ฉาว! **เศรษฐีโปแลนด์ แย่งหมวกเด็ก** ขู่ฟ้อง

โลกออนไลน์วิจารณ์สนั่น! กับพฤติกรรมที่ไม่น่าให้อภัยของมหาเศรษฐีชาวโปแลนด์รายหนึ่ง ที่ดันไปแสดงอาการ เศรษฐีโปแลนด์ แย่งหมวกเด็ก นักเทนนิสชื่อดังไปจากมือของแฟนเทนนิสตัวน้อย ในการแข่งขันเทนนิส แกรนด์สแลม ยูเอส โอเพ่น ที่ผ่านมา แทนที่จะสำนึกผิด กลับขู่ฟ่อๆ จะฟ้องคนที่วิพากษ์วิจารณ์ตัวเองซะอย่างนั้น

เหตุการณ์ เศรษฐีโปแลนด์ แย่งหมวกเด็ก ดังกล่าวเกิดขึ้นในเกมที่ คามิล มาจซาชัก นักเทนนิสหนุ่มชาวโปแลนด์ สามารถเอาชนะ คาเรน คาชานอฟ จากรัสเซียไปได้แบบสุดมันส์ 3-2 เซ็ต ในรอบที่สองของการแข่งขัน โดยหลังจบเกม คามิล ได้เดินไปขอบคุณและมอบความสุขให้กับแฟนๆ เทนนิสที่เข้ามาเชียร์ถึงขอบสนามตามปกติ และในจังหวะหนึ่ง เขาได้โยนหมวกให้กับแฟนเทนนิสเด็กน้อยคนหนึ่ง แต่แล้วก็มีแฟนเทนนิสรุ่นใหญ่ (มากๆ) คนหนึ่งฉกหมวกไปจากมือเด็กอย่างหน้าตาเฉย แถมยังยัดใส่กระเป๋าตัวเองอีกต่างหาก ทำเอาคนเห็นเหตุการณ์ถึงกับอึ้งไปตามๆ กัน

หลังจากคลิปวิดีโอเหตุการณ์นี้กลายเป็นไวรัลในโลกออนไลน์ ชาวเน็ตก็ไม่รอช้า ขุดคุ้ยประวัติของ “แฟนเทนนิสรุ่นใหญ่” คนดังกล่าวทันที และพบว่า เขาคือ ปีโอเตอร์ เชซเซเร็ก ซีอีโอของบริษัทรับเหมาปูพื้นทางเดินรายใหญ่ของโปแลนด์ หรือพูดง่ายๆ ก็คือ มหาเศรษฐี นั่นเอง!

เพื่อเป็นการปลอบขวัญหนูน้อยผู้โชคร้าย คามิล มาจซาชัก จึงประกาศตามหาเด็กชายคนดังกล่าวเป็นการด่วน และเมื่อพบตัวแล้ว เขาก็มอบเสื้อพร้อมลายเซ็น และของที่ระลึกอื่นๆ ให้มากมาย เพื่อเป็นการปลอบใจและชดเชยสิ่งที่เกิดขึ้น

**เศรษฐีโปแลนด์ แย่งหมวกเด็ก**

อย่างไรก็ตาม งานนี้ดูเหมือนว่าท่านซีอีโอ เศรษฐีโปแลนด์ แย่งหมวกเด็ก จะไม่รู้สึกผิดกับสิ่งที่ตัวเองทำเลยแม้แต่น้อย เพราะเขาได้ออกมาประกาศว่า ตนเองไม่ได้ทำอะไรผิด และมองว่าเรื่องแบบนี้ “ใครดีใครได้” และไม่เข้าใจว่าทำไมแค่หมวกใบเดียวถึงกลายเป็นเรื่องใหญ่ระดับโลกได้ขนาดนี้ แถมยังขู่ด้วยว่า หากใครยังไม่หยุดคุกคามและหมิ่นประมาทเขา จะฟ้องร้องดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

แล้วความถูกต้องคืออะไร?

หลายคนอาจจะมองว่าเป็นแค่หมวกใบเดียว แต่สิ่งที่เกิดขึ้นมันสะท้อนถึงอะไรหลายๆ อย่างในสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของความเห็นแก่ตัว และการขาดจิตสำนึกต่อส่วนรวม การกระทำของ เศรษฐีโปแลนด์ แย่งหมวกเด็ก คนนี้ แสดงให้เห็นว่าบางครั้ง “เงิน” ก็ไม่สามารถซื้อ “ความถูกต้อง” หรือ “ความเคารพ” ได้

เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าไม่ว่าคุณจะมีฐานะร่ำรวยเพียงใด การมีน้ำใจนักกีฬา และมีจิตสำนึกที่ดีต่อสังคมนั้นสำคัญยิ่งกว่า เพราะท้ายที่สุดแล้ว สิ่งที่ผู้คนจะจดจำคุณไม่ใช่จำนวนเงินในบัญชี แต่เป็นการกระทำและคุณงามความดีที่คุณได้สร้างไว้ต่างหาก

ที่มา – เศรษฐีโปแลนด์ ฉาวแย่งหมวกเด็ก ขู่ฟ้องแหลก-นักเทนนิสดังรีบปลอบใจทันที

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *