร ก็มีส่วนร่วมในการพูดคุยด้วย
นอกจากนี้ รายงานของสื่อออนไลน์ Axios ชี้ว่า ทรัมป์ได้สนทนากับโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน และผู้นำยุโรปคนอื่น ๆ รวมเวลากว่า 1 ชั่วโมงครึ่ง และต่อมาเซเลนสกีประกาศว่า เขาจะเดินทางไปยังกรุงวอชิงตันในวันจันทร์ (18 ส.ค.)
ทรัมป์ยกหูหารือเซเลนสกี พร้อมผู้นำยุโรป–นาโต หลังเจรจาปูตินไร้ข้อตกลง
สถานการณ์ความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและยูเครนยังคงเป็นประเด็นที่ทั่วโลกให้ความสนใจอย่างใกล้ชิด การเจรจาใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับผู้นำของประเทศเหล่านี้จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งยวด ล่าสุด ทรัมป์ยกหูหารือเซเลนสกี พร้อมผู้นำยุโรป–นาโต หลังเจรจาปูตินไร้ข้อตกลง ซึ่งเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงความพยายามอย่างต่อเนื่องในการหาทางออกให้กับวิกฤตการณ์นี้
การที่การเจรจาระหว่างทรัมป์และปูตินไม่สามารถบรรลุข้อตกลงใด ๆ ได้ ทำให้ความหวังในการคลี่คลายสถานการณ์ลดลง อย่างไรก็ตาม การที่ทรัมป์รีบ หารือเซเลนสกี พร้อมผู้นำยุโรป–นาโต หลังเจรจาปูตินไร้ข้อตกลง แสดงให้เห็นว่าสหรัฐฯ ยังคงมุ่งมั่นที่จะมีบทบาทในการแก้ไขปัญหา
ทำไมการหารือครั้งนี้จึงสำคัญ?
การ หารือเซเลนสกี พร้อมผู้นำยุโรป–นาโต หลังเจรจาปูตินไร้ข้อตกลง มีความสำคัญหลายประการ:
- เป็นการยืนยันถึงความสนับสนุนของสหรัฐฯ และพันธมิตรที่มีต่อยูเครน
- เป็นการแสดงให้เห็นว่าชาติตะวันตกยังคงร่วมมือกันในการกดดันรัสเซีย
- อาจนำไปสู่การกำหนดแนวทางใหม่ในการแก้ไขวิกฤตการณ์
อย่างไรก็ตาม ผลของการหารือครั้งนี้ยังคงต้องรอติดตามอย่างใกล้ชิด ความท้าทายในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนยังคงมีอยู่มากมาย และต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ตอกย้ำถึงความซับซ้อนของสถานการณ์ระหว่างประเทศ และความสำคัญของการเจรจาและการทูตในการแก้ไขข้อพิพาท การที่ทรัมป์ยังคงเดินหน้าหารือกับผู้นำต่างๆ แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่จะหาทางออก แม้ว่าการเจรจากับปูตินจะไม่ประสบความสำเร็จในทันที
ที่มา – ทรัมป์ยกหูหารือเซเลนสกี พร้อมผู้นำยุโรป–นาโต หลังเจรจาปูตินไร้ข้อตกลง