ทรัมป์ร้องจ้างแรงงานอเมริกันหลังบุกจับแรงงานในโรงงานฮุนได

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ เรียกร้องให้บริษัทต่างชาติที่ลงทุนในสหรัฐฯ จ้างและฝึกแรงงานชาวอเมริกัน พร้อมเคารพกฎหมายด้านคนเข้าเมือง หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ บุกจับแรงงานในโรงงานฮุนได มอเตอร์ (Hyundai Motor) ในรัฐจอร์เจีย เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

ทรัมป์โพสต์ข้อความบน Truth Social ว่า “หลังจากปฏิบัติการตรวจค้นแรงงานต่างชาติที่โรงงานแบตเตอรีฮุนไดในจอร์เจีย ผมขอเรียกร้องให้บริษัทต่างชาติทุกแห่งที่ลงทุนในสหรัฐฯ เคารพกฎหมายด้านคนเข้าเมืองของเรา” พร้อมเสริมว่า “เรายินดีต้อนรับการลงทุนและเราสนับสนุนให้คุณนำคนเก่งที่มีความสามารถมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ระดับโลกอย่างถูกกฎหมาย … เราขอเพียงให้คุณจ้างและฝึกแรงงานอเมริกัน”

ก่อนหน้านี้ ทรัมป์บอกกับผู้สื่อข่าวว่า จะตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าว แต่ยืนยันว่าไม่ได้กระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ กับเกาหลีใต้ นอกจากนี้ เขายังเสนอแนวคิดว่าอาจอนุญาตให้ผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตจากต่างชาติเข้ามาช่วยฝึกแรงงานอเมริกัน

รายงานระบุว่า รัฐบาลเกาหลีใต้กำลังประสานเพื่อนำแรงงานเกาหลีราว 300 คนกลับประเทศ หลังจากที่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ควบคุมตัวคนงานราว 475 คน ส่วนใหญ่เป็นชาวเกาหลีใต้ เมื่อวันพฤหัสบดี (4 ก.ย.) โดยถือเป็นการจับกุมครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐฯ (DHS)

นอกจากนี้ รัฐบาลเกาหลีใต้ยังแสดงความเสียใจต่อการจับกุมแรงงาน และการเผยแพร่ภาพและวิดีโอการจับกุมแรงงานเกาหลีหลายร้อยคนที่โรงงาน ที่แสดงภาพแรงงานที่ถูกใส่โซ่ตรวนที่ข้อมือ เอว และข้อเท้า ขณะถูกนำตัวออกไป

กระทรวงการต่างประเทศเกาหลีระบุในแถลงการณ์เมื่อช่วงดึกของวันเสาร์ที่ผ่านมา (6 ก.ย.) ว่า พาร์ค ยุน-จู รองรัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีใต้ ได้สนทนาทางโทรศัพท์กับอัลลิสัน ฮุกเกอร์ รองรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ฝ่ายการเมือง โดยกล่าวว่า เป็นเรื่องน่าเสียดายที่เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่สองประเทศพยายามผลักดันความไว้วางใจและความร่วมมือระหว่างผู้นำทั้งสองฝ่าย

นอกจากนี้ พาร์ค ยุน-จู ยังได้ขอให้ฮุกเกอร์รับรองว่าจะมีการแก้ไขปัญหานี้อย่างยุติธรรมและรวดเร็ว พร้อมย้ำว่า กิจกรรมทางเศรษฐกิจของบริษัทของเราที่ลงทุนในสหรัฐฯ และสิทธิผลประโยชน์ของพลเมืองของเรา ไม่ควรถูกละเมิดอย่างไม่เป็นธรรมในระหว่างการบังคับใช้กฎหมายของสหรัฐฯ

ทรัมป์ร้องบ.ต่างชาติจ้างและฝึกแรงงานอเมริกัน หลังบุกจับแรงงานในโรงงานฮุนได

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้เห็นถึงความเข้มงวดในการบังคับใช้กฎหมายด้านแรงงานและการเข้าเมืองของสหรัฐฯ ภายใต้การนำของอดีตประธานาธิบดีทรัมป์ แม้ว่าทรัมป์จะไม่ได้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีแล้ว แต่ข้อเรียกร้องของเขายังคงสะท้อนถึงนโยบาย “America First” ที่ให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ของแรงงานอเมริกัน

สถานการณ์นี้ส่งผลกระทบต่อบริษัทต่างชาติที่ลงทุนในสหรัฐฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริษัทที่ต้องพึ่งพาแรงงานต่างชาติที่มีทักษะเฉพาะทาง บริษัทเหล่านี้อาจต้องปรับตัวเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับของสหรัฐฯ อย่างเคร่งครัด รวมถึงการลงทุนในการฝึกอบรมแรงงานอเมริกันเพื่อทดแทนแรงงานต่างชาติ

ผลกระทบต่อเศรษฐกิจและแรงงาน

การที่ทรัมป์ออกมา

• ร้องบ.ต่างชาติจ้างและฝึกแรงงานอเมริกัน หลังบุกจับแรงงานในโรงงานฮุนได อาจส่งผลกระทบต่อการจ้างงานในภาพรวม
• อาจทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น เนื่องจากค่าแรงของแรงงานอเมริกันอาจสูงกว่าแรงงานต่างชาติ
• อาจส่งผลต่อความสามารถในการแข่งขันของบริษัทในตลาดโลก

อย่างไรก็ตาม การจ้างและฝึกแรงงานอเมริกันก็มีข้อดีเช่นกัน เช่น ช่วยลดอัตราการว่างงานของชาวอเมริกัน และช่วยพัฒนาทักษะของแรงงานอเมริกันให้มีความสามารถในการแข่งขันมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้ ทรัมป์ร้องบ.ต่างชาติจ้างและฝึกแรงงานอเมริกัน หลังบุกจับแรงงานในโรงงานฮุนได อาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงในระยะยาวในตลาดแรงงานของสหรัฐฯ

ในอนาคต เราอาจได้เห็นบริษัทต่างชาติลงทุนมากขึ้นในการฝึกอบรมแรงงานอเมริกัน และอาจมีการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดการพึ่งพาแรงงานต่างชาติมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้อาจส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ และตลาดแรงงานทั่วโลก ดังนั้น การติดตามข่าวสารและทำความเข้าใจผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจึงเป็นสิ่งสำคัญ

สิ่งที่เราได้เรียนรู้จากเหตุการณ์ ทรัมป์ร้องบ.ต่างชาติจ้างและฝึกแรงงานอเมริกัน หลังบุกจับแรงงานในโรงงานฮุนได คือ ความไม่แน่นอนทางการเมืองและเศรษฐกิจระหว่างประเทศอาจส่งผลกระทบต่อธุรกิจได้เสมอ ดังนั้น บริษัทควรเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงและปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป

ที่มา – ทรัมป์ร้องบ.ต่างชาติจ้างและฝึกแรงงานอเมริกัน หลังบุกจับแรงงานในโรงงานฮุนได